ตอนที่ 116: หมูป่าเขา
แสงยามเช้าสาดส่องเข้ามาอย่างสดใส เจี้ยนเฉินที่บ่มเพาะด้วยพลังงานของโลกในที่สุดก็ลืมตาขึ้น เขารู้สึกว่าพลังเซียนที่อยู่ภายในของเขามีขนาดเท่าเดิมแทนที่จะเพิ่มขึ้น เจี้ยนเฉินทำได้เพียงถอนหายใจ แม้ว่าระดับการบ่มเพาะพลังงานของโลกในปัจจุบันของเขาจะเร็วมาก แต่ทุกครั้งก่อนที่เขาจะบ่มเพาะพลังงานของโลกเขาจะนำไปเก็บไว้ที่ตันเถียนก่อนเสมอ ดังนั้นความเร็วในการบ่มเพาะของเขาจึงอาจถูกละเลยไป
เจี้ยนเฉินเดินออกมาจากกระโจมของเขาและสูดอากาศอย่างสดชื่นพร้อมกับเงยหน้ามองต้นไม้ด้านบน เวลาในตอนเช้ายังคงเต็มไปด้วยหมอกและมันก็ค่อนข้างขมุกขมัวแต่ยังคงเห็นดวงอาทิตย์ลอยขึ้นในทิศตะวันออก
เมื่อได้ยินเสียงกรนเบา ๆ จากกระโจมอื่น ๆ เจี้ยนเฉินก็ส่ายหัวด้วยความผิดหวัง เจี้ยนเฉินสามารถตรวจสอบได้ว่าทหารรับจ้างทุกคนหลับสนิทอย่างมากและไม่มีแม้แต่คนเดียวที่จะทำการบ่มเพาะ
ไฮ้ ทำไมขี้เกียจเช่นนี้ พวกเขาคิดทำอย่างนี้มันจะแข็งแกร่งได้ ? บนเส้นทางการบ่มเพาะ พรสวรรค์ก็มีส่วนสำคัญแต่การฝึกฝนให้หนักขึ้นก็มีความสำคัญมากพอ ๆ กันกับพรสวรรค์ แม้ว่าพวกเขาจะมีพรสวรรค์ แต่มันก็ไม่อาจเก่งได้หากว่าเขาไม่ฝึกฝนให้หนัก พวกเขาไม่มีสิ่งเหล่านั้นแต่พวกเขาก็ยังไม่ยอมฝึกฝนให้หนัก เจี้ยนเฉินคิดกับตัวเอง
หลังจากเดินเข้าไปในป่าเพื่อหากิ่งไม้ เจี้ยนเฉินก็เริ่มก่อไฟและทำกองไฟอย่างเรียบง่ายเพื่อทำอาหารจากเนื้อสัตว์อสูรสองสามชิ้น
บางทีมันอาจเป็นเพราะความเคลื่อนไหวจากภายนอกที่ปลุกเคนดัล ทำให้เขายื่นหน้าออกมาจากกระโจมของเขาและมองไปที่เจี้ยนเฉินผู้ที่กำลังย่างเนื้อ เจียนเฉิน ทำไมเจ้าตื่นแต่เช้าเลย ? เขาหัวเราะ
เจี้ยนเฉินพูดอย่างมีเหตุผลออกไปว่า ฟ้ากำลังสว่างขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้นมันจึงไม่ได้เช้าสักเท่าไรนัก
หัวหน้าเคนดัลเงยหน้ามองที่ท้องฟ้าที่สว่างไสวและหัวเราะโดยไม่พูดอะไรอีก เขาเดินออกจากกระโจมของเขาและนั่งลงข้าง ๆ เจี้ยนเฉินซึ่งก่อกองไฟไว้
คนอื่น ๆ ก็เป็นเหมือนกับเคนดัลที่เดินออกมาหลังจากได้ยินเสียงของพวกเขา เมื่อเดินออกมาจากกระโจมและเก็บข้าวของของพวกเขาอย่างฉับไวในเข็มขัดมิติและค่อย ๆ ไปรวมตัวรอบกองไฟ แม้กระทั่งหูป๋อก็เดินเข้ามาใกล้กองไฟพร้อมกับน้ำเต้าและยังคงดื่มมันอยู่
เมื่อเห็นทุกคนล้อมรอบกองไฟ เจี้ยนเฉินก็มองไปที่เคนดัลและพูดว่า หัวหน้าเคนดัล ท่านวางแผนที่จะทำอย่างไรต่อไป ?
สิ่งต่อไปที่เราควรทำคือพักอยู่แถวนี้สักพักและค่อยไปล่าสัตว์อสูรระดับ 1 และ 2 ลองทำอย่างนี้สักสองสามวันในเทือกเขาสัตว์อสูรเพื่อที่เราจะได้กำไรมากขึ้นก่อนที่จะกลับ เคนดัลพูดอย่างชัดเจน
เมื่อได้ยินอย่างนั้นเจี้ยนเฉินก็เงียบอยู่สักครู่หนึ่งก่อนที่จะเปิดปากถาม หัวหน้าเคนดัล ข้ามีอะไรจะแนะนำ ท่านอยากจะฟังหรือไม่ ?
เคนดัลยังคงจ้องมองไปที่เจี้ยนเฉินพร้อมกับหัวเราะและพูดว่า เจี้ยนเฉิน ไม่ว่าเจ้าจะแนะนำอะไรตามให้พูดออกมา ไม่จำเป็นต้องย้ำคิดย้ำทำในสิ่งที่เจ้ากำลังพูด แม้ว่าเจ้าพึ่งจะได้เข้าร่วมกลุ่มทหารรับจ้างอัคนี เจ้าก็ยังคงเป็นพี่น้องกับเรา ดังนั้นพูดในสิ่งที่อยากจะพูดเถอะ
ข้าขอแนะนำให้เราเข้าไปลึกอีกสักหน่อยและฆ่าสัตว์อสูรระดับ 3 เลย เจี้ยนเฉินมองไปที่เคนดัลอย่างหนักแน่น
อะไรนะ! เจ้าจะฆ่าสัตว์อสูรระดับ 3 ? เจี้ยนเฉิน เจ้าบ้าไปแล้ว ! แค่สัตว์อสูรระดับ 2 ขั้นสุดยอดก็ยากที่จะฆ่าแล้ว ปล่อยสัตว์อสูรระดับ 3 ไปเลย เสี่ยวเต๋าร้องอุทานด้วยความตกใจ แม้ว่าทหารรับจ้างอัคนีตอนนี้จะมีดีรี่ที่เป็นเซียนระดับสูงขั้นกลางคนเดียว เจี้ยนเฉินในสายตาของเสี่ยวเต๋าการฆ่าสัตว์อสูรระดับ 3 ก็เป็นเรื่องยากมากแล้ว
เมื่อได้ยินข้อเสนอของเจี้ยนเฉิน คิ้วของทุกคนก็ขมวดเข้าหากัน ทหารรับจ้างอัคนีนั้นมีเซียนผู้เชี่ยวชาญขั้นต้น 1 คน เซียนระดับสูง 6 คน แต่สัตว์อสูรนั้นมีสัญชาตญาณที่เหนือกว่ามนุษย์ซึ่งมีระดับความแข็งแกร่งเท่ากัน หากคนที่ไม่มีทักษะต่อสู้หรือธาตุที่ข่มมัน มันก็เป็นไปไม่ได้เลยที่จะจัดการสัตว์อสูรในระดับเดียวกับพวกเขา แม้ว่าจะอยู่ในบริเวณรอบนอก พวกเขาก็ยังต้องจ่ายออกไปอย่างมหาศาลกว่าเจอสัตว์อสูรระดับ 3 และมันยังเป็นการฆ่าที่ยากลำบากมาก อย่างไรก็ตามหากว่าเขาเจอสัตว์อสูรที่มีระดับเหนือกว่านั้น พวกเขาก็ไม่มีโอกาสแม้แต่จะหนี
หลังจากการฆ่าสัตว์อสูรระดับ 2 ขั้นสูงสุด หัวหน้าเคนดัลและฉางหนิงเฟยก็ได้รับบาดเจ็บ หากมันไม่ได้เป็นเพราะการช่วยเหลือของเจี้ยนเฉินก็คงเป็นไปไม่ได้สำหรับพวกเขาที่จะจับและฆ่าสัตว์อสูร
ดังนั้นด้วยเหตุผลเหล่านี้ ข้อเสนอของเจี้ยนเฉินในการฆ่าสัตว์อสูรระดับ 3 ก็เหมือนกับเป็นการไปฆ่าตัวตาย
คาโบลด์มองไปที่เจี้ยนเฉินด้วยดวงตาที่เป็นประกาย เจี้ยนเฉิน เจ้าแนะนำให้ไปฆ่าสัตว์อสูรระดับ 3 ข้าคิดว่าเจ้ามีความสามารถพอที่จะฆ่ามันได้ ?
เมื่อได้ยินสิ่งที่คาโบลด์พูด เจี้ยนเฉินก็พยักหน้าอย่างช้า ๆ ตราบใดที่ไม่เจอสัตว์ระดับ 3 พร้อมกัน 3 ตัว ข้าสามารถบอกได้เลยว่าเราจะปลอดภัยอย่างแน่นอน
สายตาของทุกคนเบิกกว้างด้วยความประหลาดใจ ความสงสัยและความไม่เชื่ออยู่ในสายตาขณะมองไปที่เจี้ยนเฉิน
เจี้ยนเฉิน สิ่งที่เจ้ากำลังพูด ตราบใดที่เราไม่เจอสัตว์อสูรระดับสาม 3 ตัวในเวลาเดียวกัน เราก็ยังคงไม่เป็นอะไร เคนดัลพูดพร้อมกับสูดลมหายใจ ถ้าสิ่งที่เจี้ยนเฉินพูดนั้นเป็นความจริง เคนดัลก็อยากจะพาเจี้ยนเฉินไปฆ่าสัตว์อสูรระดับ 3 แม้กระทั่งเนื้อและแกนอสูรระดับ 3 ก็ยังคงมีค่ามากกว่าระดับ 2
เจี้ยนเฉิน เจ้ามีพลังมากพอที่จะฆ่าสัตว์อสูรระดับ 3 งั้นรึ ? ดีรี่ถามอย่างสงสัย แม้ว่าเจียนเฉินจะฆ่าสัตว์อสูรระดับ 2 ขั้นสุดยอด แต่ทว่าเสือดำตัวนั้นก็ได้รับบาดเจ็บอยู่แล้ว ดังนั้นความแข็งแกร่งจึงอยู่ห่างจากสัตว์อสูรระดับ 3 มากอยู่ดี
ถูกต้อง เจี้ยนเฉิน เรื่องนี้ไม่อาจพูดมั่ว ๆ ได้ ไม่อย่างนั้นเจ้าจะต้องเอาชีวิตไปทิ้งแน่ ฉางหนิงเฟยพูดอย่างกังวล
เจี้ยนเฉินยิ้มให้กับปฏิกิริยาของทุกคนที่เกิดขึ้นหลังจากได้ยินสิ่งที่เขาแนะนำ เจี้ยนเฉินไม่ใช่ไม่พอใจพวกเขา สุดท้ายแล้วการฆ่าสัตว์อสูรระดับ 3 นั้นมันเป็นงานยากเกินไปสำหรับกลุ่มทหารรับจ้างอัคนี ไม่ว่าพวกเขาจะระมัดระวังหรือไม่ พวกเขาก็ยังคงอาจได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย
ทุกคนเชื่อใจข้าเถิด ถ้าเราไม่อาจเอาชนะสัตว์อสูรระดับ 3 ได้อย่างน้อยพวกเราก็ยังคงหนีไปได้ เจี้ยนเฉินพูดอย่างหนักแน่น
เมื่อได้ยินอย่างนั้นทุกคนต่างก็มองไปที่หัวหน้าเคนดัล เกี่ยวกับการตัดสินใจที่สำคัญเช่นนี้มันจะเป็นการดีที่สุดในการให้เคนดัลตัดสินใจขั้นสุดท้าย
เคนดัลสูดลมหายใจเข้าขณะที่มองไปทางเจี้ยนเฉิน เมื่อเห็นว่าเจี้ยนเฉินดูเหมือนจะเชื่อเคนดัลจริง ๆ เขากัดริมฝีปากของเขาและตัดสินใจในที่สุด ถ้าอย่างนั้นเราจะเชื่อในสิ่งที่เขาพูดในเวลานี้ เจี้ยนเฉิน ถ้าเจ้าเชื่อมั่นในตัวเองจริง ๆ ข้าจะให้เจ้าเป็นผู้นำกลุ่มช่วงหนึ่ง สิ่งเหล่านี้เจ้าจะเป็นคนเสนอและแนะนำ พวกเรามีปัญหาอะไรหรือไม่ ? เคนดัลพูดกับทุกคน
“ข้าไม่มีปัญหา ! “
“ไม่มีปัญหาเช่นกัน ! “
“ข้าก็ไม่มีปัญหาเช่นกัน ! “
….
การตัดสินใจของเคนดัลทำให้คนอื่น ๆ ตัดสินใจอย่างรวดเร็วโดยที่ไม่มีใครไม่เห็นด้วย ใบหน้าของเจี้ยนเฉินยิ้มกว้างอย่างมากขณะที่เขาพูดว่า ถ้าอย่างนั้น เนื่องจากทุกคนเชื่อมั่นข้า ข้าจะไม่ทำให้ใครผิดหวังแน่นอน ตอนนี้ข้าขอวางแผนสักเล็กน้อยก่อน เสียงของเจี้ยนเฉินหยุดลงอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะพูดว่า งั้นข้าจะเดินไปด้านหน้าขณะที่ทุกคนยังอยู่ในตำแหน่งเดิม หากเราเจอสัตว์อสูรระดับ 3 ให้ข้ารับหน้าก่อนขณะที่คนอื่น ๆ ล้อมมันไว้ เพื่อป้องกันให้ไม่ให้สัตว์อสูรตัวอื่นเข้ามาใกล้ แต่จำเอาไว้ว่าต้องดูแลชีวิตตัวเองก่อนตราบเท่าที่สัตว์อสูรตัวอื่นไม่มาแทรกแซงการต่อสู้ของข้า นั่นก็เพียงพอแล้ว
เมื่อพวกเขาได้ยินแผนของเจี้ยนเฉิน ทุกคนก็มองหน้ากันด้วยความสงสัย พวกเขารู้สึกอยากรู้เกี่ยวกับแผนนี้ สำหรับการให้เซียนระดับสูงขั้นกลางต่อสู้กับสัตว์อสูรระดับ 3 ด้วยตัวเอง ? แผนเช่นนี้ฟังดูน่ารังเกียจเพราะพวกเขาทุกคนต้องจริงจังเมื่อเผชิญหน้ากับสัตว์อสูรระดับ 3
หลังจากที่ทานอาหารเช้าเสร็จ ทุกคนเก็บข้าวของเสร็จแล้วมุ่งหน้าไปยังส่วนลึกของเทือกเขาสัตว์อสูร อย่างไรก็ตามครั้งนี้เจี้ยนเฉินเป็นคนจัดกลุ่มด้วยตัวเองด้วยการให้เว้นระยะห่างแต่ละคน 10 เมตร ไม่มีสมาชิกคนใดในกลุ่มที่ปล่อยจิตสังหารขณะเดินทางทำให้ดึงดูดสัตว์อสูรระดับ 1 เข้ามา แต่การเดินทางพวกเขาก็ยังเดินรุดหน้าต่อไปอย่างรวดเร็ว พวกเขาไม่ปล่อยให้เสี่ยวเต๋าหรือคนอื่น ๆ ได้ต่อสู้กับสัตว์อสูร และปล่อยให้เซียนระดับสูงเป็นผู้จัดการสัตว์อสูรระดับ 1
ในขณะที่กลุ่มยังคงเดินเข้าไปในป่า กลิ่นที่น่ารังเกียจก็ยิ่งมากขึ้นเรื่อย ๆ ขณะที่เห็นหนองน้ำเข้ามาในสายตาของพวกเขา พืชและแมลงที่เป็นพิษทุกชนิดก็ปรากฏออกมาให้เห็น บางครั้งพวกเขาก็ยังคงเห็นสัตว์อสูรออกมาจากที่ไหนสักแห่ง
บนเส้นทาง ทุกคนใส่ใจกับสภาพแวดล้อมมาก ในขณะที่เสียงสั่นสะเทือนที่ใต้ฝ่าเท้า พวกเขาจึงยิ่งระมัดระวังมากขึ้น เมื่อมาถึงที่หมายก็เห็นสัตว์อสูรสองตัวต่อสู้กัน โดยที่สัตว์อสูรระดับ 1 เริ่มน้อยลง แน่นอนว่าที่เขาเห็นเป็นสัตว์อสูรระดับ 2 ซะส่วนมาก
ในเวลานั้นหูของเจี้ยนเฉินก็กระดิกและทันใดนั้นเขาก็หยุดเดินพร้อมกับยกมือส่งสัญญาณให้คนในกลุ่มที่อยู่ด้านหลัง
เมื่อเห็นการเคลื่อนไหวของเจี้ยนเฉิน ทุกคนในกลุ่มก็หยุดและมองไปรอบ ๆ อย่างกังวลใจ แม้ว่าเจี้ยนเฉินจะย้ำซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่า ตราบใดที่ไม่เจอสัตว์อสูรระดับ 3 พร้อมกัน 3 ตัว พวกเขาก็จะไม่เป็นอันตราย แต่ทุกคนก็ยังคงกลัวอยู่ ท้ายที่สุดสัตว์อสูรพวกเขาต้องเผชิญนั้นเป็นสัตว์อสูรระดับ 3 แทนที่จะเป็นสัตว์อสูรระดับ 2 แม้ว่าจะเป็นระดับเดียวกันแต่มันก็ยังคงแตกต่างกัน ความแตกต่างระหว่างระดับ 2 และระดับ 3 นั้นยิ่งใหญ่มาก
ตอนนี้มีสัตว์อสูรอยู่ด้านหน้าพวกเขา หญ้าที่อยู่รอบตัวพวกเขาแกว่งไปมาอย่างรุนแรงและมีสัตว์อสูรสูง 2 เมตรปรากฏด้านหน้าพวกเขา สัตว์อสูรตัวนี้ดูคล้ายหมูป่า มันมีจมูกยาวและสิ่งเดียวที่แตกต่างจากหมูป่านอกจากเขี้ยวที่ยาวโง้งออกมาแล้ว มันมีเขาอีก 1 เขางอกออกมาจากหน้าผากของมัน
หัวหน้าเคนดัลตรวจสอบสัตว์ที่อยู่ด้านหน้าเขาและท่าทีของเขาก็เปลี่ยนไปอย่างหนักพร้อมกับพูดว่า หมูป่าเขา ! เจี้ยนเฉินระวังด้วย นั่นคือหมูป่าเขา ระดับ 3
เจี้ยนเฉินพยักหน้าจ้องมองไปที่หมูป่าเขา แสงสีเงินแว่บออกมาพร้อมกับปรากฏกระบี่วายุโปรยในมือขวาของเขา พร้อมกับสำแสงสลัว ๆ ที่ห่อหุ้มใบกระบี่
เราจะทำตามที่วางแผนไว้แต่แรก ให้ข้าจัดการสัตว์อสูร พวกเขาก็แค่ดูแลตัวเองให้ดี ทันทีที่เขาพูดเสร็จ เจี้ยนเฉินก็ยกกระบี่ของเขาและพุ่งเข้าไปหาหมูป่าเขา