ตอนที่ 351 ตั้งใจแสดงละคร / ตอนที่ 352 ตอบตกลงเร็วเกินไปแล้ว!

หวานรักจับหัวใจท่านประธาน

ตอนที่ 351 ตั้งใจแสดงละคร

 

 

เขายอมรับแล้วเหรอ

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ทำหน้าประหลาดใจเล็กน้อย

 

 

แต่ไม่นานก็เก็บซ่อนสีหน้านั้น

 

 

เธอเงยหน้าขึ้น พิจารณาชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าอย่างจริงจังเป็นครั้งแรก

 

 

ใบหน้าหล่อเหลานั้น แม้จะมีเสน่ห์สู้อวี๋เยว่หานไม่ได้ แต่ก็เป็นหนุ่มหล่อสุดยอดเช่นกัน

 

 

ส่วนลูกตาสีน้ำตาลเข้มของเขา เวลาจ้องมองใครมักจะมีความอ่อนโยนอยู่ในนั้น ทว่าทำให้รู้สึกเหมือนจะจมลงไปในนั้นได้ตลอดเวลา

 

 

ชุดสูทสีขาวทำขึ้นพอดีตัวกับเขา ถึงจะนุ่มนวล แต่ก็ไม่ทำให้เขาดูสูงส่งน้อยลง

 

 

ท่าทางของเขาสง่างาม ไม่มีที่ติแม้สักนิด

 

 

แม้แต่ตอนที่เขาตั้งใจหยั่งเชิงเธอเมื่อครู่ บนใบหน้าของเขาไม่ปรากฏความโมโหเลยสักนิด เพียงรับไว้อย่างไม่หวาดหวั่น

 

 

คนคนนี้…

 

 

ความอ่อนโยนเหมือนออกมาจากในกระดูก

 

 

เธอพิจารณาฟ่านอวี่อยู่นาน เขาสังเกตเห็นอย่างแน่นอน จึงปิดเมนู ก่อนจะยิ้มที่มุมปาก “ผู้จัดการเหนียนเหมือนจะสนใจผมมากเลยนะครับ”

 

 

“…”

 

 

แอบจับตามองจนเขาจับได้แล้ว

 

 

เวลาแบบนี้ ต้องแสร้งทำเป็นไม่ได้ยินอะไรอยู่แล้ว!

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่คว้าเมนูตรงหน้าอย่างรวดเร็ว ก่อนจะรีบร้อนเปิดมัน และเริ่มสั่งอาหาร

 

 

มีอาหารแล้ว เหนียนเสี่ยวมู่จึงลดความรู้สึกมีอยู่ของตัวเองลงต่ำที่สุดได้

 

 

อีกสองคนก็ไม่ล่าช้า

 

 

เพียงแค่กินอาหารมื้อหนึ่งเท่านั้น เธอพบว่าฟ่านอวี่เหมือนจะรู้จักกับประธานหลัวอยู่ก่อนแล้ว

 

 

พวกเขาสองคนรู้จักกันนานกว่าที่เธอรู้จักเสียอีก

 

 

เรื่องราวที่คุยกันก็ไม่มีเกี่ยวข้องกับการร่วมงาน พวกเขาเพียงคุยกันเหมือนเพื่อนที่ไม่ได้เจอกันนานแล้วเท่านั้น

 

 

เพราะเธออยู่ด้วยรือเปล่า

 

 

ก็ใช่ ประธานหลัวเป็นลูกค้าของเธอ ถ้าฟ่านอวี่อยากจะแย่งเขาไปจริงๆ ชายหนุ่มก็ทำตรงหน้าเธอไม่ได้หรอก

 

 

 เขาต้องจงใจเล่นละคร ทำให้เธอผ่อนความระมัดระวังแน่นอน!

 

 

หลังจากกินข้าวเสร็จ เหนียนเสี่ยวมู่ชิงเอ่ยปากทันที “ประธานหลัวขับรถมาหรือเปล่าคะ รบกวนไปส่งฉันหน่อยจะได้ไหม”

 

 

เธอตัดสินใจไม่ให้โอกาสศัตรูได้อยู่กับแขกของเธอตามลำพัง เก็บความเป็นไปได้ทั้งหมดไว้ในตะกร้า!

 

 

เมื่อได้ยินดังนั้น ประธานหลัวตะลึงไปเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ย “เปล่าครับ ผมนั่งรถคุณชายฟ่านมา”

 

 

พวกเขาทั้งสามคนออกจากร้านอาหารแล้ว

 

 

รถของฟ่านอวี่จอดห่างจากหน้าร้านไม่กี่ก้าวเท่านั้น

 

 

ดูท่าทางเขาตั้งใจจะไปส่งประธานหลัว

 

 

มิน่าล่ะ ตอนที่กินข้าวเมื่อครู่ถึงไม่รีบร้อนคุยธุรกิจ เพราะยังมีไม้ตายอยู่นี่เอง!

 

 

ท้องฟ้ามืดแล้ว

 

 

ลมหนาวพัดหวีดหวิวอยู่ริมทาง

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ยืนอยู่ตรงนั้น เธอร้อนใจเหมือนมดที่อยู่บนหม้อร้อนๆ พลางมองประธานหลัวที่นั่งอยู่บนรถของฟ่านอวี่แล้ว

 

 

ทันใดนั้น เธอก็เปิดประตูรถฝั่งที่นั่งข้างคนขับ และเข้าไปนั่งโดยไม่ต้องคิด!

 

 

เธอทำหน้าตาอ่อนโยนอย่างหาใดเปรียบ ก่อนจะมองฟ่านอวี่ตาปริบๆ ไม่รอให้เขาได้พูดอะไรทั้งนั้น “ข้างนอกอากาศหนาวมากนะคะ ฟ้าก็มืดแล้ว ฉันเป็นผู้หญิง นั่งแท๊กซี่ก็คงจะอันตรายเกินไป คุณชายฟ่านไม่ถือสาที่จะไปส่งฉันสักครั้ง ใช่ไหมคะ”

 

 

“ไม่ถือสาครับ” ดวงตาสีน้ำตาเข้มของฟ่านอวี่วูบไหวเล็กน้อย ปล่อยให้เธอทำตามใจชอบ

 

 

ก่อนที่เขาจะนั่งบนที่นั่งคนขับอย่างสุขุม

 

 

ผ่านไปพักหนึ่งแล้ว เขากลับไม่ขับรถออกไป

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่กำลังจะถามว่าเขาเป็นอะไรไป มือของเขาพลันยื่นมาหาเธอ และจะคาดเข็มขัดนิรภัยให้เธอ ตอนที่เธอยังไม่ทันได้ตั้งตัว

 

 

ทั้งสองคนอยู่ใกล้กันมาก

 

 

เธอได้ยินแม้กระทั่งเสียงหายใจของเขา ได้กลิ่นลมหายใจสดชื่นเหมือนหญ้าสีเขียวๆ บนตัวเขาด้วย

 

 

“ฉันทำเองได้ค่ะ!” เหนียนเสี่ยวมู่ดึงสติกลับมาอย่างว่องไว ก่อนจะคาดเข็มขัดนิรภัยให้ตัวเองโดยไม่พูดมาอีก

 

 

จากนั้นก็ขดตัวพิงเบาะ สร้างระยะห่างระหว่างพวกเขาสองคน

 

 

ฟ่านอวี่หลุบตาพลางติดเครื่องยนต์ และไม่พูดจาอะไร

 

 

บรรยากาศระหว่างทางครึกครื้นมาก

 

 

เกือบจะถึงบ้านของประธานหลัวแล้ว

 

 

ครั้นส่งประธานหลัวเสร็จ บนรถเหลือเพียงชายนุ่มกับหญิงสาว บรรยากาศพลันเปลี่ยนไป…

 

 

 

 

ตอนที่ 352 ตอบตกลงเร็วเกินไปแล้ว!

 

 

“ประธานหลัวค่อยๆ เดินนะคะ! ไว้วันหลังพวกเรากินข้าวกันอีกนะคะ…” เหนียนเสี่ยวมู่พาดหน้าบนหน้าต่างรถ พลางโบกมืออย่างกระตือรือร้นให้ประธานหลัวที่เดินเข้าบ้านไปแล้ว

 

 

จนกระทั่งเงาร่างของเขาหายไปแล้ว เธอถึงจะกลับไปนั่งในรถอีกครั้ง

 

 

ใบหน้ายิ้มกริ่มเมื่อครู่ กลับกลายเป็นไร้อารมณ์ในทันใด

 

 

เมื่อแน่ใจแล้วว่าประธานหลัวไม่อยู่ตรงนั้นแล้ว เธอถึงจะหันหน้าไปจ้องฟ่านอวี่ “ฉันไม่สนหรอกนะว่าคุณจะมีแผนอะไร แต่ประธานหลัวเป็นลูกค้าคนสำคัญของฉัน คุณคิดจะทำธุรกิจกับเขาเหรอ ฝันไปเถอะ!”

 

 

ห้างสรรพสินค้าก็เหมือนสนามรบ

 

 

เธอได้ยินว่าบริษัทตระกูลฟ่านเข้ามาที่เมืองเอชแล้ว และรู้ว่าไม่ช้าก็เร็วต้องได้เจอกัน

 

 

รู้จักนิสัยเขาก่อนสักหน่อย ก็เป็นกลยุทธ์ที่ดีเหมือนกัน

 

 

แต่เธอเจอเขาแล้ว กลับดูเขาไม่ออก

 

 

ฟ่านอวี่อ่อนโยนกับทุกคน ราวกับเขาไม่มีนิสัยแย่ๆ เลยสักิด

 

 

แต่ในความอ่อนโยนนั้น กลับมีความห่างเหินซ่อนอยู่…

 

 

ใครๆ ก็เข้าใกล้เขาได้ แต่ไม่มีใครดูออกว่าในใจของเขากำลังคิดอะไรอยู่

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่เตรียมจะลงจากรถหลังพูดจบ

 

 

แต่มือของเธอเพิ่งจะยื่นออกไป ประตูรถกลับลงล็ฮกเสียก่อน

 

 

เธอตะลึงงันไป ก่อนจะหันไปมองฟ่านอวี่ด้วยความงุนงง

 

 

เดิมทีเธอคิดว่าเขาจะอายจนโมโห ที่ได้ยินคำพูดของเธอเมื่อครู่

 

 

แต่เธอเห็นเพียงใบหน้าหล่อเหลาดังเดิม พร้อมด้วยรอยยิ้มจางๆ ที่มุมปาก ราวกับไม่ใส่ใจคำเตือนที่เธอตะคอกใส่เขาเมื่อครู่เลยสักนิด

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่มีความรู้สึกเหมือนทุบกำปั้นลงบนปุยฝ้าย

 

 

ทำเอาเธออึดอัดใจจนพูดไม่ออกแล้ว!

 

 

ฟ่านอวี่หันมามองเธอ สายตาของเขาอ่อนโยนมาก แต่น้ำเสียงเย้ยหยัยอยู่หลายส่วน “ข้างนอกหนาวมากนะครับ ฟ้าก็มืดแล้ว ผู้หญิงคนเดียวอย่างคุณ นั่งรถแท๊กซี่คงจะไม่ค่อยปล่อยภัย คงไม่ถือสานะครับ ถ้าผมจะไปส่งคุณ”

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ “…” !!

 

 

เขาดึงคำพูดที่เธอขอติดรถเขาเมื่อครู่ออกมาใช้

 

 

คิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะแว้งกัดเธอเร็วขนาดนี้

 

 

เธออยากปฏิเสธเขา แต่ชายหนุ่มกลับเอ่ยปากอีกครั้ง “ในเมื่อคุณมาเพราะผม ผมก็ใจดีที่จะไปส่งคุณกลับบ้านอย่างปลอดภัย ช่วยบอกที่อยู่มาด้วยครับ”

 

 

แม้น้ำเสียงของเขาจะเรียบนิ่งมาก แต่เหนียนเสี่ยวมู่ฟังความบ้าอำนาจที่ซ่อนอยู่ในนั้นได้

 

 

หญิงสาวทำปากจู๋ และไม่ได้พูดมากอีก

 

 

ระหว่างทาง เหนียนเสี่ยวมู่ไม่ได้ปริปากพูดอะไร กลับเป็นฟ่านอวี่ที่พูดขึ้นมา “ผมทำงานร่วมกับประธานหลัวตอนที่อยู่เมืองนอกหลายครั้ง วันนี้เจอกันในฐานะเพื่อนเก่าเท่านั้น”

 

 

คำพูดของเขาเหมือนคำอธิบาย แต่ก็ไม่ใช่

 

 

เขาพูดจบแล้วก็มองเหนียนเสี่ยวมู่อย่างใจเย็นครั้งหนึ่ง แล้วขับรถต่อไปเงียบๆ

 

 

จนกระมั่งมาถึงหน้าประตูคฤหาสน์ตระกูลอวี๋

 

 

ชายหนุ่มจำได้ว่าที่นี่คือคฤหาสน์ของอวี๋เยว่หาน ในที่สุดใบหน้าที่เรียบนิ่งมาโดยตลอดก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย

 

 

ในลูกตาของเขามีความขุ่นข้องฉายออกมาเล็กน้อย

 

 

ฟ่านอวี่หันไปมองเหนียนเสี่ยวมู่ที่กำลังจะปลดเข็มขัดนิรภัย และยื่นมือไปกดมือของเธอไว้ทันที

 

 

“ตอนนี้คุณอยู่กับอวี๋เยว่หานเหรอ”

 

 

น้ำเสียงของเขาร้อนรนอยู่บ้าง ครั้นพูดออกมา เขาเหมือนจะรู้สึกได้ว่าตัวเองเสียมารยาท จึงกระแอมเสียงเบากลบเกลื่อน

 

 

“ผมแค่อยากรู้น่ะครับ ได้ยินมาว่าคุณชายหานไม่เข้าใกล้ผู้หญิง ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนได้เข้าใกล้เขาเลย ก็เลย…ประหลาดใจนิดหน่อย”

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่สะบัดมือของเขาออก ก่อนจะปลดเข็มขัดนิรภัย “ไม่มีเมื่อก่อนตอนนี้อะไรทั้งนั้น ฉันอยู่ที่นี่ตลอด มีอะไรน่าแปลกกัน แต่ฉันไม่ได้มีความสัมพันธ์กับเขาอย่างที่คุณคิด…แล้วฉันจะอธิบายให้คุณฟังทำไมเนี่ย”

 

 

เธอดึงสติกลับมา จากนั้นก็เปิดประตูลงจากรถไป แล้วยืนอยู่ข้างประตูรถ

 

 

“ขอบคุณนะคะที่วันนี้มาส่ง แต่ถ้าหลังจากนี้คุณคิดจะแย่งลูกค้าของฉันอีก ฉันจะไม่เกรงใจคุณแล้วนะคะ!”