บทที่ 97 ยานจิงเกิดโกลาหล (1)

แดนนิรมิตเทพ

บทที่ 97 ยานจิงเกิดโกลาหล (1)
ครั้งนี้ ผู้ที่มาจัดเก็บร่างศพนั้นมาถึงอย่างรวดเร็วกว่าครั้งก่อนมาก หลังจากที่ผางซื่อหยวนตายไปเพียงแค่ครึ่งชั่วโมง ก็จัดการทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว
หลังจากผางซื่อหยวนแล้ว ในค่ำคืนนี้ ก็ไม่มีผู้ใดแอบล้อมเข้ามาอีก
นักบู๊แดนในชั้นสูงสุดที่มีชื่อเสียงมาเนิ่นนานได้ถูกเฉินโม่สังหารลงอย่างง่ายดาย หากว่ายังจะส่งคนมาอีก เกรงว่าจะต้องเชิญปรมาจารย์มาด้วยตนเองแล้ว
เช้าวันรุ่งขึ้น ณ บ้านตระกูลหลิวที่เป็นหนึ่งในหกวงศ์ตระกูลใหญ่
ภายในคฤหาสน์หลังหนึ่งทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ หลิวเมิ่งเหยาหลานสาวของผู้นำตระกูลหลิวคนปัจจุบัน กำลังมองไปยังชายชราที่อยู่เบื้องหน้าผู้นั้นด้วยสีหน้าท่าทางที่ตื่นตะลึง
“ลุงอู่ลุงพูดว่าข้างกายของนังต่ำต้อยตระกูลเอียนนั้น มีปรมาจารย์แดนแปรภาพ คนหนึ่งคอยปกป้องหล่อนอยู่อย่างนั้นเหรอ? ”
ชายชราพยักหน้า และพูดขึ้นอย่างระแวดระวังว่า: “สิบปีก่อนหน้านี้ ผางซื่อหยวนก็มีพลังบำเพ็ญแดนในขั้นสูงสุดแล้ว ผู้ที่สามารถสังหารเขาได้ และใช้เพียงกระบวนท่าเดียว นอกจากปรมาจารย์แล้ว คงจะไม่มีผู้ใดทำได้อีก! ”
ใบหน้าที่สวยงามของหลิวเมิ่งเหยากลับกลายเป็นดุร้ายขึ้น: “เป็นแบบนี้ได้อย่างไร! เดิมทีคิดว่านังต่ำต้อยนั้นหนีออกจากบ้านไปอย่างลับ ๆ เหมือนจะเป็นการรนหาที่ตายโดยสิ้นเชิง แต่คิดไม่ถึงว่าหล่อนจะยังมีปรมาจารย์ที่คอยปกป้องด้วย! ถ้าเป็นแบบนี้ หากคิดจะสังหารหล่อน ก็แทบจะเป็นไปไม่ได้แล้ว! ”
ชายชราพยักหน้า: “หากต้องการจะสังหารหล่อน คงต้องเชิญปรมาจารย์ลงมือแล้ว แต่ว่า พวกเราไม่สามารถเสนอเงื่อนไขที่ทำให้ปรมาจารย์หวั่นไหวได้ หากคิดจะสังหารเอียนชิงเฉิง จำเป็นต้องตรวจสอบให้ชัดเจนว่าข้างกายของหล่อนนั้นคือปรมาจารย์คนใด ถ้าสามารถดึงเขาให้เข้ามาเป็นพวกได้ อย่างนั้นพวกเราก็อาศัยช่วงที่ปรมาจารย์ไม่ได้อยู่ข้างกายเอียนชิงเฉิง แล้วก็ลงมือลอบสังหาร! ”
หลิวเมิ่งเหยาโมโหจนชกไปที่โต๊ะด้านข้างตัวเธอ จนเกิดรอยฝ่ามือปรากฏขึ้นอย่างชัดเจน ด้วยอายุที่น้อยขนาดนี้ ก็เป็นถึงนักบู๊แดนในชั้นรู้ความแล้ว
Smart address bar. th.readeraz.com แดนนิรมิตเทพ บทที่ 97 ยานจิงเกิดโกลาหล (1) – th.readeraz
“ลุงอู่ ไม่ว่าจะคิดหาวิธีการอะไร จะต้องหาช่วงจังหวะสังหารเอียนชิงเฉิงให้ได้ ห้ามให้หล่อนมีชีวิตกลับมาที่ยานจิงโดยเด็ดขาด หากพี่หมิงหยู่กลับมา และรู้ว่าเอียนชิงเฉิงหนีออกไปจากตระกูลเอียน เขาคงจะต้องออกไปตามหาหล่อนเป็นแน่ เมื่อถึงเวลานั้นพวกเราก็จะไม่มีโอกาสลงมือแล้ว! ” หลิวเมิ่งเหยาพูดขึ้นด้วยสีหน้าท่าทางที่กระวนกระวายใจ
“คุณหนูวางใจเถอะ ต่อให้ฉันต้องสละชีวิตที่แก่ชราของฉันนี้ ก็จะต้องช่วยคุณหนูจัดการเรื่องนี้ให้สำเร็จจนได้! ฉันจะไปอู่โจวด้วยตนเองสักครั้ง เพื่อดูว่าปรมาจารย์ที่คอยปกป้องเอียนชิงเฉิงนั้น คือใครกันแน่? ” ชายชราพูดขึ้นขณะโค้งคำนับ
ที่ยานจิง ตระกูลหนานกงที่เป็นตระกูลชั้นสองในระดับเดียวกันกับตระกูลเอียน
หนานกงหยุนโหลหลานชายเพียงคนเดียวของหนานกงวั่งผู้นำตระกูลหนานกง มองไปยังชายชราที่นอนอยู่บนเตียงอย่างกระวนกระวายใจ และตะโกนพูดขึ้นว่า: “คุณปู่ ท่านพูดอะไรสักหน่อยสิ? พวกคนที่ท่านส่งตัวไปนั้น จนถึงตอนนี้ยังไม่มีส่งข่าวสารอะไรกลับมาเลย คงจะพ่ายแพ้อย่างแน่นอนแล้ว ตกลงท่านยังคิดที่จะช่วยเหลือฉันอยู่อีกไหม? ”
หนานกงวั่งมองไปที่หลานชายคนเดียวของคนเอง ในสภาพที่จำใจ: “ไม่ใช่ว่าฉันจะไม่ช่วยแก ครั้งก่อนนี้ฉันได้เชิญและส่งนักบู๊แดนนอกชั้นสูงสุดทั้งหมดไปแล้ว แต่ผลที่ออกมาก็ยังคงไม่สามารถนำตัวเอียนชิงเฉิงกลับมาได้ นั่นแสดงว่าข้างกายของเอียนชิงเฉิง ต้องมียอดฝีมือปกป้องอย่างแน่นอน ไม่อย่างนั้นนายคิดว่าไอ้จิ้งจอกเฒ่าของตระกูลเอียน จะวางใจให้หลานสาวสุดที่รักของเขาไปอู่โจวลำพังคนเดียวอย่างนั้นเหรอ? ”
หนานกงหยุนโหลสีหน้าหม่นหมอง เบ้าตามีอาการเป่งบวมขึ้น เมื่อเห็นก็รู้ได้ว่าเป็นอาการที่ดื่มเหล้าเคล้านารีหนักหน่วงเกินไป: “นักบู๊แดนนอกไม่ได้เรื่อง ก็หานักบู๊แดนในสิ ผมไม่เชื่อว่าข้างกายของเอียนชิงเฉิงนั้นจะเป็นถึงปรมาจารย์นักบู๊เลยทีเดียวเชียว! ”
ในที่สุดหนานกงวั่งก็อดทนไม่ไหวจึงตวาดขึ้นว่า: “บัดซบ แกคิดว่านักบู๊แดนในจะเชิญได้ง่ายดายขนาดนั้นเหรอ? แค่พวกนักบู๊แดนนอกไม่กี่คนนั้น ลุงหลีถึงขนาดต้องจ่ายเงินจำนวนมากจึงจะเชิญมาได้ ถ้าหากไม่ได้เห็นแก่หน้าของลุงหลีแล้ว ต่อให้จ่ายเงินมากเท่าไรบางทีคนอื่นก็ไม่ช่วยเหลือนาย นักบู๊ ก็มีความหยิ่งผยองในตัวของนักบู๊เหมือนกัน! ”
“คุณปู่ ผมไม่สน ไม่ว่าอย่างไรท่านจะต้องช่วยเหลือผมเอาตัวเอียนชิงเฉิงมาให้ได้ ไม่อย่างนั้นผมจะหนีออกจากบ้านในตอนนี้เลย! ” หนานกงหยุนโหลเล่นลูกไม้อย่างหน้าด้านแล้ว
หนานกงวั่งโมโหจนหน้าเขียวไปหมด มองไปที่หนานกงหยุนโหลในสภาพที่ไม่ได้เรื่องได้ราว จึงแอบถอนหายใจ: “โธ่ หยุนโหล ปู่ผิดเองที่รักและเอ็นดูแกมากเกินไป ทำให้ตอนนี้แกก็ยังคงเป็นแค่เด็กที่ไม่รู้จักโต แต่ว่าหากแกสามารถได้ตัวเอียนชิงเฉิงมาครอบครองได้ก็ถือว่าไม่เลวเลย ด้วยลักษณะนิสัยของไอ้ตาแก่เอียน เมื่อถึงเวลานั้นเพื่อชื่อเสียงของตระกูล คงจะต้องกล้ำกลืนความเจ็บช้ำ และตกลงเป็นครอบครัวเดียวกับเรา ถ้าหากสามารถเชื่อมความสัมพันธ์กับตระกูลเอียนได้ สถานะตระกูลหนานกงของพวกเรา ก็สามารถยืนหยัดอยู่ต่อไปได้”
“พอเถอะ ฉันตกลงกับแก จะไปขอร้องลุงหลีอีกครั้ง ให้เขาช่วยคิดหาวิธีการ” หนานกงวั่งพูดเสียงดัง
บทที่ 96 หมัดเทพเทียนเสวียน(2)

บทที่ 98 ยานจิงเกิดโกลาหล (2)