บทที่ 200 การผสมพันธุ์แมลงกินวิญญาณเพศเมีย

ไหปีศาจ

บทที่ 200
การผสมพันธุ์แมลงกินวิญญาณเพศเมีย

ในห้องลับที่เงียบสงบของคฤหาสน์ตระกูลมู่
หยีเทียนเฉินซึ่งกำลังนั่งสมาธิฝึกฝนอยู่ลืมตาขึ้น ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความสับสน

“ทำไมข้าไม่รู้สึกถึงพลังวิญญาณของแมลงกินวิญญาณเลย?” หยีเทียนเฉินไม่สามารถเข้าใจได้ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้พบกับสถานการณ์เช่นนี้
ตัวด้วงสีทองที่มีเครื่องหมายดาวสิบสองดวงบนปีก ไต่ลงมาจากไหล่และปีนขึ้นไปบนฝ่ามือของเขา

“เจ้าเองก็รู้สึกถึงมันไม่ได้อย่างนั้นเหรอ?”
“นี่มันแปลกมากเลย แม้แต่นางพญาก็ยังรู้สึกถึงมันไม่ได้เลยเหรอ?”
“แมลงกินวิญญาณจะยอมจำนนนางพญาของมันเสมอมันจึงเป็นไปไม่ได้ที่พวกมันจะขัดขืน หรือว่าลั่วอู๋มันจะรู้ตัว? ไม่สิ มันเป็นไปไม่ได้ ตราบใดที่แมลงกินวิญญาณยังไม่ได้ใช้ทักษะ มันก็จะจำศีลอย่างเงียบ ๆ แม้แต่สัตว์วิญญาณระดับสูงก็ยังรู้สึกถึงแมลงกินวิญญาณที่ซ่อนอยู่ในร่างกายของพวกมันไม่ได้ด้วยซ้ำ”
หยีเทียนเฉินไม่สามารถเข้าใจในเหตุการณ์ตอนนี้ได้

ตอนนี้มีความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียวนั่นคือ ลั่วอู๋ได้เข้าไปในพื้นที่พิเศษที่สามารถการติดตามภายนอกทั้งหมด
“มีวิธีการเช่นนี้” หยีเทียนเฉินกำลังตื่นตัว
……
……

“เขากำลังคิดจะกำจัดข้าอย่างงั้นเหรอ ?” ลั่วอู๋จับแมลงกินวิญญาณที่มีขนาดเท่าเมล็ดข้าว และเขาก็กำลังต่อสู้กับมัน
ถ้าไม่มีพลังของไหปีศาจละก็เขาคงจะไม่มีทางพบแมลงกินวิญญาณตัวนี้แน่
แมลงกินวิญญาณในตอนนี้นั้นกำลังตกที่นั่งลำบาก มันไม่มีพลังวิญญาณเพียงพอที่จะต้านทานกับลั่วอู๋ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีโอกาสอยู่มากที่เขาจะถูกโจมตีด้วยพลังวิญญาณของมัน
มันเหมือนกับระเบิดเวลา
“พอได้แล้ว” ลั่วอู๋ตะคอกอย่างเย็นชา ด้วยความโกรธเกรี้ยวเขาพร้อมที่จะขยี้แมลงกินวิญญาณให้ตาย
กร๊อบ
แมลงกินวิญญาณส่งเสียงต่ำออกมาอย่างเจ็บปวด
ลั่วอู๋ประหลาดใจ เปลือกของมันค่อนข้างแข็งกว่าที่เขาคิด
ลั่วอู๋ใช้พลังวิญญาณและบีบลงไปที่ตัวมันแรง ๆ อีกครั้ง ในที่สุดร่างกายของแมลงกินวิญญาณก็ถูกบี้จนอวัยวะภายในของมันถูกบีบออก จนดิ้นรนด้วยความเจ็บปวด

แต่เขาก็ยังไม่ได้ทิ้งร่างของแมลงกินวิญญาณไป
ลั่วอู๋เริ่มคิดว่าเขาจะหาวิธีจัดการกับหยีเทียนเฉินได้อย่างไร เพราะตอนนี้ดูเหมือนว่าเขาจะไม่มีมาตรการตอบโต้ใด ๆ สำหรับวิชาของอีกฝ่าย
เขาได้ลองตรวจสอบเกี่ยวกับสัตว์วิญญาณชนิดนี้และก็ได้พบว่าแมลงกินวิญญาณนั้นน่าจะสูญพันธุ์ไปนานแล้ว และไม่มีวิธีการใดที่เขาจะสามารถต่อสู้กับมันได้

นี่เป็นเรื่องจริงที่น่าปวดหัว
อย่างไรก็ตามระหว่างที่ลั่วอู๋กำลังตกอยู่ในความทุกข์ เขาก็ได้สังเกตเห็นแมลงกินวิญญาณที่เขาบี้ทิ้งไปว่ามันยังไม่ตาย มันกำลังคลานอย่างยากลำบากราวกับว่าพยายามจะหนีออกไปจากที่นี่
ลั่วอู๋นั่งยอง ๆ จ้องมองไปที่แมลงกินวิญญาณและพูดกับตัวเองว่า “หรือว่าบางทีถ้าข้ามีแมลงนางพญาแล้วละก็ ข้าก็จะไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับวิชาของเขาอีก?”
แมลงกินวิญญาณระดับล่างนั้นมีความภักดีสูง และนักล่าลำดับล่างจะเชื่อฟังคำสั่งของนางพญาที่มีลำดับสูงกว่าอย่างไม่มีเงื่อนไข
อย่างไรก็ตาม ถ้าหากมีนางพญาขึ้นมาสองตัวล่ะก็ พวกมันคงจะต้องสับสนและไม่สามารถดำเนินการตามคำสั่งได้อย่างแม่นยำแน่

“มาดูกันว่า ข้าจะโชคดีได้แค่ไหน” ลั่วอู๋กระซิบ
เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นเขาก็นำวิญญาณมืดมิด ระดับทอง มิติ 8 มาใส่ไว้ในส่วนต่อประสานการสังเคราะห์
“แม้จะไม่มีแมลงกินวิญญาณตัวที่สองให้ลองอีกครั้งก็ตาม แต่ข้าก็ต้องกล้าเข้าไว้” โดยไม่คำนึงถึงผลลัพธ์ลั่วอู๋ทิ้งแมลงกินวิญญาณลงไปในส่วนต่อประสานการสังเคราะห์ร่วมกับวิญญาณมืดมิด
พลังวิญญาณมหาศาลพุ่งขึ้นมาในทันใด

[ได้รับ แมลงกินวิญญาณ ระดับเงิน (จ่าฝูง), แต้มเซียน + 20]

เผ่าพันธุ์: แมลงกินวิญญาณ (จ่าฝูง)
ระดับ: เงิน
มิติ: ระดับเงิน มิติ 6
ทักษะ: กลืนกินพลังวิญญาณ (ระดับ A)
พื้นเพ: แมลงกินวิญญาณเบื้องหน้าของลั่วอู๋ในตอนนี้มีขนาดใหญ่กว่า ขนาดปกติธรรมดาประมาณสองเท่า และมีรอยรูปดาวสามแฉกบนเปลือกสีทองของมัน

“มันเป็นระดับสูง แต่ข้าไม่คิดว่ามันจะเป็นระดับนางพญา” ลั่วอู๋เท้าคางของเขาและคิด
หากผลของการสังเคราะห์ได้เป็นสัตว์วิญญาณของแก่นวิญญาณต้นกำเนิดของมันจะถูกยกระดับให้ดีขึ้นมาก
ที่เขาสงสัยก็คือมันมีช่องว่างขนาดใหญ่ ระหว่างนางพญากับนักล่าปกติหรือไม่?

“ไหน ขอข้าลองอีกครั้งสิ ว่าวันนี้ข้าโชคดีรึเปล่า” ลั่วอู๋ตัดสินใจสังเคราะห์อีกครั้ง
ลั่วอู๋นำนำวิญญาณมืดมิด ระดับทองและแมลงกินวิญญาณระดับสูงเข้าไปสังเคราะห์ขึ้นมาอีกครั้ง

[ได้รับ แมลงกินวิญญาณ ระดับเงิน (จ่าฝูง), แต้มเซียน + 20]

ข่าวดีก็คือ
แมลงกินวิญญาณนั้นไม่ได้หายไป
แต่ข่าวร้ายก็คือแม้ว่าต้นกำเนิดของมันจะแข็งแรงกว่าเดิม แต่มันก็ไม่ได้กลายเป็นแมลงระดับนางพญา มันยังคงเป็นเพียงแมลงกินวิญญาณระดับจ่าฝูง
“ข้าไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อนเลย” ลั่วอู๋อยากรู้สึกอยากเห็นแมลงกินวิญญาณจ่าฝูงตัวนี้มีระดับสูงถึงเงิน มิติ 9
เขาควรจะลองสังเคราะห์อีกครั้งดีไหม?
แต่เขาก็กลัวว่าผลลัพธ์จะออกมาเหมือนเดิม
แม้ว่ามันจะเป็นสัตว์วิญญาณที่เพิ่งได้รับการสังเคราะห์ขึ้นมาใหม่ แต่ดูเหมือนว่ามันจะยังคงมีร่องรอยของความแข็งแกร่งดั้งเดิมในร่างกาย ซึ่งทำให้มันทนต่อพลังของลั่วอู๋ได้
ถึงแม้ว่ามันจะเกือบจะตายด้วยน้ำมือของลั่วอู๋ก็ตามที

“เจ้ามีปัญหาอะไรเนี่ย ? คิดว่าข้าจะโยนเจ้าให้นกโง่กินรึไง” ลั่วอู๋จ้องมองมัน
นกหน้าโง่ดูเหมือนจะรู้สึกถึงอะไรบางอย่าง มันจึงรีบบินวนลงมาจากท้องฟ้าแล้วจ้องมองไปที่แมลงกินวิญญาณระดับจ่าฝูง พร้อมแสดงให้เห็นร่องรอยของความปรารถนาในแววตาของมัน

“เจ้าไม่ได้อยากกินมันจริง ๆ ใช่ไหมเนี่ย ?” ลั่วอู๋ตะลึง
นกหน้าโง่กระพือปีกขนสีขาวราวกับหิมะของมันศักดิ์สิทธิ์และสง่างาม ปีกที่งดงามของมันกำลังร่ายรำอยู่ในอากาศ แต่มันก็ยังมิวายแสดงให้เห็นร่องรอยของความโลภในแววตาของมัน
รูปร่างนั้นเปลี่ยนง่ายแต่สันดานนั้นเปลี่ยนยาก
นกหน้าโง่ตัวนี้ต้องการทุกสิ่งทุกอย่างที่มันเห็น มันไม่สนใจว่าสิ่งเหล่านั้นจะมีประโยชน์ต่อมันหรือไม่ด้วยซ้ำ
“ไปๆ ๆ ๆ ๆ ถ้าหิวก็ไปกินหนอนอมรณาสิโว้ย” ลั่วอู๋ขับไล่นกโง่ จนมันบินหนีไปอย่างไม่พอใจ
ลั่วอู๋จ้องมองไปที่แมลงกินวิญญาณและครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “มันน่าจะต้องมีวิธีพิเศษถึงจะสังเคราะห์แมลงระดับนางพญาได้งั้นเหรอ?”
นี่คือสิ่งที่ลั่วอู๋เดา
ต้นกำเนิดของแมลงกินวิญญาณประเภทนี้ น่าจะมาจากวิธีที่ค่อนข้างกระหายเลือด
คงมีเพียงการปล่อยให้พวกมันฆ่ากันและกลืนกินกันเองจนเหลือผู้รอดชีวิต กลายเป็นแก่นวิญญาณเดียวกันถึงจะสร้างนางพญาแมลงกินวิญญาณขึ้นมาได้
มันเป็นวิธีการเลี้ยงแมลงพิษ อันดุร้ายและมีชื่อเสียง เกิดจากปรากฏการณ์ทางธรรมชาติของการกินกันเอง แต่มันก็ดูจะได้ผลลัพธ์ที่รุนแรงและกระหายเลือดมากเกินไป

“ข้าไม่มีทรัพยากรเพียงพอที่จะทำแบบนั้น ถ้าเจ้านี่สามารถกลายเป็นนางพญาแมลงกินวิญญาณได้ละก็ ก็คงต้องพึ่งพาประสงค์ของเทพเจ้าแล้วล่ะ” ลั่วอู๋ใช้พลังของไหปีศาจ
สังเคราะห์
ยกระดับมิติวิญญาณ ระดับเงิน 9 ไปเป็นระดับเงิน 10
ค่าใช้จ่าย 1 พันแต้มเซียน
พลังวิญญาณบริสุทธิ์รวมตัวกันอย่างรวดเร็วจากมิติไห จากนั้นก็กลายเป็นวังวนและหลั่งไหลเข้าสู่ร่างของแมลงกินวิญญาณ
ผลลัพธ์นั้นไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่ มิติของแมลงกินวิญญาณได้รับการอัพเกรดเป็นระดับเงิน 10

ลั่วอู๋ไม่ได้หยุด แต่เขาจ่ายเพิ่มไปอีก 1200 แต้มเซียน ทำให้มิติของมันพัฒนาไปเป็นระดับที่ห่างจากระดับทองเพียงก้าวเดียว
จากนั้นลั่วอู๋ใช้ความสามารถ “ยกระดับ” ของไหปีศาจเพื่อบังคับให้มิติวิญญาณของแมลงกินวิญญาณเพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตามหากจุดเริ่มต้นถึงขีดจำกัด ระดับขั้นสูงจะล้มเหลว
เช่นเดียวกับหมีคำรามระดับเงิน ลั่วอู๋สามารถยกระดับมันขึ้นจากระดับทองแดง มิติ 10 ให้เป็นระดับเงิน มิติ 1 ได้ แต่เขากลับไม่สามารถยกระดับมันจากระดับเงิน 10 ไปเป็นระดับทอง 1 ได้
เนื่องจากคุณสมบัติของตัวมันเองไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ เว้นแต่จะเกิดการวิวัฒนาการที่ประสบความสำเร็จขึ้น
แต่ที่น่าแปลกใจก็คือความก้าวหน้าทางมิติวิญญาณของแมลงกินวิญญาณตัวนี้นั้นไม่ได้ล้มเหลว
ร่างของมันปกคลุมไปด้วยแสงสีขาว และแก่นวิญญาณก็ถูกยกระดับจนอยู่ในระดับที่น่าพึงพอใจ จนสามารถยกระดับมันเข้าสู่การเป็นสัตว์วิญญาณระดับทองได้สำเร็จ

“มันจบแล้ว!” ลั่วอู๋รู้สึกประหลาดใจ
เขาไม่นึกว่าวิธีนี้มันจะได้ผล
แมลงกินวิญญาณขนาดตัวเท่าเล็บมือปรากฏต่อหน้าลั่วอู๋ ลมปราณของมันเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง และมีสัญลักษณ์ดาวสิบสองดวงปรากฏขึ้นบนเปลือกสีทองของมัน
เหมือนกับแมลงของหยีเทียนเฉิน