บทที่ 175 นิดหน่อยๆ

ไม่มีใครสนใจเฉินจงเทียนที่หมดสติไป ถึงอย่างไรแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ก็ไม่ได้ลงมือ

ไม่เกี่ยวกับพวกเขา

ตอนนี้ทุกคนทั้งห้องลับต่างได้ผลประโยชน์ ความรู้สึกดีต่อเสิ่นเทียนก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน

โดยเฉพาะซ่งฟู่กุ้ย หลิวไท่อี่ และเจินจื้อเจี่ยสามคน ตอนนี้หลงใหลเสิ่นเทียนจวบจนหัวใจสลาย เดิมทีพวกเขาเป็นเพียงผู้ฝึกบำเพ็ญธรรมดาในสวนหมื่นวิญญาณ แม้แต่ซ่งฟู่กุ้ยยังเป็นเพียงลูกหลานสายย่อยของตระกูลขุนนางบำเพ็ญเซียน

ถ้าเป็นไปตามวงโคจรปกติ ปกติคนพวกนี้ไม่ต้องหวังทะลวงแก่นพลังทองเลย จึงยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึงระดับดวงจิตดรุณที่เหนือกว่าแก่นพลังทอง

แต่เพราะศรัทธาท่านเซียน พวกเขาจึงได้รับแก่นรากอัสนีเทพกำเนิดฟ้าในจี้มังกรพยัคฆ์ชะล้างกระดูก และยังได้เข้าเป็นศิษย์ฝ่ายในของแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ ได้รับมรดกเคล็ดห้าอัสนีฟ้าเที่ยงธรรมมา

ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด จากนี้คนพวกนี้จะได้เป็นผู้จริงแท้ระดับแก่นพลังทองอย่างง่ายดาย

ตอนนี้เสิ่นเทียนยังให้ของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานกับพวกเขาเยอะขนาดนี้อีก มีของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานชะล้างรากฐานมรรคและกายเนื้อแล้วจะทำให้รากฐานสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น

จากนี้ต่อให้คนพวกนี้จะเลื่อนเป็นผู้สูงศักดิ์ระดับดวงจิตดรุณก็ไม่ใช่เรื่องยากมากเลย

ทุกอย่างเป็นเพราะโชคลิขิตที่ศิษย์พี่เสิ่นเทียนมอบให้ มีศิษย์พี่เสิ่นเทียนดูแลก็เหมือนมีสวรรค์ดูแล

ก่อนหน้านี้จางอวิ๋นซียังเคยสงสัยและติเตียนคนพวกนี้ว่ารู้จักแต่ประจบสอพลอ มัวประจบจะบรรลุเป็นเซียนได้รึ

แต่ว่าตอนนี้ พวกซ่งฟู่กุ้ยอยากจะเถียงให้ตัวเองจริงๆ ว่า ‘ขออภัย มันได้จริงๆ!’

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตรับของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานมาขวดหนึ่งแล้ว ควันดำบนศีรษะก็สลายไปไม่น้อย

เขาชั่งน้ำหนักขวดหยกด้วยความปลื้มใจ สายตาที่มองเสิ่นเทียนมีความสนิทสนมเป็นพิเศษ

รู้จักธรรมเนียม น่ารัก เจ้าหนูเสิ่นเทียนว่านอนสอนง่ายกว่าอาจารย์เขาเยอะ

เขามองเสิ่นเทียนพลางพูดด้วยรอยยิ้มมีเมตตา “เทียนเอ๋อร์คือบุตรแห่งกิเลนของฝ่ายเราจริงๆ แดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ได้บุตรศักดิ์สิทธิ์อย่างเทียนเอ๋อร์มา ยังต้องกังวลว่าภายภาคหน้าจะไม่ยิ่งใหญ่ขึ้นอีกหรือ

อ้อเทียนเอ๋อร์ ฝ่ายเรายังมีผู้อาวุโสอีกไม่น้อย ของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานพวกนี้ เจ้าจะลำเอียงมองข้ามพวกเขาไปไม่ได้ ถ้าไม่เช่นนั้นเอาอย่างนี้! เจ้าเอาของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานมาให้ข้าอีกสองสามขวด ข้าจะแบ่งให้ผู้อาวุโสพวกนั้นแทนเจ้าเอง จะช่วยพูดชมให้เจ้าด้วย

ทุกคนรู้ดีว่าข้ายุติธรรมที่สุด จะต้องมีผู้อาวุโสคิดว่าไม่ยุติธรรมลำเอียงแน่นอน!”

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ข้างๆ พูดเบาๆ “ศิษย์พี่ อยู่ต่อหน้าบุตรพุทธะขู่ตัว เก็บอาการหน่อย”

สายฟ้าประกายเซียนบนผิวกายเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์กระเพื่อม ส่งเสียงดังเปรี๊ยะๆ

เขาเอ่ยนิ่งๆ ว่า “ของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานที่เหลือให้เทียนเอ๋อร์เก็บไว้เถอะ! นี่เป็นสมบัติล้ำค่าเยียวยา ใช้หลอมเป็นโอสถศักดิ์สิทธิ์เยียวยาได้ จะมีผลมหัศจรรย์กว่า ศิษย์น้องหญิงบัวขาวชำนาญการหลอมโอสถวิญญาณ นางจะเร่งรัดสรรพคุณยาของของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานได้สูงสุด”

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ส่งของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานให้ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวขาว “แต่ผู้อาวุโสคนอื่นๆ ของฝ่ายเราก็จะมองข้ามไปไม่ได้จริงๆ เอาเช่นนี้แล้วกัน! ของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานร้อยชั่งของข้านี่ รบกวนศิษย์น้องหญิงหลอมเป็นโอสถนิพพานแล้วแบ่งไปเสียเถอะ

ยามเจออันตรายอาจจะมีประโยชน์กับผู้อาวุโสทุกท่าน และจะได้รับจิตใจกตัญญูของเทียนเอ๋อร์กันทุกคนด้วย”

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวขาวมองเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ ดวงตามีดาวขยับแสงบางๆ ท่าทางเหมือนกับผู้คลั่งไคล้สาว

นางพูดด้วยความแน่วแน่ว่า “ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ก็เอาของเหลวศักดิ์สิทธิ์ของศิษย์น้องหญิงไปด้วยแล้วกัน! ของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานสองร้อยชั่งก็น่าจะพอแบ่งให้ผู้อาวุโสทุกคนแล้ว”

พูดจบแล้ว ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวขาวก็ยิ้มมองนักพรตชราข้างๆ

เวลานี้นักพรตชราหน้าดำมืด เขารู้สึกว่าเจ้าบ้าสองคนนี้กำลังวางกับดักใส่เขา

พวกเจ้าหมายความว่าอย่างไรกัน เสิ่นเทียนให้ของเหลวศักดิ์สิทธิ์สามขวดกับเราสามคน ปรากฏว่าพวกเจ้าสองคนไม่เอา ยินดีจะบริจาคมาหลอมโอสถวิญญาณรึ

เหอะๆ หลอมโอสถวิญญาณแล้วจะแบ่งอย่างไร พวกเจ้าสองคนก็เป็นคนตัดสินใจเองไม่ใช่รึ

ชั่วร้าย ชั่วร้ายจริงๆ!

เป็นศิษย์พี่ศิษย์น้องร่วมอาจารย์เดียวกันมาเป็นร้อยเป็นพันปี พวกเจ้ากลับเล่นสกปรกกับศิษย์พี่ มโนธรรมในใจไม่เจ็บปวดบ้างหรือ

ทั้งยังจงใจพูดต่อหน้าศิษย์พวกนี้ อยากให้ศิษย์พี่หน้าแดงเขินอายหรือ

เหอะๆ ดูถูกข้าเกินไปแล้ว ข้าเคยสนใจความคิดคนอื่นตั้งแต่เมื่อไร

นักพรตชราเอาตามองจมูก จมูกมองใจ ทำเป็นไม่ได้ยินอะไรเลย

…….

ส่วนเสิ่นเทียนเองก็ได้สติจากคำพูดของนักพรตชราเช่นกัน

ใช่ แดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เรามีผู้อาวุโสสูงส่งเยอะขนาดนั้น

เจ้าพวกนี้ต้องมีดวงชะตาไม่น้อยแน่ ภายภาคหน้าจะเป็นผักกุยช่ายที่ซ่อนอยู่!

ถึงอย่างไรตอนนี้เขาก็กำลังใส่ปุ๋ย รดน้ำไม่กี่ต้นก็คือรดน้ำเหมือนกัน รดน้ำผักทั้งหมดก็คือรดน้ำเช่นกัน

ถ้าให้ผลประโยชน์เพื่อผูกมิตรไว้ก่อน ภายภาคหน้าก็จะเกาะพวกเขาได้สะดวกยิ่งขึ้น!

เมื่อคิดได้ดังนั้น เสิ่นเทียนจึงหยิบของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานส่งไปอีกสิบขวด

“เป็นศิษย์ที่คิดไม่รอบคอบเอง มองข้ามผู้อาวุโสท่านอื่นไป อาจารย์อย่ากังวลเลย ของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานสิบขวดนี่ให้กับแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ทั้งหมด! ขอให้อาจารย์ช่วยแจกจ่ายแทนศิษย์ด้วย”

เสิ่นเทียนเพิ่งพูดจบก็พบว่าทุกคนมองตนเหมือนกับกำลังมองตัวประหลาด

ประกายเซียนบนผิวกายเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์สั่นไหวอย่างรุนแรง “เทียนเอ๋อร์ ไม่ใช่ว่าเจ้ายังมีของเหลวศักดิ์สิทธิ์อีกนะ!”

เสิ่นเทียนเกาหัวแล้วพูดเชิงเขินอาย “นิดหน่อย แค่นิดหน่อยเท่านั้น”

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ส่ายหน้า “เหลือนิดหน่อยก็ช่างเถอะ ไม่เหมาะสม”

เสิ่นเทียนพูดด้วยความจำใจ “อาจารย์ท่านเข้าใจผิดแล้ว ศิษย์หมายความว่า…”

เสิ่นเทียนชำเลืองตามองบุตรศักดิ์สิทธิ์ดาวเหนือที่เพิ่งงัวเงียฟื้นขึ้นมา นัยน์ตามีความสงสารเสี้ยวหนึ่ง

เขาถอนหายใจ “ศิษย์หมายความว่า ศิษย์เอาของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานออกมาแค่นิดหน่อยเท่านั้น”

เอ่ยจบ แหวนเวหาของเสิ่นเทียนก็เปล่งแสงอ่อนๆ ก่อนที่ของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานสามสิบขวดจะลอยออกมา

กลิ่นหอมสดชื่นที่มีท่วงทำนองมรรคเข้มข้นเหมือนรวมเป็นสสารจริง มวลอากาศยังมีเงาเซียนลอยอยู่รางๆ

เห็นได้ชัดว่าของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานทุกขวดที่นี่เป็นของจริงแท้แน่นอน

……..

พรวด!

บุตรศักดิ์สิทธิ์ดาวเหนือกระอักเลือดมาคำหนึ่ง

กลิ่นอายพลังทั่วร่างแห้งเหี่ยวลง ดูอ่อนแรงมาก

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เอ่ยนิ่งๆ “ส่งคนมาคุ้มกันบุตรศักดิ์สิทธิ์ดาวเหนือกลับแดนศักดิ์สิทธิ์ดาวเหนือ จำไว้ว่าต้องส่งให้ถึงเป็นๆ ห้ามให้กระทบกระทั่งเด็ดขาด เดี๋ยวถึงตอนนั้นแล้วจะพูดยาก”

เอ่ยจบแล้ว เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ถึงมองที่บุตรพุทธะขู่ตัว “วันนี้บุตรพุทธอยู่ที่นี่ตลอด หากแดนศักดิ์สิทธิ์ดาวเหนือมาโต้เถียง ก็หวังว่าจะเป็นพยานให้”

บุตรพุทธะขู่ตัวมองของเหลวศักดิ์สิทธิ์ในมือ

เขาพยักหน้าอย่างแน่วแน่ “อาตมาเป็นนักบวชไม่โกหกอยู่แล้ว วันนี้บุตรศักดิ์สิทธิ์ดาวเหนือธาตุไฟเข้าแทรก ดวงจิตดรุณผันผวน ไม่เกี่ยวกับแดนศักดิ์สิทธิ์ของท่าน”

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์พยักหน้าชื่นชม “บุตรพุทธะยึดมั่นใจความเป็นธรรมจริงๆ”

จากนั้นเขาก็มองเสิ่นเทียนอีก สารภาพตามตรง ตอนนี้อารมณ์ของเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ค่อนข้างซับซ้อนเช่นกัน

แม้เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์จะยอมรับมาตลอดว่าเสิ่นเทียนคือบุตรแห่งโชค แต่ไม่นึกเลยว่าจะเกินไปเช่นนี้!

ตอนผู้อริยะปีศาจพฤกษาระดับฝ่าด่านเคราะห์ธรรมดาบรรลุนิพพานยังรวมของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานได้หนึ่งถึงสองฟาง ทั้งยังสลายไปไม่น้อย

แต่เสิ่นเทียนกลับบริจาคของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานให้หนึ่งฟางกว่า อีกทั้งคุณภาพยังน่าตกใจมาก

ข้าเชื่อมั่นว่ามีเสิ่นเทียนเป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์ ภายภาคหน้าจะต้องนำพาแดนศักดิ์สิทธิ์ให้ยิ่งใหญ่ขึ้นอย่างแน่นอน

แต่จังหวะก็เร็วเกินไปเช่นกัน มีความสุขจนไม่ไหวแล้ว!

ไม่ไหว ข้าจะทนไม่ไหวแล้ว!

ฮิๆๆๆๆๆ~

…….

สายฟ้าประกายเซียนบนผิวกายสั่นไหวอย่างรุนแรง ก่อนเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์จะเอ่ยอย่างเฉยชา “เทียนเอ๋อร์รู้เรื่องราวเช่นนี้ ข้าปลื้มใจยิ่งนัก

แต่แดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ก็มีเกียรติของแดนศักดิ์สิทธิ์ จะไปเอาเปรียบเจ้าเฉยๆ ได้อย่างไร มันไม่เหมาะสมจริงๆ เอาอย่างนี้แล้วกัน! ของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานสิบขวดนี่ ข้าจะเก็บไว้ในแดนศักดิ์สิทธิ์ให้เจ้าเอง

หากผู้อาวุโสฝ่ายเราต้องการใช้ ก็ให้เอาสมบัติล้ำค่ามาแลก ของที่ได้ทั้งหมดจะมอบให้เจ้า ส่วนของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานของเราสามคน ก็จะรับไว้เฉยๆ ไม่ได้เช่นกัน เดี๋ยวพวกข้าหารือกันก่อนว่าจะเอาสมบัติมูลค่าพอกันแบบใดให้เจ้าดี”

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เอ่ยจบ ลูกศิษย์ทุกคนกับผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวขาวมีสีหน้าเลื่อมใสขึ้นมา

ให้ของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานเยอะขนาดนี้เฉยๆ เลย ไม่อยากเชื่อว่าจะต้านความยั่วยวนไหว ผู้นำที่มีเกียรติเช่นนี้หาได้ยากในโลกแล้ว

ยุติธรรมตรงไปตรงมา ปฏิบัติกับศิษย์เหมือนบุตร มิน่าแดนศักดิ์สิทธิ์ถึงยิ่งใหญ่ขึ้นทุกคืนวันด้วยการนำของเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์

แน่นอนว่าไม่ใช่ทุกคนที่รู้สึกเลื่อมใสกับการตัดสินใจของเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์

อย่างเช่นนักพรตชราบางคน ตอนนี้ปวดใจจนระเบิดอยู่แล้ว

ขอพูดอย่างมีเหตุผล เขารู้สึกถูกชี้เป้า

ศิษย์น้องรองใจดำนี่เลวมาก!

เอาของเขาไปเฉยๆ ไม่ถามความเห็นหน่อยหรือ

……

ช่วงที่ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตกำลังสงสัยในชีวิตอยู่นั้น บุตรพุทธะขู่ตัวข้างๆ หน้าเปลี่ยนสีไปเล็กน้อย ลูกประคำตรงคอเขาเปล่งแสงเนิบนาบ สะท้อนออกมาเป็นเงาพุทธะสูงใหญ่

เงาพุทธะเที่ยงธรรมเคร่งขรึม บุญกุศลแสงพุทธไร้ที่สิ้นสุดเสริมกาย!

ทำให้คนเกิดความเคารพเลื่อมใส เหมือนกับพระพุทธแท้จริงลงมาเยือน

คนผู้นี้ก็คือเจ้าพุทธะเสียงอัสนี!

…………………………..……..