ภาคที่ 1 บทที่ 125 โอกาสเหยียบย่ำซ้ำเติม

เซียนอมตะ 2,500 ปี [我只有两千五百岁]

บทที่ 125 โอกาสเหยียบย่ำซ้ำเติม

ประเด็นซึ่งเป็นที่ถกเถียงครั้งนี้ได้รับความสนใจจากผู้คนในวงกว้าง

นักศึกษาและอาจารย์จากมหาวิทยาลัยอื่น ๆ ตอนแรกพวกเขาก็แค่เฝ้าดูอย่างสนุกสนานเท่านั้น แต่เมื่อเหตุการณ์ดำเนินมาถึงตอนนี้ ทุกคนก็กระโดดเข้ามาร่วมวงก่นด่าผู้กระทำผิดทั้งสองคนด้วยเช่นกัน!

“พวกเราก็หลงเข้าใจมาตลอดว่ามหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนจี้หยาง มีแต่คนเก่ง ๆ เรียนจบมาทั้งนั้น ที่แท้ขอแค่มีเงินก็สามารถเรียนจบจากที่นี่ได้แล้ว!”

“หน้าไม่อายจริง ๆ แบบนี้ทำให้วงการแพทย์แผนจีนเสื่อมเสียหมด!”

“ขนาดเกรดนักศึกษายังซื้อขายกันได้ ตำแหน่งต่าง ๆ ในมหาลัยก็คงซื้อได้ด้วยเงินเหมือนกันนั่นแหละ เฮ้อ นี่แหละหนาความโลภของมนุษย์!”

“หมดกัน! จบเห่แล้ว!”

หอพักอาจารย์

มันเป็นห้องคู่ขนาดความกว้าง 150 ตารางเมตร

หลี่ชิงฝูเดินกลับไปกลับมาอยู่ในห้องพักด้วยสีหน้าวิตกกังวล

หลังจากนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ เขาก็รีบวิ่งไปยังโต๊ะวางโทรทัศน์ และหยิบแจกันใบใหญ่ที่มีราคาแพงใบหนึ่งมาทุบทิ้งลงไปบนพื้นห้อง

“ไม่ได้การ จะให้ใครรู้ว่าฉันรับสินบนไม่ได้เด็ดขาด ของสะสมทุกอย่างต้องกำจัดทิ้งไปให้หมด”

“รวมถึงเหล้าเหมาไถพวกนั้นด้วย”

ชายร่างอ้วนเตี้ยเดินไปกดรหัสผ่านที่ประตูห้องเก็บของ เมื่อประตูห้องเปิดออก เขาก็ก้าวเข้าไปในห้องที่มีชั้นวางสุราเหมาไถอยู่เต็มไปหมด

ในขณะที่คิดจะทำลายหลักฐานทั้งหมดนี้เอง

ทันใดนั้น หลี่ชิงฝูก็นึกขึ้นได้ว่าหลักฐานที่สามารถเอาผิดเขาได้นั้น ล้วนแต่ถูกโพสต์ลงไปในอินเทอร์เน็ตแล้ว

จบสิ้นกัน

สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเศร้าโศก

ผู้เป็นรองอธิการบดีเดินลากร่างกายที่อ่อนระโหยของตนเองกลับมาที่ห้องนั่งเล่น และนั่งลงบนโซฟาด้วยความเหนื่อยล้าอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

เขาหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา

อยากจะโทรไปด่าหยางเหวินป๋อสักหลาย ๆ คำ

แต่แล้วก็นึกขึ้นมาได้ว่าโทรศัพท์ของพวกเขาอาจจะถูกดักฟัง

“กล้าดียังไงถึงมาดักฟังโทรศัพท์ของฉัน!”

หลี่ชิงฝูคำรามด้วยความโกรธแค้น ก่อนจะทิ้งโทรศัพท์ลงไปบนโซฟา สุดท้ายเขาก็ต้องล้มตัวนอนลงไปด้วยความหมดแรง

หลี่ชิงฝูไม่รู้อีกแล้วว่าตนเองควรทำอย่างไรดี

ในเวลาเดียวกันนี้ที่หอพักอาจารย์อีกหนึ่งแห่ง

หยางเหวินป๋อยืนอยู่ริมหน้าต่าง มือขวาที่สั่นเทาของเขาคีบบุหรี่อยู่หนึ่งมวน เขาไม่ใช่คนสูบบุหรี่ แต่ผู้เป็นคณบดีประจำคณะแพทย์แผนจีนจำเป็นต้องจุดมันทุกครั้งเวลามีเรื่องสำคัญให้ตัดสินใจ

กลิ่นของบุหรี่ที่ถูกเผาไหม้อย่างรวดเร็ว ทำให้เขาสามารถรวบรวมสมาธิได้ดีมากขึ้น

ใบหน้าของหยางเหวินป๋อบิดเบี้ยวด้วยความโกรธแค้น

“ใครกันนะ?”

“ใครกันที่ทำแบบนี้?”

จังหวะนั้น ใบหน้าของหยางเหวินป๋อเต็มไปด้วยแววอำมหิต เส้นเลือดในดวงตาของเขาแดงก่ำ ทำให้ชายวัยกลางคนดูน่ากลัวขึ้นมาในพริบตา

“ต่อให้ตายฉันก็ต้องรู้ให้ได้ว่าแกเป็นใคร”

หยางเหวินป๋อกระซิบใส่หน้าต่างด้วยความเดือดดาลใจ

เมื่อเรื่องนี้กลายเป็นข่าวใหญ่ในทุก ๆ สื่อประจำเมือง

ทางมหาวิทยาลัยก็ไม่สามารถอยู่นิ่งเฉยได้อีกต่อไป

คืนนี้ มหาวิทยาลัยที่ควรจะตกอยู่ภายใต้ความเงียบสงบ

กลับมีรถยนต์หลายคันแล่นมาจอดอยู่ที่หน้าตึก ซึ่งเป็นสำนักงานของผู้บริหารใหญ่

ผู้บริหารคนสำคัญของมหาวิทยาลัยต่างก็ถูกเรียกตัวมาประชุมด่วนอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา ยกเว้นก็แต่รองอธิการบดีหลี่ชิงฝูและคณบดีประจำคณะแพทย์แผนจีนหยางเหวินป๋อเพียงสองคนเท่านั้นที่ไม่ได้ถูกเรียกตัวมาด้วย

เช้าวันต่อมา

มหาวิทยาลัยก็ออกประกาศอย่างเป็นทางการในเว็บไซต์ของตนเอง

“จากข้อมูลที่ได้มีการเผยแพร่อยู่ในโลกออนไลน์นั้น ทางผู้บริหารระดับสูงของมหาวิทยาลัยได้เรียกประชุมอย่างเร่งด่วนเมื่อคืนนี้ และตัดสินให้มีการพักงานรองอธิการบดีหลี่ชิงฝูกับคณบดีหยางเหวินป๋ออย่างไม่มีกำหนด จนกว่าการสืบสวนจะสิ้นสุดลง”

นี่คือคำประกาศที่เรียบง่ายมาก

เมื่อเห็นคำประกาศนี้ บรรดานักศึกษาคณะแพทย์แผนจีนต่างก็หัวเราะเยาะด้วยความเจ็บช้ำใจ

เป็นไงล่ะ ดูซิว่าสองคนนั้นจะแก้ตัวยังไงอีก?

ผู้ที่ทำให้มหาวิทยาลัยของพวกเขาต้องกลายเป็นตัวตลกในกลุ่มมหาวิทยาลัยด้วยกัน ย่อมไม่สามารถลอยนวลไปได้ง่าย ๆ เด็ดขาด

ขณะนี้ ทุกคนอับอายจนไม่กล้าออกไปเดินที่ไหนแล้ว!

แต่พวกเขาก็รู้ดีเช่นกันว่า การสืบสวนต่อจากนี้คงไม่มีทางจบลงอย่างง่ายดายเหมือนครั้งก่อนอีกแล้ว

ในห้องเรียน

“ความแค้นระหว่างพวกเราคงจบกันแต่เพียงเท่านี้ล่ะนะ”

ซูเย่ยิ้มกริ่มระหว่างอ่านคำประกาศของมหาวิทยาลัยบนหน้าจอโทรศัพท์ของตนเอง

หากเป็นสถานการณ์ปกติ การสืบสวนที่ทางมหาวิทยาลัยจัดขึ้นคงไม่มีผลกระทบใด ๆ ต่ออำนาจของหยางเหวินป๋อกับหลี่ชิงฝู มันจะเป็นเพียงปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เกิดขึ้นอย่างไม่คาดฝัน และก็จะถูกทำให้จบลงด้วยความเงียบงัน

แต่ครั้งนี้ ถือว่าหยางเหวินป๋อทำให้ตัวเองเดือดร้อนอย่างแท้จริง

ถ้าเขาไม่มาขัดขวางซูเย่ในการเป็นลูกศิษย์คนใหม่ของปรมาจารย์แพทย์แผนจีน เรื่องทุกอย่างก็คงไม่เกิดขึ้น

ยิ่งในอดีตหยางเหวินป๋อทำผิดมากเท่าไหร่ ปัจจุบันก็ยิ่งถูกเปิดโปงหนักขึ้นเท่านั้น

ครั้งนี้หยางเหวินป๋อจึงไม่มีทางหนีรอดอีกแล้ว

เพราะว่ากลุ่มนักศึกษามีความโกรธแค้นมากเกินไป ทางมหาวิทยาลัยต้องหาใครสักคนมารับผิดชอบ

ซูเย่หันหน้าทอดสายตามองออกไปนอกหน้าต่าง

สำหรับมหาวิทยาลัยแล้ว นี่คือปัญหาที่จัดการได้ยากลำบาก

และสำหรับมหาวิทยาลัยอื่น ๆ ที่เป็นคู่แข่งโดยตรง นี่ก็ถือเป็นโอกาสดีที่จะบุกมาเหยียบย่ำซ้ำเติมไม่ให้มหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนจี้หยางโงหัวขึ้นมาได้อีก

โดยเฉพาะเมื่อใกล้การแข่งขันชิงทุนเข้ามาทุกทีอย่างนี้

มหาวิทยาลัยเภสัชกรรมจี้หยาง

“ฮ่าฮ่า ในที่สุดฉันก็เจอวิธีปลอบใจลูกศิษย์ของตัวเองแล้ว ขนาดพวกแพทย์แผนจีนยังหาเรื่องเดือดร้อนใส่ตัวเองได้ อนาคตของพวกเราก็คงไม่ลำบากอีกต่อไป!”

เมื่อผู้บริหารระดับสูงของมหาวิทยาลัยเภสัชกรรมจี้หยาง ได้รับทราบข่าวการทุจริตของผู้บริหารประจำมหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนจี้หยาง พวกเขาก็โห่ร้องออกมาอย่างมีความสุขและเรียกประชุมด่วนผู้บริหารเป็นกรณีพิเศษ

“ครั้งนี้นับว่าพวกแพทย์แผนจีนจี้หยางทำตัวเองแท้ ๆ”

“ผมว่าถึงเวลาแล้วที่พวกเราต้องเหยียบแพทย์แผนจีนจี้หยางให้จมดิน พวกเขาไม่ควรมีหน้ามาแข่งขันกับเราอีกต่อไป”

“ผมจัดเตรียมทุกอย่างไว้ให้แล้ว นี่คือแบบฟอร์มที่จะรวบรวมรายชื่อผู้บริหารจากมหาวิทยาลัยและโรงพยาบาลต่าง ๆ เพื่อให้กระทรวงศึกษาถอดถอนมหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนจี้หยางออกจากการแข่งขันชิงทุนที่กำลังจะมาถึง!”

อธิการบดีของมหาวิทยาลัยเภสัชกรรมจี้หยางยิ้มออกมาด้วยความพอใจ “ผมได้ลงนามไปแล้วเรียบร้อย ในเมืองของเราก็มีแต่พวกเขานี่แหละเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวที่สุด หลายปีที่ผ่านมาแพทย์แผนจีนจี้หยางแย่งทุนของเราตลอด ถ้าครั้งนี้พวกเขาถูกตัดสิทธิ์ไม่ให้เข้าแข่งขันด้วยจริง ๆ ก็เป็นโอกาสดีที่เราจะได้รับทุนแต่เพียงผู้เดียวแล้ว!”

มหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนจี้หยาง

เรื่องที่ว่ามีการล่ารายชื่อถอดถอนมหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนจี้หยางออกจากการแข่งขันชิงทุนได้ล่วงรู้มาถึงหูผู้เป็นอธิการบดีในที่สุด

ในฐานะอธิการบดี

นี่ไม่ใช่เรื่องตลก

มันไม่ใช่แค่เกี่ยวข้องกับหน้าที่การงานของเขาเท่านั้น แต่มันยังเกี่ยวข้องกับอนาคตของนักศึกษาอีกเป็นหมื่นคน รวมไปถึงเกี่ยวข้องกับอนาคตของมหาวิทยาลัยแห่งนี้ด้วยเช่นกัน!

“ไปตรวจสอบเรื่องนี้ดูให้ดี!”

“ไม่ว่าพวกคุณจะพบเจออุปสรรคมากแค่ไหน ก็ขอให้อย่าหวาดกลัว เอาความจริงกลับมารายงานผมให้ได้ และผมต้องการผลสรุปโดยเร็วที่สุด”

“ส่วนผมจะเป็นคนติดต่อกระทรวงสาธารณสุขกับกระทรวงศึกษาธิการเอง!”

เสียงคำสั่งอันหนักแน่นดังออกมาจากห้องทำงานของอธิการบดี