บทที่ 176: คุณกำลังพูดถึงอะไร

ทรราชตัวน้อย ไม่อยากพบจุดจบแบบ BAD END

บทที่ 176: คุณกำลังพูดถึงอะไร

ท่ามกลางคลื่นที่ซัดกระหน่ำ เรือดำน้ำที่ทำจากหมอกสีดำของโรเอลลำเล็ก ๆ ได้พุ่งข้ามน้ำข้ามทะเล ตรงไปยังบริเวณที่มีผีเสื้อสีทองอยู่

โรเอลเหลือบมองการแจ้งเตือนของระบบ ก่อนจะพยายามดันร่างขึ้นไปด้านบน แม้ว่ามันจะทำให้เขาเจ็บปวดแสนสาหัส แต่มันก็ทำให้โรเอลเห็นพื้นที่ใจกลางฝูงผีเสื้อสีทองอันปลอดภัยที่ชาร์ล็อตยืนอยู่ เมื่อเห็นเช่นนั้น เด็กชายก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก

กรึก!

เสียงกระดูกแตกหักดังออกมาจากแขนของโรเอล ด้วยที่ร่างกายของเด็กชายต้องรับภาระอย่างหนักมาเป็นเวลานาน ทำให้กระดูกของเขาเสื่อมสภาพจนหัก เพียงแค่พยายามยกร่างกายขึ้นก็มากพอแล้วที่จะทำให้แขนของเขาพิการได้

หลังจากสูญเสียสมดุลการทรงตัวโรเอลก็ล้มลงทันที เขาสำลักไอสองครั้งก่อนที่จะพลิกตัวไปมา ตามสัญชาตญาณ พยายามจะดึงกระดูกแขนกลับเข้าที่ แต่หลังจากไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่ง เด็กชายก็ล้มเลิกความคิดนั้นไป

ช่างมันไปก่อนดีกว่า ขืนขยับสุ่มสี่สุ่มห้า แทนที่จะดึงมันกลับเข้าที่ ดีไม่ดีแขนอีกข้างมีหวังได้พิการไปด้วย

เมื่อรู้ว่าร่างกายของตนอยู่ในสภาพเช่นใด โรเอลก็ได้แต่ถอนหายใจยาว เนื่องจากยังมีพลังเวทสีแดงเข้มไหลเวียนอยู่ในร่างกายของเขาด้วยสถานะการฟื้นฟูอันเดธ มันจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่กระดูกเปราะ ๆ ของเขาจะแตกออกด้วยพลังมหาศาลนั้น

เด็กชายพยายามคิดถึงความสุขในปัจจุบัน หันเหความสนใจของตัวเองออกไปจากสภาพความเป็นจริง พลางมองโลกในแง่ดี เมื่อมองไปยังท้องฟ้าสีครามที่เปตราทิ้งเอาไว้ โรเอลก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่าโลกนี้เป็นสถานที่ที่ยอดเยี่ยมมาก ซึ่งคนอื่น ๆ เองก็น่าจะคิดแบบเดียวกัน หลังจากที่พวกเขารอดชีวิตมาจากความสิ้นหวังที่มากับบิดาแห่งความมืดก่อนหน้านี้

ดวงอาทิตย์กลับมาสู่ท้องฟ้าอันสดใส ทะเลอันเชี่ยวกราดคุ้มคลั่งเองก็ค่อย ๆ สงบลง โลกกลับคืนสู่สภาวะปกติ เมื่อมองดูทิวทัศน์ที่กว้างใหญ่และไร้ขอบเขตเบื้องหน้าเขา ความสุขที่ไม่อาจระงับได้ก็หลุดออกมาจากใจของโรเอล แม้ว่าก่อนหน้านี้เด็กชายจะต้องเผชิญกับอุปสรรคมากมาย แต่เขาก็ยังฟ่าฟันมันมาได้พร้อม ๆ กับปกป้องคนสำคัญ ตามที่เขาต้องการ

ถึงจะเพิ่งผ่านมาไม่กี่วันก็เถอะ แต่รู้สึกคิดถึงบ้านชะมัด อย่างน้อย ๆ ก็ขอพักผ่อนสักสองสามวันโดยไม่ต้องเปิดดูบันทึกโบราณอะไรอีก ระหว่างนั้นถ้าใครกล้าพูดเรื่องงานต่อหน้าเราล่ะก็ ขอสาบานเลยว่าเราจะหักคอพวกเขาซะ… อืม แต่ยกเว้นชาร์ล็อตไว้คนก็แล้วกัน

โรเอลคิดในใจ

เด็กชายเฝ้ารออย่างอดทน เพื่อให้หมอกสีดำพาเขาไปยังพื้นที่ที่ฝูงผีเสื้อสีทองโบยบินอยู่ แต่เมื่อโรเอลมองไปที่สภาพแวดล้อมรอบ ๆ อีกครั้ง เขาก็ต้องขมวดคิ้วอย่างสับสนในทันที

หา? นี่เรากำลังเห็นภาพหลอน หรือเรากำลังบินไปผิดทางจริง ๆ เนี่ย?

ด้วยเหตุผลบางอย่าง ดูเหมือนว่าโรเอลกำลังมุ่งหน้าห่างออกไปจากฝูงผีเสื้อสีทองไกลขึ้นเรื่อย ๆ

“ฮ่าฮ่าฮ่า เราคงจะเหนื่อยเกินไปล่ะมั้ง เปตราเป็นถึงเทพธิดาแห่งปฐพีเลยนะ คนอย่างเธอจะเข้าใจผิดได้ยังไงกันเล่า?”

โรเอลพยายามจะหัวเราะออกมา แต่เขาก็หลอกตัวเองได้ไม่นานนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อฝูงผีเสื้อสีทองห่างเสียจนแทบจะมองไม่เห็นแล้วในตอนนี้

“…”

เด็กชายอ้าปากค้างอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะสบถออกมา

“บ้าเอ๊ย! เฮ้ เปตรา เธอกำลังพาฉันไปผิดทางนะ! เปตรา? นี่ล้อกันเล่นใช่ไหม ป..เปตรา? ให้ตายสิ!”

โรเอลสาปแช่งเทพเจ้าโบราณที่ล่วงลับไปแล้ว พลางคิดหาวิธีรับมือฉุกเฉิน ซึ่งหลังจากที่ได้มองไปรอบ ๆ เด็กชายก็ตระหนักว่ามีเพียงหนทางเดียวเท่านั้น

นั่นก็คือเขาต้องกระโดดลงจากหมอกสีดำนี้ แม้ว่าด้านล่างจะเป็นทะเลก็ตาม

โรเอลอดไม่ได้ที่จะสงสัยว่า ทำไมเขาถึงต้องมาลงเอยในสภาพนี้ ไม่ว่าจะมองยังไงสิ่งต่าง ๆ ก็ไม่ควรจะลงเอยแบบนี้! ตามหลักคนที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสอย่างเขา ควรจะถูกส่งไปให้เหล่าสหายดูแลไม่ใช่เหรอ?

เด็กชายกัดฟันขณะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อจะกลิ้งออกจากหมอกสีดำ ทว่าแทนที่เขาจะตกลงไปในน้ำทะเลอันเย็นยะเยือก โรเอลกลับสัมผัสได้ถึงอ้อมกอดอันอบอุ่น

“ทำอะไรของเจ้าน่ะ? คนบ้า!”

เสียงสะอื้นประณามดังก้องอยู่ในหูของโรเอล พร้อมกับกลิ่นอันคุ้นเคยที่เข้ามาจั๊กจี้จมูกของเขา ทันทีที่เด็กชายเงยหน้าขึ้น เขาก็ได้พบกับใบหน้าพร้อมน้ำตาที่เอ่อคลอของชาร์ล็อต

ก่อนที่โรเอลจะกลิ้งตัวตกลงไปสู่ทะเล เด็กสาวผมสีน้ำตาลแดงผู้ได้รับความช่วยเหลือจากจิตวิญญาณทองคำ ก็รีบวิ่งเข้ามารับเขาในวินาทีสุดท้าย โดยมีอิซาเบลลาที่บาดเจ็บเล็กน้อย และหมดซึ่งพลังเวทเดินตามมาด้านหลัง

“ชาร์ล็อต…”

ท่าทีของเด็กสาวผมสีน้ำตาลแดงที่จู่ ๆ ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้า ทำให้โรเอลพูดอะไรไม่ออกไปครู่หนึ่ง

“ธ..เธอหาฉันเจอได้ยังไง? จากระยะทางแล้ว เธอไม่น่าจะสังเกตเห็นฉันไม่ใช่เหรอ?”

“พวกมันพาข้ามาที่นี่น่ะ”

ชาร์ล็อตชี้ไปที่ผีเสื้อที่กำลังโบยบินบนไหล่พร้อมพูดด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง ทำให้โรเอลประหลาดใจอีกครั้ง ก่อนจะเผยรอยยิ้มเรียบ ๆ ออกมา

“ดูเหมือนว่าของขวัญของฉันจะถึงผู้รับแล้วสินะ”

กลับกันแล้ว ชาร์ล็อตไม่สามารถฝืนยิ้มออกมาได้เลย ต่อหน้าสภาพอันน่าสยดสยองของโรเอล ไม่ว่าจะพยายามแค่ไหนเด็กสาวก็ไม่สามารถกลั้นน้ำตาที่กำลังเอ่อล้นออกมาได้

“นี่มันเป็นแบบนี้ได้ยังไงกัน? อาการบาดเจ็บของเจ้า… ถ้าขืนเป็นแบบนี้ต่อไปล่ะก็…”

ชาร์ล็อตคลำหาอัญมณีของเธอออกมา ยิงมันด้วยคลังกระสุนอัญมณีใส่โรเอล อัญมณีอันแสนล้ำค่าหายไปอย่างรวดเร็วทีละชิ้น เพื่อให้โรเอลฟื้นฟูและชำระล้างร่างกายของเด็กชาย ทว่าผลลัพธ์ที่ได้นั้นมีเพียงน้อยนิด

“ให้ข้าดูอาการหน่อยสิ”

เมื่อตระหนักว่ามีสาเหตุบางอย่างที่ลึกล้ำกว่านั้นเกี่ยวกับสภาพอันเลวร้ายของโรเอล อิซาเบลลาจึงรีบวิ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว สร้างเตียงนุ่ม ๆ จากจิตวิญญาณแห่งทองคำ ก่อนจะค่อย ๆ ย้ายเด็กชายไปที่เตียง และตรวจร่างกายของเขาอย่างรอบคอบ ด้วยดวงตาอันเฉียบคมของเธอในฐานะผู้มีพลังเหนือธรรมชาติระดับ 2 ในไม่ช้าเธอก็สามารถระบุถึงปัญหาได้

“เขาฝืนร่างกายของตัวเองมากเกินไป อีกทั้งผลข้างเคียงจากความสามารถของเขานั้น ยิ่งทำให้สภาพของเขาแย่ลงไปอีก ตอนนี้โรเอลคงสภาพเอาไว้ได้ด้วยพลังเวทจากสถานะการฟื้นคืนชีพของอันเดธในตัว ดังนั้นถ้าพวกเรากำจัดพลังเวทนั้นโดยไม่ระมัดระวังล่ะก็ อาการของเขาก็อาจจะทรุดลงไปอีก”

“ล..แล้ว พวกเราควรทำอย่างไรดีล่ะคะ?”

ชาร์ล็อตรีบหยุดสิ่งที่เธอกำลังทำ หลังจากได้ยินการวิเคราะห์ของอิซาเบลลา เธอมองไปทางบรรพบุรุษของตนด้วยความกังวลใจ ร้องขอคำแนะนำว่าตนเองควรจะทำอย่างไรต่อ

ซึ่งอิซาเบลลาก็หยุดครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วกะพริบตาอย่างซุกซนใส่ชาร์ล็อต

“ข้าคิดว่าเจ้าคงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจาก ร่วมเตียงกับเขา”

“เอ๋?”

ข้อเสนอแนะของอิซาเบลลาทำให้ชาร์ล็อตตกใจในทันที ส่วนโรเอลที่กำลังมึนและสมองทำงานช้ากว่าปกติ เขาเองก็ต้องใช้เวลาสักพักกว่าจะเข้าใจความหมายโดยนัยของอิซาเบลลา

“เดี๋ยวก่อน คุณหมายความว่ายังไงนะ?”

“โรเอล ร่างกายของเจ้าอยู่ในสภาพที่อ่อนแอมากในตอนนี้ แม้ว่าเจ้าจะโชคดีที่มีอาการบาดเจ็บภายนอกเพียงเล็กน้อย แต่ไม่ต้องสงสัยเลยว่าร่างกายของเจ้านั้นได้ไปเกินขีดจำกัดแล้ว”

อิซาเบลลามองไปที่โรเอลด้วยใบหน้าอันเคร่งขรึม ขณะถ่ายทอดการวินิจฉัยอาการปัจจุบันของเด็กชาย

สรุปง่าย ๆ ก็คือ โรเอลนั้นกำลังทุกข์ทรมานจากผลข้างเคียงของสัมผัสแห่งธารน้ำแข็ง และการใช้ พรของเปตราเพื่อเพิ่มระดับแก่นแท้ของตน จนมันได้ไปทำลายวงจรพลังเวทและสภาพร่างกายของเขา แม้ว่าสถานะการฟื้นคืนชีพของอันเดธจะทำให้สภาพร่างกายของโรเอลมีเสถียรภาพได้ แต่มันก็ไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาในระยะยาว แถมมันยังส่งผลข้างเคียงเพิ่มเติมที่อาจจะทำให้เรื่องยุ่งยากขึ้นไปอีกด้วย

“การรักษาธรรมดา ๆ อาจจะสามารถรักษาอาการบาดเจ็บภายนอกของเจ้าได้ แต่มันก็ไม่อาจบรรเทาปัญหาที่อยู่ในส่วนลึกกว่านั้น ซึ่งจะกลายเป็นเหมือนระเบิดเวลาที่ฝังลึกอยู่ในตัวของเจ้า พร้อมที่จะระเบิดออกมาได้ทุกเมื่อ มันเป็นไปไม่ได้ที่เจ้าจะก้าวผ่านเรื่องนี้เพียงลำพัง เจ้าต้องการใครสักคนที่จะคอยช่วยนำทางร่างกายของเจ้าอย่างอ่อนโยน เพื่อช่วยให้ร่างกายของเจ้าฟื้นตัว เข้าใจรึยัง?”

อิซาเบลลาผลักชาร์ล็อตที่กำลังงุนงงไปข้างหน้า จากนั้นก็ชี้นิ้วไปที่เด็กสาวพร้อมพูดด้วยน้ำเสียงอันหนักแน่นและแน่วแน่ว่า

“ซึ่งคนเดียวที่ทำทั้งหมดนั้นได้ในตอนนี้ก็คือเธอ ชาร์ล็อต อันที่จริงเจ้าเองก็น่าจะรู้อยู่แล้วนี่นา? ก่อนหน้านี้พวกเจ้าสองคนกอดกันเพื่อรักษาผลข้างเคียงของสัมผัสแห่งธารน้ำแข็งมาระยะหนึ่งแล้วไม่ใช่เหรอ?”

“เอ่อ คือว่า…”

สถานการณ์อันน่าอึดอัดใจนี้ทำให้ใบหน้าของชาร์ล็อตแดงระเรื่อขึ้นทันที ซึ่งทางโรเอลก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่ เมื่อเห็นปฏิกิริยาของทั้งคู่ อิซาเบลลา ผู้เป็นดั่ง ‘ทหารผ่านศึก’ ก็กล่าวเสริม

“ข้ารู้ดีว่าเด็ก ๆ เช่นพวกเจ้า มักจะอายเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ แต่จิตวิญญาณทองคำของตระกูลโซเฟีย คือทางออกที่ดีที่สุดที่จะช่วยให้เขามีชีวิตรอด”

“ชาร์ล็อต เจ้าก็เห็นไม่ใช่รึไงว่าโรเอลกำลังตกอยู่ในสถานะเลวร้ายและสุ่มเสี่ยงแค่ไหน หากเขาไม่ได้รับการฟื้นฟูร่างกายอย่างถูกต้องล่ะก็ แม้ว่าเขาจะรอดไปได้ แต่ร่างกายของเขาก็อาจจะเสียหายถาวรจนไม่สามารถพัฒนาพลังเหนือธรรมชาติได้อีก นี่ข้าไม่ได้ล้อเล่นนะ”

“ในตอนนี้ อย่างน้อย ๆ จนกว่าโรเอลจะฟื้นสภาพกลับมาได้ เจ้าต้องอยู่เคียงข้างเขาตลอดเวลา นี่คือความรับผิดชอบที่เจ้าต้องแบกรับในฐานะภรรยาในอนาคตของเขา!”

“!”

นี่ถือเป็นการจี้จุดอ่อนที่คาดไม่ถึงสำหรับชาร์ล็อต! น้ำเสียงอันจริงใจของอิซาเบลลาได้ตอกย้ำหัวใจของเด็กสาวขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว

“ภ…ภรรยา…”

ชาร์ล็อตเบิกตาสีมรกตของตนขึ้น ปากอันสั่นเทาของเธอพูดย้ำไปมาอยู่เพียงคำเดียว จิตใจของเด็กสาวสับสนไปชั่วครู่ ก่อนที่จะฟื้นตัวกลับมาอีกครั้งด้วยความมุ่งมั่น

ด..เดี๋ยวก่อน ทำไมเธอถึงอินไปกับเขาด้วยล่ะ!

โรเอลตกตะลึงไปกับท่าทีของชาร์ล็อตที่จู่ ๆ ก็กลายเป็นภรรยาที่ดี ภายใต้ ‘การยั่วยุ’ ของอิซาเบลลา เด็กชายตระหนักได้อย่างรวดเร็วว่าการสนทนากำลังพัฒนาไปในทิศทางที่แปลก ๆ ดังนั้นเขาจึงพยายามพูดเพื่อหยุดบทสนทนานี้เอาไว้ น่าเสียดายที่มีอิซาเบลลาเลือกที่จะตัดเขาออกไปอย่างไร้ความปราณี

“โรเอล ตอนนี้เจ้าเป็นคนไข้ และคนไข้ไม่มีสิทธิ์ทักท้วง!”

การโบกมือของอิซาเบลลา ก็ปิดเสียงของโรเอลลงได้อย่างง่ายดาย ปิดกั้นคำพูดใด ๆ ก็ตามที่เขาจะพูดออกมา ส่งผลให้โรเอลทำได้เพียงแค่จ้องมอง ในขณะที่อิซาเบลลากำลังยั่วยุชาร์ล็อตหลงไปตามแผนของเธอ

“ชาร์ล็อต เจ้าวางแผนที่จะแต่งงานเมื่อไหร่?”

“อ..เอ๋? ต..แต่งงาน เรื่องแบบนั้น ม…มันต้องใช้เวลา อายุของพวกเรายัง…”

“จริงสิ ในตอนนี้พวกเจ้าสองคนยังเด็กเกินไป”

อิซาเบลลาถอนหายใจเบา ๆ พลางมองไปทางโรเอลที่บาดเจ็บสาหัสด้วยความเป็นห่วง มันไม่ง่ายเลยที่จะรักษาโรเอล โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่พวกเขาอาศัยอยู่ หากสภาพของเด็กชายแย่ลงไปกว่านี้ ก็มีโอกาสที่เขาอาจจะเสียชีวิตก่อนวัยอันควร และเธอก็ไม่สามารถพูดได้อย่างมั่นใจว่าโรเอลจะสามารถฝ่าฟันอุปสรรคนี้ไปได้

“!”

หลังจากนั้น อิซาเบลลาก็หันมองชาร์ล็อตที่กำลังกังวล หญิงสาวหวนนึกถึงภาพอันน่าอัศจรรย์ของฝูงผีเสื้อสีทองก่อนหน้านี้ ตามปกติแล้ว เธอไม่ควรอนุญาตให้ชาร์ล็อต หนึ่งในอัจฉริยะระดับแนวหน้าของตระกูล แต่งงานกับคนที่ใกล้จะตายอย่างโรเอล อย่างไรก็ตาม ด้วยความทุ่มเทที่ชาร์ล็อตมีให้แก่โรเอล ความชอบของอิซาเบลลาที่มีต่อเขานี่ก็เป็นกรณีพิเศษ

นอกจากนี้เมื่อผู้มีคุณสมบัติแก่นแท้ต้นกำเนิดความภักดีเลือกคู่รักแล้ว ก็ไม่มีใครเปลี่ยนใจพวกเขาได้อีกต่อไป แม้ว่าอิซาเบลลาต้องการจะห้ามปรามชาร์ล็อต แต่เธอก็คงไม่สามารถเปลี่ยนความคิดของอีกฝ่ายได้

เมื่อไม่มีทางเลือกอื่น อิซาเบลลาจึงทำได้เพียงแค่มองสถานการณ์จากอีกมุมหนึ่งเท่านั้น หญิงสาวครุ่นคิดอยู่นานก่อนจะตรงไปยังประเด็น

“ชาร์ล็อต โรเอลอยู่ในสภาพที่แย่มากในตอนนี้ ในสถานการณ์ที่แย่ที่สุด เขาอาจจะ… เพื่อเห็นแก่อนาคตของเจ้า เจ้าต้องรีบเร่งการแต่งงานขึ้นมาแล้ว แค่ทิ้งรายละเอียดไว้ เดี๋ยวข้าจะไปคุยกับวินสเตอร์ เกี่ยวกับเรื่องนี้ให้เอง”

“หา? เร่งการแต่งงานขึ้นมา?”

“ใช่ พวกเราควรทำแบบนั้น เพื่อความปลอดภัย พวกเจ้าสองคนควรแต่งงานทันทีที่กลับไปถึง และชาร์ล็อต เจ้าควรจะรีบตั้งท้องให้เร็วที่สุด เพื่อความสุขของตัวเจ้าเอง และรักษาความต่อเนื่องของสายเลือดทั้งสอง พวกเจ้าเข้าใจที่ข้าพูดหรือเปล่า”

อิซาเบลลาจ้องมองชาร์ล็อตอย่างเคร่งขรึม พร้อมพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่อาจปฏิเสธได้ ทำให้ชาร์ล็อตอินไปกับบทสนทนาที่ดำเนินไปอย่างรวดเร็ว จนสมองของเธอจะเริ่มรวนจากข้อมูลที่เกินพิกัด แต่เด็กสาวก็ยังผงกศีรษะตามน้ำไป จากน้ำเสียงอันรุนแรงของอิซาเบลลา

“ฉัน-ฉัน-ฉัน-ฉันเข้าใจค่ะ! ฉันจะพยายามทำให้ดีที่สุด!”

พยายามอย่างเต็มที่อะไรเล่า! รู้ตัวมั้ยเนี่ยว่าเธอพูดอะไรลงไป!

โรเอลจ้องไปที่ชาร์ล็อตพลางโต้กลับในใจ สมองของเขาเองก็เริ่มรวนจากอาการเขินอายเช่นกัน แต่ทันทีที่การแจ้งเตือนของระบบโผล่ออกมาอีกครั้ง ในที่สุดเขาก็ตั้งสติได้

【กริ๊ง!】

【เวลานับถอยหลังสู่จุดสิ้นสุดของสถานะผู้เฝ้ามอง : 4 นาที 59 วินาที】

โรเอลมองดูนาฬิกาจับเวลาตรงหน้า จากนั้นสีหน้าของเขาก็จริงจังขึ้นในทันที

“พี่สาวอิซาเบลลา พอจะบอกได้ไหมครับ ว่าผมควรจะทำอย่างไร ถ้าต้องการจะเข้าร่วมสมัชชานักปราชญ์พลบค่ำ หลังจากที่หายดีแล้ว”