ตอนที่ 297 ผิดธรรมดา! + ตอนที่ 298 กลั่นยาสำเร็จ!

เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า

ตอนที่ 297 ผิดธรรมดา!

เฟิ่งเซียวที่ได้ยินการเคลื่อนไหวรู้ว่าเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นภายในจวนแน่นอน หนำซ้ำเดาว่าคงเกี่ยวกับของที่สองสามวันนี้ลูกสาวกำลังทำอยู่โดยไม่หลับไม่นอน ด้วยเหตุนี้เมื่อได้ยินเสียงตะโกนลั่นที่เต็มไปด้วยความโมโหของท่านผู้เฒ่า น้ำเสียงทรงอำนาจที่แฝงด้วยกลิ่นอายพลังเร้นลับมหาศาลของเขาก็เปล่งตามออกมา

“ทหารอารักขาจวนตระกูลเฟิ่งทั้งหลายฟังคำสั่ง! อารักขาจวนให้ข้า อย่าปล่อยเข้ามาแม้แต่แมลงวันสักตัว!”

เหล่าทหารอารักขาในจวนที่รีบร้อนปรี่ออกมาจิตใจขึงขังเข้าสู่ท่าตั้งเตรียมการต่อสู้ทันที พลันขานรับเสียงเข้ม “ขอรับ!”

เสียงก้องกังวานทรงพลังที่มีจิตคิดต่อสู้อันหนาวเหน็บดังขึ้นแต่ละเรือนในจวน ทหารอารักขาพวกนี้เดิมทีมี่ทั้งที่เฝ้าอยู่ในเรือน ตามทางเดิน ตรงภูเขาจำลอง และหลบซ่อนอยู่ในมุมมืด

แต่เมื่อพวกเขาได้ยินเสียงท่านผู้เฒ่ากับเฟิ่งเซียวทุกคนต่างเร่งมาตรงกำแพงแต่ละเรือนในจวนด้วยความรวดเร็วราวกับนักรบกระหายเลือดที่ได้ยินคำสั่งการ ป้องกันคนบุกรุกเข้ามาตามกำแพง

เหล่าข้ารับใช้ในจวนก็เฝ้าอยู่ในเรือนตามคำสั่งพ่อบ้าน พวกเขามองเมฆดำที่ประดังอยู่เหนือท้องฟ้าลานบ้าน รวมถึงสายฟ้าที่ผ่าลงมาอย่างสงสัยไม่แน่ใจ ในใจตื่นตระหนกไม่สิ้นสุด

ฟ้าผ่าตอนกลางวัน เรื่องแปลกๆ เช่นนี้ปรากฏให้พวกเขาเห็น หนำซ้ำนี่เหมือนจะเกี่ยวข้องกับคุณหนูใหญ่ด้วย?

เมื่อฉิวฉิวที่นอนอาบแดดอ่อนๆ ยามเช้าอยู่บนภูเขาจำลองอย่างเอื่อยเฉื่อยเห็นสายฟ้าที่ฟาดลงกลางอากาศก็นั่งตัวตรงขึ้นโดยฉับพลัน ในดวงตาที่แฝงด้วยความเฉียบคมและกลิ่นอายกระหายเลือดฉายแววตกตะลึงที่มีความเป็นมนุษย์ ก่อนจะสับขาวิ่งไปทางเรือนหลังนั้นทันที

ล่อสายฟ้ามากลางวันแสกๆ เช่นนี้? สาวน้อยคนนั้นกำลังทำอะไรอยู่?

ไม่เพียงฉิวฉิวที่รีบไป แม้แต่เหล่าไป๋ที่เดิมยังพยายามจะมุดใต้กระโปรงสาวใช้ก็เงยหน้าขึ้นเล็กน้อยมองไปกลางเวหา จมูกสูดดมกลิ่น แล้ววิ่งตามไปในเรือนหลังนั้นด้วย

“เปรี้ยง!”

การฟาดผ่าของสายฟ้าสายที่สาม เมฆดำที่ประดังอยู่กลางอากาศก็สลายตามไป ภายในจวนตระกูลเฟิ่งคล้ายจะกลับคืนสู่ความสงบเงียบเพียงชั่วครู่ แต่ทุกคนต่างรู้ว่าปัญหาได้เกิดขึ้นแล้ว

เพราะผู้คนแต่ละฝ่ายที่รีบมาต่างถึงหน้าประตูใหญ่กันอย่างต่อเนื่อง มองจวนตระกูลเฟิ่งที่ปิดประตูแน่นหนาด้วยความตื่นตระหนก ตกตะลึง ประหลาดใจ หรือเหลือเชื่อ

ฟ้าผ่าตอนกลางวันซ้ำยังผ่าถึงสามครั้ง จวนตระกูลเฟิ่งนี้เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?

ทุกคนล้วนอยากรู้ แต่ถึงอย่างไรจวนตระกูลเฟิ่งก็ไม่ใช่คนธรรมดา ประตูใหญ่ปิดแน่นหนา แม้พวกเขาจะสงสัยแต่ก็ไม่กล้าและไม่สามารถบุรุกเข้าไปโดยที่เจ้าของไม่อนุญาต

“เจ้าว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นที่จวนตระกูลเฟิ่ง? ทำไมถึงดึงสายฟ้ามาได้?”

“เรื่องนี้มีใครรู้บ้าง? ประตูใหญ่จวนตระกูลเฟิ่งปิดแน่น ใครจะกล้าเข้าไปเคาะในยามนี้กัน?”

“เคาะไปก็กลัวว่าพวกเขาจะไม่บอก แต่ข้าสงสัยจริงๆ ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?”

“รีบดูเร็ว! นั่นผู้ครองแคว้นไม่ใช่หรือ? นึกไม่ถึงว่าเขาจะมาด้วยตัวเอง!” ผู้นำตระกูลท่านหนึ่งเรียกเสียงเบาและให้สัญญาณทุกคนมองยังเงาร่างที่มุ่งมาทางนี้

ผู้นำตระกูลอีกท่านครุ่นคิด บอกว่า “ผู้ครองแคว้นยังมาด้วยตัวเอง เห็นได้ว่าต้องไม่ใช่เรื่องเล็กๆ แน่ ประตูใหญ่บ้านตระกูลเฟิ่งนี้ข้าคิดว่าจะเปิดออกได้แน่นอน”

“อืม ไม่เลว แม้พวกเราเข้าจวนตระกูลเฟิ่งไม่ได้แต่ท่านผู้ครองแคว้นจะเข้าไปได้แน่นอน”

ท่ามกลางเสียงกระซิบกระซาบของผู้คน ผู้ครองแคว้นมู่หรงป๋อกระดกปลายเท้ามายังหลังคาโรงเหล้าแห่งหนึ่ง แต่ทำได้เพียงเห็นหลังคาเรือนแห่งหนึ่งในจวนตระกูลเฟิ่งอยู่รางๆ ไม่เห็นสถานการณ์ในเรือน แต่มั่นใจได้ว่าฟ้าผ่าสามครั้งนั้นจะต้องเป็นสิ่งที่จวนตระกูลเฟิ่งดึงดูดมาแน่นอน

แววตาที่แฝงด้วยความเฉียบแหลมฉายแววเป็นประกาย เขาที่ยืนมือไพล่หลังกระดกปลายเท้ามายังหน้าประตูใหญ่จวนตระกูลเฟิ่ง เคาะประตูที่ปิดสนิทนั้นเสียงดัง…

………………………………………….

ตอนที่ 298 กลั่นยาสำเร็จ!

“ใครเคาะประตู!”

น้ำเสียงทุ้มต่ำทรงอำนาจเปล่งออกมาจากหลังประตู นั่นคือเสียงของเฟิ่งเซียวทั้งเข้มงวดและสง่างาม

“เฟิ่งเซียว เปิดประตูซะ”

เสียงทุ้มเข้มมีภูมิฐานของมู่หรงป๋อที่ยืนมือไพล่หลังอยู่ด้านนอกลอยตามมา น้ำเสียงเขามีท่าทีของผู้แข็งแกร่ง ท่วงทำนองเสียงที่เอ่ยปากยิ่งมีความหมายเป็นคำสั่งที่สมเหตุสมผล

ขณะได้ยินเสียงด้านนอกนั้นเฟิ่งเซียวที่มือถือดาบใหญ่นั่งเฝ้าอยู่หลังประตูอย่างสงบนิ่งมั่นคงก็ขมวดคิ้วเบาๆ ใบหน้าสง่าผ่าเผยถมึงทึงลงเล็กน้อย ลังเลไปบ้างพักหนึ่ง น้ำเสียงขึงขังเปล่งออกมาอย่างมีเจตนาขออภัย

“ขอประทานอภัยท่านผู้ครองแคว้นที่ไม่อาจทำตามคำสั่ง”

เมื่อมู่หรงป๋อหน้าประตูได้ยินคำพูดนี้ก็ขมวดคิ้วน้อยๆ ด้วยความอับอายจนกลายเป็นความโกรธอยู่บ้าง ผู้นำแห่งแคว้นที่มีเกียรติเช่นเขามาเยือนด้วยตนเองกลับต้องพบกับประตูที่ปิดสนิทงั้นรึ?

ไม่เพียงมู่หรงป๋อที่อับอายไปบ้าง แม้แต่ผู้คนที่มุงดูอยู่ไม่ไกลโดยไม่เข้ามาต่างมีสีหน้าตื่นตะลึง

นึกไม่ถึงเลย!

นึกไม่ถึงว่าเฟิ่งเซียวคนนี้จะกล้าปฏิเสธผู้ครองแคว้นไว้หน้าประตู? ใจกล้าเกินไปหน่อยกระมัง? ต้องรู้ไว้ว่าจวนตระกูลเฟิ่งค่อนข้างแตกต่างกับวงศ์ตระกูลพวกเขา เฟิ่งเซียวนอกจากจะเป็นผู้นำตระกูลเฟิ่ง ยังเป็นแม่ทัพใหญ่ผู้ทรงอำนาจแห่งแคว้นแสงสุริยันและเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของมู่หรงป๋อ การปฏิเสธที่จะทำตามคำสั่งจึงถือว่าไม่ใช่เรื่องล้อเล่น

“เฟิ่งเซียว! เจ้ารู้หรือไม่ว่ากำลังพูดอะไรอยู่?” สีหน้ามู่หรงป๋อตึงเครียดขึ้น น้ำเสียงมีความเย็นชาและโกรธเคืองอยู่บางส่วน

ระหว่างที่บรรยากาศตรงประตูใหญ่จวนทั้งหนาวเย็น ตึงเครียดและอันตราย เฟิ่งจิ่วในห้องยากำลังเปิดเตากลั่นออก เมื่อเห็นยาอายุวัฒนะสีน้ำตาลแดงสามเม็ดด้านในนั้นก็ผุดรอยยิ้มตื่นเต้นมีความสุขออกมาจากหัวใจ

เธอทำสำเร็จแล้ว!

ไม่มีคนคอยชี้แนะเธออาศัยประสบการณ์และความเข้าใจที่มีต่อวิชาแพทย์ คิดค้นวิธีกลั่นยาเซียนเองด้วยขั้นตอนที่อธิบายไว้อย่างง่ายดายในตำรา ใช้เวลาสามวันสามคืนสิ้นเปลืองยาทิพย์ไปไม่น้อยในที่สุดก็สำเร็จ!

เธอหยิบยาอายุวัฒนะสามเม็ดนั้นออกมาวางลงบนโต๊ะข้างๆ แล้วมอง เห็นบนยามีพลังวิญญาณไหลพล่าน ลวดลายห้าสายปรากฏอยู่บนเม็ดยาเล็กๆ เห็นได้อย่างชัดเจน

“เป็นลวดลายห้าสายอย่างที่คิดไว้เลย มิน่าล่ะถึงสามารถล่อสายฟ้ามาหลอมเม็ดยาได้”

เธอเอ่ยอย่างกะทันหัน มองลวดลาดบนยาอายุวัฒนะนั้นในใจก็ประหลาดใจนิดหน่อย ไม่นึกเลยว่ายาเตาแรกที่กลั่นสำเร็จด้วยตัวเองจะมีระดับสูงเช่นนี้ ในตำราบันทึกไว้ว่ามีเพียงยาอายุวัฒนะที่มีลายห้าสายขึ้นไปถึงจะล่อสายฟ้ามาได้

ยิ่งไม่ต้องพูดถึงในแคว้นแสงสุริยันระดับเก้านี้ ต่อให้เป็นในแคว้นเหินเวหาระดับหกจะหายาที่มีลวดลายห้าสายก็ไม่ง่ายดายนัก

“รอบนี้ดีแล้ว เปลืองยาทิพย์ไปมากมายเพียงนั้นสุดท้ายก็ไม่ขาดทุน”

เธอหัวเราะเบาๆ พลางหยิบขวดออกมาแบ่งใส่ยาอายุวัฒนะทั้งสามเม็ดไว้ในขวดสามใบเก็บเข้าห้วงมิติแล้วค่อยเก็บเตากลั่นยาถึงจะเดินออกจากห้องยา

ท่านผู้เฒ่าเฟิ่งที่มาเฝ้าอยู่นอกเรือนเห็นนางออกมา ถามทันทีว่า “แม่หนูเฟิ่ง? ยาอายุวัฒนะนั่นกลั่นสำเร็จรึยัง? สายฟ้าสามสายนั่นทำทุกคนแตกตื่นกันหมด แม้แต่ผู้ครองแคว้นยังมาด้วย พ่อหลานเฝ้าอยู่ตรงประตูใหญ่เกรงว่าจะรับมือได้ไม่นานนัก”

ได้ยินคำพูดนี้แววตาเฟิ่งจิ่วฉายแววน้อยๆ หลังเดินไปหาท่านผู้เฒ่าก็บอกกับเหลิ่งซวงว่า “ไปเก็บกวาดด้านในให้ที”

“เจ้าค่ะ” เหลิ่งซวงขานรับถึงจะเดินไปห้องยา

“ท่านปู่ ไม่มีเรื่องให้ต้องกังวลหรอกเจ้าค่ะ ด้วยชื่อเสียงของจวนตระกูลเฟิ่งเราไม่มีใครกล้าบุกเข้ามาแน่”

เธอปลอบใจเสียงเบา มายังข้างกายเขาพูดพร้อมเผยรอยยิ้มออกมา “แม้จะเสียเวลาไปไม่น้อย แต่ยาอายุวัฒนะก็กลั่นสำเร็จแล้ว เรื่องนี้หลานคิดไม่รอบคอบไม่นึกว่ายาเตาแรกจะล่อสายฟ้ามาได้ ทำให้หลานตกใจจริงๆ”

……………………………