ตอนที่ 277 บอกใบ้สุดๆ / ตอนที่ 278 นายคือคนที่ห่วยที่สุดเท่าที่ฉันเคยดูแลมา

ลืมรักเลือนใจ

ตอนที่ 277 บอกใบ้สุดๆ

 

 

พอพูดถึง “ลีกอันดับหนึ่งของโลกครั้งก่อน” เสียงบรรยายก็หัวเราะโดยไม่รู้ตัว เหมือนว่าการนำเฮ่อเล่อเฟิงไปเทียบกับนักแข่งมืออาชีพในลีกอันดับหนึ่งของโลกเป็นเรื่องน่าขำอยู่บ้าง

 

 

เสียงบรรยาย “จางอี้นักแข่งจากทีมรถแข่งเหล่าทังที่ถูกเฮ่อเล่อเฟิงแซงไปเมื่อครู่ ทุกท่านก็คุ้นเคยมากเช่นกัน อันดับของของเขากับเฮ่อเล่อเฟิงในหลายสนามก่อนหน้านี้แทบไม่เคยเปลี่ยนแปลงเลย คนหนึ่งที่สุดท้าย คนหนึ่งรองสุดท้าย

 

 

แต่ครั้งนี้ดูท่าเฮ่อเล่อเฟิงจะล้างความอัปยศ สลัดอันดับสุดท้ายทิ้งไป ชิงอันดับรองสุดท้ายของจางอี้มาแทน แต่ไม่รู้ว่าจางอี้จะชิงอันดับรองสุดท้ายกลับมาได้อีกครั้งหรือเปล่า เอาละ พวกเรามาตั้งตารอกันนะครับ”

 

 

 

 

ห้องวีไอพีหมายเลขสอง

 

 

เว่ยสวีเฟิงจ้องภาพซูมแบบสโลโมชันบนหน้าจอโทรทัศน์ด้วยความประหลาดใจและเหลือเชื่อ

 

 

เขาดูการแข่งระหว่างทีมรถแข่งเหล่าทังกับทีมรถแข่งตระกูลเฮ่อมาหลายครั้งแล้ว เฮ่อเล่อเฟิง อยู่ระดับไหน เขารู้แก่ใจดี นี่คือนักแข่งที่เขาดูถูกมากที่สุดคนหนึ่ง

 

 

ถึงอย่างนั้นเฮ่อเล่อเฟิงกลับใช้ท่าดริฟต์ขวางแฉลบข้างที่สวยงามขนาดนี้เชียว?

 

 

นี่จะเป็นไปได้อย่างไร?!

 

 

“ฮ่าๆๆ ” ฉีเซ่าหยวนที่อยู่ด้านข้างหัวเราะดังลั่นพลางจ้องมองเว่ยสวีเฟิง “เป็นยังไง ฉันบอกแล้ว ครั้งนี้ทีมรถแข่งตระกูลเฮ่อต้องชนะ และจุดสำคัญของชัยชนะนี้ก็อยู่ที่เฮ่อเล่อเฟิง”

 

 

พอได้ยินเว่ยสวีเฟิงก็หัวเราะเย้ยหยัน “ก็แค่บังเอิญ แค่เขา จะใช้ฝีมือตัวเองทำท่าดริฟต์ขวางแฉลบข้างได้สำเร็จด้วยตัวคนเดียวได้อย่างนั้นเหรอ?”

 

 

เว่ยสวีเฟิงดูถูกเฮ่อเล่อเฟิงมาก

 

 

“มาพูดถึงเรื่องนี้ก่อน…นายดูท่าดริฟต์ขวางแฉลบข้างนี้สิ รู้สึกคุ้นตาบ้างไหม?” ฉีเซ่าหยวนถามเสียงเบา

 

 

“คุ้นตาจริงๆ ” เว่ยสวีเฟิงผงกศีรษะ

 

 

“ต้องคุ้นตาแน่นอน เป็นท่าสร้างชื่อของเด๊ดบุชเชอร์…” ฉีเซ่าหยวนเอ่ย

 

 

“ฉันนึกออกแล้ว ใช่จริงๆ ด้วย…ดังนั้นเฮ่อเล่อเฟิงคงทำโดยไม่รู้ตัว บังเอิญก็เท่านั้นเอง” เว่ยสวีเฟิงกล่าว

 

 

“แค่กๆ …นายควรคิดดูหน่อยนะ เด๊ดบุชเชอร์เป็นลูกศิษย์ของใคร ท่าสร้างชื่อของเขาก็ต้องสอนโดยอาจารย์เขาสิ…” ฉีเซ่าหยวนบอกใบ้สุดๆ

 

 

อย่างไรก็ตามเหมือนเว่ยสวีเฟิงจะไม่ได้ยินคำใบ้ของฉีเซ่าหยวน เขาขมวดคิ้วมองโทรทัศน์ ปากก็พูดพึมพำ “น่าแปลก…รายละเอียดตอนฉายภาพซ้ำไม่ค่อยเหมือนความบังเอิญ นี่มันเรื่องอะไรกันแน่นะ…”

 

 

 

 

 

 

 

บนสนามแข่ง ขณะที่เพิ่งจะหลุดพ้นทางโค้งหักศอกบนเส้นทางบนเขา หลินเยียนก็ปล่อยมือ ให้เฮ่อเล่อเฟิงขับด้วยความมั่นคงต่อไป

 

 

ขณะนี้เองเฮ่อเล่อเฟิงก็มองหลินเยียนที่อยู่บนที่นั่งข้างคนขับด้วยสีหน้าตกตะลึงพรึงเพริด

 

 

เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น? เขารู้สึกมึนอยู่บ้าง

 

 

“อย่ามองฉัน มองทาง!” หลินเยียนพูดพลางขมวดคิ้ว

 

 

สภาพของเส้นทางนอกสนามแข่งแบบนี้สลับซับซ้อนอย่างยิ่ง อีกทั้งรถก็เร็วมาก เกิดความเปลี่ยนแปลงได้สารพัดอย่างภายในชั่วพริบตา เฮ่อเล่อเฟิงไม่มองสภาพเส้นทางแต่มองคน ถือเป็นข้อห้ามใหญ่ที่สุดของนักแข่งรถ

 

 

“สวรรค์ พี่เยียน…เมื่อกี้ ผมทำท่าดริฟต์ขวางแฉลบข้าง จริงๆ นะ…ท่าดริฟต์ขวางแฉลบข้าง!!” ตอนนี้เฮ่อเล่อเฟิงมีสีหน้าตื่นตะลึง ร่างกายสั่นเทิ้มเล็กน้อย

 

 

หลินเยียนไม่สนใจเฮ่อเล่อเฟิง พูดด้วยสีหน้าจดจ่อ “รักษาแนวซ้าย เนินกระโดด สี่โค้งสั้นขวา”

 

 

หลินเยียน “ทางกว้างเพิ่มความเร็ว อีก 120 เมตร เนินกระโดด สี่โค้งซ้าย เติมครึ่งคันเร่งผ่าน เกท”

 

 

เฮ่อเล่อเฟิงทำตามคำสั่งหลินเยียนโดยอัตโนมัติ พบว่าภาพเส้นทางที่อยู่ข้างหน้ากลับเป็นอย่างที่ หลินเยียนบอกไว้ทุกประการ

 

 

หลังจากเคลื่อนที่อย่างต่อเนื่องไปชุดหนึ่ง เฮ่อเล่อเฟิงกลับแซงคู่ต่อสู้ได้อีกคนแล้ว…

 

 

เฮ่อเล่อเฟิงมีสีหน้าตื่นตะลึง พี่เยียนบอกว่ามีใบอนุญาตเป็นเนวิเกเตอร์ระดับล่างสุดเองไม่ใช่หรือไง?

 

 

แล้วทำไมถึงรู้จักเส้นทางที่ไม่คุ้ยเคยแม้แต่น้อยราวกับนิ้วที่อยู่บนฝ่ามือได้ล่ะ?

 

 

 

 

ตอนที่ 278 นายคือคนที่ห่วยที่สุดเท่าที่ฉันเคยดูแลมา

 

 

ต้องรู้ว่าเนวิเกเตอร์คือคนที่สำคัญอย่างยิ่งระหว่างการแข่งแรลลี่หรือแรลลี่ครอส พูดได้ว่าเป็นตาคู่ที่สองของนักแข่งรถเลยก็ว่าได้

 

 

ถ้าเนวิเกเตอร์เข้าใจสภาพต่างๆ บนเส้นทางแข่งขันได้อย่างสมบูรณ์และผสานให้เข้ากับสถานการณ์ในปัจจุบันของนักแข่ง จากนั้นก็นำมาแนะนำนักแข่งได้อย่างแม่นยำระหว่างการแข่งขันได้ นักแข่งก็จะเป็นเหมือนเสือที่ติดปีก

 

 

แต่เนวิเกเตอร์ในระดับนี้มีน้อยเหลือเกิน โดยเฉพาะภายในประเทศ หลายคนรู้สึกว่าเนวิเกเตอร์เป็นแค่คนอ่านหนังสือพิมพ์ให้นักแข่งฟังจากที่นั่งข้างคนขับด้วยซ้ำไป

 

 

ในการแข่งจริงของเขายังไม่เคยพบเนวิเกเตอร์ที่เป็นมืออาชีพขนาดนี้มาก่อนเลย!

 

 

ถ้าให้ฝืนพูดสักหน่อย นั่นคือเห็นอยู่ในโทรทัศน์!

 

 

เขาเคยเห็นภาพฉายซ้ำของลีกมืออาชีพระดับโลกในโทรทัศน์!

 

 

“ไม่ใช่!” ทันใดนั้นเหมือนเฮ่อเล่อเฟิงจะสัมผัสอะไรได้ ใบหน้าเต็มไปด้วยความตื่นตะลึง “ท่าดริฟต์ขวางแฉลบข้างเมื่อครู่นั่น…ไม่ใช่ฝีมือผม!”

 

 

เฮ่อเล่อเฟิงมีสีหน้าตื่นตระหนก จ้องหลินเยียนผู้มีใบหน้าเฉยชาบนที่นั่งข้างคนขับ

 

 

ทางโค้งหักศอกบนเขาก่อนหน้านี้ เขาทำตามคำสั่งหลินเยียนทุกประการ ปรับทิศทางให้วิ่งตรงก่อน จากนั้นก็เหยียบคลัตช์และเบรก สุดท้ายก็เหยียบคันเร่งให้มิด…

 

 

ทุกย่างก้าว ทุกรายละเอียด ตอนนี้พอลองนึกดูแล้วไม่มีอะไรที่เกี่ยวข้องกับเขาเลยสักนิด!

 

 

นอกจากนี้สิ่งสำคัญที่สุดก็คือตอนนั้นหลินเยียนนั่งอยู่บนที่นั่งข้างคนขับ ตามองตรงไปข้างหน้า แถมยังใช้มือซ้ายจับพวกมาลัยเขาให้วิ่งตรงอีกด้วย!

 

 

การกระทำทั้งหมดเกิดจากหลินเยียนทั้งสิ้น!

 

 

ส่วนเขามีประโยชน์เพียงแค่เหยียบเบรก …เหยียบคันเร่งเท่านั้น แถมยังเป็นหลินเยียนที่ให้เขาทำแบบนั้นอีกต่างหาก

 

 

“พี่เยียน พี่…” ความตื่นตะลึงบนใบหน้าเฮ่อเล่อเฟิงถึงขั้นที่ยากจะบรรยายออกมาได้

 

 

“อย่ามองฉัน!” หลินเยียนเหลือบมองเฮ่อเล่อเฟิงด้วยความรำคาญใจเล็กน้อย “มองทาง!”

 

 

นี่เธอพูดไปตั้งกี่รอบแล้ว ตั้งแต่ขึ้นรถมาเฮ่อเล่อเฟิงมองมาที่ตัวเธอหลายครั้งแล้ว นี่ต่างหากถึงจะเป็นการรนหาที่ตายของจริงนะยะ!

 

 

หลินเยียนขอสาบาน เฮ่อเล่อเฟิงน้องชายของตัวเองคนนี้เป็นนักแข่งรถฝีมือห่วยที่สุดเท่าที่เธอเคยดูแล ถึงขั้นที่ทำให้รู้สึกโกรธจนขนหัวตั้ง ขาดสติสัมปชัญญะ เกือบจะเป็นพวกไร้ค่าแล้ว

 

 

ถ้าตอนนั้นเด๊ดบุชเชอร์กับลั่งหมั่งเป็นอย่างเฮ่อเล่อเฟิง หลินเยียนคงถีบพวกเขาตายไปตั้งแต่แรก

 

 

หลินเยียนบอกตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า นี่คือลูกพี่ลูกน้อง ลูกพี่ลูกน้อง

 

 

“อ้อๆๆ!” เฮ่อเล่อเฟิงผงกศีรษะอย่างต่อเนื่อง ตามองไปข้างหน้าทันที ไม่กล้ามองสำรวจหลินเยียนต่อ

 

 

“พี่เยียน เมื่อกี้ผม…ไม่ๆ ไม่ใช่ผม …เป็นพี่เยียนที่ใช้ท่าดริฟต์ขวางแฉลบข้างสำเร็จ…ทำได้ยังไงกันครับ ร้ายกาจเกินไปแล้ว!” เฮ่อเล่อเฟิงพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น

 

 

ถึงเจ้าท่าดริฟต์ขวางแฉลบข้างนี้จะไม่เกี่ยวอะไรกับเขาเลยสักนิดก็ไม่เป็นไร แต่อย่างน้อยเขาก็มีส่วนร่วม ยังได้เหยียบเบรก ได้เหยียบคันเร่งด้วย!

 

 

ถึงกระนั้นหลินเยียนกลับไม่แยแสเฮ่อเล่อเฟิง เธอพูดต่อไปว่า “ห้าโค้งยาวซ้าย เนินกระโดด อีกแปดสิบเมตร สี่โค้งซ้าย สี่โค้งขวาต่อเนื่อง เร่งเครื่องเต็มสูบ รักษาแนวตรง”

 

 

“อ้อๆๆ…” เฮ่อเล่อเฟิงรีบบังคับรถตามที่หลินเยียนบอก

 

 

“ทางแคบ เข้าสองโค้ง เข้าสามโค้งสั้นขวา ครึ่งคันเร่ง สามโค้งสั้นซ้ายต่อเนื่อง” หลินเยียนมองตรงไปข้างหน้าพลางพูดต่อไป

 

 

ขณะนี้เฮ่อเล่อเฟิงกลืนน้ำลายลงไป ไม่กล้าสงสัยคำสั่งของหลินเยียนอีกต่อไป คำสั่งของหลินเยียนแม่นยำถึงขีดสุด นี่มันมืออาชีพในมืออาชีพชัดๆ!

 

 

เนวิเกเตอร์แบบนี้เป็นสิ่งที่นักแข่งรถทุกคนใฝ่ฝันถึงนะ!

 

 

เพียงแต่เฮ่อเล่อเฟิงรู้ตัวทันที ด้วยฝีมือของตัวเอง มีเนวิเกเตอร์แบบนี้จะเป็นการถลุงทำลายข้าวของหรือเปล่า? เสียของเกินไปแล้ว

 

 

“พี่เยียน พี่เป็นใครกันแน่!” เฮ่อเล่อเฟิงพูดด้วยสีหน้าตื่นตระหนก

 

 

“นายไม่รู้จักฉันงั้นเหรอ” หลินเยียนเลิกคิ้วพร้อมกวาดตามองเขา

 

 

“ไม่ใช่ครับ ความหมายของผมก็คือ เฮ้อ ช่างเถอะ… ผมไม่รู้ว่าควรพูดอะไรแล้ว พี่เยียน พี่บอกมาเถอะว่าจะขับยังไง ผมฟังพี่ทุกอย่าง!” เฮ่อเล่อเฟิงรีบตอบ

 

 

ภายในช่วงเวลาอันสั้น เขาใช้ความสามารถในการขับรถของตัวเองแซงรถที่อยู่ข้างหน้าสี่คันรวด โดยอาศัยแค่การนำทางของหลินเยียนเท่านั้น สามคันในนั้นเป็นรถแข่งจากทีมรถแข่งตระกูลเฮ่อ และอีกคันเป็นรถแข่งจากทีมเหล่าทัง

 

 

บัดนี้สายตาของนายผู้เฒ่าเฮ่อติ้งคุนสังเกตเห็นรถที่เฮ่อเล่อเฟิงขับมาด้วยความรู้สึกคลางแคลงใจเล็กน้อย…