ส่วนที่ 7 สลับตัวคุณหนูไฮโซ ตอนที่ 22 สลับตัวคุณหนูไฮโซ (22)

ภารกิจขโมยใจ ผจญภัยต่างโลก

ถึงเวลาทำงานแล้ว ที่ประตูของบริษัทเริ่มมีพนักงานเดินเข้าเดินออกเยอะขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้ทำร้ายผู้อื่นโดยไม่ตั้งใจ สุดท้ายซูรุ่ยจึงพาเธอไปที่ห้องทำงานของตัวเอง 

 

ถึงแม้ว่าตอนนี้สตูดิโอเกมออนไลน์แห่งนี้จะยังไม่เป็นที่รู้จัก แต่ซูรุ่ยก็ได้ติดต่อกับกลุ่มบริษัทข้ามชาติไว้หลายบริษัทแล้ว ตอนนี้รอแค่ให้เกมผ่านการทดสอบ และเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ในงานการประชุมสุดยอดเกมออนไลน์ระหว่างประเทศในปีหน้าเท่านั้น 

 

“นั่งสิ” 

 

ซูรุ่ยเข้ามาในห้องทำงานของเขา และถอดเสื้อสูทพาดไว้บนเก้าอี้ เจ้าของบริษัทซึ่งเป็นเก้าอี้ประจำตำแหน่งของตัวเองอย่างปกติวิสัย ขณะที่หันกลับมาเขาก็ค่อยๆ คลายเนกไทบนคอของตัวเองออก 

 

เจี่ยงโยวที่จับจ้องพฤติกรรมของซูรุ่ยอยู่ตลอดเวลา จึงเหลือบไปเห็นรอยสีแดงเข้มที่ซ่อนอยู่ครึ่งหนึ่งของปกคอเสื้อเขา เจี่ยงโยวจึงรีบก้มหลบสายตาลงทันที แต่ในใจกลับเต้นแรงและก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงเหตุการณ์ที่ซูรุ่ยจูบกับซูหว่านตรงทางเดินชั้นสองในวันนั้น 

 

ทันใดนั้น หัวใจของเจี่ยงโยวก็รู้สึกเจ็บแปลบเล็กน้อย 

 

“คุณมีธุระอะไร? ” 

 

เวลานี้ซูรุ่ยได้นั่งลงบนเก้าอี้ของตัวเองอย่างเบื่อหน่าย เขาค่อยๆ เบิกตาขึ้นมาอย่างเฉยเมย และมองเจี่ยงโยวด้วยสายตาเย็นชา 

 

“พี่ใหญ่เซียว ฉัน…” 

 

เจี่ยงโยวสูดลมหายใจเขาลึกๆ เดิมทีต้องการอยากจะบอกเรื่องของตัวเองทั้งหมดกับเขา แต่เมื่อได้พูดกลับพูดเป็นอีกอย่าง “พี่ใหญ่เซียว พี่รู้เรื่องของซูหว่านกับหลัวอวี่ไหม” 

 

“หืม? ” 

 

ซูรุ่ยขมวดคิ้วเล็กน้อย ประโยคนี้ทำไมมันรู้สึกคุ้นหูจัง 

 

ใช่แล้ว ดูเหมือนว่าผู้หญิงในโลกภารกิจเคยพูดกับเขาแล้ว ซูรุ่ยขมวดคิ้วครุ่นคิดอยู่นาน ในที่สุดก็จำได้ว่าผู้หญิงคนหนึ่งในโลกของเกมออนไลน์ เคยพูดคำพูดที่คล้ายกันนี้กับตัวเธอเอง 

 

ของประเภทเดียวกันจะถูกแยกไว้ด้วยกัน คนเราก็เหมือนกัน ดูเหมือนว่าระหว่างผู้หญิงด้วยกันจะมีอะไรที่คล้ายๆ กันอยู่มาก 

 

“เมื่อก่อนซูหว่านกับหลัวอวี่เป็นคู่รักกัน” 

 

เจี่ยงโยวนั่งอยู่บนโซฟา ค่อยๆ เอ่ยพูดขึ้นอย่างช้าๆ “ต่อมาหลัวอวี่กับซูหว่านก็เลิกกัน จากนั้นก็เริ่มตามจีบฉัน ซึ่งตอนนั้นฉันก็พยายามปฏิเสธเขามาตลอด แต่ซูหว่านก็เข้าใจผิดมาตลอด และคิดว่าฉันเป็นคนทำลายความรัก ดังนั้นเธอก็เลย…เธอก็เลย…” 

 

“คุณหมายความว่าเขามาคบกับผมเพียงเพื่ออยากแก้แค้นงั้นเหรอ” 

 

ซูรุ่ยหันข้างให้แล้วใช้มือข้างหนึ่งวางบนโต๊ะ จากนั้นก็พูดเสริมประโยคนั้นที่เจี่ยงโยวยังพูดไม่จบให้สมบูรณ์ 

 

“คุณรู้? ” 

 

เมื่อเจี่ยงโยวได้ยินคำพูดของซูรุ่ย ถึงกับเงยหน้าขึ้นมามองเขาด้วยแววตาตกใจทันที 

 

รู้กับผีอะไรล่ะ 

 

“เจี่ยงโยว คุณยังไม่ตื่นใช่ไหม? ” 

 

ซูรุ่ยชี้ไปที่ดวงตาของเธอ “คุณใช้ตาข้างไหนมองถึงได้คิดว่าซูหว่านคบกับผมเพื่อต้องการแก้แค้น? และถึงเขาจะต้องการแก้แค้นคุณจริงๆ เขาก็ควรจะพยายามทำทุกวิถีทางพื่อแย่งหลัวอวี่กลับคืนมาจากคุณถึงจะถูก เขาจะมาหาผมทำไม? คุณเองก็ไม่ได้ชอบผมสักหน่อย อืม หรือว่า…คุณชอบผม? ” 

 

“ฉัน ฉันไม่ ฉันไม่ได้…” 

 

เจี่ยงโยวพูดตะกุกตะกักจากนั้นใบหน้าก็เปลี่ยนเป็นสีแดงขึ้นมาทันที เมื่อก่อนตอนที่ยังไม่รู้ถึงความรู้สึกของตัวเองที่มีต่อเซียวฉี่ เจี่ยงโยวสามารถเผชิญหน้ากับประโยคนั้นได้อย่างสบาย แต่ตอนนี้… 

 

ขณะที่เจี่ยงโยวกำลังอึ้งอยู่นั้น ซูรุ่ยก็ได้ลุกขึ้นมา แล้วค่อยๆ เดินไปอยู่ตรงหน้าเจี่ยงโยวที่นั่งอยู่บนโซฟา 

 

“หรือว่า คุณชอบผมจริงๆ? ” 

 

ซูรุ่ยก้มตัวลงและใช้มือทั้งสองข้างจับโซฟาด้านหลังพยุงตัวไว้ จนทั้งตัวเกือบจะแนบชิดกับร่างกายของเจี่ยงโยว 

 

เจี่ยงโยวดึงสติกลับมาแล้วมองไปที่ผู้ชายที่อยู่ใกล้มากคนนี้ รู้สึกว่ารอบๆ ตัวของเธอกลายเป็นลมหายใจของเขาหมดแล้ว ทันใดนั้นหัวใจของเจี่ยงโยวก็เต้นแรงจนไม่เป็นจังหวะ ในตอนนี้ไม่ใช่แค่ใบหน้าของเธอ แม้แต่คอของเธอก็แดงไปหมด 

 

มองเห็นใบหน้าของซูรุ่ยที่ขยับใกล้เข้ามาเรื่อยๆ เจี่ยงโยวถึงกับตัวสั่นและหลับตาลงโดยไม่รู้ตัว 

 

“ฮ่าๆ” 

 

จู่ๆ เสียงหัวเราะเย็นชาก็ดังขึ้นที่ข้างหูของเจี่ยงโยว 

 

“คุณเลวขนาดนี้ เวินเหวินเฮ่ารู้ไหม? ” 

 

ทันใดนั้นเจี่ยงโยวก็ลืมตาขึ้นมา สบตากับแววตาเย็นชาของซูรุ่ย 

 

“คุณ…” 

 

เจี่ยงโยวมองซูรุ่ยอย่างเหลือเชื่อ ทำไมเขาถึงรู้… 

 

“เจี่ยงโยว ยิ่งผมมองคุณนานๆ ยิ่งรู้สึกขยะแขยง คุณรู้ไหม? ” 

 

ซูรุ่ยส่ายหัวด้วยความรังเกียจ พร้อมกับดึงมือของตัวเองกลับมาแล้วเช็ดด้วยผ้าเช็ดมือ แย่จริงๆ เมื่อกี้เข้าไปใกล้เกินไป ตอนนี้เริ่มรู้ไม่ค่อยสบายเนื้อสบายตัวแล้ว 

 

ขณะที่ซูรุ่ยทำสีหน้ากังวล เจี่ยงโยวที่นั่งอยู่บนโซฟาก็หน้าถอดสีทันที 

 

ขยะแขยง… 

 

สุดท้ายน้ำตาของเจี่ยงโยวก็ไหลออกมา พี่ใหญ่เซียวของเธอบอกว่าเธอขยะแขยง 

 

แต่เธอทำผิดอะไร? 

 

ซูหว่านแย่งสถานะของเธอไป เธอเคยคิดเล็กคิดน้อยไหม? เธอยอมให้น้องสาวคนนั้นทุกอย่าง และแสดงสีหน้ายินดีในทุกๆ วัน แต่เธอคนนั้นกลับไม่ยอมปล่อยเธอสักที! 

 

ตอนนี้แม้แต่พี่ใหญ่เซียวของเธอ ก็ถูกซูหว่านแย่งไปด้วย 

 

“พี่ใหญ่เซียว ซูหว่านมีอะไรดี? เธอสามารถสนองความต้องการของคุณได้ ฉัน…ฉันก็ทำได้เหมือนกัน! ” 

 

เจี่ยงโยวลุกขึ้นยืนด้วยความโมโห และอยากจะเดินไปจับแขนเสื้อของซูรุ่ย แต่กลับถูกซูรุ่ยใช้แรงสะบัดหนี “ไสหัวไปซะ! ” 

 

เขาสะบัดอย่างแรง ทำให้เจี่ยงโยวล้มลงไปกองกับพื้น หน้าผากของเธอไปกระแทกกับมุมของโซฟาพอดี จากนั้นเลือดก็ค่อยๆ ไหลหยดจากหน้าผากลงมา จนการมองเห็นของเธอเป็นสีแดง 

 

เจ็บปวด 

 

ร่างกายเจ็บ หัวใจก็เจ็บ 

 

เธอไม่สามารถเอาพี่ใหญ่เซียวคนที่คอยดูแลปกป้องเธอในตอนนั้นกลับมาได้อีกแล้ว 

 

สายตาของผู้ชายที่อยู่ตรงหน้านี้ มองเธอมันแต่ความเย็นชาและความเกลียดชัง 

 

“เซียวฉี่ เซียวฉี่……” 

 

เจี่ยงโยวเรียกชื่อของเขาอย่างเจ็บปวดใจ แต่ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้ากลับมองไม่เห็นบาดแผล และรอยเลือดของเธอเลย 

 

เขาเดินไปกลับไปที่โต๊ะทำงานอย่างเมินเฉย และกดเรียกสายภายในบริษัท “เรียก รปภ. ขึ้นมาสองคน! เดี๋ยวนี้ด่วน! ” 

 

ถ้าต้องเห็นเจี่ยงโยวต่ออีกวินาทีเดียว ซูรุ่ยกลัวตัวเองจะอดไม่ได้ ที่จะสับเธอเป็นชิ้นๆ แล้วให้เป็นอาหารหมา 

 

เมื่อ รปภ. ของบริษัทเข้ามาให้ห้องทำงาน ก็เห็นผู้หญิงนั่งร้องไห้อยู่ที่พื้น และมีเลือดอาบเต็มใบหน้า 

 

นี่มันเรื่องอะไรกัน? 

 

“ลากผู้หญิงบ้าคนนี้ออกไป และห้ามให้เธอเข้าใกล้บริษัทของเรา แม้แต่ก้าวเดียว!” 

 

ได้ยินซูรุ่ยออกคำสั่งอย่างเย็นชา รปภ. ทั้งสองคนที่อยู่หน้าประตู ก็รีบเดินเข้ามาตามคำสั่งทันที จากนั้นประคองเจี่ยงโยวขึ้นมาจากพื้น เวลานี้เจี่ยงโยวราวกับร่างที่ไร้วิญญาณยังไงยังงั้น เธอยอมให้ รปภ. ทั้งสองคนประคองเธอออกไปจากห้องทำงานของซูรุ่ยแต่โดยดี เธอเอนตัวพิงมุมผนังอย่างหมดแรง และมองป้ายของบริษัทด้วยสายตาโมโห 

 

ซูเฉิงหว่านเย่ว์ 

 

นี่เป็นชื่อสตูดิโอทำงานของซูรุ่ย 

 

ซูเฉิงหว่านเย่ว์ ซูหว่าน 

 

 

 

ซูหว่าน! ฮ่าฮ่า! 

 

แววตาของเจี่ยงโยวค่อยๆ เปลี่ยนเป็นเย็นชา เธอรู้สึกว่าตัวเองอ่อนแอและจิตใจดีเกินไป จึงทำให้ซูหว่านได้คืบจะเอาศอกแบบนี้!  

 

เธอต้องโต้กลับ! เธอต้องการทำให้ทุกคนได้เห็นว่า ซูหว่านร้ายกาจขนาดไหน 

 

สักวันหนึ่ง พี่ใหญ่เซียวจะเข้าใจ ว่าใครที่หวังดีกับเขาจากใจจริง