บทที่ 195 คิดดูแล้วน่าเร้าใจไม่น้อย

เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ

บรรยากาศในการแข่งขันตึงเครียดมาก!

ร้อนแรงมาก!

การแข่งขันสั่นสะเทือนหัวใจทุกคน…

เฉียนหลินมองเฉินชางตาปริบๆ ด้วยความกระวนกระวายใจ เขาแอบส่งเสียงเชียร์เฉินชางอยู่ในใจ น้องชาย การแสดงฝีมือของคุณเกี่ยวโยงกับอนาคตและความสุขของคนแซ่เฉียนคนนี้ คุณไม่ได้ต่อสู้เพียงลำพัง!

แต่คนอื่นกลับตั้งตาดูว่าเก่อฮว๋ายจะทำลายสถิติเก่าได้หรือไม่!

ถึงแม้จะไม่จัดว่าเป็นการแข่งขันที่ใหญ่โต แต่ก็เป็นการแข่งขันที่สนุก

เวลาทุกนาที ทุกวินาทีผ่านไปอย่างรวดเร็วดุจสายน้ำ

ทุกคนต่างจับตาดูเวลาด้วยความตึงเครียด “จะทำลายสถิติเก่าแล้ว! จะทำลายได้แล้ว!”

“สู้ๆ อาจารย์เก่อ! จะทำลายสถิติได้แล้ว!”

“ทำลายสถิติได้แล้ว!”

“โอ้แม่เจ้า! อาจารย์เก่อสุดยอดเลย! ทำลายสถิติเก่าของตัวเองได้อีกครั้งแล้ว สองนาทีสี่สิบหกวินาที เจ๋งเป้งสุดๆ!”

“เอ๊ะ”

“นี่ๆๆ ทำไม่พูดคุณพูดอะไรเลยล่ะ อาจารย์เก่อทำลายสถิติเก่าได้แล้ว!” ชายหนุ่มที่เป็นคนจับเวลามองคนอื่นๆ ด้วยสีหน้างุนงง

สิ่งที่เขาเห็นคือทุกคนกำลังจ้องมองเฉินด้วยอาการตกตะลึงจนตาค้าง สายตาเต็มไปด้วยความรู้สึกยากจะเชื่อลง!

“นี่…นี่เร็วเกินไปแล้วหรือเปล่า!”

“นั่นน่ะสิ?! เมื่อกี้นี้ผมแค่ชำเลืองมองแป๊บเดียว เขาเย็บไปตั้งสามเข็มแล้ว ความเร็วขนาดนี้ เร็วจนน่าตกใจ…”

“คิดไม่ถึงว่าเขาจะเร็วกว่าอาจารย์เก่อของพวกเราอีก!”

“ใช่น่ะสิ ใช้เวลาเท่าไหร่”

“ไม่รู้สิ…น่าจะสองนาทีกว่ามั้ง”

“คุณไม่เห็นหรือไงกัน เขาเย็บหลอดเลือดเสร็จเกือบครึ่งนาทีแล้ว อาจารย์เก่อเพิ่งจะเย็บเสร็จ!”

บรรดาหมอที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างตกตะลึงจนตาค้าง

เดิมทีคิดว่าหมอเก่อฮว๋ายจะชนะเฉินชางเพิ่มอีกคน

ทว่ากลับคิดไม่ถึงว่า…พ่อหนุ่มน้อยคนนี้จะเร็วขนาดนี้!

เมื่อคิดถึงภาพเหตุการณ์ตอนที่เฉินชางเย็บหลอดเลือด หมอส่วนใหญ่ต่างก็ไม่ค่อยกล้าเชื่อสายตาตัวเอง

เย็บได้เร็วเกินไปแล้ว!

อายุแค่นี้ยังเย็บได้ไวขนาดนี้ อนาคตจะขนาดไหนเนี่ย

เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ หมอผู้ชายส่วนใหญ่ต่างก็ถึงกับคอตกเล็กน้อย คลื่นลูกใหม่ซัดกลบคลื่นลูกเก่า เด็กรุ่นใหม่เย็บได้เร็วกว่ารุ่นเก่า เร็วยิ่งขึ้นกว่าสถิติเดิมทุกรุ่น!

แต่บรรดาหมอผู้หญิงแต่ละคนต่างรู้สึกเศร้าใจ พวกเธอถอนหายใจยาว เย็บได้เร็วมากเกินไปแล้ว…

กล่าวได้เลยว่าเฉียนหลินเห็นฝีมือการเย็บหลอดเลือดใหญ่ของเฉินชางตั้งแต่เริ่มการแข่งขันจนจบการแข่งขัน!

เขาเป็นคนที่คำพูดมีพลังที่สุดคนหนึ่ง เมื่อเห็นฝีมือในการเย็บหลอดเลือดของเฉินชาง เฉียนหลินรู้สึกอยากถามเฉินชางแค่คำถามเดียวเท่านั้น น้องชาย คุณเป็นโสดมานานกี่ปีแล้ว

ผมคนแซ่หลินคนนี้มองว่ามือคู่นี้ดูล้ำเลิศแล้ว แต่คิดไม่ถึงว่าคุณมีความเฉียบแหลมว่องไวเพิ่มเข้ามาอีก!

ฝีมือร้ายกาจจริงๆ!

เมิ่งซีมองมือของเฉินชางอยู่นานไม่โดยไม่พูดอะไร นัยน์ตาของเธอเต็มไปด้วยความซับซ้อน ทันใดนั้นเธอก็ถึงกับอดกลืนน้ำลายไม่ได้!

มือคู่นี้เหนือชั้นมาก!

เมื่อครู่นี้ตอนเริ่มแข่งขัน เมิ่งซีก็มองออกได้แล้ว มือของเฉินชางมั่นคงยืนหยัดยาวนาน มือที่ถือคีมสำหรับจับเข็มเย็บแผลไม่ไหวติงสักนิด แม้แต่หัวหน้าซย่าทำให้เขาตกใจ มือคู่นี้ของเขาก็ยังไม่สะทกสะท้านใดๆ

มั่นคงยืนหยัดยาวนาน!

นี่คุณสมบัติพื้นฐานที่ศัลยแพทย์จำเป็นต้องมี

แล้วการเย็บหลอดเลือดใหญ่ในลำดับต่อมา เมิ่งซีก็รู้สึกชื่มชมเช่นกัน เป็นทักษะการเย็บหลอดเลือดใหญ่ที่ดีที่สุดที่เคยเห็นมา มือทั้งสองข้างคล่องแคล่วว่องไว นิ้วมือที่ใช้เข็มเย็บแผลเย็บหลอดเลือดอย่างไหลลื่น ทักษะในการมัดปมไหมนั่น…ทุกขั้นทุกตอนเป็นไปอย่างราบรื่นเป็นพิเศษ นิ้วมือที่เรียวยาวนั้น ความถี่ของฝีเข็มที่น่าทึ่งนั้น ความซับซ้อนของมุมองศาในการปักเข็มนั้น…

“อึก!” เมิ่งซีอดกลืนน้ำลายลงท้องไปอีกอึกไม่ได้

มือคู่นี้ของเขาช่างล้ำเลิศจนดูน่ากลัวมาก!

เมื่อมองเฉินชางอีกครั้ง สายตาของเมิ่งซีจ้องมองอยู่มือทั้งสองข้างของเขาที่วางอยู่บนหน้าขาอย่างไม่ละสายตาไม่ไหน ชนิดที่เรียกว่าปล่อยวางจากความน่าทึ่งของมือทั้งสองข้างนั้นของเขาไม่ได้สักที

มือคู่นี้เป็นมือศัลยแพทย์!

เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ เมิ่งซีรู้สึกว่าภายในดวงตาของเธอมีเปลวไฟลุกโชน เปลวไฟที่เรียกว่าเปลวแห่งความปราถนา

ถูกต้อง!

นี่คือลูกศิษย์ที่ตนอยากได้!

ตนรอจนกระทั่งตนได้เจอกับลูกศิษย์ที่ใช่ที่สุด

ซย่าเกาเฟิงสูดลมหายใจเข้าลึกๆ หนึ่งที จากก็ปล่อยลมหายใจออกยาวๆ…

พ่อหนุ่มคนนี้ ยอมอ่อนข้อให้คู่แข่ง!

ถูกต้อง

แค่ปราดตาเดียวซย่าเกาเฟิงก็มองออก ตอนที่เฉินชางเย็บหลอดเลือดใหญ่ ช่วงเริ่มต้นเฉินชางเย็บได้เร็วมาก หลังจากที่คงความเร็วอยู่ได้ระยะหนึ่ง เห็นได้ชัดว่าเขาเงยหน้าขึ้นมามองเก่อฮว๋ายทีหนึ่ง แล้วทันทีหลังจากนั้นเขาก็ลดความเร็วลงอย่างชัดเจน

ถึงจะเป็นเช่นนี้ เฉินชางก็ยังนำเก่อฮว๋ายอยู่ครึ่งนาทีเต็มๆ

เก่งมากจริงๆ!

ว่าแต่ทำไมพ่อหนุ่มคนนี้จะต้องชะงักเล็กน้อยตอนเริ่มแข่งขันด้วยนะ

หรือว่าจะจงใจต่อให้เก่อฮว๋ายก่อน

เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ ซย่าเกาเฟิงอดถามไม่ได้ว่า “พ่อหนุ่ม ทำไมตอนเริ่มคุณถึงได้หยุดชะงักครู่หนึ่งล่ะ”

เฉินชางชะงัก!

ถุย! คุณมันพวกตาเฒ่าเจ้าเล่ห์ยังกล้าถามอีก

คุยกันดิบดีว่าเป็นการแข่งขันที่ยุติธรรม…ยังจะเล่นสกปรก ใครจะไปรู้ว่าคุณจะตะโกนดังขนาดนั้น ฮะ!

คิดไปคิดมา เฉินชางเกาศีรษะ ยิ้มกระอักกระอ่วน “ผม…หัวหน้าทำให้ผมตกใจ”

ทันทีที่คำพูดนี้ออกไปจากปากเฉินชาง ทุกคนในห้องทำงานต่างส่งเสียงหัวเราะลั่น

ซย่าเกาเฟิงอายจนหน้าแดง เขาหัวเราะเก้อเขินออกมา “พ่อหนุ่ม คุณเก่งมากเลย เย็บได้รวดเร็วยอดเยี่ยมจริงๆ!”

หลังจากที่พูดจบ ซย่าเกาเฟิงก็หยิบหลอดเลือดใหญ่จำลองสำหรับฝึกทำหัตถการทั้งสองอันขึ้นมาดู

ถึงอย่างไรเสียการแข่งขันเย็บหลอดเลือดใหญ่ไม่ได้พิจารณาแค่เรื่องความเร็ว คุณภาพของการเย็บมีความสำคัญยิ่งกว่า

การเอาแต่วิ่งตามความเร็วจนหน้ามืดตาบอดไม่ใช่สิ่งที่ศัลยแพทย์ที่เติบโตแล้วพึงมีอย่างแน่นอน

ความเร็วในการเย็บแผลสร้างพื้นฐานที่มั่นคง

เขาไม่ได้ดูหลอดเลือดใหญ่จำลองของเฉินชาง แต่ดูของเก่อฮว๋ายก่อน หลังจากที่ได้ดูแล้วเขาก็หัวเราะออกมา “เสี่ยวเก่อ ใช้ได้ ความถี่ของฝีเข็มในการเย็บครั้งนี้พัฒนาขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เก่งมากจริงๆ”

เดิมทีเก่อฮว๋ายผิดหวังมากเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ถึงอย่างไรเขาก็แพ้เด็กหนุ่มที่อายุน้อยกว่าขนาดนี้ ถ้าเขายังมีความสุขได้อีกก็คงผิดปกติแล้ว!

“ขอบคุณครับหัวหน้า ผมจะพัฒนาต่อเนื่อง!”

เมื่อซย่าเกาเฟิงเห็นเช่นนั้น ก็ดูเหมือนว่าเขาจะครุ่นคิดอะไรบางอย่างอยู่ “เอาละ ทุกคนรีบไปทำงานเถอะครับ พ่อหนุ่ม คราวหน้าคุณให้ตั้งใจเย็บให้ดีกว่านี้สักหน่อยนะ”

เมื่อทุกคนได้ยินเช่นนั้น ต่างก็ถึงบางอ้อในทันใด ที่แท้สาเหตุที่เฉินชางเย็บได้ไวขนาดนั้นเพราะมองข้ามเรื่องคุณภาพไป

เก่อฮว๋ายถึงถอนหายใจออกมาด้วยโล่งใจในที่สุด

เก่อฮว๋ายเก่งมาก

มิฉะนั้นแล้ว เก่อฮว๋ายก็จะไม่สามารถพัฒนาฝีมือในการเย็บแผลให้ก้าวหน้าขึ้นอย่างต่อเนื่องได้อีกและหมดกำลังใจที่รักษาความเป็นอันดับหนึ่งอันดับหนึ่งของแผนกไว้ เรื่องเล็กๆ น้อยๆ บ่งบอกได้ถึงลักษณะนิสัยของคน

ในตอนนี้เอง ซย่าเกาเฟิงมองเมิ่งซีทีหนึ่งด้วยนัยน์แฝงความหมาย เขายื่นหลอดเลือดใหญ่จำลองให้เมิ่งซีดู “อันนี้เป็นของพ่อหนุ่ม คุณดูสิ”

เมิ่งซีพยักหน้า แล้วเธอจึงพบว่าเฉินชางเย็บหลอดเลือดใหญ่ได้ถี่มาก

คิดไม่ถึงว่าเมื่อครู่นี้หัวหน้าจะพูดเช่นนั้น แต่เมื่อเห็นปฏิกิริยาของเก่อฮว๋ายแล้ว ก็เข้าใจได้ในทันที

เก่อฮว๋ายให้ความสำคัญกับเรื่องแพ้ชนะมาก ดังนั้นเมื่อเฉินชางชนะเขาเช่นนี้ มีโอกาสสูงมากที่จะส่งผลกระทบต่องานกับสภาพจิตใจ อารมณ์ความรู้สึกเหล่านี้ไม่เอื้อต่อการเติบโตของเขา

ดังนั้นซย่าเกาเฟิงก็เลยพูดเช่นนี้

ดูเหมือนว่าซย่าเกาเฟิงจะครุ่นคิดอะไรบางอย่างอยู่ เขามองเมิ่งซีทีหนึ่ง แล้วพยักหน้า “พ่อหนุ่มคนนี้ใช้ได้เลย เมิ่งซี คุณตัดสินใจดีๆ”

หลังจากที่พูดจบ ซย่าเกาเฟิงก็ยกนิ้วโป้งให้เฉินชาง กล่าวเสียงเบาว่า “พ่อหนุ่ม ฝีมือร้ายกาจมาก!”

[ติ๊ง! PK คว้าชัยชนะ ดรอปไอเทมจากเก่อฮว๋าย…

ติ๊ง! ค่าความรู้สึกดีของเก่อฮว๋าย -5]

[ติ๊ง! ได้รับค่าความรู้สึกดีจากเมิ่งซี +5!]

เฉินชางตกตะลึง!

บ้าน่ะ?

มีแบบนี้ด้วยหรือ

ดรอปค่าความรู้สึกดีจากการประลองได้ด้วยหรือเนี่ย นี่ค่อนข้างจะ…

เฉินชางนึกเรื่องหนึ่งที่น่ากลัวขึ้นมาถึง

ในกรณีที่ตนต้องดวลฝีมือขั้นสูงกับคู่ประลองที่ร้ายกาจคนหนึ่ง แล้วดันพ่ายแพ้ฝ่ายตรงข้าม แต่จู่ๆ ก็รับ…ค่าความรู้สึกดีจากภรรยาของฝ่ายตรงข้าม +90

แบบนี้…แบบนี้จะไม่กลายเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นมากไปหน่อยหรือ

ถึงจะพ่ายแพ้ฝ่ายตรงข้ามในด้านกายภาพ!

แต่กลับโจมตีหัวใจของของคู่ดวลจนแตกเป็นเสี่ยง….

คิดดูแล้วน่าเร้าใจไม่น้อย…