เมื่อพูดออกมา เกิดเสียงฮือฮาดังขึ้น

เมื่อนักเรียนเก่ารอบๆ ได้ยินคำพูดของลู่ฝาน ไม่มีใครที่ไม่ตกตะลึง

โม่หยุนเฟย จางเยว่หาน ต่างตกตะลึง

สายตาที่ทุกคนมองลู่ฝาน เหมือนเห็นคนบ้าที่ธาตุไฟเข้าแทรก

“คณะหนึ่งเดียวเหรอ ฉันไม่ได้ฟังผิดใช่ไหม”

“เขาจะเข้าคณะหนึ่งเดียว จะทำลายตัวเองหรือไง”

“คณะหนึ่งเดียว เป็นคณะที่อยู่ในลำดับเก้าเลยนะ!”

“เฮ้อ ทำลายอนาคตตัวเอง ภัยพิบัติที่มาจากสวรรค์ ยังหลบหนีได้ แต่การกระทำผิดด้วยตัวเอง หนีไม่พ้น”

……

เสียงตกใจและเศร้าใจ ดังขึ้นมาอย่างรวดเร็ว พวกอาจารย์ก็มีสีหน้าผิดปกติ ไม่มีใครคิดว่า ลู่ฝานซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของอาจารย์ขนาดนี้ จะเลือกคณะหนึ่งเดียว

ท่านผอ.ขมวดคิ้ว แล้วพูดเสียงก้องกังวาน “เงียบ!”

เสียงดังสนั่น สั่นสะเทือนไปทั่ว

นักเรียนที่กำลังถกเถียงกัน โดนสั่นสะเทือนจนมึนหัว พละกำลังอ่อนแอลง พากันทรุดลงบนพื้น

ทันใดนั้น เต็มไปด้วยความเงียบ

อาจารย์อี้ชิงลูบท้อง ใบหน้ามีรอยยิ้ม

เซินถู เมิ่งอวิ๋นและคนอื่น หันไปมองไปอี้ชิง แววตาของซิงยวนเปลี่ยนไป ขมวดคิ้วเบาๆ

พวกเขาคิดไม่ถึงว่าลู่ฝาน จะตัดสินใจแบบนี้

แต่ท่านผอ. กลับมีสีหน้าราบเรียบ มองลู่ฝานแล้วพูดว่า “คณะหนึ่งเดียวเหรอ นายแน่ใจใช่ไหม”

ลู่ฝานพยักหน้าพูดว่า “แน่ใจครับ”

ท่านผอ.ยิ้ม แล้วหันไปมองอี้ชิง จากนั้นพูดว่า “อี้ชิง มีคนเลือกคณะหนึ่งเดียวของนายแล้ว นายว่ายังไง”

อี้ชิงวางมือที่ลูบท้องลง ลุกขึ้นยืน เอามือสองข้างไพล่หลัง แล้วพูดว่า “ลู่ฝาน พูดมาสิ ทำไมนายถึงเลือกคณะหนึ่งเดียว ขอเหตุผลให้ฉันสักหนึ่งเหตุผล”

ลู่ฝานพูดว่า “ผมได้ยินมาว่าคณะหนึ่งเดียว มีเพลงเต๋าหนึ่งเดียว”

ไม่มีใครฝึกสำเร็จเลย ถ้านายเข้าคณะหนึ่งเดียว เพราะสิ่งนี้ ฉันขอเตือนให้นายคิดอย่างจริงจัง อาจารย์ของคณะกำแหง ให้นายเป็นศิษย์ก้นกุฏิ ถ้านายไปคณะกำแหง ไม่เพียงแต่จะได้เคล็ดวิชาบู๊ ระดับดิน

ลู่ฝานไม่พูดอะไร ทำเพียงมองอี้ชิง ด้วยสายตาแน่วแน่ แววตาแน่วแน่ของเขา อธิบายทุกอย่างแล้ว

แววตาของอี้ชิงเย็นชาลง รอยยิ้มบนใบหน้าค่อยๆ หายไป

อี้ชิงมองลู่ฝานแล้วพูดว่า “นายแน่วแน่มาก แต่น่าเสียดาย คนไม่รู้จักปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์แบบนาย ต่อไปจะมีความลำบากในเส้นทางบู๊ นายเข้าคณะหนึ่งเดียวไม่ได้ เลือกคณะอื่นเถอะ อาจารย์คนอื่นรอนายอยู่”

ลู่ฝานหนังตากระตุกเล็กน้อย แอบผิดหวังในใจ

ได้ยินลู่หมิงพูดแต่แรกแล้วว่า อาจารย์คณะหนึ่งเดียว นิสัยประหลาด วันนี้ได้เจอเอง ตามคาดจริงๆ แม้ไม่รู้ว่าคนที่อยู่ตรงหน้า ใช่อาจารย์คนที่ลู่หมิงพูดหรือเปล่าก็เถอะ

ลู่ฝานคารวะอีกครั้ง แล้วพูดว่า “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นผมไม่รบกวนแล้ว ขอบคุณอาจารย์อธิการและอาจารย์ทุกท่าน”

ลู่ฝานหันหลัง เตรียมจะเดินออกไป ในเมื่อไม่มีวิธีเอาเพลงเต๋าหนึ่งเดียวมาแบบซึ่งหน้าได้ งั้นลู่ฝานต้องหาวิธีแอบเรียน อยู่ในคณะอื่น คงมีโอกาสไม่มาก ลู่ฝานแอบคิดในใจว่า อีกเดี๋ยวจะทำยังไง ถึงจะหลบเลี่ยงสายตาของทุกคน จากนั้นค่อยคิดวิธีไปหาที่ตั้งของคณะหนึ่งเดียว

เหล่าอาจารย์เห็นลู่ฝานปฏิเสธ และจะเดินออกไป ต่างพากันตกใจเล็กน้อย

ทันใดนั้น เสียงหนึ่งดังขึ้นมา

“เดี๋ยวก่อน”

ลู่ฝานชะงักฝีเท้า หันมาถามอย่างสงสัย “อาจารย์อี้ชิง มีเรื่องอะไรอีกครับ”

อี้ชิงหัวเราะออกมา ส่ายหน้ามองลู่ฝาน แล้วพูดว่า “ไอ้เด็กนี่จริงๆ เลย แข็งไม่ต่างจากหิน”

ซิงยวนพูดต่อ “นี่คือนิสัยแย่ๆ ที่คณะหนึ่งเดียวของนาย สืบทอดกันมารุ่นต่อรุ่น ไม่ใช่หรือไง”

อี้ชิงทำเป็นไม่ได้ยินการพูดแซะของซิงยวน เขามองลู่ฝานแล้วพูดว่า “ดีมาก ถ้าเมื่อกี้นายลังเล คงเข้าคณะหนึ่งเดียวของฉันไม่ได้จริงๆ ดีมากๆ แต่นายอยากเรียนเพลงเต๋าหนึ่งเดียว ฉันไม่สามารถตัดสินใจได้ นายต้องไปถามศิษย์พี่ของฉัน และก็เป็นอาจารย์เต้ากวงของนาย ตามฉันมาสิ”

พูดจบ อี้ชิงเดินออกไปข้างนอก

ลู่ฝานมีสีหน้ายินดี รีบเดินตามไป เจ้าดำที่หลบอยู่ข้างๆ เงียบๆ มุดออกมา กระโดดขึ้นไปบนไหล่ลู่ฝาน

ท่านผอ. ตะโกนมาจากด้านหลังว่า “อี้ชิง นายไม่เลือกศิษย์คนอื่นแล้วเหรอ”

อี้ชิงพูดโดยไม่หันหน้ามา “คนเดียวก็พอแล้ว”

ทั้งสองเดินออกจากสนามต่อสู้ หายลับไปจากสายตาทุกคน เหล่าอาจารย์ส่ายหน้า ยิ้มแหยๆ