เล่ม 1 ตอนที่ 134 สัญญาสามปี

สลับชะตา ชายามือสังหาร

น้ำเสียงของซือหม่าโยวเย่ว์อ่อนแอเป็นอย่างยิ่ง แต่กลับลอยเข้าสู่โสตประสาทของทุกคน

“สามปี…”

เสียงของซือหม่าโยวเย่ว์ดังขึ้นอีกครั้ง จากนั้นร่างกายของเธอที่ทุกคนต่างคิดว่าหมดสติไปแล้วก็ขยับเขยื้อน

“โยวเย่ว์”

“แค่กๆ…”

ซือหม่าโยวเย่ว์กระแอมสองครั้ง สองมือเคลื่อนไปด้านหลังอย่างช้าๆ แล้วดันร่างกายตนเองให้ยืนขึ้นมา

“สามปี…” เธอทวนซ้ำอีกรอบหนึ่ง

เมื่อเห็นซือหม่าโยวเย่ว์ยืนขึ้นมา ซือหม่าชิงและซือหม่าหลินต่างก็ตกใจเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะซือหม่าหลิน ทำให้เธอได้รับบาดเจ็บมากถึงระดับไหน ตัวเขาย่อมรู้ดีที่สุด คิดไม่ถึงว่าเธอไม่เพียงแต่จะยังครองสติเอาไว้ได้เท่านั้น แต่ยังพยุงกายลุกขึ้นยืนได้อีกด้วย

“สามปีอะไรกัน” ซือหม่าโยวหลานก็พรั่นพรึงเพราะซือหม่าโยวเย่ว์เช่นกัน จึงส่งเสียงเอ่ยถาม

“ข้ารู้ว่าผลอสรพิษทองคำอยู่ที่ไหน ภายในระยะเวลาสามปี พวกท่านต้องปกป้องพวกท่านปู่ แค่กๆ ปกป้องพวกเขาให้ปลอดภัย อีกสามปีให้หลังข้าจะไปใช้ผลอสรพิษทองคำที่ตระกูลซือหม่าด้วยตัวเอง ไป ไปเรียกท่านปู่กับพวกพี่ๆ กลับมาเสีย” ซือหม่าโยวเย่ว์ร่างกายโงนเงนราวกับจะล้มลงไปได้ตลอดเวลา เธอพูดอะไรไม่ออกอีกแล้ว แต่แววตากลับแน่วแน่ผิดปกติ

ผู้คนในที่นั้นล้วนตะลึงงันกันไปเสียแล้ว พวกเขามองดูเธอแล้วพูดอะไรไม่ออกอยู่ชั่วครู่

“น้องห้า…” พวกซือหม่าโยวหมิงทั้งสี่คนขอบตาแดงก่ำ

ซือหม่าโยวหรานวิ่งเข้าไปพยุงตัวซือหม่าโยวเย่ว์เอาไว้ ส่วนซือหม่าโยวเล่อก็หยิบยาวิเศษออกมาให้เธอกิน

ซือหม่าหลินแววตาวูบไหวแล้วเอ่ยว่า “เจ้าบอกว่าเจ้ารู้ที่อยู่ของผลอสรพิษทองคำอย่างนั้นหรือ”

“รู้ว่าอยู่ในมือผู้ใด แต่ไม่รู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน” ซือหม่าโยวเย่ว์พูดไปตามน้ำ “ผลอสรพิษทองคำคงจะสำคัญกับพวกท่านมากกระมัง เมื่อเทียบกับพวกท่านปู่ที่ถูกพวกท่านขับออกจากตระกูลในตอนนั้นแล้วคงจะสำคัญกว่ามากเลยสินะ”

“เจ้ามองออกได้อย่างไรกัน” ซือหม่าหลินเลิกคิ้ว ความสนใจในตัวซือหม่าโยวเย่ว์ยิ่งทวีความเข้มข้นขึ้น

ซือหม่าโยวเย่ว์ยืนด้วยตัวเอง ไม่พึ่งพิงซือหม่าโยวหราน ก่อนจะมองซือหม่าหลินพลางเอ่ยช้าๆ ว่า “ตอนที่คนผู้นั้นกลับไป ย่อมต้องนำข่าวของผลอสรพิษทองคำกลับไปด้วยแน่ ถ้าหากสิ่งนี้ไม่สำคัญสำหรับพวกท่าน พวกท่านก็คงไม่กลับมากันอย่างรวดเร็วถึงเพียงนี้หรอก ข้าว่าพวกท่านคงจะมีบุคคลสำคัญอย่างยิ่งที่วิญญาณได้รับบาดเจ็บล่ะสิ พอพวกท่านรู้ข่าวของผลอสรพิษทองคำแล้วจึงรีบมาทันทีโดยไม่หยุดพักเลยกระมัง”

แววตาของซือหม่าโยวหลานที่มองซือหม่าโยวเย่ว์เปล่งประกายมากขึ้นเรื่อยๆ เธอช่างเฉลียวฉลาดเป็นอย่างยิ่ง คาดเดาเรื่องต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้ทั้งหมด

ซือหม่าหลินมิเอ่ยวาจา ซือหม่าโยวเย่ว์กระแอมก่อนจะพูดต่อไปว่า “ดังนั้นผลอสรพิษทองคำนี้จึงมีความสำคัญกับพวกท่านเป็นอย่างยิ่ง ข้าคงมิได้พูดผิดกระมัง ใช้เวลาสามปีของพวกท่านปู่ข้า แลกกับผลอสรพิษทองคำ ก็ไม่เลวสำหรับพวกท่านเลยนะ”

“เหตุใดข้าจึงต้องทำข้อตกลงนี้กับเจ้าด้วยเล่า” ซือหม่าหลินพูด “พวกเราก็ไม่รู้หรอกนะว่าจะรอได้เป็นเวลานานถึงสามปีหรือไม่ บางทีอีกสามปีให้หลัง พวกเราอาจจะไม่ต้องการผลอสรพิษทองคำนี่แล้วก็เป็นได้”

“ผู้ที่วิญญาณบาดเจ็บจะทำร้ายที่จิตใจ มิได้ทำร้ายร่างกาย อย่าว่าแต่มีชีวิตอยู่อีกสามปีเลย ต่อให้สามสิบปีก็ไม่มีปัญหา” ซือหม่าโยวเย่ว์พูด

“เจ้ารู้วิชาแพทย์หรือ” ซือหม่าชิงถาม

ซือหม่าโยวเย่ว์ไม่ตอบ เพียงแค่มองซือหม่าหลินแล้วถามว่า “ทำไมหรือ”

“ต่อให้สิ่งที่เจ้าพูดนี้ถูกต้อง แล้วข้าจะเชื่อได้อย่างไรว่าอีกสามปีให้หลังเจ้าจะนำผลอสรพิษทองคำไปข้างนอก ภายนอกนั้นมีอันตรายมากมายนานัปการ แม้แต่ราชันวิญญาณทั่วๆ ไปก็ยังมิกล้าผ่านออกไปกันเลย เจ้าเป็นเพียงแค่ปรมาจารย์วิญญาณตัวเล็กๆ คนหนึ่ง แล้วจะไปถึงระดับราชันวิญญาณภายในสามปีได้อย่างไรกัน” ซือหม่าหลินพูด

“ข้ามีวิธีของข้าเองน่า” ซือหม่าโยวเย่ว์พูด “ข้าจะไปหาผลอสรพิษทองคำมาได้อย่างไร จะผ่านทะลุสิ่งกีดขวางภายนอกได้อย่างไรนั้นก็เป็นเรื่องของข้าเองทั้งสิ้น ท่านต้องทำเพียงแค่ปกป้องพวกท่านปู่ของข้าเป็นระยะเวลาสามปีเท่านั้น วันนี้ในอีกสามปีให้หลัง ข้าจะไปปรากฏตัวหน้าประตูใหญ่ของตระกูลซือหม่าของท่านให้จงได้! ท่านกล้าทำสัญญานี้กับข้าหรือไม่เล่า”

“โยวเย่ว์ เจ้าไม่ต้องสนใจพวกเราหรอก ต่อไปเจ้าทำเรื่องของตัวเจ้าเองก็พอแล้ว ไม่ต้องเป็นห่วงพวกเราเลย” ซือหม่าเลี่ยมองซือหม่าโยวเย่ว์ด้วยแววตาเต็มไปด้วยความลำบากใจ

ซือหม่าโยวเย่ว์มองซือหม่าหลินเพื่อรอคำตอบกลับจากเขา

“เอาละ ข้าจะทำสัญญานี้กับเจ้าก็ได้” ซือหม่าหลินพูด “ภายในสามปี ข้าจะจัดการดูแลพวกเขาเป็นอย่างดี ถ้าหากเกินสามปีแล้วเจ้ายังไม่มา พอถึงตอนนั้นจะจัดการพวกเขาเช่นไร ก็แล้วแต่ตระกูลจะตัดสินใจ”

“ได้” ซือหม่าโยวเย่ว์พูด “ข้าเชื่อว่าท่านเป็นคนพูดคำไหนคำนั้น ท่านจะต้องปกป้องพวกท่านปู่ของข้าให้ดีนะ มิฉะนั้นข้าจะทำให้ตระกูลซือหม่าของท่านต้องเสียใจแน่…”

เสียงของเธอเบาลงเรื่อยๆ จนถึงคำพูดสุดท้ายก็ได้ยินไม่ชัดเสียแล้ว ในที่สุดเธอก็หมดสติไปก่อนที่จะพูดได้จบประโยค

“น้องห้า!”

“โยวเย่ว์!”

“คุณชายห้า!”

ซือหม่าโยวเย่ว์พิงอยู่บนร่างของซือหม่าโยวหราน สิ้นไร้สติโดยสมบูรณ์

ซือหม่าชิงมองซือหม่าโยวเย่ว์พลางเอ่ยชมซือหม่าเลี่ยว่า “ท่านเลี้ยงหลานได้ดีทีเดียวนะ”

ซือหม่าเลี่ยเดินเข้าไปโอบกอดซือหม่าโยวเย่ว์แล้วมองเธออย่างรักใคร่ทะนุถนอมอยู่ครู่หนึ่ง แล้วส่งตัวเธอให้กับพ่อบ้าน

“ดูแลคุณชายให้ดีล่ะ”

“ขอรับ ท่านแม่ทัพ ข้าจะปกป้องเขาด้วยชีวิตอย่างแน่นอนขอรับ” พ่อบ้านรับตัวซือหม่าโยวเย่ว์มาพลางให้คำสัญญา

เขารู้ชาติกำเนิดของซือหม่าโยวเย่ว์ และสงสารเธอมาโดยตลอด ตอนนี้ยังมาตพตะลึงเพราะสิ่งที่เธอทำ ตอนนี้ตระกูลซือหม่าก็เหลือแค่เธอเพียงคนเดียวเท่านั้น เขาย่อมต้องปกป้องดูแลเธอเป็นอย่างดีอยู่แล้ว

ซือหม่าเลี่ยตบบ่าพ่อบ้านแล้วพูดกับซือหม่าหลินว่า “ไปกันเถิด”

ซือหม่าหลินเรียกตัวเหยี่ยวนกเขาออกมา เหยี่ยวนกเขาขยายร่างใหญ่ขึ้นแล้วร่อนลงกลางลานบ้าน

“สัตว์อสูรเทพ!” มีคนเห็นระดับขั้นของเหยี่ยวนกเขาแล้วร้องอุทานขึ้นมา

ซือหม่าหลินเดินนำเข้าไป ซือหม่าชิง ซือหม่าเลี่ย และคนอื่นๆ จึงเดินตามกันไป แม้กระทั่งซือหม่าเค่อก็ยังพาตัวซือหม่าข่ายที่หมดสติเหาะตามขึ้นไปเช่นกัน

ซือหม่าโยวหลานลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วมายังข้างกายพ่อบ้าน ก่อนจะหยิบยาวิเศษขวดหนึ่งออกมาพลางเอ่ยว่า “นี่คือยาวิเศษขั้นสี่ มีประโยชน์ต่อการรักษาอาการบาดเจ็บของเขาเป็นอย่างยิ่ง อีกประเดี๋ยวท่านให้เขากินก็แล้วกัน”

พอพูดจบเธอก็วางยาวิเศษลงในอ้อมแขนของซือหม่าโยวเย่ว์ ก่อนจะหมุนตัวเหินขึ้นไปบนหลังของเหยี่ยวนกเขา

คนอื่นๆ พากันขึ้นไปจนหมด เหยี่ยวนกเขาสยายปีกเหินบิน ทำเอาฝุ่นทรายหนาทึบบนพื้นลอยตลบ

ท่านอาจารย์ใหญ่อาวุโสผู้ที่อยู่บนท้องฟ้าเบื้องบนมาโดยตลอดมองดูพวกซือหม่าเลี่ยจากไปพร้อมกับแอบทอดถอนใจ เขาร่อนลงบนพื้นแล้วพูดกับพ่อบ้านว่า “ยกเขาให้ข้าเถิด เจ้าไปจัดการเรื่องอื่นๆ ของตระกูลซือหม่า พออยู่ตัวเรียบร้อยแล้วค่อยมาหาเขาที่วิทยาลัย”

พ่อบ้านได้ยินสิ่งที่ซือหม่าเลี่ยมอบหมายให้ท่านอาจารย์ใหญ่อาวุโสเอาไว้ก่อนหน้านี้ว่าให้ยกซือหม่าโยวเย่ว์ให้กับท่านอาจารย์ใหญ่อาวุโส

ตระกูลซือหม่าเผชิญกับภัยพิบัติในครั้งนี้ กิจการเหล่านั้นต้องสั่นคลอนอย่างแน่นอน ไม่ว่าในภายหลังซือหม่าโยวเย่ว์จะเลือกอย่างไรเขาก็ต้องรักษาสัญญา ก่อนที่เธอจะฟื้นขึ้นมา กิจการของตระกูลซือหม่าย่อมมิอาจสั่นคลอนมากจนเกินไปได้!

ท่านอาจารย์ใหญ่อาวุโสมองซือหม่าโยวเย่ว์ เขาเห็นสิ่งที่เธอแสดงออกเมื่อครู่ทั้งหมด ทั้งสงสาร ทั้งชื่นชม เมื่อนึกถึงเส้นทางในอนาคตของเธอ เขาก็อดทอดถอนใจมิได้

เขาอุ้มซือหม่าโยวเย่ว์ใช้วิชาตัวเบาเหาะไปถึงน่านฟ้าเหนือวิทยาลัย ผู้อำนวยการสอนที่เฝ้าอยู่หน้าประตูก็โบกไม้โบกมือ ผู้อำนวยการสอนได้ให้คนปิดค่ายกลอภิบาล

เขาอุ้มซือหม่าโยวเย่ว์ตรงไปยังเรือนที่เขาพักอาศัยอยู่ เมื่อพวกเป่ยกงถังได้เห็นคนที่หมดสติอยู่ก็รีบวิ่งตรงไปยังที่พัก ทิ้งกลุ่มนักเรียนที่ยังคงวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับอุบัติเหตุเมื่อครู่กันอยู่เอาไว้

คนของขุมอำนาจต่างๆ ที่คอยสังเกตการณ์อยู่ต่างพากันกลับไปยังเรือนพักของตนแล้วเริ่มหารือเกี่ยวกับปัญหาการแบ่งขั้วอำนาจของเมืองหลวง

ตอนนี้ตระกูลซือหม่าเหลือเพียงแค่ชื่อเท่านั้น ขุมอำนาจของเมืองหลวงก็ต้องแบ่งขั้วกันใหม่ ทุกคนล้วนอยากจะแบ่งผลประโยชน์กันในตอนนี้

ผู้คนมากมายพากันมายังจวนแม่ทัพ จวนใหญ่โอ่อ่าน่าเกรงขามเมื่อวันวานกลายเป็นซากปรักหักพังไปเสียแล้ว เป็นการบอกกับทุกคนว่าเกิดเคราะห์ร้ายเช่นไรขึ้น