ตอนที่ 187 จดหมายจากหุบเขาหมอ

ศิษย์หลานข้า ระวังอย่าหลงผิด

“สหายทุกท่านได้รับข้อสอบและอันดับของตนเองแล้วใช่หรือไม่ อาจารย์อวิ๋นบอกว่า ตั้งแต่เดือนหน้าเป็นต้นไป ห้าสิบอับดับแรกต้องสลับกันไปเป็นอาจารย์ถ่ายทอดวิชาที่สำนักเทียนซือ ถึงแม้ข้าจะสอบไม่ผ่าน แต่ข้าอยู่ในอันดับยี่สิบแปด…”

“เฮ้อ อย่าพูดถึงเลย! เจ้าอันดับยี่สิบแปดอยู่ในกลุ่มที่สอง ข้าอยู่ในอันดับยี่สิบห้าพอดี ตกเป็นกลุ่มแรกที่ต้องไปเป็นอาจารย์ที่สำนักเทียนซือ!”

“ทำอย่างไรดี ทุกคนช่วยกันคิดหาวิธีเร็วเข้า! ถ่ายทอดวิชาไม่เท่าไหร่ แต่มีอาจารย์อวิ๋นอยู่ด้วย นางคงไม่ออกข้อสอบมาให้พวกเราทำทั้งวันใช่หรือไม่”

“สหายอย่าพูดไป พูดแล้วก็คือมี! แค่คิดก็กลัวแล้ว!”

“พวกท่านว่าหากข้าลาป่วย จะไม่ไปได้หรือไม่”

“พูดเหลวไหลอะไรกัน ท่านลืมไปแล้วหรือว่าอาจารย์ฝึกฝนด้านการรักษา ท่านลองถามนายท่านตระกูลอวี๋ในเมืองตะวันตก ตอนนั้นเขาต้องคำสาปสาวหวาเกือบตาย อาจารย์อวิ๋นก็ไม่เห็นให้เขาลาป่วยได้ ครานี้ก็ยังคงต้องเข้าร่วมการสอบเหมือนกัน!”

“จริงสิ นายท่านอวี๋ ครานี้ท่านสอบได้อันดับที่เท่าไหร่”

“ฮ่าๆๆๆ …ข้าสอบได้อันดับห้าสิบเอ็ด ไม่ติดห้าสิบอันดับแรกพอดี พวกท่านอย่าลืมทำข้อสอบแทนข้าให้มากนะ! ฮ่าๆๆ …”

กลุ่มส่งสารเงียบไปในทันที นาทีต่อมาเสียงก่นด่าดังขึ้นมาแทนที่

“เลว!”

“ทราม!”

“เดรัจฉาน!”

“ไร้ความเป็นมนุษย์…”

เมื่อระบายจนเป็นที่พอใจแล้ว ทุกคนถึงนึกจุดประสงค์ของตนเองขึ้นมาได้ ก่อนจะหารือกันต่อ

“ทุกคนรีบคิดเร็วเข้า! พวกเราอายุมากขนาดนี้แล้ว ไม่อยากใช้ชีวิตบั้นปลายด้วยการทำข้อสอบ”

“ใช่ ตัวต้นเหตุอย่างเจ้าสำนักสวีล่ะ? ยังไม่ออกมารับโทษอีก! เป็นเพราะเขาหักหลังพวกเรา ไม่ออกมาอธิบาย สำนักเทียนอินของข้าไม่ยอมแน่!”

“เขากล้าออกเสียงที่ไหนกัน หลังจากสอบเสร็จวันนั้นเขาก็รีบเผ่นหนีไปแล้ว ข้าหาก็หาไม่เจอ! ชั่วร้ายเสียจริง!”

“อันที่จริงแล้วทุกคนก็อย่ามองโลกในแง่ร้ายขนาดนั้น! อาจารย์แค่บอกให้พวกเราถ่ายทอดวิชา ไม่ได้บอกว่าต่อไปก็ต้องทำข้อสอบ! พวกเราอย่าตื่นตระหนกกันไปเอง”

“แต่จากนิสัยของนาง นางจะไม่ให้พวกเราทำข้อสอบจริงหรือ นางไม่ได้บอกเอง ข้าไม่อยากจะเชื่อ!”

“หรือไม่ พวกเราบอกกับนางโดยตรง เป็นอาจารย์ได้ ทำข้อสอบไม่ได้ หากยังคงสามวันสอบครั้งหนึ่ง พวกเราจะไม่สอน!”

“อืม ข้าเห็นด้วย!”

“ข้าก็เช่นกัน!”

“พวกข้าด้วย!”

“เช่นกัน!”

“แต่ว่า…ใครจะไปพูด”

“…” กลุ่มส่งสารเงียบสงัดขึ้นอีกครั้ง แต่ครานี้นานกว่าคราที่แล้วเล็กน้อย

สักพัก

“ข้ารู้สึกว่าเรื่องนี้ต้องเป็นเจ้าสำนักสวี พวกเขาสนิทกัน!”

“ใช่ คนที่ติดต่ออาจารย์ปกติก็เป็นเขา”

“ความสามารถของเจ้าสำนักสวี ข้าไว้วางใจ!”

“เจ้าสำนักสวีน่านับถือเป็นอย่างยิ่ง จะต้องสำเร็จอย่างแน่นอน!”

“ใช่ๆๆ หากเป็นเช่นนั้นก็พูดกันวันนี้เลย!”

เจ้าสำนักสวีที่แสร้งว่าไม่อยู่ “…” MMP!

เมื่อกี้ใครเป็นคนด่าเขา ยังบอกว่าจะมาจัดการเขา! พวกท่านเปลี่ยนเร็วไปหรือไม่!

“ได้ ตกลงกันตามนี้! ใครรู้ว่าเจ้าสำนักสวีอยู่ที่ใด บอกเขาหน่อย”

“สำนักเย่าหลินของข้าไม่ไกลจากสำนักเทียนซือ หรือไม่ข้าไปบอกเขา?”

“ดี ต้องให้เขาโน้มน้าวอาจารย์ให้ได้!”

“ไปอย่างเงียบๆ อย่าให้เขาหนีไปได้!”

เจ้าสำนักสวี “…” ข้ายังไม่ได้รับปากนะ!

Σ(°△°|||)︴

ในขณะที่ทุกคนเริ่มหารือกันว่าจะดักล้อมเจ้าสำนักสวีอย่างไร ทันใดนั้นเสียงหญิงสาวที่คุ้นเคยเสียงหนึ่งดังขึ้นกลางกลุ่ม!

“ไม่จำเป็น! ข้าได้ยินแล้ว!”

ทุกคน “…”

เจ้าสำนักสวี “…”

(๑ŐдŐ)b

เงียบสงัดในทันใด…

อวิ๋นเจี่ยวถอนหายใจออกมาทีหนึ่ง ก่อนจะนวดขมับเบาๆ พวกท่านกลัวการสอบขนาดนี้? ทั้งที่ง่ายขนาดนั้น อีกทั้งยังต้องบอกอีกกี่รอบ พวกท่านถึงจะจำได้ว่านางก็อยู่ในกลุ่ม!

“วางใจเถอะ อาจารย์ห้าสิบอันดับแรกไม่ต้องสอบครั้งที่สองชั่วคราว แต่มีข้อบังคับเรื่องการเรียนของลูกศิษย์ที่สอบ”

ไม่ต้องทำข้อสอบ!

ทุกคนต่างตกตะลึง ทันใดนั้นคนในกลุ่มต่างถอนหายใจด้วยความโล่งอก ดีจังเลย!

“แต่ว่า…” อวิ๋นเจี่ยวนึกอะไรขึ้นได้บางอย่าง ก่อนจะพูดเสริม “ต่อไปลูกศิษย์ที่พวกท่านสอนนั้นต้องทำข้อสอบ ซึ่งหมายความว่า พวกท่านถึงแม้จะไม่ต้องสอบ แต่ต้องออกข้อสอบให้พวกเขา!”

“…” ฮะ?

ทุกคนต่างเงียบ!

เมื่อกี้พวกเขาได้ยินอะไร…ออก! ข้อ! สอบ!

พวกเขา…ออกข้อสอบให้คนอื่น!

(⊙_⊙)

นาทีถัดมา เสียงโหวกเหวกดังขึ้นทันที!

“เฮ้ย…ข้าไม่ได้หูฝาดใช่หรือไม่?!”

“อาจารย์อวิ๋น พูดจริงหรือ?!”

“พวกข้าออกข้อสอบได้จริงหรือ”

“อืม” อวิ๋นเจี่ยวตอบ “จริง!”

สักพัก…

“อาจารย์อวิ๋น เมื่อไหร่เปิดเรียน วันนี้ไปสำนักเทียนซือได้เลยหรือไม่ พวกเราสามารถเตรียมตัวก่อนได้!”

“อาจารย์วางใจ พวกข้าจะสอนลูกศิษย์จากทุกสำนักอย่างสุดความสามารถ!”

“ใช่อาจารย์ ข้าเป็นเจ้าสำนักมาหลายสิบปี เรื่องการสอนพวกข้าชำนาญ!”

“ทุกท่าน ข้าอยู่ไกล คงต้องขอตัวไปสำนักเทียนซือออกข้อ…เตรียมการสอนก่อน!”

“ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น ข้าออกก่อนหนึ่งชุด!”

“ข้าด้วย…”

ฮ่าๆๆๆ …ลำบากมาเป็นเวลานานขนาดนี้ ในที่สุดก็มาถึงวันที่พลิกตัวได้แล้ว! เหล่าสหาย! เอาให้เหล่าลูกศิษย์สอบตายไปเลย!

┗|`O′|┛

อวิ๋นเจี่ยว “…”

เมื่อเห็นยันต์ส่งสารที่คึกคักอย่างมากค่อยๆ ดับลงไป ไม่รู้ว่าทุกคนรีบไปออกข้อสอบที่สำนักเทียนซือจริงหรือไม่ อวิ๋นเจี่ยวไม่ได้สนใจมาก น้อยครั้งที่นางจะเห็นเหล่าเจ้าสำนักจะมีความกระตือรือร้นในการเรียนและการสอนอย่างนี้

นางหันกลับไปสนใจข่ายพลังของตนเอง ก่อนจะเห็นไป๋อวี้เดินเข้ามา มองดูข่ายพลังที่ใกล้จะเป็นรูปร่างตรงหน้าของนาง ผงะไปเล็กน้อย “เจ้าหนู เจ้ามาวางข่ายพลังหน้าประตูห้องครัวทำไมกัน ใช้ทำอะไร!”

“ใช้ปอกเปลือก!” อวิ๋นเจี่ยวชี้ไปยังกองผักอย่างมัน ไชเท้าและหน่อไม้ ก่อนจะพูดขึ้นว่า “อิ้งหลุนทำผักดองของอาจารย์ปู่พัง ข้ารับปากเขาว่าจะทำคืนให้ ปอกเปลือกยุ่งยากเกินไป ข้าจึงปรับข่ายพลังลมเล็กน้อย!”

พูดจบ นางก็กระตุ้นข่ายพลัง จากนั้นโยนหน่อไม้ด้านข้างเข้าไป เห็นเพียงแต่ลมขนาดเล็กเกิดขึ้นในข่ายพลัง ทันใดนั้นเปลือกของหน่อไม้ก็ถูกปอกจนหมดเกลี้ยง อีกทั้งยังหั่นเป็นชิ้นเล็กพอดี ก่อนจะลอยเข้าไปยังขวดด้านข้าง

ไป๋อวี้ “…” มองดูกองผักด้านข้าง จากนั้นมองไปยังข่ายพลังลมขนาดเล็กบนพื้น ทันใดนั้นไม่รู้ควรจะเสียดสีข่ายพลัง หรือปริมาณการกินของอาจารย์ปู่!

ไม่ถึงห้านาที อวิ๋นเจี่ยวก็ปอกผักไปได้โถหนึ่งแล้ว นางหยิบโถอีกใบมาเปลี่ยน ก่อนจะเงยหน้ามองคนตรงหน้า “ท่านมีเรื่องอะไร”

ไป๋อวี้ถึงได้นึกถึงจุดประสงค์ของตนเองได้ เขายื่นจดหมายในมือออกไป “สารของเจ้า เหมือนส่งมาจากทางใต้”

“อ่อ ขอบคุณ!” อวิ๋นเจี่ยวเช็ดมือพร้อมรับจดหมายมา นางกดนิ้วลงไปยังผนึกมุมขวาล่างของกระดาษจดหมาย ตัวหนังสือที่อยู่ด้านบนถึงได้เผยออกมา นางกวาดตามองเนื้อหาด้านใน ก่อนจะวางจดหมายในมือลง

“เจ้าหนู มีเรื่องอะไร” ไป๋อวี้ถามอย่างสงสัย

“ไม่มีอะไร…” อวิ๋นเจี่ยวยังคงปอกเปลือกไชเท้าต่อ “ชางหยางจากหุบเขาหมอเชิญให้ข้าไปดูอาการคนป่วย!”

“หุบเขาหมอ…เชิญเจ้าไป?!” ชายแก่ปากกระตุก “สมองเขายังดีอยู่หรือไม่”

ตระกูลชางเป็นตระกูลหมอรักษาพลังลมปราณไม่ใช่หรือ หมอรักษาพลังลมปราณของสำนักเทียนซือล้วนมาจากหุบเขาหมอ! อีกทั้งชางหยางยังเป็นนายท่านตระกูลชาง นายท่านของหุบเขาหมอ มาเชิญให้เจ้าหนูไปรักษา?! ช่างเป็นการกระทำที่ทำลายชื่อเสียงของตนเอง