บทที่ 104
“ลูกพี่ฉู่ไปเดินอยู่กับไอ้เฉินโม่ที่ไม่เอาไหนได้อย่างไร ดูเหมือนว่าทั้งสองจะสนิทสนมกันอย่างมากด้วย” หลินทาวตะลึงเล็กน้อย เขามองไปที่เฉินโม่และสงสัย
เรื่องในวันนั้นหยางเชี่ยนเชี่ยนและจางเสี่ยนพร้อมทั้งคนอื่นๆ ไม่ได้กล่าวต่อภายนอก เพราะนี่ไม่ใช่เรื่องที่น่ายินดีอะไร ฉะนั้นหลินทาวจึงไม่รู้ว่าฉู่เหวินสงและเฉินโม่มีความสัมพันธ์อย่างไร
ทันใดนั้น มีคนออกมาจากห้องรับรองแขกด้านหลังแท่นหิน ทุกคนต่างก็ทำตัวหยิ่งผยอง ในสายตานั้นไม่มีผู้ใด และดูก็รู้แล้วว่าพวกเขาเป็นคนมีอิทธิพล
“ดูเหมือนว่าเพื่อนของผมที่ว่า จะมาถึงก่อนแล้วนะครับ” เมื่อมองไปที่คนเหล่านั้น ฉู่เหวินสงก็แสดงรอยยิ้มที่มีเล่ห์เหลี่ยมออกมา
บนแท่นหินนั้น มีชายวัยกลางคนที่อวบเล็กน้อย เขาพูดกับไมโครโฟนว่า “ผมจะไม่พูดซ้ำเรื่องกฎของงานพนันหิน เพียงแต่ว่าคราวนี้มีการปรับราคาการประมูลเล็กน้อย การประมูลราคาทุกครั้งต้องเริ่มอย่างต่ำหนึ่งหมื่น ลำดับต่อไปผมจะเริ่มเอาหินที่เข้าร่วมการประมูลในครั้งนี้ออกมาครับ”
หลังจากที่ชายวัยกลางคนที่อวบอ้วนพูดจบ คนที่อยู่กระจายตามงานก็ทยอยเดินเข้ามา แต่คนส่วนมากยืนอยู่นอก มีเพียงฉู่เหวินสงและเฉินโม่ และผู้ที่ออกมาจากห้องรับรองแขกในตอนนี้เท่านั้นที่มีที่นั่ง
แม้แต่เอียนชิงเฉิง มู่หรงยานเอ๋อร์และคนอื่นๆ ก็ยืนอยู่ข้างนอกเหมือนกัน
ฉู่เหวินสงแนะนำให้เฉินโม่รู้โดยพูดเบาๆ ” ไอ้อ้วนที่อยู่บนเวทีคือเจี่ยจิ้งอาน เจ้าของภูมรวมทรัพย์ สถานที่ค้าขายของเลอค่าที่ใหญ่ที่สุดในอู่โจว เป็นของเขา จะว่าเรื่องความสามารถ เขาเก่งกว่าผมเล็กน้อย ในมณฑลฮ่านหยางเขาอยู่ในสิบอันดับแรก”
เฉินโม่เพียงแค่เหลือบมองชายอ้วนวัยกลางคนคนนั้น สีหน้าของเขาไม่แยแสใดๆ
เจี่ยจิ้งอานที่อยู่บนเวทีเอ่ยปากตะโกนว่า “นำหินหมายเลข1 ขึ้นมา!”
พนักงานสองคนที่สวมชุดทำงาน และยกหินรูปสี่เหลี่ยมขนาดเท่าแพะขึ้นมา พวกเขาวางหินลง แล้วทั้งสองก็ถอยกลับ
เจี่ยจิ้งอานกล่าวด้วยรอยยิ้มที่สดใส ” หินหมายเลข 1 ส่งมาจากหลิ่งหนาน ราคาเริ่มต้นแสน เริ่มการประมูล!”
ผู้คนที่อยู่ข้างล่างกระซิบพูดคุยกัน ชายวัยกลางคนผู้มั่งคั่งที่นั่งอยู่มุมหนึ่งล่างเวทียกมือขึ้น “ห้าแสนห้าหมื่น!”
ฉู่เหวินสงเร่งกระซิบกับเฉินโม่ทันที “คนนี้คือฟางปู้ถงเป็นคนร่ำรวยที่สุดในชิ่งหยาง”
ที่ไม่ไกลจากฟางปู้ถงเท่าไหร่นั้น มีชายหนุ่มที่สีหน้าขาวซีด เขายกมือขึ้น และกล่าวด้วยเสียงที่เกียจคร้าน “หกแสน!”
แววตาฉู่เหวินสงดูเคร่งขรึม และแนะนำด้วยเสียงเบาๆ ว่า ” คนนี้ไม่ธรรมดา เป็นตระกูลใหญ่อันดับหนึ่งของหลินโจว เป็นลูกชายจองตระกูลหลิน ชื่อว่าหลินเทียนหยา!”
เฉินโม่เหลือบมองหลินเทียนหยา และถามด้วยความสงสัยว่า “ตระกูลหลินนี่มั่งคั่งหรือ?”
“ไม่ แม้ว่าตระกูลหลินจะมั่งคั่งมากกว่าผม แต่นี่ไม่ใช่เหตุผลที่เขาได้เป็นตระกูลใหญ่อันดับหนึ่งแห่งหลินโจว ผมได้ยินมาว่าภูมิหลังที่แท้จริงของตระกูลหลินนั้นลึกลับมาก คนภายนอกมักไม่ทราบ ทราบเพียงแค่ว่าคนที่ต่อต้านตระกูลหลินนั้น ไม่นานก็จะเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุ” ฉู่เหวินสงนึกถึงความน่าสะพรึงกลัวของตระกูลหลินขึ้นมา สีหน้าของเขาไม่ธรรมชาติเท่าไหร่
เฉินโม่ตกตะลึงครู่หนึ่ง และไม่ได้มองไปที่หลินเทียนหยาอีกเลย แต่เขามองไปที่ชายชราธรรมดาที่นั่งข้างๆ หลินเทียนย่า ชายชราดูเหมือนจะธรรมดา แต่เฉินโม่สัมผัสได้ชัดเจนว่าเขาเป็นนักบู๊แดนในชั้นรู้ความ
บางทีนี่อาจเป็นภูมิหลังที่แท้จริงของตระกูลหลิน
ชายร่างใหญ่ที่อยู่ข้างๆ ตระกูลหลินเยาะเย้ย “หินก้อนนี้ดูค่อนข้างใหญ่ แต่จริงๆ แล้วไม่มีอะไรอยู่ในนั้น ผมไม่สนใจ!”
ฉู่เหวินสงมองไปที่ชายร่างใหญ่ ดวงตาของเขาหรี่ลงเล็กน้อย “คนนี้คือสวีตงฮ่าน เป็นเถ้าแก่ของหอสุขเจริญแห่งเมืองหรูเหอ เขาเป็นผู้ทรงอิทธิพลในท้องถิ่นของเมืองหรูเหอ เขาแข็งแกร่งอย่างมาก เป็นคู่แข่งคู่ต่อสู้ของหอรวมทรัพย์แห่งเมืองอู่โจว และเป็นศัตรูกับผมด้วย”
เฉินโม่เหลือบมองสวีตงฮ่าน จากนั้นก็มองไปที่ชายชราร่างผอมบางที่นั่งอยู่ข้าง ๆ เขา คนธรรมดาอาจไม่เห็นความแตกต่างใด ๆ ในตัวชายชราผู้นี้ แต่เฉินโม่ดูออกว่ามีความมืดมนเผยออกมารอบตัวของชายชราผู้นั้น
“เขาเป็นผู้บำเพ็ญ?”
บทที่ 103 คนโง่เขลา

บทที่ 105 เฉินโม่เสนอราคา