ว้าว!

ผู้คนรอบข้างถึงกับสูดหายใจอย่างหนาวเย็น

“นี่มันบ้ามาก!”

“แปดล้านเหรียญ? นี่มันปล้นกันกลางวันแสก ๆ ชัด ๆ”

“พวกหิวเงินสินะ นายน่ะ? ของที่มีอยู่ในร้านแผงลอยของนาย รวมกันคงมีค่าไม่ถึงแปดพันด้วยซ้ำ”

ทุกคนต่างวิจารณ์อย่างออกรส อีวอนและเจ้าของร้านวัตถุโบราณบางคนก็ส่ายหัว และยิ้มออกมา

โดยไม่มีใครคาดคิด ก็มีคนเดินออกมาจากด้านหลัง

“แปดล้านเหรียญ? ฉันจะซื้อมัน แดร์ริลพยักหน้าหลังจากใช้เวลาคิดครู่หนึ่ง

ว้าว!

ทุกคนโกลาหลกันหมดในตอนนั้น

นี่เขาจะซื้อมันจริง ๆ?

แปดล้านแลกกับดาบสนิมเขรอะ นี่เขาเสียสติไปแล้วรึไง?

ในตอนนั้นเจ้าของร้านวัตถุโบราณบางคนต่างส่ายหัวเช่นกัน

พวกเขาประเมินดาบโบราณนี้มาพักหนึ่งแล้ว มันไม่ใช่ของโบราณด้วยซ้ำ มันก็แค่เศษเหล็ก

อีวอนเป็นเพียงคนเดียวที่ย่นคิ้วของเธอเล็กน้อย เธอกำลังคิด

ลิลี่ไม่มีความรู้ด้านวัตถุโบราณโดยสิ้นเชิง แต่เมื่อเห็นการตอบสนองของทุกคน เธอจึงอยากจะห้ามแดร์ริล

อย่างไรก็ตาม เธอรู้ว่าแดร์ริลมีความสามารถในการประเมินวัตถุโบราณ เธอจึงเลือกที่จะไม่พูดอะไร มนุษย์เกิดความผิดพลาดได้เสมอ ไม่ว่าแดร์ริลจะเก่งกาจขนาดไหน นี่มันเสี่ยงมาก ๆ มันชัดเจนแล้วว่าดาบนั่นเป็นของปลอม มันถูกปกคลุมด้วยสนิม มันไม่น่าจะมีค่าอะไรเลย

“ดูสิ น้องชายคนนี้ชื่นชมดาบเล่มนี้ล่ะ” เขาเป็นคนที่ตื่นเต้นที่สุด หลังจากแดร์ริลจ่ายเงินแล้ว คนขายวัตถุโบราณก็ส่งดาบให้กับแดร์ริล โดยไม่ลืมที่จะยกนิ้วโป้งให้แดร์ริลด้วย

ภายใต้สายตาของทุกคน แดร์ริลห่อดาบไว้ด้วยผ้า

ในตอนนั้น อีวอนก็ชี้ไปที่จานดินเผารูปดอกไม้สีเขียว เธอถามเสียงบา “เถ้าแก่ นั่นราคาเท่าไหร่?”

แดร์ริลสังเกตว่าเหล่าเจ้าของร้านวัตถุโบราณให้ความสนใจกับคำถามของอีวอน

อีวอนและเหล่าเจ้าของร้านวัตถุโบราณบางคนไม่ได้มาที่นี่เพียงเพื่อมุงดูเฉย ๆ พวกเขาได้ยินว่ามีคนขายวัตถุโบราณที่ทางเดินธงแดง และเขาก็มีเครื่องดินเผาจากสมัยราชวงศ์ซ่ง ดังนั้น พวกเขาจึงมาเพื่อตรวจดู

พวกเขามีกลยุทธ์มากมายในการซื้อขายวัตถุโบราณ เช่นการสังเกตปฏิกิริยาของคนอื่น เช่นเดียวกับทักษะการต่อรอง

อีวอนคว้าโอกาสในการถามราคาตอนที่คนขายเพิ่งขายของไป

“คุณผู้หญิงผู้งดงาม คุณมีรสนิยมดีมาก ตอนที่ผมซื้อเครื่องดินเผานี้มาจากเพื่อน เขาบอกผมว่าของชิ้นนี้มีดี ถ้าคุณชอบมัน ผมจะขายมันให้คุณในราคาสองล้านเหรียญ” คนขายวัตถุโบราณตอบพร้อมรอยยิ้มกว้าง

อีวอนไม่ตอบสนอง เธอเงียบ

พวกเจ้าของร้านวัตถุโบราณเริ่มปรึกษากัน

“เถ้าแก่ คุณรู้ไหมว่าคุณผู้หญิงตรงหน้าคุณคือใคร? คุณกล้าเสนอราคาสองล้านเหรียญได้ยังไง?”

“ใช่แล้ว ฉันสังเกตเครื่องปั้นของนายมานานแล้ว สีมันก็สวยดี รวมถึงการแกะสลักก็เป็นเอกลักษณ์ แต่มันขาดกลิ่นอายโบราณ”

“ไม่เลว จานที่นายมีตรงนี้ เนื้องาน และสีของมันดูเหมือนมาจากสมัราชวงศ์ซ่ง แต่มันเป็นของปลอม อย่างมากมันก็เป็นเพียงของเลียนแบบคุณภาพสูงเท่านั้น”

“มันไม่มีค่าถึงสองล้านเหรียญหรอก”

เมื่อฟังคำอธิบายจากเหล่าเจ้าของร้านวัตถุโบราณ คนขายวัตถุโบราณก็ตอบกลับอย่างเย็นชา “นี่เป็นราคาของสินค้าของฉัน ถ้าไม่ซื้อก็ไปซะ”

เหล่าเจ้าของร้านวัตถุโบราณถึงกับตัวสั่นกับสิ่งที่คนขายวัตถุโบราณกล่าว

อีวอนเองก็หมดความสนใจกับของชิ้นนี้เช่นกัน มันเป็นของปลอม มันควรจะมีราคาแค่ห้าพันเหรียญด้วยซ้ำ สองล้าน…มีแค่คนโง่เท่านั้นแหละ ที่จะซื้อมัน

“เถ้าแก่ ขอฉันดูหน่อย” แดร์ริลเปิดปากของเขากล่าวออกมา

หลังจากได้รับเงินแปดล้านมาจากแดร์ริล คนขายวัตถุโบราณจึงยินดีมาก เขาส่งขานดินเผาให้แดร์ริลโดยไม่ต้องคิดเลย

เหล่าเจ้าของร้านวัตถุโบราณที่เหลือเองก็มองที่แดร์ริล

แดร์ริลถือจานดินเผาไว้ในมือและมองอย่างใช้ความคิด เขาเคาะจานดินเผาอย่างแผ่วเบาแล้วกล่าว “จานดินเผาแบบนี้ หากมันเป็นของเลียนแบบ เมื่อเคาะแล้ว เสียงของมันจะฟังดูทึบ แต่ชิ้นนี้กลับดังกังวาลเมื่อถูกเคาะ นอกจากนี้ ที่มันดูใหม่ไม่ใช่เพราะมันเพิ่งจะถูกทำขึ้น แต่มันเป็นเพราะเจ้าของดูแลมันเป็นอย่างดี และดูเหมือนจะมีความรู้ด้านวัตถุโบราณด้วย นี่เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมมันถึงดูใหม่เหมือนของที่เพิ่งถูกทำขึ้นมา”

หลังจากกล่าวจบ แดร์ริลก็เดินไปแล้วส่งจานดินเผาให้อีวอน แล้วกล่าวเงียบ ๆ “จากประสบการณ์ของผม นี่ไม่ใช่ของปลอม มันมีมูลค่าสองล้านจริง ๆ”

หลังจากฟังแดร์ริลพูด ลิลี่ถึงกับตื่นตระหนก เธอกล่าว “แดร์ริล ได้โปรดอย่าพูดอะไรที่นายไม่แน่ใจออกมา ประธานยังเป็นคนที่สามารถประเมินได้ว่ามันปลอมหรือจริง อย่าอวดเก่งสิ”