บทที่ 157 ความคับแค้นจากปีศาจน้อย

บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน

บทที่ 157 ความคับแค้นจากปีศาจน้อย

เสิ่นเทียนเก็บโล่เต่าดำแล้วกระโดดลงไปกลางบ่อน้ำแร่วิญญาณ

เขาพลันยื่นมือมาคว้าหางเถากลืนกินเซียนที่กำลังจะมุดเข้าไปในดินเลนทั้งหมด ต่อมาเสิ่นเทียนออกแรงทั้งตัวกระชากตัวเถากลืนกินเซียนออกมาจากดินเลนทีละนิด

ต้องบอกว่าเถากลืนกินเซียนนี่มีพละกำลังค่อนข้างแข็งแกร่งจริงๆ ไม่อ่อนแอไปกว่าแรงของเสิ่นเทียนเลย

พึงรู้ไว้ว่าเสิ่นเทียนฝึกฝนวิชาหลอมกายคบเพลิง ทั้งยังเพิ่งผลัดเปลี่ยนเป็นกายเทพอัสนีปัญจธาตุหยางเล็ก มีพละกำลังเรียกได้ว่าไร้พ่ายในระดับเดียวกันแล้ว

ต่อให้เป็นผู้แข็งแกร่งระดับแก่นพลังทองธรรมดา ถ้าเทียบพละกำลังกันอย่างเดียวแล้วก็ไม่แน่ว่าจะสู้กับเสิ่นเทียนได้

แต่ตอนนี้เสิ่นเทียนใช้แรงทั้งหมดแล้วกลับดึงเถาน้อยยาวสามฉื่อตัวจ้อยออกมาไม่ได้ จากตรงนี้จะเห็นได้ว่าเถากลืนกินเซียนขนาดพกพานี่ไม่ธรรมดาอย่างยิ่ง เป็นพฤกษาเซียนระดับสุดยอด!

เสิ่นเทียนใช้สองมือจับเถาวัลย์เล็กนี้ไว้แน่นพลางเกิดความเร่าร้อนในใจ ถึงอย่างไรนี่ก็เป็นเถากลืนกินเซียน เป็นสมบัติล้ำค่ายิ่งกว่าเมล็ดน้ำเต้าเซียนเจ็ดสมบัติ

ถ้าจับมันกลับไปแดนศักดิ์สิทธิ์ได้จะไม่กำไรเลือดสาดเลยหรือ ต่อให้ไม่ขายเอาเงินก็ไม่ขาดทุน!

ส่วนจะเลี้ยงไว้เอง ความจริงแล้วเสิ่นเทียนไม่มีความคิดนี้เลย เพราะเถากลืนกินเซียนนี่ก็เกี่ยวข้องกับมารดาเถาลวี่จี ถ้าเกิดเจ้านี่คือร่างแห่งนิพพานของมารดาเถาลวี่จี ตนเลี้ยงมันจนเติบใหญ่ เจ้านี่มาสูบกินข้าล่ะจะทำอย่างไร

เสิ่นเทียนยังคงมองดวงชะตาเหนือศีรษะตนต่ำเกินไปอยู่ แม้วงรัศมีสีเขียวแก่จะไม่เลวแล้ว แต่ก็ยังห่างจากคำว่า ‘บุตรแห่งโชค’ อีกไกล

เขาไม่กล้าพอจะเลี้ยง ‘ปีศาจหญิงที่สุดแห่งยุค’ สักระยะแล้วขอให้นางวางใจสบายใจกับตน

ถึงอย่างไรนี่ก็คือการเอาชีวิตน้อยๆ มาเดิมพันนะ!

เสิ่นเทียนคิดมาดีแล้ว รอจนจับปีศาจน้อยนี่ออกมาได้แล้วจะผนึกและขายให้แดนศักดิ์สิทธิ์ทันที

มารดาเถาลวี่จีแกร่งกว่านี้ก็เพิ่งฝ่าด่านเคราะห์ จะแกร่งกว่าเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ได้หรือ ถึงตอนนั้นไปอยู่ในมืออาจารย์เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์แล้วก็จะมีวิธีจัดการเอง!

…..

ร่างนุ่มนิ่มของเถากลืนกินเซียนดิ้นไม่หยุด ของเหลวสีเงินกระเซ็นใส่ทั่วตัวเสิ่นเทียน พลังวิญญาณเข้มข้นแผ่ซ่าน

เสิ่นเทียนเตรียมจะยืนกรานต่อไป แต่สัญลักษณ์อัสนีเทพกำเนิดฟ้าตรงระหว่างคิ้วขยับประกายวาววับ เส้นผมดำดั่งน้ำหมึกในตอนแรกก็ค่อยๆ เป็นสีทอง ตั้งขึ้นทีละเส้น กลิ่นอายพลังพุ่งทะยานขึ้นทันที

เสิ่นเทียนคำรามเสียงลากยาว ทั่วร่างเปล่งแสงสีทองสว่างจ้า พละกำลังของสองมือพลันเพิ่มขึ้นอย่างมาก ก่อนจะดึงเถากลืนกินเซียนออกมาได้อย่างรวดเร็ว

หนึ่งชุ่น สองชุ่น สามชุ่น…

เถากลืนกินเซียนดิ้นรนสุดชีวิต แต่เมื่อเผชิญหน้ากับเสิ่นเทียนในร่างซูเปอร์ไซย่าแล้ว ก็ไม่อาจต่อต้านได้เลย

พอเห็นร่างส่วนใหญ่ถูกดึงออกจากดินเลนแล้ว มันก็แทบจะสิ้นหวัง

กึก~!

เสียงขาดดังขึ้นชัดเจน เสิ่นเทียนรู้สึกเบาสองมือขึ้นมาทันที

เขาถอยไปหลายก้าวจนเกือบจะล้ม ในมือยังกำเถากลืนกินเซียนครึ่งท่อน ส่วนอีกด้าน เถากลืนกินเซียนที่เหลือขนาดยาวครึ่งฉื่อกำลังมุดลงดินเลนอย่างว่องไว

ใช่ มันกำลังเลียนแบบจิ้งจกโดยการตัดหางหนีไป!

เสิ่นเทียนอยากจะดึงไว้ แต่ครั้งนี้เถากลืนกินเซียนใช้พละกำลังทั้งหมดมุดรากทั้งหมดเข้าไปได้จริงๆ

เดาว่ามารดาเถาลวี่จีเองก็คงคาดไม่ถึงว่านางใช้แก่นสารหมดทั้งตัวกว่าจะแลกเป็นโอกาสนิพพานได้ไม่ใช่ง่ายๆ แต่กลับต้องมาดวงซวยเช่นนี้

ไม่ใช่แค่ตามแผนการเดิมที่จะดูดซับของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานให้หมดในสองสามวันจะดูดซับไปได้ไม่เท่าไรแล้ว แม้แต่กายหยาบยังถูกกดดันให้ต้องตัดตัวเองทิ้งอีก

ต้องบอกว่าในโลกบำเพ็ญเซียนมีกรรมตามสนองจริงๆ อย่าอวดดีกับสวรรค์เด็ดขาดเลย

ไม่อย่างนั้น เมื่อครู่มารดาเถาลวี่จีจะบอกว่าตนจะบรรลุนิพพานและกลับมา สวรรค์จะทำอะไรข้าได้หรือ

ปรากฏว่าเสิ่นเทียนโผล่มา อืม ไม่ใช่แค่ปล้นทรัพย์สินบ้านเจ้าเท่านั้น แม้แต่กายหยาบก็ยังชิงไปด้วย

อนาถเกินไปแล้ว~!

……

เสิ่นเทียนมองรูเล็กที่เหลือไว้หลังเถากลืนกินเซียนขนาดพกพาหนีไปได้เงียบๆ

ความจริงแล้วเขากำลังคิดทบทวนอยู่ว่าเมื่อครู่ตนลงมือไม่ไหลลื่นพอหรือไม่ ถ้าไม่อย่างนั้นจะต้องดึงเถากลืนกินเซียนอีกครึ่งออกมาได้แน่ จะไม่ให้ปีศาจนี่หนีไปได้เลย

ตอนนี้เถากลืนกินเซียนครึ่งหนึ่งหนีไป ไม่รู้ว่าต่อจากนี้จะสร้างปัญหาอะไรหรือไม่ จัดการยากนิดๆ แล้ว

ดีที่ตอนนี้ข้าสวมหน้ากากขนหงส์อยู่ ไม่ใช่แค่อำพรางใบหน้า แม้แต่กลิ่นอายพลังยังซ่อนไว้ได้ทั้งหมด ประกอบกับข้าสวมเกราะนักรบของผู้อาวุโสเสินสุ่ยหลิง เถากลืนกินเซียนนั่นไม่มีทางคาดคิดได้ว่าข้าจะเป็นบุรุษกระมัง!

เมื่อคิดได้ดังนั้น เสิ่นเทียนก็ถอนหายใจโล่งอก

เขาชั่งน้ำหนักเถากลืนกินเซียนครึ่งหนึ่งในมือ ก็ไม่เลว

เถากลืนกินเซียนทั้งต้นมีความยาวทั้งหมดสามฉื่อ ในมือตนมีอยู่สองฉื่อห้า ส่วนที่ขาดก็ยังมีของเหลวสีขาวขุ่นซึมออกมาช้าๆ เปล่งแสงสุกใสสว่างแวววาว

ทันใดนั้น พลังงานคัมภีร์คบเพลิงในกายเสิ่นเทียนก็ระเบิดความปรารถนาอันแรงกล้าออกมา

เสิ่นเทียนจนปัญญาในทันที เพราะเขาพบว่าตนก็อยากกินเถาเช่นกัน

เจ้านี่ดูน่ากินมากเลย

……

แต่ก็ยังคงคำเดิม เสิ่นเทียนไม่ใช่ผู้อ่อนแอที่โดนความปรารถนาระดับต่ำควบคุม

เขารู้ดีว่าตอนนี้ควรทำสิ่งใดที่สำคัญที่สุด เขาจึงหยิบขวดและกระป๋องกองหนึ่งออกมาจากแหวนเวหา ขวดและกระป๋องพวกนี้หลอมขึ้นจากหยกวิญญาณ ใช้บรรจุสมุนไพรวิญญาณ สามารถเก็บคุณสมบัติยาได้ในระดับสูงสุด

แม้เสิ่นเทียนจะไม่รู้ว่าน้ำแร่วิญญาณนิพพานพวกนี้มีประโยชน์อะไร แต่ต้องเป็นสมบัติล้ำค่าแน่ จึงต้องเก็บเอาไว้ให้หมด

บ่อน้ำหนึ่งมีน้ำแร่วิญญาณนิพพานยี่สิบกว่าลูกบาสก์เมตร แค่คิดก็รู้แล้วว่ามีปริมาณมากเพียงใด นี่ทำให้คนถึงกับเหม่อได้เลย

แม้ขวดพวกนั้นจะแกะสลักตราเวทมิติง่ายๆ ไว้ สามารถยกระดับปริมาณการเก็บได้หลายเท่า แต่น้ำแร่วิญญาณเยอะเช่นนี้ก็ยังทำให้เสิ่นเทียนต้องใช้หลายร้อยขวดกว่าจะเก็บได้หมด

หลังจากเก็บน้ำแร่วิญญาณนิพพานแล้วก็มองดินเลนที่ยังชื้นด้วยน้ำแร่วิญญาณ เสิ่นเทียนคิดว่านี่ก็เป็นสมบัติล้ำค่าเช่นกัน

เพราะอย่างไรนั่นก็เกิดขึ้นจากร่างเน่าผุของเถากลืนกินเซียนกับน้ำแร่วิญญาณผสมกัน เป็นดินอุดมสมบูรณ์ที่มีสารอาหารมากที่สุดในโลก!

เอาดินนี้กลับไปปลูกพืชดอกที่ยอดเขาบุตรศักดิ์สิทธิ์ ปลูกพวกโสมพวกเห็ดหลิงจือ มันไม่จะไม่เจริญงอกงามหรือ

เสิ่นเทียนจึงหยิบพลั่วออกมาจากแหวนเวหาอีกและเริ่มขุดดินอย่างบ้าคลั่ง!

สุดท้ายดินก้นบ่อน้ำนั้นก็โดนขุดไปลึกไปสามฉื่อกว่า

ตอนนี้เสิ่นเทียนถึงหยุดทั้งๆ ที่ยังไม่หนำใจ เพราะไม่เหลือน้ำแร่วิญญาณสักหยดจริงๆ แล้ว

ตอนนี้เอง ลูกประคำเก้าโอรสในอกเสื้อสั่นไหวเบาๆ “นายท่าน มีแรงอาฆาตอยู่ใกล้ๆ เจ้าค่ะ”

แรงอาฆาตหรือ

เสิ่นเทียนอึ้งไปก่อนจะดีใจใหญ่ ไอคิวและอีคิวของเขาสูงมาก ตอนนี้ที่นี่จะมีใครมีแรงอาฆาตได้อีกล่ะ

ถ้าไม่ใช่เถากลืนกินเซียนครึ่งส่วนนั่น

เจ้าปีศาจน้อย ที่แท้เจ้าก็ยังไม่ไป ในเมื่อเป็นเช่นนั้นก็อย่าหาว่าข้าโหดเหี้ยมกับเถาแล้วกัน

เขาส่งกระแสจิตไปเบาๆ “จิ่วเอ๋อร์เจ้าใจเย็นหน่อย อย่ากระโตกกระตาก ที่นี่มีเถากลืนกินเซียนป่าต้นหนึ่ง เจ้าบอกข้าทีว่าแรงอาฆาตนั่นมาจากที่ใด ข้าจะเข้าไปใกล้เงียบๆ จากนั้นจับมันทันที แบบนี้มันจะหนีไม่พ้นแน่!”

จิ่วเอ๋อร์กล่าว “อืม จิ่วเอ๋อร์สัมผัสได้แล้ว เถานั่นอยู่ข้างหลังก้อนหินทางตะวันออกเฉียงใต้ของนายท่านเจ้าค่ะ!”

เสิ่นเทียนสูดลมหายใจเข้าลึก เขาไม่ได้หันไปมองทางนั้น แต่ส่งพลังจิตออกไปเงียบๆ

เป็นอย่างที่คิดไว้ ข้างหลังหินนั่นมีเถากลืนกินเซียนสีมรกตครึ่งฉื่ออยู่ต้นหนึ่งจริงๆ และกำลังชะเง้อหน้ามองมาทางนี้อยู่

ทันใดนั้นมันเหมือนสัมผัสอะไรได้บางอย่างจึงรีบเอาหัวมุดลงดินไป คิดจะขายผ้าเอาหน้ารอด!

ยังคิดหนีหรือ จงรับการลงทัณฑ์จากสวรรค์เสียดีๆ!

เสิ่นเทียนพลันกระตุ้นป้ายคำสั่งเจ้ากระบี่และปืนปทุมฆาตเทพกับปืนหยินหยางพิฆาตอสูรเก้ากระบอกรัวโจมตีไปทางนั้น

เวลานี้อัดแน่นไปด้วยแรงระเบิด!

………………………………..