กู้ชูหน่วนหัวเราะแหะๆ ยิ้มจนดูปลิ้นปล้อนเป็นที่สุด “เช่นนั้นไทเฮาเพคะ พระองค์กล้าเดิมพันกับข้าหรือไม่เพคะ หากว่าเซียวหยู่เซวียนแพ้ให้กับเทพหมากกระดาน ข้าจะเอาหยกเสี้ยวจันทร์มอบคืนให้ท่านแต่โดยดี ไม่เอาเงินท่านสักเหวินเดียว หากว่าเซียวหยู่เซวียนชนะเทพหมากกระดาน เช่นนั้นท่านก็เอาเงินห้าสิบล้านตำลึงมอบให้ข้า”

องค์หญิงตังตังโดนกู้ชูหน่วนหลอกลวงหลายครั้งแล้ว เมื่อเห็นรอยยิ้มของนาง ก็ระมัดระวังทันที

“เสด็จแม่ ท่านอย่าเชื่อคำพูดของกู้ชูหน่วน ทุกครั้งนางก็มีความคิดที่ไม่เที่ยงตรงมากมายเพคะ”

เซียวหยู่เซวียนกลับกระโดดขึ้นมาโดยไม่สนใจภาพพจน์

“ยัยขี้เหร่ เจ้าโง่ไปแล้วหรือ? ข้าจะชนะเทพหมากกระดานได้อย่างไร? ทักษะหมากรุกของข้าแย่มากนะ นั่นเป็นถึงเงินห้าสิบล้านตำลึงเชียว เงินห้าสิบล้านตำลึงจริงๆนะ เจ้าอย่าโง่เลอะเลือน”

“ข้าพูดว่าเจ้าชนะได้ เจ้าก็สามารถชนะได้”

“ปัดโธ่ ข้าพูดความจริงกับเจ้าละกัน เดิมทีข้าก็ไม่เข้าใจหมากรุกน่ะ”

“กลัวอะไร ปิดตาแล้วเดิน ก็อาจจะชนะแล้วล่ะ”

“…….”

เซียวหยู่เซวียนร้อนใจจนหัวหมุน

ให้เขาไปเดินหมาก เท่ากับมอบเงินห้าสิบล้านตำลึงออกไปโดยดี

แม้ว่างานชุมนุมแข่งขันบุ๋นนางจะชนะเงินมาได้ไม่น้อย ก็ไม่สามารถใช้จ่ายได้ตามอำเภอใจหรอกนะ

เทพหมากกระดานทำความเคารพต่อไทเฮาอย่างมีมารยาท จากนั้นก็กล่าวอย่างไม่พอใจทันที “อาจารย์ แม้ว่าข้าจะแพ้ให้ท่าน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าข้าจะห่วยมาก เจ้าเด็กนี่จะชนะข้าได้อย่างไร”

ให้คนที่ไม่เข้าใจการเดินหมากมาแข่งหมากรุกกับเขา เช่นนั้นไม่ได้เป็นการดูถูกเขาหรอกหรือ?

กู้ชูหน่วนเลิกคิ้ว “ทำไม? ท่านไม่เชื่อว่าเขาสามารถชนะท่านได้หรือ? เช่นนั้นพวกเราจะมาเดิมพันกันหรือไม่ หากว่าเขาชนะท่านได้ หลังจากนี้ท่านห้ามเรียกข้าว่าอาจารย์อีก หากว่าเขาแพ้ท่าน ข้าจะเอาหลักการเดินหมากที่ข้ารู้ทั้งหมดสอนให้ท่านทั้งหมด เป็นยังไง?”

คำพูดนี้ประจวบเหมาะกับความตั้งใจของเทพหมากกระดานพอดี

เทพหมากกระดานคิดก็ไม่ได้คิด ตกลงโดยตรง ไม่ได้เห็นเซียวหยู่เซวียนในสายตาโดยสิ้นเชิง

เซียวหยู่เซวียนรู้สึกว่ากู้ชูหน่วนโง่ไปแล้ว

ทุกคนก็รู้สึกว่ากู้ชูหน่วนโง่ไปแล้ว

ปล่อยเงินห้าสิบล้านตำลึงไป มีเทพหมากกระดานลูกศิษย์ผู้นี้ติดตามไม่เอา จะต้องรนหาที่ตายให้ได้

“ไทเฮาเพคะ ตาเฒ่าหมากกระดานก็กล้าเดิมพันแล้ว พระองค์จะยินยอมเดิมพันครั้งนี้หรือไม่เพคะ” กู้ชูหน่วนเอาสายตาเคลื่อนไปบนร่างของไทเฮา บนใบหน้าแขวนไว้ด้วยรอยยิ้มที่แพรวพราวไร้เดียงสา

องค์หญิงตังตังกล่าวเตือน “เสด็จแม่ ระวังมีการหลอกลวงเพคะ”

ไทเฮาหลบตาลงไตร่ตรอง

เซียวหยู่เซวียนเป็นผู้ที่มีชื่อเสียงในด้านการเที่ยวเล่นไปวันๆในเมืองหลวง

หากพิจารณาเรื่องชีวิตสำมะเลเทเมา กินดื่มเที่ยวเล่น เขาอาจจะชำนาญ

แต่เรื่องดนตรีหมากรุกเรียนหนังสือวาดรูป ประพันธ์บทกลอนบทกวีเพลง รวมทั้งศิลปะการต่อสู้สิบแปดอย่าง ทั้งหมดเขาล้วนไม่ช่ำชอง พูดตรงๆก็คือลูกผู้ดีที่มีความสามารถต่ำต้อยผู้หนึ่ง

กลับไปมองที่เทพหมากกระดาน ทักษะหมากยอดเยี่ยมและลึกซึ้ง สู้ได้ทั่วหล้าแพ้ให้เพียงกู้ชูหน่วนผู้เดียว

ไม่ว่าจะมองอย่างไร ก็เป็นไปไม่ได้ที่เซียวหยู่เซวียนจะชนะเทพหมากกระดานได้ ทำไมกู้ชูหน่วนถึงมั่นใจว่าเซียวหยู่เซวียนจะชนะได้ล่ะ?

ไทเฮารู้ว่าอาจจะมีกับดัก แต่ร้อนใจจะเอาหยกเสี้ยวจันทร์กลับคืน ทั้งตัดใจจากเงินห้าสิบล้านตำลึงไม่ลง

ด้วยเหตุนี้ นางกล่าวถาม “ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถช่วยเซียวหยู่เซวียนได้หรือ?”

“ไทเฮาไม่วางใจดังคาด ก็ให้เซียวหยู่เซวียนอยู่กับตาเฒ่าหมากกระดานลำพังห้องหนึ่งเพคะ แล้วส่งคนสนิทอีกสองคน เอาหมากที่พวกเขาเดินทุกก้าวแขวนไว้บนห้องโถงใหญ่ เพื่อให้ทุกคนได้ชมทันทีเพคะ”

คำพูดนี้ ทำให้ไทเฮาหวั่นไหวแล้ว

การอยู่เพียงลำพังในห้องหมายความว่าไม่มีผู้ใดสามารถช่วยเซียวหยู่เซวียนโกงได้ การเดินหมากทุกก้าวพวกเขาก็สามารถเห็นได้ เมื่อเป็นเช่นนี้ เทพหมากกระดานอ่อนข้อให้หรือไม่ พวกเขาก็สามารถมองออกได้อย่างชัดเจนแล้ว

ไทเฮาเอ่ยถามอีกครั้ง “เทพหมากกระดานคงจะไม่อ่อนข้อให้หรอกนะ”

เทพหมากกระดานแสดงความไม่พอใจบนสีหน้า “ข้าน้อยมีความเชี่ยวชาญอยู่ในวงการหมากรุกมาสิบกว่าปี การอ่อนข้อให้การกระทำของคนชั้นต่ำเช่นนี้ ไม่มีค่าควรให้ข้าน้อยทำพ่ะย่ะค่ะ”

“ได้ ข้าเดิมพันแล้ว”

ซ่างกวนฉู่หัวเราะเยาะหยันทันที ราวกับว่ารู้สึกเศร้าใจแทนไทเฮา

เห็นได้ชัดว่ากู้ชูหน่วนขุดหลุมรอให้นางกระโดดไว้อย่างดีแล้ว

เงินห้าสิบล้านตำลึง เพียงพอที่จะซื้อร้านค้าครึ่งในเมืองหลวงแล้ว

ไทเฮาก็กล้าที่จะเดิมพันไปอีก