ตอนที่ 207 เอกสารประทับรอยนิ้วมือ

แม่สาวเข็มเงิน

ก่อนหน้านี้ตอนที่แม่ของซุนต้าตงรู้ว่าลูกชายถูกจับตัวไป นางร้องห่มร้องไห้หมดสติ ตอนนี้ร่างกายจึงยังไม่ค่อยคล่องแคล่วเท่าไหร่ อีกทั้งหลังยังค่อม ตาก็ฝ้าฟางมองไม่ค่อยเห็นอะไรแล้ว ตอนนี้นางกำลังปัดป่ายมือสองข้างไปข้างหน้าอย่างลวก ๆ และพูดไม่หยุดหย่อนว่า “ต้าตงเจ้าอยู่ไหน ต้าตง ?”

“แม่ ข้าอยู่นี่” ซุนต้าตงที่ยังคงคุกเข่าพยายามตะโกนเรียกแม่ตัวเองอยู่ตรงนั้น

ขุนนางอำเภอจู้ขมวดคิ้ว เขาทุบค้อนอีกครั้ง “ไม่อนุญาตให้คนในครอบครัวของนักโทษขึ้นมายังพื้นที่ใกล้แท่นตัดสิน แต่เห็นแก่ที่เป็นคนชราร่างกายอ่อนแอ  เจ้าหน้าที่ไปย้ายเก้าอี้มา พานางไปนั่งข้าง ๆ และกำชับด้วยว่าไม่อนุญาตให้รบกวนการไต่สวน”

เมื่อแม่ของซุนต้าตงได้ยินเสียงค้อน ทั้งร่างของนางสั่นเล็กน้อย หูก็ได้ยินขุนนางอำเภอจู้สั่งให้คนนำเก้าอี้มาให้ตน

ป๋ายรุ่ยฮัวประคองแม่ของซุนต้าตงแล้วพูดขึ้นเสียงเบา “ท่านแม่เจ้าคะ ต้าตงกำลังคุกเข่าอยู่ข้างหน้า เขาไม่เป็นอะไร ท่านไม่ต้องเป็นห่วงนะ”

ดวงตาของผู้เป็นแม่ซุนต้าตงซึ่งมองไม่ค่อยเห็นมาตั้งนานแล้วมีน้ำตาสีขุ่นรินไหลขณะที่นางพูดอย่างเศร้าสร้อย “ขึ้นโรงขึ้นศาลถูกไต่สวนเตรียมถูกลงโทษขนาดนี้ ทำไมข้าจะไม่เป็นห่วงล่ะ ?”

ทันใดนั้นเอง เจ้าหน้าที่ย้ายเก้าอี้มาให้แล้ว ป๋ายรุ่ยฮัวจึงประคองแม่ของซุนต้าตงไปนั่งพร้อมทั้งลูบท้องของตัวเองไปด้วย “ท่านแม่เจ้าคะ กว่าเราจะเจอกับพ่อค้าส่งสินค้าเข้าเมืองและพาเรามาที่นี่ได้นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย สวรรค์จะต้องคุ้มครองเราอย่างแน่นอน เขาคงไม่ให้ลูกในท้องข้าเกิดมาแล้วไม่เจอพ่อไปตลอดหรอกเจ้าค่ะ”

แม่ของซุนต้าตงพยักหน้า

ด้วยเพราะมีบทแทรกนี้ การไต่สวนในตอนหลัง ซุนต้าตงก็ยิ่งยืนกรานหาว่าซุนต้าหูเป็นคนบงการตัวเองและแทบจะร้องไห้อยู่รอมร่อ “พี่หู แม่กับเมียข้าต่างมาที่นี่กันแล้ว พี่ไม่อายหรือที่จะผลักโทษของพี่มาให้ข้าต่อหน้าพวกนาง ?”

แม่ของซุนต้าตงก่นด่า “ต้าหู ตอนที่พ่อแม่เจ้าจากไป ข้าให้ข้าวแถมยังป้อนยาให้เจ้าด้วย ตอนนี้เจ้ากลับมาให้ร้ายน้องชายเจ้าแบบนี้น่ะรึ ?!”

ซุนต้าหูสั่นไปทั้งตัว เขาได้แต่ก้มหน้าลงโดยที่ยังคุกเข่าอยู่อย่างนั้น “ขะ… ข้าน้อยยอมรับโทษขอรับ”

ซุนต้าตงโล่งอกทันที เขารีบพูดขึ้นอย่างดีใจ “ว่าไงล่ะท่าน ท่านได้ยินหรือยัง ?! เขายอมรับโทษแล้ว”

ขุนนางอำเภอจู้กลับพูดขึ้น “งั้นก็ได้ ในเมื่อซุนต้าหูยอมรับโทษแล้ว ข้าจะถามเขาสักหน่อย ซุนต้าหู ในเอกสารที่เจ้าเคยประทับรอยนิ้วมือนั้น เขียนอะไรไว้บ้าง ?”

เหงื่อซุนต้าตงไหลลงมาทันที

รอยนิ้วมือเป็นของซุนต้าหูจริง ๆ แต่ตอนที่เขาหลอกให้ซุนต้าหูประทับรอยนิ้วมือ เขาบอกกับซุนต้าหูว่านี่คือเอกสารสำหรับเตรียมรับเงินปันผล

ซุนต้าหูก้มหน้าแล้วพูดขึ้นเสียงเบาว่า “เวลาผ่านไปนานแล้ว ข้าน้อยจำเนื้อหาในเอกสารไม่ได้แล้วขอรับ”

ซุนต้าตงพูดแทรกจากด้านข้าง “ท่านขุนนางอำเภอ ในเมื่อประทับรอยนิ้วมือแล้ว ก็หมายความว่ายอมรับแล้วนี่ขอรับ”

ครั้งนี้ขุนนางอำเภอจู้ไม่ได้ตำหนิที่ซุนต้าตงพูดแทรก แต่เขาสั่งคนให้ถือเอกสารไปให้ซุนต้าหูดู “ซุนต้าหูเจ้าดูก่อน นี่คือเอกสารที่เจ้าประทับรอยนิ้วมือในตอนนั้นหรือเปล่า ?”

ซุนต้าหูมองอย่างลวก ๆ แล้วพยักหน้าอย่างหนักแน่น “ใช่แล้ว ไม่ผิดขอรับ”

ขุนนางอำเภอจู้สั่งให้คนถามซุนต้าตงด้วยเช่นกัน “เจ้าก็ดูด้วยว่านี่คือเอกสารที่เจ้าประทับรอยนิ้วมือในตอนนั้นหรือเปล่า ?”

ซุนต้าตงครุ่นคิดอยู่ในใจ ตอนนั้นเขาทำรอยเปื้อนไว้บนเอกสารนี้ เมื่อเขามองแล้วและพบว่ารอยเปื้อนยังอยู่ เขาก็พยักหน้ารับ “ใช่ขอรับ”

ขุนนางอำเภอจู้ยิ้ม เขาสั่งให้คนนำเอกสารนั้นมาส่งที่โต๊ะสอบสวน “นี่เป็นเพียงเอกสารที่เขียนตัวอักษรอย่างลวก ๆ เท่านั้น เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ของการปลอมแปลง ข้าจึงจงใจทำให้มันเหมือนกับลายมือแบบเก่า แต่ถ้าใครที่อ่านหนังสือออกก็จะเห็นว่าเนื้อหาในเอกสารแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง  น่าแปลกที่พวกเจ้าสองคนกลับจำได้แค่ว่าเอกสารนั้นเป็นเอกสารที่ซุนต้าหูเคยประทับรอยนิ้วมือ นี่แสดงให้เห็นว่าพวกเจ้าสองคนอ่านหนังสือไม่ออก  ดังนั้น ตอนที่เขียนเอกสารนี้จะต้องเกี่ยวข้องกับบุคคลที่สามอีกคนอย่างแน่นอน ไหนพวกเจ้าลองบอกมาซิว่าบุคคลที่สามมีชื่อแซ่ว่าอะไร ?”

ซุนต้าตงคิดไม่ถึงว่าขุนนางอำเภอจู้คนนี้จะใช้อุบายกับพวกเขา  เหงื่อเขาผุดแล้วผุดอีก เม็ดเหงื่อเกาะอยู่บนศีรษะของเขาเต็มไปหมด เขากำลังจะชิงพูดตบตาเรื่องนี้ แต่ขุนนางอำเภอจู้กลับทุบค้อนแล้วตวาดอย่างน่าเกรงขามเสียก่อน

“ซุนต้าหู ซุนต้าตง พวกเจ้าต้องคิดให้ดี อย่าได้ทำเหมือนว่าแท่นตัดสินแห่งนี้เป็นสถานที่เล่นสถานที่โกหกของพวกเจ้า ไม่อย่างนั้น ข้าจะใช้โทษดูหมิ่นสถานที่และลงโทษพวกเจ้า ณ ที่แห่งนี้ให้หลาบจำ!”

อำนาจของขุนนางนั้นย่อมร้ายแรง ซุนต้าตงหน้าซีด เขาตัวสั่นงันงก สมองก็ขาวโพลนกลวงเปล่าไปทันที

นี่ไม่เหมือนกับที่เพื่อนของเขาคนนั้นบอกไว้เลย…

ไหนบอกว่าแม้จะถูกจับตัวไป เพียงแค่ยัดเงินให้กับเจ้าหน้าที่ เรื่องนี้ก็จะผ่านพ้นไปได้ไม่ใช่รึ ?

นี่ไม่เพียงแต่ถูกคนอื่นมาขัดขวางเรื่องการยัดเงิน แม้แต่ทางหนีทีไล่ที่เขาเหลือไว้ให้ตัวเอง ขุนนางอำเภอคนนี้ก็เหมือนจะรู้ทัน อะไรที่เขาพูดไปก็เหมือนไม่เชื่อเลยสักอย่างเดียว

ซุนต้าหูที่เดิมทีคิดจะรับโทษแทนซุนต้าตง เมื่อเขาได้ยินเช่นนี้ก็ยิ่งพูดไม่ออกมากกว่าเดิม

“เบิกตัวพยาน!” ขุนนางอำเภอจู้ทุบค้อนอีกครั้ง เขาเอ่ยสั่งเบิกตัวพยานขึ้นมาสองสามคน

เมื่อซุนต้าตงเห็น ใบหน้าเขาพลันขาวซีดไม่ต่างจากหมูต้มไก่ต้ม เพราะถือได้ว่าคนเหล่านั้นเป็นคนคุ้นเคยของเขาเอง มีเจ้าของร้านอาหาร เถ้าแก่บ่อนการพนัน นอกจากนี้ยังมีแม่เล้าจากซ่องโสเภณีอีกด้วย

แย่แล้ว!

พวกเขาเดินเรียงแถวกันเข้ามา พากันมาก้มศีรษะให้ขุนนางอำเภอจู้อย่างเคารพแล้วรายงานสถานะของตัวเองทีละคน

“ในลูกค้าประจำของพวกเจ้า มีคนชื่อว่าซุนต้าหูหรือซุนต้าตงหรือไม่ ?” ขุนนางอำเภอจู้เอ่ยถาม

พวกเขาพูดขึ้น “ซุนต้าหูมาใช้บริการบ่อยขอรับ”

แม้จะพูดออกมาเช่นนั้น ตอนที่ขุนนางอำเภอจู้สั่งให้พวกเขาชี้ตัวบุคคล พวกเขามองแยกแยะอย่างละเอียด แต่กลับพากันชี้ไปยังซุนต้าตง

ซุนต้าตงปิดหน้า รีบหลบสายตาของพวกเขา “พวกเจ้าจำผิดคนแล้ว! ข้าชื่อซุนต้าตง ไม่ใช่ซุนต้าหู”

เจ้าของร้านอาหารที่เป็นหนึ่งในนั้นยิ้มน้อย ๆ “โธ่! พี่ซุน พวกเราที่ทำการค้าเล็ก ๆ ไม่กล้าพูดโกหกต่อหน้าขุนนางหรอก ก่อนหน้านี้พี่มาดื่มเหล้าที่ร้านบ่อย ๆ ข้าจำพี่ได้ มีครั้งหนึ่งพี่ยังเรียกสาว ๆ สองคนมานั่งดื่มเป็นเพื่อนคนละฝั่งอยู่เลย ใครเห็นก็อิจฉาพี่กันทั้งนั้นเลยนะ”

ได้ฟังดังนั้น ป๋ายรุ่ยฮัวที่อยู่ข้าง ๆ เผยสีหน้าไม่ค่อยสู้ดีนักออกมา  มือนางที่อยู่ใต้ชายเสื้อกำเข้าหากันแน่น

นางแต่งงานแต่งการกับชายคนนี้ ตั้งท้องลูกของเขา นี่ถือว่านางยอมรับชะตาชีวิตตัวเองแล้ว นางอุตส่าห์ยอมใช้ชีวิตกับผู้ชายคนนี้อย่างสุดจิตสุดใจ แล้วผู้ชายคนนี้ล่ะ ทำเหมือนว่านางเป็นตัวอะไร ?!

ขุนนางอำเภอจู้ยิ้มรู้ทัน “อืม น่าสนใจมาก ถ้าหากว่าเป็นอย่างที่ซุนต้าตงพูด ที่บอกว่าเขาถูกซุนต้าหูบงการ แล้วทำไมบ้านของซุนต้าหูถึงยากจนนัก ก่อนหน้านี้เพื่อรวบรวมเงิน เขายังต้องขายรถล่อของบ้านเขาอยู่เลย  แต่ซุนต้าตง กลับเป็นเจ้าที่ใช้ชีวิตอย่างสำมะเลเทเมาเสียเอง”

ขุนนางอำเภอจู้เก็บรอยยิ้ม เขาทุบค้อนอย่างแรงอีกหน “นี่เจ้าคิดว่าข้าเลอะเลือนอย่างนั้นรึ ?! นักโทษซุนต้าตง ถ้าเจ้ายังไม่สารภาพสิ่งที่ตัวเองทำออกมาทีละอย่าง ก็อย่าหาว่าข้าใช้การลงโทษทัณฑ์จนเกินไปล่ะ!”

เมื่อได้ยินว่าซุนต้าตงจะถูกลงโทษทัณฑ์ แม่ของเขาเกือบตกจากเก้าอี้ลงไปนั่งกองอยู่กับพื้นแล้ว นางร้องห่มร้องไห้ ปากก็พูดปกป้องลูก “ฮือ ๆ ๆ ลูกชายข้าถูกปรักปรำ!  ลูกชายข้าก็บอกไปแล้วไม่ใช่หรือไงว่าเขาทำแทนซุนต้าหู ไม่แน่ซุนต้าหูอาจจะซ่อนเงินไว้ไม่กล้าใช้เพราะกลัวถูกจับได้ก็ได้”

ซุนต้าตงได้ยินคำพูดแม่ตัวเอง เขาก็เหมือนจับฟางแห่งชีวิตเส้นสุดท้ายได้และรีบพูดขึ้น “ใช่ ๆ ๆ เขาซ่อนเงิน ซุนต้าหูซ่อนเงินอย่างแน่นอน ข้าเคยส่งเงินให้เขาตั้งหลายครั้ง คนในหมู่บ้านก็เคยเห็น”

ขุนนางอำเภอจู้ยิ้มอีกครั้ง “อืม เเบบนี้ก็ง่ายหน่อย งั้นเจ้าลองกระซิบบอกกับท่านที่ปรึกษาสิว่าเจ้าส่งเงินให้ซุนต้าหูเป็นจำนวนเงินทั้งหมดเท่าไหร่ ส่วนซุนต้าหูเองก็มากระซิบบอกข้าด้วย ห้ามแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน ไม่อย่างนั้นข้าจะตัดสินว่าพวกเจ้าสองคนร่วมมือกันกุเรื่องขึ้นมาหลอกลวงผู้อื่นและหลอกหลวงข้าด้วย”