ตอนที่ 102 พระราชทานงานสมรสเยี่ยอ๋อง

ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ

“ใช่! กว่าสิบปีมานี้ ฝ่าบาททรงดีกับพวกเจ้าตระกูลมู่ไม่น้อย ตอนนี้เป็นเวลาที่ตระกูลมู่จะได้ทำหน้าที่ตอบแทนรับใช้ฝ่าบาทแล้ว

“…”

คนพวกนี้ล้วนแต่ไปกอดขาของซวนหยวนจือ พวกเขาไม่คิดเลยแม้เพียงนิดเดียวว่าการที่จักรพรรดิองค์หนึ่งต้องไปยืมเงินจากสามัญชน มันช่างเป็นเรื่องที่น่าอับอายเพียงใด

ราชทูตจากแคว้นชิงเก็บซ่อนความชิงชังที่มีต่อฮ่องเต้แคว้นจื่อเยี่ย ฮ่องเต้แห่งแคว้นจื่อเยี่ยหน้าด้านได้ถึงเพียงนี้เชียวรึ ?  เพื่อประมูลยาจักรพรรดิระดับเจ็ด ยาจักรพรรดิหวงหลัวตาน เขาถึงกับสามารถยืมเงินจากผู้นำตระกูลมู่ในงานเลี้ยงวันคล้ายวันพระราชสมภพขององค์ไทเฮาได้ …ถ้าหากว่าเป็นฝ่าบาทของพวกเขา จะไม่มีทางทําเรื่องแบบนี้อย่างไม่ต้องสงสัย

มู่เฉียนซีคาดเดาไว้แล้วว่าซวนหยวนจือจะยืมเงินจากนาง แต่นางไม่เคยคิดเลยว่าซวนหยวนจือจะกล้ายืมเงินต่อหน้าผู้คนมากมายในงานเลี้ยงวันคล้ายวันพระราชสมภพขององค์ไทเฮา นางดูถูกหนังใบหน้าของซวนหยวนจือไปจริง ๆ!

องค์รัชทายาทแสดงความจริงใจของเขาออกมา ให้ความร่วมมือกับเสด็จพ่อของตน  ซวนหยวนหลี่ซางยืนขึ้น กล่าวว่า “เสด็จพ่อ ข้านั้นชื่นชมซีเอ๋อร์มานานแล้ว โปรดพระราชทานงานอภิเษกสมรถแก่พวกเราเถอะ”

ถ้าหากมู่เฉียนซีกลายเป็นพระชายาขององค์รัชทายาทแล้ว ราชวงศ์จะนำเงินจากตระกูลมู่ของนางไปใช้ ก็เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล

องค์ไทเฮามองซวนหยวนหลี่ซาง จากนั้นก็มองมู่เฉียนซีสลับกัน นางยิ้ม กล่าวว่า “ชายสง่าสามารถ หญิงก็งดงาม ช่างเป็นคู่ที่สวรรค์สร้างจริง ๆ” “องค์รัชทายาท!”

ฉับพลันทันใด มีเสียงอุทานเบา ๆ ของหญิงสาวชุดขาวที่นั่งอยู่ด้านข้างเล็ดลอดมาให้ได้ยิน นางกัดริมฝีปากตนเองไว้แน่น ดวงตาที่มีน้ำตาคลอหน่วยมองใบหน้ามุ่งมั่นของซวนหยวนหลี่ซาง นางมองเขาพลางเผชิญความเจ็บปวดดั่งโดนมีดกรีดกลางดวงใจ

ซวนหยวนหลี่ซางเองก็รู้สึกเจ็บปวดยิ่งนัก เมื่อได้เห็นหญิงสาวที่ตนรักต้องมาเจ็บปวด แต่อย่างไรเขาก็ต้องขอแต่งงานให้สําเร็จ แม้ว่าเขาจะไม่ชอบมู่เฉียนซีเลยและยังรังเกียจนางอยู่เช่นเดิม ก็ยังคงจำเป็นต้องทำ

มู่เฉียนซีนั้นช่างกล้าดี ไม่เคยแม้แต่จะเห็นองค์รัชทายาทผู้นี้ในสายตา ซ้ำยังทำให้เขาพ่ายแพ้อย่างอนาถในการประลอง แต่การแต่งงานกับมู่เฉียนซีนั้นมีข้อดีอย่างมาก ไม่ต้องพูดถึงพรสวรรค์ในการฝึกยุทธ์และความงามของนาง เพียงทรัพย์สินของตระกูลมู่ก็สามารถทำให้ชายทั้งใต้หล้าอยากจะร่วมตระกูลกับนางแล้ว

— แกร๊ก! —

ซวนหยวนหลี่เทียนกําแก้วในมือไว้แน่นจนมันแตกเป็นเสี่ยง ๆ  เขามองใบหน้าซวนหยวนหลี่ซางด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความกรุ่นโกรธ  เมื่อเสด็จพี่ที่ตนเคารพนั้นจะแต่งงานกับมู่เฉียนซี แล้วเขาล่ะ ? ถึงแม้ต่อให้เขาจะแต่งงานกับนางไม่สำเร็จ หรือการแต่งงานของเขากับมู่เฉียนซีจะหายไป ก็ยังมีชายอื่นที่อยากจะแต่งงานกับนาง

ด้วยความคับข้องใจที่ไม่สามารถอธิบายได้ ทําให้ซวนหยวนหลี่เทียนทำตัวสิ้นความเป็นผู้ใหญ่ รีบวิ่งเข้าไปอย่างไม่สนใจสิ่งใด เร่งกล่าวอ้อนวอน “เสด็จพ่อ ข้ารักซีเอ๋อร์มาก ข้าขอร้องให้เสด็จพ่อทรงพระบรมราชโองการให้ข้าแต่งกับนางเถอะ”

“พี่หลี่เทียน!” ครานี้เป็นมู่หรูอวิ๋นที่อุทานออกมา นางหน้าซีดเผือดจนแทบจะสลบไป  ‘เหตุใด… เหตุใดเขาถึงได้…’

ทุกผู้คนในที่นี้อึ้งงัน แต่แล้วก็ถอนหายใจยาว  เมื่อก่อนมู่เฉียนซีดึงดันที่จะแต่งงานกับหลี่อ๋อง  หลี่อ๋องกลับไม่ตอบตกลง เขายืนยันเป็นพันเป็นหมื่นครั้งอย่างหนักแน่นมิเปลี่ยนใจ

มาบัดนี้ หลังจากที่องค์รัชทายาทหลี่ซางขอนางแต่งงาน  หลี่อ๋องกลับกระโดดออกมาร้องขอแต่งงานด้วย นี่มัน…  สองพี่น้องผู้นี้กําลังแย่งชิงสตรีคนเดียวกัน!  แล้วฮ่องเต้แคว้นจื่อเยี่ยจะเลือกโอรสคนใดเพื่อไประดมทุนก้อนใหญ่ ?

“พวกเจ้าสองคนนี้นี่นะ” องค์ไทเฮากล่าวพร้อมแย้มรอยยิ้มเอ็นดู

“ซีเอ๋อร์ บุรุษสองคนนี้ล้วนแต่ไม่เลวเลย เจ้าจงเลือกสักคนหนึ่งเถิด ตัวเจ้าเองใกล้จะเป็นผู้ใหญ่แล้ว  ถึงเวลาที่จะเลือกผู้มาเป็นสามีแล้ว” องค์ไทเฮากล่าวพร้อมยิ้มตาหยี นางจะไม่เป็นผู้วางยาในเรื่องนี้ ทว่าให้ความร่วมมือแก่ซวนหยวนจือเป็นอย่างดีไม่มีที่ติเลย

แต่มู่เฉียนซีมิใช่สตรีโง่เง่า นางลุกขึ้นยืนช้า ๆ กล่าวว่า “พวกเขาทั้งสองนั้น ข้าไม่ได้ชอบพอใครเลยสักคน ข้าไม่เลือกเลยสักคนได้หรือไม่ ?”

ทุกผู้คนตกตะลึง ผู้นําตระกูลมู่กล้าเอ่ยวาจาออกมาอย่างบ้าบิ่น นางต่อต้านการแต่งงานและไม่สนใจองค์ชายที่โดดเด่นที่สุดสองพระองค์แห่งราชวงศ์ซวนหยวนแคว้นจื่อเยี่ย

— ปัง! —

ซวนหยวนจือตบโต๊ะ  “ซีเอ๋อร์ เจ้าอย่าได้อวดดีให้มากไปนัก เทียนเอ๋อร์และซางเอ๋อร์ต้องการตบแต่งรับเอาเจ้าเข้าเป็นชายา นับเป็นโชคอันยิ่งใหญ่ของเจ้า แต่เจ้ากลับปฏิเสธ”

มู่เฉียนซีเลิกคิ้วขึ้น “ดูเหมือนว่าฝ่าบาทและองค์รัชทายาทจะลืมไปแล้วว่า… ผู้ที่ต้องการเป็นชายข้างกายของข้า หากไม่เป็นไปตามข้อกำหนดสองข้อนั้น อย่าว่าแต่ประตูเลย แม้หน้าต่างก็ไม่เปิดให้”

หญิงสาวชุดม่วงยืนอยู่ตรงนั้นอย่างหยิ่งยโส นางตั้งข้อเรียกร้องอย่างไม่กลัวเกรงกฎหมายบ้านเมืองกับฮ่องเต้แห่งแคว้นจื่อเยี่ย

บรรดาทูตของแคว้นชิงเริ่มกระซิบกระซาบกัน

“เหอะ! ข้าไม่เคยคิดเลยว่าแคว้นเล็ก ๆ นี้จะมีสตรีกล้าหาญเช่นนี้อยู่ เหตุใดเราจึงไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนเลยเล่า ?”

สีหน้าของซวนหยวนจือแดงสลับขาวไปมาไม่แน่นิ่ง ข้อกำหนดสองข้อนั้นของมู่เฉียนซีก็คือ… ข้อแรก แข็งแกร่งกว่านาง   ข้อสอง ต้องไม่มีและไม่เคยสัมผัสหญิงอื่นใดมาก่อน

ซวนหยวนจือมองซวนหยวนชิงอวิ๋นผู้ซึ่งไม่เคยฝักใฝ่ในเรื่องใด ชิงอวิ๋นนั้นเป็นคนที่สะอาดบริสุทธิ์ สำหรับเงื่อนไขข้อที่สอง เขาถือว่าผ่าน แต่ความแข็งแกร่งของเขาด้อยกว่าองค์รัชทายาท สำหรับเงื่อนไขแรกไม่ผ่าน ทำให้เขาต้องหลุดออกจากสนามแข่งไป

ดวงตาซวนหยวนจือส่องประกายเยือกเย็นวาบออกมา

ยัง… ยังมีอีกคนหนึ่ง!

ซวนหยวนจือกล่าว น้ำเสียงเย็นชาไม่ปกปิด “มู่เฉียนซี ข้าจะเลือกบุรุษผู้หนึ่งที่มีคุณสมบัติสมดั่งปรารถนาสองข้อของเจ้าให้เจ้าเอง เขามีคุณสมบัติพร้อมในสองข้อที่เจ้าเรียกร้อง เมื่อถึงตอนนั้นหากเจ้ายังปฏิเสธอีก  ถือว่าขัดพระราชโองการ!  ต่อให้มู่อวู่ซวงอยู่ปกป้องเจ้า ข้าก็ปล่อยเจ้าไว้ไม่ได้”

“เตรียมพระราชโองการ! ” ในงานเลี้ยงฉลองวันคล้ายวันพระราชสมภพขององค์ไทเฮา ซวนหยวนจือวางราชโองการในทันที เขาจะต้องดำเนินการขายโอรสของเขาให้ถึงที่สุด

ไม่นานพระราชโองการก็ออกมา  เกากงกงกล่าวแถลง

“ตามบัญชาสวรรค์  พระราชโองการของฮ่องเต้ มู่เฉียนซีแห่งตระกูลมู่ซึ่งเป็นตระกูลที่เจิดจ้า มีความเฉลียวฉลาด จึงขอมอบพระราชทานอภิเษกสมรสกับองค์ชายเก้า ซวนหยวนจิ่วเยี่ย ให้ดูฤกษ์จัดงานในเร็ววัน จบราชโองการ”

— ปึง!  ปึง!  ปึง!  ปึง!  —

หลังจากฟังพระราชโองการ ทุกคนในที่นั้นแทบจะหงายหน้าล้มลง มีเสียงมือตบหน้าขา เสียงตีที่พักแขนเก้าอี้ ทั้งยังมีการแสดงสีหน้ายากที่จะเชื่อออกมาอีกหลายคน

“ฝ่าบาท… ฝ่าบาททรงพระราชทานมู่เฉียนซีให้กับเยี่ยอ๋อง!”

มู่เฉียนซีเองก็ตกตะลึง นางไม่คิดว่าซวนหยวนจือจะเดินหมากได้โหดร้ายเช่นนี้  นางแค่นเสียง กล่าวอย่างเย็นชา “ฝ่าบาท พระองค์ช่วยเยี่ยอ๋องตัดสินใจเรื่องอภิเษกสมรสเช่นนี้ พระองค์ไม่กลัวว่าองค์ชายจิ่วเยี่ยจะไม่มีความสุขหรือ ?”

ซวนหยวนจือกล่าว “คำสั่งของบิดามารดา เขาจะเชื่อฟังอย่างแน่นอน  และข้าเชื่อว่าด้วยความพิเศษของซีเอ๋อร์ เจ้าจะต้องทำให้จิ่วเยี่ยชอบได้แน่”

มุมปากของทุกคนกระตุก เมื่อไม่นานมานี้มีข่าวลือเกี่ยวกับเยี่ยอ๋องออกมาว่า เขาไปตัดแขนของชายคนสนิทขาด!

มู่เฉียนซีผู้นำระกูลมู่ชะตาขาดเสียแล้ว นางเป็นแค่ผู้หญิงคนหนึ่ง เยี่ยอ๋องผู้เย็นชาไม่สนใจสิ่งใดเลยจะชอบนางจริง ๆ หรือ ?

นับวันฝ่าบาททรงสามารถพูดเรื่องไร้สาระได้อย่างตาใส

หากเยี่ยอ๋องรู้ว่าตนเองต้องอภิเษกสมรสกับหลานสาวนายท่านสามแห่งตระกูลมู่ เขาอาจจะจัดการมู่อวู่ซวงได้ และหากเยี่ยอ๋องได้รู้เรื่องนี้ ไม่แน่ว่าเขาอาจจะลงมือฆ่าผู้นำตระกูลมู่ที่ขัดหูขัดตาก็เป็นได้ ซวนหยวนจือเองก็คิดเช่นนี้

‘รอให้จิ่วเยี่ยได้ยินข่าวการสมรสเสียก่อนเถอะ เมื่อนั้นก็จะเป็นวันตายของเจ้า มู่เฉียนซี!’

หินก้อนเดียวสอยนกสองตัว เมื่อสองคนนี้จบเห่ ถึงตอนนั้นสมบัติของตระกูลมู่ ก็จะตกมาอยู่ในท้องพระคลังแห่งแคว้น  เมื่อถึงตอนนั้นยังจะต้องกลัวว่าจะจัดซื้อยาวิเศษระดับสูง ๆ ไม่ได้อีกหรือ ?

มู่เฉียนซีกําหมัดแน่น คราก่อนนางชนะซวนหยวนจือในงานเลี้ยงเทศกาลจื่อหยวน คาดไม่ถึงเลยว่าวันนี้หมากจะพลิกกระดาน

ในตอนนี้เอง ซวนหยวนหลี่ซางยอมแพ้ไปแล้ว เมื่อพระราชโองการได้ถูกประกาศออกไป เขาเองก็ไม่สามารถที่จะทำอะไรได้  แต่ว่าซวนหยวนหลี่เทียนกลับกล่าวขึ้น

“เสด็จพ่อ ข้าจะแต่งกับซีเอ๋อร์ ขอท่านโปรดถอนราชโองการ อย่าให้นางต้องไปแต่งกับน้องเก้าเลย”

.