ไม่ว่าจะเป็นแบบไหน ลู่ฝานต้องหาให้เจอ

และไม่ว่าจะเป็นลู่ฝาน ฉู่สิง ฉู่เทียน หรือหานเฟิง ล้วนไม่รู้ว่าอาจารย์อี้ชิง มายืนอยู่หลังประตูตั้งนานแล้ว มองการกระทำของพวกเขาผ่านประตูที่แง้มไว้ เห็นอย่างชัดเจน

“ไอ้เด็กพวกนี้”

อาจารย์อี้ชิงหัวเราะออกมา เขาคิดถึงช่วงเวลาที่ตัวเองฝึกฝนในตอนนั้น

มิตรภาพของลูกศิษย์ การสืบทอดในคณะเดียวกัน

อาจารย์อี้ชิงเปิดประตู สะบัดมือเอาเก้าอี้โยกมา จากนั้นค่อยๆ นั่งลงพักสายตา

เห็นอาจารย์อี้ชิงออกมา ฉู่สิง ฉู่เทียน หานเฟิง ท่องเสียงดังทันที เสียงลอยไปไกลตามสายลม

……

เวลาที่เหลือ ลู่ฝานศึกษาวิชากระบี่ขั้นพื้นฐาน อย่างละเอียด

ตั้งแต่เช้ายันค่ำ ดวงอาทิตย์ขึ้นยันดวงอาทิตย์ตก ศึกษาอย่างตั้งใจจนถึงเช้าของอีกวัน

ตอนแรกลู่ฝานไม่เห็นวิชาอะไรเลย นี่คือหนังสือวิชากระบี่ขั้นพื้นฐาน

แต่หลังจากอ่านอย่างละเอียด ลู่ฝานพบว่าวิชากระบี่ขั้นพื้นฐานเล่มนี้ แตกต่างจากวิชากระบี่ขั้นพื้นฐานอื่นๆ

ท่าแยก ท่าแทง ท่าหมุนวน ท่ากวาด ท่าตัด ท่าแขวน ท่ากระดกขึ้น ท่าตวัดลง ท่าสัมผัส ท่ายก ท่าตวัดบน ท่าตั้ง ท่าขวาง ท่าพาดเฉือน ท่าทะลุผ่าน ท่าผ่า ท่าเฉือน

แค่ท่าแยกยังแบ่งเป็นย่อยเป็น ท่าแยกแบบขาซวี ท่าแยกแบบท่านั่งธนู ท่าแยกแบบหมุนตัวด้านหลัง ท่าแยกแบบโจมตีด้านล่าง เป็นต้น ท่าแยกกว่าพันสองร้อยรูปแบบ

วิธีการแยกแต่ละวิธี ยังมีเทคนิคการใช้อยู่ 3-4ประเภท รวมไปถึงคำอธิบายเคล็ดวิชาบู๊ ที่เกี่ยวข้องด้วย

18 กระบวนท่าเต็มๆ นับดูแล้ว อย่างน้อยมีเทคนิคการใช้วิชากระบี่อยู่หลายหมื่นประเภท

ไม่พูดเรื่องอื่น แต่จำนวนแบบนี้ ทำให้ลู่ฝานตกใจกับความไม่ธรรมดา เมื่ออ่านไปเรื่อยๆ พบว่าไม่ได้มีแค่สิ่งเหล่านี้

หลังจากอธิบายกระบวนท่าหนึ่งจบ ยังมีการประสานเชื่อมโยงกระบวนท่านี้ กับกระบวนท่าอื่น อธิบายไว้โดยละเอียด เมื่อจำนวนกระบวนท่าเพิ่มขึ้น คำอธิบายโดยละเอียด ก็มีความหลากหลายมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่เพียงแต่จะมีวิธีเผชิญหน้ากับศัตรู ยังมีเทคนิคการโจมตีกลับด้วย

ยิ่งหน้าหลังๆ ยิ่งเยอะขึ้น จำนวนเยอะจนน่ากลัว

ลู่ฝานจินตนาการไม่ออก คนที่ขยันระดับไหน จึงจะเขียนหนังสือเล่มนี้ออกมาได้ เอาการวิเคราะห์อย่างสมบูรณ์แบบของวิถีกระบี่ทั้งหมด มาวางไว้ต่อหน้าเขาชัดๆ

ใช้รูปแบบง่ายๆ คำพูดง่ายและตรงที่สุด มาบอกคุณว่าฝึกฝนกระบี่อย่างไร ควรฝึกอย่างไร

ง่ายถึงขนาดที่ว่าถ้าอีกฝ่ายแยกออก คุณก็แค่ขวางเอาไว้

เรียนสิ่งนี้ ไม่จำเป็นต้องมีพรสวรรค์ใด ขอแค่ความขยันและความจำอันแข็งแกร่ง อีกทั้งยังต้องมีความสามารถในการเอาความรู้ ความเข้าใจมารวมกัน

ลู่ฝานจมอยู่ในวิถีแห่งกระบี่

ก่อนหน้านี้ ลู่ฝานคิดมาตลอดว่า วิชากระบี่ล้ำลึกสูงส่งที่สุด เป็นสิ่งที่จับต้องไม่ได้ สูงส่งราวกับเทพ ลึกลับไม่เปิดเผย

แต่ตอนนี้ หนังสือเล่มนี้บอกเขาว่า วิถีกระบี่ก็เป็นอย่างนี้

พูดให้เข้าใจก็คือ ไม่มีอะไรนอกจากการฝึกฝนจนเชี่ยวชาญ

ลู่ฝานฝึกฝนทุกวัน เรียนรู้อยู่ตลอดเวลา เขาไม่อาจแยกจากวิชากระบี่ขั้นพื้นฐานได้แล้ว

หานเฟิงและคนอื่น เห็นท่าทางของลู่ฝาน ต่างพากันไม่ค่อยเข้าใจ

ก็แค่เคล็ดวิชาบู๊ระดับคนขั้นพื้นฐานเล่มหนึ่ง อาจารย์ต้องเอาออกมาทดสอบเขาแน่นอน ทำไมต้องจริงจังขนาดนี้ ดูไม่เหมือนแสร้งทำด้วย

คุณเคยเห็นคนที่แสร้งทำตอนกินข้าว จนเกือบจะเอาอาหารยัดใส่จมูกหรือเปล่าล่ะ

คุณเคยเห็นคนแสร้งทำตอนกลางคืน ขณะที่ทุกคนหลับ แต่เขายังสะบัดกระบี่อยู่ทั้งคืนหรือเปล่าล่ะ

หานเฟิงและคนอื่น เริ่มเรียกลู่ฝานว่าศิษย์น้องบ้าบู๊

ลู่ฝานไม่ได้ว่าอะไร คำเรียกที่ไม่น่าฟังกว่านี้ เขายังได้ยินมาแล้วหลายสิบปี จะเรียกอะไรก็เรียกไปเถอะ

พริบตาเดียว เวลาผ่านไปสองเดือน ลู่ฝานยังไม่วางหนังสือลง

หานเฟิงและคนอื่น ลองอยู่หลายรอบ เพื่อที่จะให้ลู่ฝานละสายตาออกมา

แต่ไม่ว่าพวกเขาทำอย่างไร ก็ไม่สามารถรบกวนลู่ฝานได้เลย ถึงตอนกลางคืน พวกเขาอยากแอบเอาหนังสือลู่ฝานมา ก็ไม่ได้

ลู่ฝานเอาการนอนหลับมาเป็นการฝึกฝน กอดหนังสือตลอดเวลา จะให้พวกเขาแอบเอามาได้อย่างไร

อาจารย์อี้ชิงเห็นท่าทีของลู่ฝาน เขายิ้มแล้วพูดว่า “รอให้ศิษย์น้องลู่ฝานของพวกแก ฝึกฝนรอบนี้เสร็จ เขาคงตามแดนของพวกนายทันแล้ว”

หานเฟิงตะโกนออกมาทันที “อาจารย์ล้อเล่นหรือเปล่า ผมฝึกฝนมาปีกว่าแล้วนะครับ ศิษย์น้องลู่ฝานจะตามผมทัน ในสองเดือนเนี่ยนะ อาจารย์ให้เขากินยาวิเศษหรือเปล่า”

อาจารย์อี้ชิงยิ้มแล้วพูดว่า “ไม่มียาวิเศษหรอก ถ้ามี ฉันกินเองไปแล้ว จะจริงหรือไม่ รอให้ลู่ฝานฝึกเสร็จ เดี๋ยวก็รู้เอง”

หานเฟิงและคนอื่นมองลู่ฝาน เริ่มคาดหวังให้ลู่ฝานฝึกเสร็จ

เคล็ดวิชาบู๊ระดับคนขั้นพื้นฐาน เก่งกาจขนาดนั้นเชียวหรือ