ตอนที่ 168

เสน่ห์คมดาบ

ดวงตาของหลิวเฉว่ฉิงค่อยๆ เผยให้เห็นความดุร้ายและบ้าคลั่งแค่คิดถึงมันก็ทำให้นางแทบคลั่งแล้วรอคอยสิ่งที่จะเกิดขึ้นในคืนนี้ไม่ไหว! 

 

 

ตอนนี้แคลร์และครอบครัวกำลังอยู่รวมกันในห้องโถงแคทเธอรีนนั่งอยู่บนเก้าอี้ส่วนแคลร์และราเซียนั่งข้างๆ คนละฝั่งราเซียจับมือแคทเธอรีนอย่างมีความสุขไม่ยอมปล่อยลาเกอร์มองแม่ลูกทั้งสามที่กำลังคุยหัวเราะกันหัวใจของเขาก็เต็มไปด้วยความสุขในที่สุดแคทเธอรีนก็ได้รับการช่วยเหลือแล้วดวงตาของลาเกอร์เคลื่อนไปที่ใบหน้าของแคลร์ ในใจเต็มไปด้วยความรู้สึกหญิงบ้าผู้ชายที่ทุกคนเคยเกลียดชังได้กลายเป็นดาวที่สว่างที่สุดในเมืองหลวงแล้วแม้แต่จักรพรรดิยังต้องอิจฉาความแข็งแกร่งของนางน่าทึ่งมาก จอมเวทชั้นเซียนสิ่งนี้แสดงถึงอะไรหรือ? เชื่อว่าทุกคนที่อยู่ในวันนี้รู้ดีท่าทีของจักรพรรดิยิ่งอธิบายทุกสิ่งแล้วแคลร์หยาบคายมากขนาดนั้นแต่จักรพรรดิกลับทำเป็นหลับตาข้างหนึ่ง 

 

 

อูมาริยิ้มให้กับภาพตรงหน้าความแข็งแกร่งของแคลร์นั้นบรรลุจอมเวทชั้นเซียนแล้วจริงๆ! นอกจากจะมีความสุขไปกับแคลร์แล้ว เขาก็ยังมีความเศร้าโศกและความผิดหวังด้วยตอนนี้เขาไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็นอาจารย์ของแคลร์อีกต่อไปแล้วแต่ใจของเขาเข้าใจอย่างลึกซึ้งว่าแคลร์เคารพเขาอยู่เสมอเมื่อมีศิษย์เช่นนี้ชีวิตนี้ก็เพียงพอแล้ว 

 

 

ดยุกกอร์ตั้นนั่งอยู่ด้านบนสุดในใจเขายังคงกังวลอยู่มากแม้ว่าในการพิจารณาคดีวันนี้แคลร์จะเลือกตระกูลฮิลล์และความแข็งแกร่งของแคลร์ก็มาถึงจุดที่หลายคนเทียบไม่ได้แล้วแต่วันนี้ต้องเผชิญกับความแตกหักกับวิหารแห่งแสงต่อจากนี้ไป ควรจะเดินต่อไปอย่างไรล่ะ? วิหารจะใช้มาตรการอะไร? ตอนนี้คงจะไม่แต่หลังจากนั้นล่ะ? 

 

 

“หลายวันมานี้ท่านแม่คงรู้สึกแย่” แคลร์พูดอย่างรู้สึกผิดและจับมือของแคทเธอรีนไว้แน่น 

 

 

“ไม่หรอก แคลร์ ข้าทำให้เจ้ารู้สึกไม่ดีต่างหาก” แคทเธอรีนส่ายหัวและจับมือของแคลร์ไว้แน่นด้วยความรู้สึกผิด สีหน้านางปรากฎความกังวล “วันนี้เจ้าแตกหักกับวิหารแห่งแสงแล้ว ต่อไปจะทำอย่างไรดีล่ะ? แม่กลัวว่าจะเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น” 

 

 

“ท่านแม่ ท่านเป็นคนที่สำคัญที่สุดของข้า เรื่องอื่นๆ ข้าไม่สนใจอะไรทั้งนั้น” แคลร์ยิ้มและพูดในสิ่งที่อยู่ในใจตัวเองออกมาเบาๆ 

 

 

ดยุกกอร์ตั้นถอนหายใจ แล้วก็ถอนหายใจอีก “พวกเจ้าคุยกันไปก่อน ข้าจะไปอยู่เงียบๆ สักหน่อย ไปคิดว่าจะจัดการอย่างไรต่อไป” 

 

 

“ท่านพ่อ…” 

 

 

“ท่านพ่อ…” 

 

 

“ท่านปู่ ข้าขอโทษที่ทำให้ท่านปู่เดือดร้อน และทำให้ท่านปู่ลำบากใจ” แคลร์มองดยุกกอร์ตั้นที่ดูเป็นห่วง แล้วพูดขอโทษ 

 

 

จากนี้ต่อไปปัญหาอาจตามมาทีละอย่างไม่ใช่แค่แคลร์ที่ต้องเผชิญกับเรื่องนี้แต่ตระกูลฮิลล์ต้องเผชิญกับมันด้วยแม้ว่าวิหารจะไม่เข้ามาแทรกแซงรัฐ และจะไม่พุ่งเป้าไปที่ตระกูลฮิลล์มากเกินไปแต่ว่าสำหรับแคลร์นั้นไม่เหมือนกัน ในมุมมองของวิหารแห่งแสง แคลร์เป็นคนทรยศ เป็นคนที่ละเมิดเจตจำนงของเทพี! 

 

 

“เด็กโง่ เจ้าพูดเรื่องอะไร?” ดยุกกอร์ตั้นยิ้มและยืนขึ้น “เอาล่ะ มีเรื่องอะไรข้าจะหาวิธีเอง ไม่ต้องกังวล” 

 

 

“ขอบคุณท่านพ่อ” ทั้งลาเกอร์และแคทเธอรีนมองดยุกกอร์ตั้นอย่างขอบคุณและเคารพ 

 

 

“ขอบคุณท่านปู่”แคลร์ยิ้ม และซาบซึ้งอยู่ในใจ 

 

 

ดยุกกอร์ตั้นยิ้ม พยักหน้า แล้วพาอูมาริและคนอื่นๆ ที่อยู่ข้างๆ เขาไปที่ห้องหนังสือ 

 

 

ในห้องโถงเกิดความอบอุ่นแต่ในห้องหนังสือกลับตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิงทุกคนมีสีหน้าเคร่งขรึม 

 

 

ดยุกกอร์ตั้นนั่งบนเก้าอี้หน้าโต๊ะ สีหน้ายุ่งเหยิง เรื่องต่างๆ ดำเนินมาถึงจุดนี้แล้วและตอนนี้ก็ไร้ประโยชน์ที่จะโทษทุกคนสิ่งที่ต้องทำตอนนี้คือการปกป้องแคลร์และหาวิธีจัดการกับวิหารแห่งแสง 

 

 

“อูมาริเชลส์ พวกเจ้าคิดอย่างไร?”ดยุกกอร์ตั้นขมวดคิ้ว เชลส์เป็นคนสนิทของดยุกกอร์ตั้นอีกคนหนึ่ง อาชีพคือนักรบ และก็มีความแข็งแกร่งที่ไม่ธรรมดา 

 

 

ทั้งสองมองหน้ากันและไม่ได้พูดอะไร 

 

 

“อูมาริเจ้าพูดก่อน” ดยุกกอร์ตั้นถามอูมาริ 

 

 

อูมาริขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วพูด “ท่านดยุก คนที่เราจะเผชิญหน้าในครั้งนี้แตกต่างออกไปมาก นี่คือวิหารแห่งแสงไม่มีใครกล้าเผชิญหน้ากับวิหารแห่งแสง แล้วก็ยิ่งไม่มีใครที่มีการโต้เถียงกับเขาแล้วได้ใช้ชีวิตอย่างดีเลย” 

 

 

“ต่อสิ”คิ้วของดยุกกอร์ตั้นขมวดมุ่น 

 

 

“ในเมื่อเผชิญหน้าไม่ได้ พวกเราก็หลบซ่อนก่อนได้ ให้คุณหนูหนีออกไปก่อน”อูมาริพูดสิ่งที่อยู่ในใจเขากังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตอนนี้ของแคลร์มากกว่าใครๆ 

 

 

“เชลส์ เจ้าคิดอย่างไร?” ดยุกกอร์ตั้นหันหน้าไปถามเชลส์ที่ยืนอยู่ข้างๆ อูมาริด้วยใบหน้าสงบ 

 

 

“ข้าเห็นด้วยกับความคิดของอูมาริ ตอนนี้กำลังพอดี ให้คุณหนูหลบไปก่อนก็ดีเลย” เชลส์พยักหน้าเห็นด้วย “คุณหนูออกไปวิหารแห่งแสงก็ไม่กล้าดักทำร้ายกลางทางหรอก ความแข็งแกร่งในตอนนี้ของคุณหนูไม่เหมือนกับเมื่อก่อนแล้ว แต่ถ้ายังคงอยู่ในเมืองหลวงต่อไป ก็จะเป็นการสร้างข้ออ้างให้วิหารทำให้คุณหนูลำบากใจครับ” 

 

 

“นี่คงจะเป็นวิธีเดียวเท่านั้นแล้ว” ดยุกกอร์ตั้นถอนหายใจเบาๆ และพยักหน้า “อูมาริ เจ้าไปเตรียมตัวก่อน คืนนี้จะออกไปส่งแคลร์ไปนอกเมือง” 

 

 

“ครับ นายท่าน” อูมาริตอบ 

 

 

“เชลส์เจ้าพาออกจากเมืองไปสามสิบไมล์แล้วกลับมานะ อูมาริเจ้าไปกับแคลร์ก่อนไปที่โยซาลี่แล้วกัน ที่นั่นเป็นที่ที่พลังของวิหารแห่งแสงเข้าไปได้น้อยที่สุด” ดยุกกอร์ตั้นรู้สึกหดหู่เล็กน้อยความแข็งแกร่งของแคลร์บรรลุถึงจุดที่น่ากลัวเช่นนั้นแล้ว หากเหตุการณ์เช่นวันนี้ไม่เกิดขึ้นแคลร์จะเป็นตัวช่วยที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของตระกูลฮิลล์แต่เหตุการณ์ในวันนี้เกิดขึ้นแล้วแคลร์ถูกวิหารแห่งแสงหมายตัวไว้ต่อไปจะทำอย่างไรดีล่ะ? หรือว่าจะหลบไปตลอดเช่นนี้? ช่วงเวลานั้นดยุกกอร์ตั้นก็คงจะปวดหัวแย่ 

 

 

“ไปเตรียมตัวเดี๋ยวนี้เลย” ดยุกกอร์ตั้นบอกให้ทั้งสองคนออกไปก่อน และเมื่อพวกเขาไปก็ลุกขึ้นและเดินไปที่หน้าต่าง ในใจรู้สึกไม่สบายใจ 

 

 

ดยุกกอร์ตั้นอยู่ในห้องหนังสืออย่างเงียบๆ หันไปรอบๆ ด้วยความรำคาญเล็กน้อยแต่เพียงแค่หันกลับมาก็พบกับดวงตาที่ลึกล้ำคู่หนึ่งดยุกกอร์ตั้นก้าวถอยหลังด้วยความตกใจมีคนแอบเข้ามาในตระกูลฮิลล์เงียบๆ ก่อนหน้านี้และปรากฏตัวข้างหลังเขาเมื่อเห็นคนที่เข้ามาอย่างชัดเจนหัวใจของดยุกกอร์ตั้นก็ยิ่งเต้นรัว 

 

 

คนที่อยู่ตรงหน้าคือพระสันตะปาปา! 

 

 

“ท่าน ท่านจะทำอะไร?” เป็นครั้งแรกที่ดยุกกอร์ตั้นรู้สึกกระวนกระวายใจหรือว่าวิหารจะแก้แค้นเร็วเช่นนี้เลยหรือ? ต้องการแก้แค้นอย่างโจ๋งครึ่มเช่นนี้หรือ? 

 

 

“ท่านดยุกโปรดอย่ากังวลข้ามาหาเจ้า เพื่อจะทำข้อตกลงกับเจ้า” พระสันตะปาปาพูดอย่างเคร่งขรึม 

 

 

“ท่านต้องการจะทำอะไร?” ดยุกกอร์ตั้นมองคนตรงหน้าอย่างระแวดระวังไม่มีใครรู้ถึงความแข็งแกร่งของคนผู้นี้เลยจนถึงตอนนี้หรือว่ามาที่นี่เพื่อลอบสังหารตนเองหรือ?ดยุกกอร์ตั้นตัดการคาดเดานี้ไปทันทีแม้ว่าต้องการลอบสังหารตนเอง จะต้องให้พระสันตะปาปาลงมือเองหรือ?คนที่มีความสามารถในวิหารมีมากมายขนาดนั้นจะลอบสังหารตนเองในเวลานี้เป็นเรื่องไม่ฉลาด การต่อสู้ระหว่างองค์ชายทั้งสองได้สิ้นสุดลงแล้ววิหารจะยังคงมีบทบาทอันศักดิ์สิทธิ์ต่อไป และตระกูลฮิลล์จะยังคงอยู่ในบทบาทของขุนนางที่สำคัญต่อไป 

 

 

“ท่านดยุกโปรดสั่งทุกคนว่าอย่าเข้ามา” สีหน้าของพระสันตะปาปายังคงเคร่งเครียดแต่ก็ไม่มีท่าทีล้อเล่นเลย 

 

 

ดยุกกอร์ตั้นขมวดคิ้วเล็กน้อยและรู้สึกได้ว่าพระสันตปาปาไม่ได้มีกลิ่นอายสังหารหลังจากที่ลังเลเล็กน้อยดยุกกอร์ตั้นก็สั่งไม่ให้ใครเข้ามาพระสันตะปาปาสะบัดนิ้วของเขาและสร้างเขตกั้นเวทหลังจากที่เขาแน่ใจว่าไม่มีใครได้ยินการสนทนาระหว่างทั้งสองเขาก็เข้าสู่หัวข้อ 

 

 

“พระสันตะปาปามาด้วยตัวเอง มีเรื่องอะไรหรือครับ?”ดยุกกอร์ตั้นยังคงรักษาท่าทีที่การต่อสู้ระหว่างองค์ชายทั้งสองตำแหน่งของพวกเขาแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงแม้ว่าการพ่ายแพ้ขององค์ชายใหญ่วิหารแห่งแสงจะไม่ได้รับประโยชน์ใดๆแต่ก็ไม่มีผลเสียใดสถานะของวิหารจะไม่สั่นคลอนและทุกอย่างในวันนี้ดูเหมือนจะไม่มีอะไรมากไปกว่าเรื่องในตอนท้ายเลยแม้ว่าจะจบลงแล้วแต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะช่วยให้องค์ชายใหญ่กลับตัวได้อีกครั้งหรอก ไม่มีทางจัดฉากที่จะให้องค์ชายใหญ่หนีออกมาแก้แค้นหรอก 

 

 

“วันนี้มาหาเจ้า เพราะอยากจะตกลงกับเจ้า แน่นอนว่าราคาที่ข้าให้จะทำให้เจ้าพึงพอใจอย่างแน่นอน”รอยยิ้มที่อธิบายไม่ได้ปรากฏบนใบหน้าของพระสันตะปาปา 

 

 

เมื่อมองรอยยิ้มบนใบหน้าของพระสันตะปาปาดยุกกอร์ตั้นก็รู้สึกถึงความคาดหวังในใจด้วยเหตุผลบางอย่าง 

 

 

ในช่วงบ่ายดยุกกอร์ตั้นได้ประกาศการตัดสินใจของเขานั่นก็คือคืนนี้แคลร์จะออกไปจากเมืองไปยังประเทศอื่นชั่วคราว และด้วยการยืนกรานของแคทเธอรีนแคลร์จึงทำได้แค่ยอมรับเท่านั้น 

 

 

แคลร์แอบออกจากคฤหาสน์ และทักทายคนในวิหารแห่งความมืด ให้พวกเขาไม่ต้องกังวลอะไรอีกให้สองพี่น้องตระกูลสีลงมือก่อนและไปรอนางที่โยซาลี่เฟล็ปส์บอกให้แคลร์ระวังตลอดการเดินทาง ในใจรู้สึกว่ามีอะไรผิดปกติแต่บอกไม่ได้ว่าทำไม 

 

 

ตกกลางคืน 

 

 

ในห้องอาหารของตระกูลฮิลล์ครอบครัวกลับมารวมตัวกันเพื่อรับประทานอาหารทุกคนกินช้ามาก เพียงเพราะไม่รู้ว่าหลังอาหารมื้อนี้เมื่อไหร่พวกเขาจะได้กินด้วยกันอีก แล้วค่อยๆสัมผัสความเศร้าซึมที่แทรกเข้ามา 

 

 

หลังจากรับประทานอาหารเสร็จทุกคนในครอบครัวก็ขึ้นรถม้าและกำลังจะไปส่งแคลร์ในรถม้าแคทเธอรีนกอดแคลร์ ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความกลัว 

 

 

“ท่านแม่ เช่นนั้นข้าไม่ไปแล้วดีหรือไม่? วิหารไม่กล้าทำอะไรข้าหรอก ถ้าพวกเขาจะแตะต้องข้าตอนนี้พวกเขาต้องคิดเรื่องนี้ไปอีกนาน”ความแข็งแกร่งของแคลร์ตอนนี้นั้นเป็นจอมเวทชั้นเซียนแล้วจะมีกี่คนที่ทนได้ล่ะ? 

 

 

“ไม่แคลร์ เจ้าต้องเชื่อฟังควรหลีกเลี่ยงไปชั่วคราวดีที่สุด พวกเราต้องสังเกตการกระทำของวิหารแห่งแสงไปก่อน ถ้าวิหารไม่ได้ตั้งใจกำหนดเป้าหมายเป็นเจ้าจริงๆ ก็ไม่สายเกินไปที่เจ้าจะกลับมาหรอก”แคทเธอรีนพูด แม้ว่าจะพูดเช่นนั้นแต่หัวใจก็เศร้าโศกจะเป็นไปได้หรือ?การเคลื่อนไหวของแคลร์ในวันนี้เป็นการแตกหักกับวิหารโดยสิ้นเชิงนางต่อต้านวิหารอย่างรุนแรงต่อหน้าผู้คนมากมายวิหารจะปล่อยนางไปได้อย่างไร?เมื่อแคทเธอรีนคิดถึงเรื่องนี้ หัวใจก็เจ็บปวดมากขึ้น และก็กอดแคลร์แน่นโดยไม่พูดอะไรราเซียก็เงียบเช่นกันใบหน้าเล็กๆ ของนางเต็มไปด้วยความเศร้าลาเกอร์ที่นั่งอยู่ตรงข้ามพวกเขาก็ดูไม่ค่อยดีนักครั้งนี้แคลร์ช่วยแคทเธอรีนแต่สามีอย่างเขาทำอะไรไม่ได้เลยเขาเป็นหนี้แคลร์และแคทเธอรีนมากมีเพียงดยุกกอร์ตั้นเท่านั้นที่หลับตาและพิงหลังรถม้าอย่างเงียบสงบ