ตอนที่ 337 อายจนไม่กล้าเจอผู้คน / ตอนที่ 338 ความโกรธของคุณชายฟัง

ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ

ตอนที่ 337 อายจนไม่กล้าเจอผู้คน

 

 

อวี๋กานกานรู้ดีว่าฟังจือหันแกล้งเธอ แต่ร่างกายยังอ่อนปวกเปียกจนควบคุมไม่ได้ แก้มแดงขึ้นเรื่อยๆ อุณหภูมิในร่างกายก็สูงขึ้นตาม

 

 

เธอจ้องฟังจือหันโดยไม่วางตา พอมองฟังจือหันอย่างนี้ใจเต้นเป็นระรัว

 

 

หญิงสาวที่นอนอยู่ด้านล่างยิ่งอ่อนยวบไปเรื่อยๆ สัมผัสในหัวใจเหมือนกับน้ำ สุดท้ายฟังจือหันกดจูบแนบแน่นลงไป จูบครั้งนี้ทั้งร้อนและหนักแน่นเหมือนกับเหล้าแรงๆ ที่ทำคนมึนเมาได้ในชั่วขณะ

 

 

ใจเต้นเร็วเหมือนสายฟ้า เหมือนจะเด้งออกมาจากหน้าอก

 

 

มือของอวี๋กานกานที่วางอยู่บนเตียงกำผ้าปูไว้แน่น เธอรู้สึกเหมือนกำลังจะหมดลมหายใจ อยากจะผลักเขาออกแต่มือของเธอกลับยกไม่ขึ้นเลย

 

 

ชายหนุ่มยิ่งจูบยิ่งลึกซึ้ง ร่างกายแนบลงมาอย่างเชื่องช้า มือที่วางอยู่บนมือของเธอก็เริ่มปัดป่ายลากไปตามผิว

 

 

มือที่แนบไปกับแขน เอียงตัวเล็กน้อยก่อให้เกิดความเจ็บอย่างแรง

 

 

อวี๋กานกานกลั้นเสียง “อือ” ไม่ไหวและขมวดคิ้วเล็กน้อย

 

 

พอรู้สึกว่าเธอเจ็บ ฟังจือหันก็รีบผละออกไปเลย แววตาของเขาลึกล้ำดุจมหาสมุทรเหมือนกับคลื่นลูกใหญ่หมุนซัดสาด

 

 

อวี๋กานกานโดนจูบเสียจนทั้งร่างอ่อนปวกเปียก ในหัวมึนงง

 

 

จูบเมื่อครู่เธอตอบรับไป เห็นได้ชัดว่าจูบไม่เป็นจนเกือบจะหายใจไม่ออกแต่ยังคงไม่อยากปฏิเสธ ไม่อยากให้จบลง ถึงขั้นยังชอบและต้องการมันอยู่นิดๆ

 

 

อวี๋กานกานเขินอายจนไม่รู้ว่าจะมองหน้าฟังจือหันอย่างไรดี

 

 

ดวงหน้าแดงซ่านเหมือนมะเขือเทศ

 

 

อวี๋กานกานเขินอายเป็นอย่างมาก เอาหน้าตนเองฝังลงไปกับหมอนหลังจากนั้นก็เอื้อมมือไปดึงเสื้อลงเพื่อปิดแผ่นหลังตนเอง

 

 

“ผมขอดูอีกที…” ทรมานกับความต้องการจนทำให้น้ำเสียงแหบพร่าขึ้นเล็กน้อย

 

 

“คุณออกไปเลย” อวี๋กานกานซุกหน้าลงกับหมอนพลางเอ่ยงึมงำออกมา

 

 

ฟังจือหันรู้ว่าเธอเขินอายจึงใช้มือลูกหัวเธอครู่เดียวและนำผ้าห่มมาคลุมตัวเธอไว้ให้

 

 

เขาขยับเข้าใกล้ข้างหูเธอแล้วหัวเราะเบาๆ “งั้นคุณก็รีบพักผ่อน”

 

 

อวี๋กานกานยังคงมุดหน้าลงกับหมอน…

 

 

ฟังจือหันคิดว่าถ้าเธอยังมุดอยู่จะต้องขาดอาการหายใจแน่จึงลุกขึ้นเดินออกไปแล้วปิดประตูห้องนอน นิ้วเรียวยาวค่อยๆ ไล้ไปตามกลีบปาก ดวงตาฉายรอยยิ้มเหมือนดอกไม้ที่ประดับตกแต่งหลากหลายชนิด

 

 

ในห้องหนังสือ

 

 

ฟังจือหันยืนอยู่ตรงหน้าบานกระจกหน้าต่างพลางมองความมืดยามค่ำคืนด้านนอก มือถือโทรศัพท์ที่ต่อสายเอาไว้

 

 

ต่างจากเมื่อครู่ที่อยู่กับอวี๋กานกานเหมือนดังไฟร้อนแรงที่แผดเผา ฟังจือหันในตอนนี้เยือกเย็นเสียยิ่งกว่าหิมะในฤดูหนาว!

 

 

เขาขมวดคิ้วพลางเอ่ยถามอีกฝ่าย “วันนี้เจียงไป๋อันไปทำอะไรที่บ้านเจียงมาบ้าง”

 

 

คนปลายสายเอ่ยถึงเจียงไป๋อันอย่างไม่รีบร้อน เล่าเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นในวันนี้ที่บ้านเจียงทั้งหมด

 

 

แววตาของฟังจือหันหรี่ลงดูน่ากลัว ไอสังหารเย็นเฉียบแผ่รอบตัวชวนให้หวาดกลัวสุดขีด

 

 

 

 

เจียงไป๋อันนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน ในมือถือบุหรี่เอาหนึ่งมวนซึ่งมีควันล่องลอยอยู่

 

 

เขาขมวดคิ้วพลางมองข้อมูลอยู่บนโต๊ะซึ่งเกี่ยวกับอวี๋กานกานที่เขาให้คนไปสืบมา

 

 

สิ่งที่ชวนให้ประหลาดใจก็คือฟังจือหันกับอวี๋กานกานแต่งงานกันไปแล้ว

 

 

แต่พวกเขารู้จักกันได้อย่างไรและแต่งงานกันตอนไหนนั้นสืบหาข้อมูลไม่ได้เลยสักนิดเดียว

 

 

ก่อนที่อวี๋กานกานจะเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ สองคนนี้ไม่มีความเกี่ยวข้องกันเลย

 

 

ฟังจือหันออกจากบ้านเจียงตอนอายุสิบสามแล้วตามตาของเขาไปอยู่ในกองทัพ หลังจากนั้นแม้จะไม่ได้ข่าวคราวของเขาและไม่รู้ว่าเขาเป็นอย่างไรบ้าง แต่ก็น่าจะอยู่ในกองทัพ

 

 

ไม่มีทางที่อวี๋กานกานซึ่งอยู่เมืองไป๋หยางจะมีโอกาสได้เจอกันเลยสักนิด

 

 

หลังปลดประจำการ ฟังจือหันเลือกที่จะไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ

 

 

ส่วนอวี๋กานกานอยู่ที่เมืองไป๋หยางโดยตลอด แม้แต่เมืองหลวงก็ไม่ได้มาบ่อย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงออกนอกประเทศเลย

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 338 ความโกรธของคุณชายฟัง

 

 

งั้นเธอรู้จักฟังจือหันได้อย่างไร แล้วทั้งสองคนรักกันแต่งงานกันได้อย่างไรล่ะ

 

 

ในตอนที่เจียงไป๋อันสงสัยและไม่เข้าใจอยู่นั้นประตูห้องทำงานถูกคนผลักออก เป็นอาจงเลขาของเจียงไป๋อันที่วิ่งเข้ามาด้วยสีหน้ากระวนกระวาย “คุณชายอัน แย่แล้ว บริษัทเกิดเรื่องแล้ว”

 

 

เจียงไป๋อันปิดดูข้อมูลพลางสูบบุหรี่หลังจากนั้นจึงด่าไปด้วยสีหน้าเย็นชา “รีบร้อนจะไปเกิดใหม่อะไรขนาดนั้น บริษัทเกิดเรื่องอะไร หึ ต่อให้เกิดเรื่องใหญ่ขนาดไหน ยังไงด้านบนยังมีฟังจือหันอีกไม่ใช่ไง มีเขาค้ำเอาไว้แล้ว บริษัทล้มก็ทับเขาตายก่อน”

 

 

อาจงรีบเหมือนมดบนกระทะร้อน ส่ายหน้ารัวๆ “ไม่ใช่สกุลเจียงครับ และก็ไม่ใช่บริษัทผลิตยาไป๋ฟัง แต่เป็นบริษัทเพื่อสุขภาพอันเหอเกิดเรื่องขึ้นแล้วครับ”

 

 

เจียงไป๋อันสีหน้าเปลี่ยนเล็กน้อย ดับไฟบุหรี่ในมือลงกับที่เขี่ยบุหรี่อย่างแรง “เกิดอะไรขึ้น”

 

 

“ในอินเทอร์เน็ตมีคนแฉเรื่องวัตถุดิบของผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพของบริษัทอันเหอเพื่อสุขภาพรวมทั้งขั้นตอนการผลิต ตอนนี้ในอินเทอร์เน็ตล้วนเป็นข่าวแง่ลบของบริษัท แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็วมาก ยังไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงก็แพร่กระจายไปทั่วแม้แต่สื่อการต่างก็ @บัญชีผู้ใช้ของบริษัทโดยตรงเพื่อขอคำอธิบาย”

 

 

อะไรนะ

 

 

หัวใจของเจียงไป๋อันบีบรัดพลันคิดได้ว่าเรื่องราวไม่ชอบมาพากลจึงรีบหยิบโทรศัพท์มือถือมาเปิดอินเทอร์เน็ตในทันที

 

 

ทั่วทั้งโลกอินเทอร์เน็ตล้วนส่งต่อข่าวเกี่ยวกับบริษัทอันเหอเพื่อสุขภาพ กดเปิดข่าวหนึ่งไปเรื่อย ความคิดเห็นด้านล่างต่างก็ด่าทอบริษัทอันเหอด้วยตัวหนาสีดำ

 

 

เจียงไป๋อันอ่านอย่างละเอียดจึงพบว่าผลิตภัณฑ์และแนวทางการผลิตของบริษัทอันเหอถูกบัญชีผู้ใช้ใหญ่รายหนึ่งแฉ

 

 

ในคลิปวิดีโอวัตถุดิบของผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพราคาต่ำมากอีกทั้งสุขอนามัยในขั้นตอนการผลิตก็แย่อีกต่างหาก ขณะเดียวกันก็เผยแพร่ข่าวลวงและใช้วิธีการตลาดแบบแชร์ลูกโซ่ การฉ้อโกง

 

 

เรียกว่าแชร์ลูกโซ่ก็คือผู้จัดกลุ่มพัฒนาเจ้าหน้าที่ ผ่านเจ้าหน้าที่พัฒนาหรือข้อกำหนด เจ้าหน้าที่ที่พัฒนาจะใช้เงื่อนไขด้วยการจ่ายเงินต้นทุนและได้รับสิทธิ์เพิ่มมากขึ้นอีกทั้งได้รับความร่ำรวยจากการกระทำที่ผิดกฎหมาย

 

 

รวมถึงประสิทธิภาพเกินจริงของสินค้าของพวกเขา บอกว่าผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพสามารถรักษาอาการป่วยได้ ไม่ป่วยก็ยังสามารถเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับร่างกาย ทำให้อายุยืน

 

 

ยังมีคนรายงานเคสแง่ลบอยู่หลายเรื่องเกี่ยวกับบริษัทอันเหอเพื่อสุขภาพ

 

 

บอกว่ามีชายแก่คนหนึ่งป่วยเป็นโรคมะเร็ง พนักงานขายของบริษัทอันเหอแนะนำให้ชายแกเลิกไปรักษาที่โรงพยาบาลแล้วมาใช้ “ผลิตภัณฑ์ด้านมะเร็ง” ของบริษัทอันเหอ สุดท้ายทำให้อาการป่วยทรุดลงจนถึงแก่ชีวิต

 

 

และยังมีหญิงชราคนหนึ่งป่วยเป็นไตวายเรื้อรังกับปัสสาวะมีเลือด

 

 

เธอต้องพึ่งการสังเคราะห์เลือดจึงจะสามารถมีชีวิตอยู่ได้

 

 

ตอนที่ซื้อผลิตภัณฑ์ของอันเหอไปอีกฝ่ายบอกว่านี่เป็นยาวิเศษต้านมะเร็ง หญิงชราใช้แล้วจะดีกับอาการป่วย

 

 

ผลหลังจากนั้นไม่กี่วัน หญิงชราคนนี้ถูกพาส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน

 

 

หมอบอกว่าระหว่างที่หญิงชราใช้ยาวิเศษต้านมะเร็ง ค่าไดโพแทสเซียมฟอสเฟตสูงเกินซึ่งเป็นอันตรายต่อผู้ป่วยไตวายกับปัสสาวะมีเลือดเป็นอย่างมาก อย่างรุนแรงอาจจะถึงแก่ชีวิตได้

 

 

 

 

บริษัทอันเหอเพื่อสุขภาพถูกผลักไปกลางมรสุมในชั่วพริบตา บนอินเทอร์เน็ตบริษัทของพวกเขาถูกครหาและว่าร้าย

 

 

คนมากมายต่างก็ส่งผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพของพวกเขาไปให้ที่ตรวจสอบหลักฐาน ถ้าเป็นไปตามที่ถูกเปิดโปงจริงจะต้องโทษร้ายแรงแน่นอน

 

 

สีหน้าของเจียงไป๋อันเหมือนกับโดนสาดด้วยน้ำหมึก สภาพดูไม่ได้

 

 

เขากดอ่านความคิดเห็นอยู่หลายหน้าแล้วโมโหสุดขีด เขวี้ยงโทรศัพท์ลงพื้นอย่างแรงในทันที

 

 

โทรศัพท์มือถือโดนขว้างจนแตกละเอียด อาจงที่อยู่ตรงข้ามตกใจจนตัวสั่นเทิ้ม ไม่กล้าแม้แต่หายใจแรง

 

 

“ใครเป็นคนทำ ถ้าฉันรู้ ฉันจะไม่เอามันไว้แน่น”

 

 

เจียงไป๋อันตวาดลั่น

 

 

เห็นได้ชัดว่ามีคนจัดการอยู่เบื้องหลังทุกอย่าง พุ่งเป้ามาที่บริษัทอันเหอเพื่อสุขภาพตามคาดหรือจะเรียกได้ว่าพุ่งตรงมาที่เขา