ตอนที่ 164 : หลักฐาน

ในฐานะทายาทสายหลักของตระกูลเย่แล้ว เย่ฉิวเกาคือคนสำคัญของตระกูล นอกจากผู้อาวุโสในตระกูลแล้วทุกคนต่างก็ต้องเคารพเขา พวกที่กล้าดูหมิ่นเขาจะต้องโดนลงโทษอย่างหนัก

แต่ตอนนี้เขากลับโดนตบหน้าต่อหน้าคนเป็นหมื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นนักศึกษา, อาจารย์, เพื่อนร่วมชั้น, ลูกน้อง, แฟนคลับรึสาว ๆ ที่เขาชื่นชอบ

น่าอับอายสิ้นดี !

เขารู้สึกว่าการตบนี้ไม่ใช่แค่ทำให้หน้าของเขาบวมขึ้นมา แต่มันยังทำให้ความมั่นใจ, เกียรติยศและชื่อเสียงที่เขามีก็โดนทำลายลงไปด้วย

“ตอนนี้แกเข้าใจความแตกต่างระหว่างฉันกับแกรึยัง ? ”  หวังเย่ามองไปที่อีกฝ่ายด้วยสีหน้าเฉยเมย ก่อนจะใช้หลังมือตบที่หน้าด้านซ้ายของเย่ฉิวเกาอีกครั้ง

“แกคิดว่าฉันโกหกงั้นหรือ ? ”  หวังเย่าพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา ความแข็งแกร่งที่เขาแสดงออกมานี้เพียงพอที่จะอธิบายทุกอย่างได้

แก้มซ้ายของเย่ฉิวเกาบวมเป่ง แม้ว่าครั้งนี้จะไม่มีฟันกระเด็นออกมา แต่เขาก็ต้องทนรับการดูหมิ่นครั้งที่สอง ตาของเขาแดงก่ำขึ้นมาราวกับจะคลุ้มคลั่ง

“หวังเย่า แก…แกกล้าดียังไงมาดูถูกฉันแบบนี้ ? แกตายแน่ ! ”  เย่ฉิวเกาคลั่ง เขาอยากจะฉีกหวังเย่าออกเป็นชิ้น ๆ

หวังเย่ายกเท้าขึ้นมา ก่อนจะเตะเข้าท้องน้อยของเย่ฉิวเกาจนอีกฝ่ายกระเด็นออกไปราวกับว่าวเชือกขาด

ลูกเตะนี้รุนแรงกว่าที่เตะฮวงจินเทียนอย่างมาก มันทั้งแรงกว่าและเร็วกว่า เขาใช้แรงไปถึง 50 เปอร์เซ็นต์ ส่วนลูกเตะที่เตะฮวงจินเทียนไปนั้นใช้แรงแค่ 30 เปอร์เซ็นต์

นอกจากนี้การป้องกันของอสูรหินที่ฮวงจินเทียนใช้นั้น ก็เหนือกว่าการป้องกันของลิงภูเขาของเย่ฉิวเกาอย่างมาก

ดังนั้นเย่ฉิวเกาก็ราวกับโดนฟ้าผ่า ร่างของเขากระเด็นไปที่ข้างลานไกลกว่า 100 เมตร แต่ยังไม่ตกไปจากลาน ตัวของเขางอเข้าหากันด้วยความเจ็บปวด

อึก !

เย่ฉิวเกากระอักเลือดออกมารดหน้าตัวเอง สภาพของเขาแย่กว่าฮวงจินเทียนเป็นสิบเท่า

อาการบาดเจ็บนี้หนักหนาอย่างมาก ซี่โครงของเขาหัก อวัยวะภายในได้รับความเสียหายรุนแรง เขาราวกับคนกำลังจะตาย

“หวังเย่า ถึงแกจะเอาชนะฉันได้แต่ยังไงซะแกก็เป็นคนหน้าไม่อายอยู่ดี แกคงเพ้อเจ้อที่บอกว่าตัวเองเรียนจบ ฮ่าฮ่าฮ่า”  หลังจากที่พูดจบ เย่ฉิวเกาก็กระอักเลือดออกมาอีกครั้ง เขารู้สึกเหมือนว่าร่างกายจะขาดออกเป็นเสี่ยง ๆ เลือดที่เขาพ่นออกมาถึงกับมีเศษอวัยวะภายในปนออกมาด้วย

ตอนนั้นผู้ชมทั้งหลายต่างก็เข้าใจที่เย่ฉิวเกาพูดมา  พวกเขาต่างก็พากันสงสัยว่าหวังเย่าเรียนจบจริงแล้วรึไม่

“แล้วยังไง ? ”

หลังจากที่รู้ความจริง ทุกคนก็รู้สึกสับสนขึ้นมาเล็กน้อย นี่หวังเย่าไปทำอะไรให้เย่ฉิวเกาโกรธเกลียดและเคียดแค้นเช่นนี้ ? อีกฝ่ายถึงกับยึดมั่นที่จะเกลียดชังหวังเย่า จนถึงขั้นจ้องจะทำลายชื่อเสียงไม่เลิกรา

หากบรรลุเป้าหมาย แล้วยังไงต่อ ? หวังเย่าจะเสียภาพพจน์เพราะเรื่องนี้งั้นหรือ ?

อย่างมากก็อาจจะทำให้เขากลายเป็นตัวตลกที่เอาแต่พูดเพ้อเจ้อ

อันที่จริงแล้วทุกคนจะเชื่อรึไม่นั้นก็ขึ้นอยู่กับมุมมองของแต่ละคน

หวังเย่าส่ายหน้าและไม่ได้สนใจผู้คนรอบข้าง

ผลลัพธ์ของการต่อสู้ออกมาชัดเจนแล้ว เขามั่นใจว่ากรรมการคงประกาศผู้ชนะได้

ตอนที่หวังเย่ากำลังจะหันหลังกลับนั้น เขาก็นึกไม่ถึงเลยว่าเย่ฉิวเกาจะยังมีแรงพูดออกมาได้  “หวังเย่า แกไม่ตายดีแน่”

อีกฝ่ายยังคงหาเรื่องเขาซ้ำ ๆ ซึ่งทำให้หวังเย่ารู้สึกหงุดหงิด ดูเหมือนว่าความอดทนของเขาคงไม่ได้รับการตอบแทน เห็นทีเขาจะต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว

เรื่องนี้ หวังเย่าพยายามที่จะไม่พูด เพราะไม่ชอบโอ้อวดตัวเอง แต่ตอนนี้เขาเหลืออดแล้วจริง ๆ

“เย่ฉิวเกา แกคงไม่มีสมองสินะ แกคิดจริง ๆ รึว่าฉันจะเอาแต่พูดไร้สาระ ? หึ ๆ ฉันจะแสดงได้เห็นว่าอัจฉริยะจริง ๆ น่ะมันเป็นยังไง”

หวังเย่าดึงใบแสดงผลการประเมินทั้ง 10 วิชาออกมา ก่อนจะชูให้เย่ฉิวเกาได้เห็น

ผลการทดสอบจะถูกส่งเข้ากำไลส่วนตัวของผู้ทดสอบ แต่มหาวิทยาลัยก็ได้ส่งเอกสารอีกชุดให้กับหวังเย่าด้วย

แม้ว่าจะอยู่ห่างกัน 100 เมตร แต่เย่ฉิวเกาก็เห็นมันอย่างชัดเจน เมื่อเห็นเอกสารเหล่านั้นรวมถึงรายชื่อของแต่ละวิชาและคะแนนที่ได้ ตอนนั้นเองเขาก็หรี่ตาลง  “ นี่…”  เย่ฉิวเการู้สึกว่ามีบางอย่างกระจุกอยู่ที่คอ จนเขาพูดอะไรไม่ออก

“เป็นไปได้ยังไงกัน ? ทำไมคะแนนมันถึงได้สูงแบบนี้ ! ใช่ มันต้องเป็นของปลอมแน่ มันต้องเป็นของปลอมแน่ ๆ ! ”  เย่ฉิวเการาวกับถูกกระตุ้นอย่างหนัก หลังจากที่ได้เห็นเอกสารพวกนั้น เขาก็ปวดใจยิ่งกว่าเก่า

เขาอยากจะขอให้ทางมหาวิทยาลัยตรวจสอบว่าเอกสารนี่ปลอมแปลงขึ้นมารึไม่

เพื่อที่จะพิสูจน์ว่าเขาได้เรียนจบจริง ๆ หวังเย่าก็ได้ยื่นเอกสารให้ผู้ชมทุกคนได้เห็น

เมื่อคนอื่น ๆ เห็นรายละเอียดในเอกสารเหล่านั้น พวกเขาก็รีบบอกกับคนอื่น ๆ โดยรอบจนทำให้ทุกคนต่างก็พากันฮือฮาขึ้นมา

“ สัตว์อสูร, ทำยา, การเอาตัวรอด, สำรวจมิติลับ ข้อเขียน 4 วิชาได้ 95, 92, 96 และ 94 คะแนน นี่มัน…”

ทุกคนต่างก็ทึ่งกับผลคะแนนนี้ของหวังเย่า

เมื่อเห็นคะแนนของวิชาภาคสนามแล้ว ทุกคนก็พบว่าคะแนนเหล่านั้นเกือบเต็มทั้งหมด

“ต่อสู้ระยะประชิด 98 คะแนน”

“ซ่อนตัวและสำรวจ 99 คะแนน”

“กายภาคสัตว์อสูรและทำยา 95 คะแนน”

“ทักษะเอาตัวรอด 97 คะแนน”

“สำรวจมิติลับ 98 คะแนน”

“การต่อสู้ร่วมกันของผู้ใช้อสูรและอสูร 100 คะแนน”

ด้วยคะแนนที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้ ต่อให้เอาผลการประเมินทั้งหมดของมหาวิทยาลัยหัวเซี่ยมาเทียบ ก็ไม่มีใครเหนือกว่าหวังเย่าไปได้ สำหรับที่ว่าทำไมถึงไม่มีใครเหนือกว่าหวังเย่าไปได้ ก็เพราะการต่อสู้ร่วมกันของผู้ใช้อสูรและอสูรนั้นมีคะแนน 100 คะแนนเต็ม ซึ่งไม่เคยมีนักศึกษาคนไหนที่ได้คะแนนเต็ม 100 เช่นนี้มาก่อนเลย

หวังเย่าฮึดฮัดออกมา  “อย่าคิดว่าคนอื่นจะเหมือนกับตัวแกเอง แกน่ะไม่ได้มีค่าอะไรเลย ฉันไม่อยากเห็นหน้าแกอีก ยังไงซะในสายตาของฉัน แกก็ไม่ได้ต่างอะไรไปจากมดปลวก”

“แต่เป็นแกเองนะที่คิดจะมาหาเรื่องฉัน เย่ฉิวเกา แกเป็นคนแกว่งเท้าหาเสี้ยนเอง หวังว่าแกจะได้รับบทเรียนและไม่มาหาเรื่องฉันอีก ไม่งั้นแล้วครั้งหน้าคงมีแค่พระเจ้าเท่านั้นที่จะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น”

ถึงเขาจะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเฉยเมย แต่ทุกคนก็ไม่อาจจะแยกแยะได้ว่าเขาพูดจริงรึพูดเล่นกันแน่