หนึ่งคือมาก มากคือหนึ่ง คนมากมายเข้าใจว่าจิตใจให้กำเนิดทุกสรรพสิ่ง ทุกสรรพสิ่งหวนคืนสู่หนึ่ง ฟ้าใหญ่ดินใหญ่ มีเพียงจิตใจที่ใหญ่ที่สุด! ไม่เคยมีใครใคร่ครวญในมุมง่ายๆ แบบนี้มาก่อน

ฟางเจิ้งพูดในวันนี้ ทุกคนเหมือนเห็นทางสว่าง พลันเข้าใจแจ่มแจ้ง!

เหมือนกับตัวพวกเขาเอง ทำไมถึงมีความทุกข์? ปากบอกละได้ แต่ความจริงละได้จริงๆ เหรอ? ถ้าละได้จริงๆ ทำไมถึงมีการโต้วาทีธรรมะตัดสินแพ้ชนะ ไม่ใช่การส่งเสริมกันหรือแลกเปลี่ยนความคิดกันอย่างจริงใจ? ทุกคนยิ่งคิดยิ่งละอายใจ เมื่อมองฟางเจิ้งอีกครั้ง ตั้งแต่เริ่มจนถึงตอนนี้เขาไม่เคยแก่งแย่งใครเลย สุดท้ายก็ถูกผลักให้ขึ้นเวที ทุกคนมองแววตาบริสุทธิ์และรอยยิ้มเจิดจรัสของฟางเจิ้งแล้วต่างรู้สึกละอายใจในตัวเองเล็กน้อย

อี้หังตะลึงค้างอยู่กับที่ เดิมทีคิดว่าฟางเจิ้งเป็นคนลวงโลก ตอนนี้ดูๆ แล้วอีกฝ่ายไม่ใช่คนลวงโลก แต่เป็นนักบวชอย่างแท้จริง! เป็นผู้มีปัญญาที่แท้จริง!

อี้หังอดใจไม่ไหวถามขึ้น “เจ้าอาวาสฟางเจิ้ง ในเมื่อท่านตระหนักรู้ได้แบบนี้ ทำไมเมื่อครู่ถึงไม่โต้วาทีกัน?”

ฟางเจิ้งไม่ยอมบอกแน่ว่าไม่มีความรู้เลยสู้ไม่ได้ แต่ทำเป็นไม่รู้อีโหน่อิเหน่เพื่อตบตา ยิ้มตอบไปว่า “โต้วาทีคือไม่โต้วาที ไม่โต้วาทีคือโต้วาที”

ทุกคนงงงวย คิดอยู่นานก็ไม่เข้าใจว่าเขาหมายความว่าอย่างไร สุดท้ายแต่ละคนต่างมีคำอธิบายของตัวเอง ก่อนจะรู้สึกว่าฟางเจิ้งลึกลับมากขึ้นเรื่อยๆ ก่อนนี้ต้นกกข้ามฟาก ตอนนี้บรรยายเกี่ยวกับคัมภีร์ ท่าทางไม่ธรรมดา ใครจะกล้าดูถูกเขา?

ทว่าอี้หังก็ยังไม่พอใจ แต่กลับไม่กล้ายั่วยุฟางเจิ้งอีก ถึงกระนั้นเขาก็ได้ความคิดหนึ่ง บอกว่า “เจ้าอาวาสฟางเจิ้ง คำวิจารณ์เมื่อครู่เหมือนกับได้ราดน้ำมนต์เลย เป็นประโยชน์แก่อาตมามากทีเดียว โดยเฉพาะที่เจ้าอาวาสตระหนักรู้จากฟ้าดินและทุกสรรพสิ่ง ไม่ใช่ตำราคัมภีร์โบราณ มันทำให้อาตมาเข้าใจทันที ขอให้เจ้าอาวาสฟางเจิ้งถ่ายทอดให้มากกว่านี้ด้วย”

อี้หังนำร่องแล้ว ทุกคนจึงได้สติกลับมา และพากันส่งเสียง

“เจ้าอาวาสฟางเจิ้งถ่ายทอดต่อด้วย”

“เจ้าอาวาสฟางเจิ้ง เมื่อกี้พูดสั้นไป ไม่ถึงใจเลย ขอยาวๆ หน่อยเถอะ”

“เจ้าอาวาสฟางเจิ้ง ที่ท่านพูดเมื่อกี้ดีมากเลย พวกเราอยากฟังมากกว่านี้อีก!”

……

ฟางเจิ้งเห็นทุกคนตะโกนแบบนี้ก็แทบจะร้องไห้ ให้พูดมากกว่านี้? เมื่อครู่เขาเล่าไปหมดเปลือกแล้ว คิดว่าการตระหนักรู้เข้าฌานเป็นเรื่องง่ายจริงๆ รึไง! เขาอยู่บนเขานานขนาดนั้นยังตระหนักได้เล็กน้อย เมื่อครู่เล่ามาหมดแล้ว ตอนนี้จะให้เล่าอะไรอีก?

ดังนั้นฟางเจิ้งเลยตอบไปว่า “ทุกท่าน นี่ก็ใช้เวลานานแล้ว ดวงอาทิตย์ใกล้จะลับภูเขา ถ้าเล่าต่อไปทุกคนจะหิวแย่”

“คนโบราณกล่าวไว้ว่า ยามเช้าได้ฟังเต๋า ยามเย็นตายก็ไม่เป็นไร! วันนี้ได้ฟังเต๋า ท้องหิวจะแค่ไหนกัน?”

“ใช่ เจ้าอาวาสฟางเจิ้ง ไม่ต้องเกรงใจ บรรยายต่อเถอะ”

“เจ้าอาวาสฟางเจิ้ง ไม่ต้องกังวลว่าพวกเราจะหิวหรอก มีบรรยายธรรมแล้วไม่กินข้าวได้!”

“ใช่ๆๆ…”

ฟางเจิ้งได้ยินแบบนั้นก็อยากจะร้องไห้จริงๆ คิดในใจว่า ‘พวกนายว่ายามเช้าฟังเต๋า ยามเย็นตายก็ไม่เป็นไร ก็แค่พูดนั่นแหละ แต่ถ้าให้พูดต่อฉันน่ะตายจริงๆ แน่ ไม่มีอะไรเลยจะให้พูดอะไร? แล้วก็นะ ใครเกรงใจพวกนายกัน? พวกนายไม่คิดจะเกรงใจให้อาตมาไปกินข้าว นอนหลับ แล้วพรุ่งนี้รีบแวบกลับไปบ้างรึไง?’

ตอนนี้เอง หลวงจีนหงเหยียนกล่าว “เจ้าอาวาสฟางเจิ้ง บรรยายต่อเถอะ”

หลวงจีนไป๋อวิ๋นเสริมเช่นกัน “เจ้าอาวาสฟางเจิ้ง ทุกคนจริงใจกันขนาดนี้ เชิญบรรยายเถอะ อาตมาก็อยากฟังเหมือนกัน ท่านตระหนักรู้พระธรรมจากธรรมชาติ เมื่อครู่ที่ท่านบรรยายมาจริงๆ แล้วเหมือนกับที่อาตมาคิดเลย”

ทุกคนได้ยินแบบนั้นพลันตกใจสะดุ้ง ฟางเจิ้งคิดเหมือนกับหลวงจีนไป๋อวิ๋น! นี่เท่ากับว่าหลวงจีนไป๋อวิ๋นก็มั่นใจในความเข้าใจของเขา นี่มันสุดยอดไปเลย! ทุกคนเลยยิ่งอยากฟังต่อ!

ในใจฟางเจิ้งเต็มไปด้วยความขมขื่น ตอนนี้พระอาจารย์ชั้นเอกสองท่านพูดแบบนี้ เขาจึงเหมือนกลายเป็นเป็ดถูกวางไว้บนหิ้ง! ขี่อยู่บนหลังเสือลงมาไม่ได้แล้ว

อี้หังเห็นพระอาจารย์ชั้นเอกสองท่านเอ่ยแบบนี้ก็วางใจ คิดในใจว่า ‘เป็นคนลวงโลกไหม จะได้รู้ตอนนี้ล่ะ! ถ้าเป็นพระอาจารย์ ฉันจะยอมรับผิดและขอขมาเขา ถ้าเป็นพระปลอม แดนพุทธก็ไม่ควรมีนักบวชน่ารังเกียจแบบนี้ใช่ไหม?!’

ชั่วขณะที่ฟางเจิ้งกำลังปวดหัวหนักอยู่นั้น

“ติ๊ง! ให้ช่วยอะไรไหม?” ระบบถามขึ้น

“อย่ากวนน่า นายจะช่วยอะไรได้? ช่วยฉันบรรยายธรรมได้ไหม?” ฟางเจิ้งหัวเราะแห้งๆ ในใจ

“ก่อนหน้านี้นายสั่งสมบุญกุศลมาไม่น้อย รู้ไหมอะไรคือบุญกุศล? บุญกุศลส่งผลถึงดวงชะตา ช่วยเปลี่ยนเรื่องร้ายให้เป็นเรื่องดีได้ นี่คือส่วนหนึ่งของบุญกุศล ตอนนี้นายมีปัญหา ว่ายังไง ถ้านายให้บุญกุศลฉันตอนนี้ ฉันจะช่วยนายให้พ้นเคราะห์หนนี้ไป แน่นอนว่านายได้รับการประเมินระดับดีมาสองครั้งติดกัน จะได้จับรางวัลหนึ่งครั้งด้วย แต่ว่าโอกาสที่จะได้ของที่มีประโยชน์นั้น…” ระบบกล่าว

“ฉันได้จับรางวัลด้วยเหรอ?” ฟางเจิ้งตะลึงงัน จากนั้นพลันคิดได้ว่าตนได้จับรางวัลจริงๆ!

“ใช่ ยืนยันการจับรางวัลไหม?” ระบบถาม

“จับ! บุญกุศลเป็นของดี แต่กว่าจะสะสมบุญกุศลได้แค่นี้คิดว่าง่ายรึไง? ฉันยังต้องใช้มันสึกอีก ถ้านายหักไปแล้วฉันจะสึกยังไงล่ะ?!” ฟางเจิ้งกล่าว

“นายยืนยันไหม?” ระบบถาม

“ยืนยันแล้วก็นอนยันด้วย! จับ!” ฟางเจิ้งตอบ

“ติ๊ง! ยินดีด้วย นายได้รับบัตรประสบการณ์ลิ้นบัวเบ่งบาน!” ระบบพูดจบก็ชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นพูดเสริม “นายนี่โชคดีจัง!”

ฟางเจิ้งถามด้วยความไม่เข้าใจเล็กน้อย “นั่นอะไร? มีประโยชน์อะไรเหรอ?”

“ลิ้นบัวเบ่งบาน ปฐพีหลั่งน้ำแร่ทอง นี่คือความสามารถที่มีเฉพาะพระโพธิสัตว์ หลักสำคัญที่กล่าวถึงคือดอกบัวเบ่งบาน แผ่นดินมีน้ำแร่ทองคำไหลทะลัก บัตรลิ้นบัวเบ่งบานจะมอบความสามารถอย่างหนึ่งให้นาย ทว่าบัตรนี้เป็นระดับต่ำสุด ใช้ได้เพียงสิบสองชั่วโมง เมื่อใช้แล้วสิบสองชั่วโมงจากนั้นจะหายไป ความสามารถนี้จะหายไปด้วย แต่ก็ช่วยนายพ้นเคราะห์ครั้งนี้ไปได้สบายๆ” ระบบกล่าว

ฟางเจิ้งได้ยินดังนั้นพลันดีใจใหญ่ แม้บัตรนี่จะล้ำค่า แต่จะมีค่ากว่าหน้าแตกเหรอ? อีกอย่างยังต้องสร้างชื่อเสียงและหน้าตาด้วย!

มีบัตรนี้อยู่ ฟางเจิ้งก็นับว่ามีความมั่นใจแล้ว เขาประนมสองมือแสดงความเคารพทุกคน “อมิตาพุทธ ในเมื่อทุกท่านอยากให้อาตมาแสดงฝีมืออันต่ำต้อย อาตมาจะบรรยายสักเล็กน้อยแล้วกัน”

ทุกคนได้ยินแล้วดีใจใหญ่กันทันควัน พากันนั่งอย่างว่าง่ายเหมือนกับเด็กอนุบาลเข้าเรียน สีหน้าเคร่งขรึมจริงจัง มองจนฟางเจิ้งเขินอาย ท่าทีแบบนี้ดีกว่าตอนที่เขาฟังธรรมเยอะมาก!

อี้หังเห็นดังนั้นจึงถอนหายใจโล่งอก เดิมทีคิดว่าจะบีบฟางเจิ้งอีกหน่อย ตอนนี้ไม่ต้องแล้ว จึงกลับมานั่งข้างหงจิน

หงจินพูดเบาๆ “อี้หัง เอ็งจงใจใช่ไหม?”

อี้หังตอบ “ครับ ต้นกกข้ามฟากจับต้องไม่ได้ ใช้มายากลก็ทำได้ ผมเคยคุยกับเขามาบ้างแล้ว ไม่เหมือนพระอาจารย์ ลองหยั่งเชิงเขาก่อน ถ้ามีธรรมะจริงๆ ผมจะรับผิดและขอขมาเขาเอง ถ้าเป็นคนลวงโลกก็ได้เปิดโปงไปด้วยเลย” ขณะเดียวกันยังพูดเสริมในใจ ‘ถือว่าแก้แค้นที่เขาทำตัวเด่นว่าฉันด้วย’

อี้หังลืมไปหมดแล้วว่าที่ฟางเจิ้งเด่นกว่าเขา นั่นเพราะเขาบีบคั้นกดดันฟางเจิ้งต่างหาก…

ฟางเจิ้งนั่งขัดสมาธิเรียบร้อย ตาดูจมูก จมูกดูใจ มีท่าทีเคร่งขรึมทรงภูมิ

ทุกคนเห็นแบบนั้นก็กลั้นใจรวมสมาธิ รอฟังพระธรรม

มีเพียงอี้หังที่แบ่งความสนใจไปเล็กน้อย เขายังไม่เชื่อว่าฟางเจิ้งจะพูดในสิ่งที่น่าตกใจได้อีกครั้ง ถึงยังไงก็มีอายุเท่านี้เอง

ส่วนฟางเจิ้งเลือกใช้บัตรลิ้นบัวเบ่งบานอย่างเงียบเชียบ!

………………………