ตอนที่ 401 รักษาศักดิ์ศรีที่เหลืออยู่ (1)/ตอนที่ 402 รักษาศักดิ์ศรีที่เหลืออยู่ (2)

เฟิงหรูชิง องค์หญิงหมอเทวดา

ตอนที่ 401 รักษาศักดิ์ศรีที่เหลืออยู่ (1)

จัดการหลิวอวี๋นเซียวด้วยมือตัวเองกระตุ้นอารมณ์ฝูงชนได้ดีกว่าประโยชน์เหล่านั้น

พวกเขาสามารถไม่เอาคำสัญญาของน่าหลานหูได้ และสามารถไม่รับผลประโยน์ที่เกือบถึงมือนั่นได้ แต่พวกเขาจะต้องจัดการหลิวอวี๋นเซียวด้วยมือตัวเอง!

เมื่อครู่แม้ฝูงชนจะลงมือกับหลิวอวี๋นเซียวไปแล้วแต่ก็ไม่ได้ทำให้ถึงตาย ตอนนี้มีคำของน่าหลานหูพวกเขาก็ไม่จำเป็นต้องยั้งมือ

“ไม่!”

ดวงตาหลิวอวี๋นเซียวฉายแววหวาดกลัวร้องตะโกนสุดเสียง ร่างของเขาถูกฝูงชนฝังกลบบดบังด้วยความรวดเร็ว เสียงก็ถูกปิดกั้นอยู่ในวงล้อมนั้น…

จวนแม่ทัพ

ฉินอี๋นำไต้เอ๋อร์มากอดปกป้องไว้ในอ้อมแขน แววตาของนางเย็นเฉียบจ้องมองชายวัยกลางคนตรงหน้าด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง “หลิวเฝ่ย เหตุใดเจ้ายังมาปรากฏตัวที่นี่ได้?”

มุมปากหลิวเฝ่ยมีรอยยิ้มเย็น จ้องมองฉินอี๋อย่างถือตัว

“ฮ่าฮ่า อาศัยทหารตระกูลน่าหลานเพียงไม่กี่คนจะสามารถปิดกั้นคนตระกูลหลิวของข้าได้หรือ? เพียงแค่ตอนนั้นท่านพ่อข้าหนีไปพวกเราจึงแกล้งทำเป็นถูกปิดกั้นเพื่อรอเขากลับมา ตอนนี้เขากลับมาแล้ว และเวลาตายของตระกูลน่าหลานก็มาถึงแล้ว!”

พูดเรื่องนี้ขึ้นหลิวเฝ่ยก็โมโหนัก

พ่อของเขาใจเสาะเหมือนหนู ในงานเลี้ยงตอนนั้นไม่ได้ทำตามรับสั่งของฝ่าบาท เดิมคิดว่า

เฟิงเทียนอวี้จะตายด้วยน้ำมือขององค์ชายแคว้นหลงอ้าว ใครจะรู้ว่าเฟิงหรูชิงกลับมาแล้ว

เขาตกใจจนลืมแม้แต่จะแจ้งตระกูลหลิวหนีเอาชีวิตรอดทั้งวันทั้งคืน ทำให้ตระกูลหลิวได้รับความอัปยศอดสู ตายดีกว่าอยู่

คิดถึงหลายวันมานี้ตระกูลหลิวกินแต่สิ่งปฏิกูล สีหน้าของหลิวเฝ่ยก็เปลี่ยนเป็นไม่น่ามอง แววตาโหดเหี้ยมชั่วร้ายเต็มไปด้วยความอาฆาต

สิ่งที่ตระกูลน่าหลานทำกับเขาทั้งหมดเขาจะเอาคืนอย่างสาสม!

ให้พวกเจ้าได้ลิ้มรสความขมขื่นที่เขาได้รับ!

ฉินอี๋กอดไต้เอ๋อร์แน่นก้มหน้าลงน้ำเสียงอ่อนโยน “ไต้เอ๋อร์เจ้ากลัวหรือไม่?”

ไต้เอ๋อร์ส่ายศีรษะเล็กน้อย “ท่านแม่ ไต้เอ๋อร์ไม่กลัว”

“ดี” ฉินอี๋ยิ้มบางที่มุมปาก “พวกเราคนตระกูลน่าหลานควรเป็นเช่นนี้ ไต้เอ๋อร์เจ้าไม่ต้องกังวลแม่จะอยู่ข้างๆ เป็นเพื่อนเจ้า”

สงครามครั้งนี้อันตรายกว่าที่เคย นางอยากจะ…อยากจะตามพ่อสามีไปปกป้องแคว้น

แต่นางทำไม่ได้

นางยังมีไต้เอ๋อร์ที่ต้องดูแล และยังมีเหล่าเด็กและคนแก่ในตระกูลให้นางต้องปกป้อง

“ท่านพี่…” เสียงใสดังขึ้นจากด้านหลังของฉินอี๋

ฉินอี๋เงยหน้าขึ้นก็เห็นเว่ยผิ่นเหยาเดินออกมาจากด้านหลังนาง

นางขมวดคิ้ว “เจ้าออกมาทำไม?”

เว่ยผิ่นเหยายิ้มน้อยๆ พลางส่ายหน้า “ท่านพี่ ข้าร่างกายอ่อนแอตั้งแต่เล็กไม่สามารถฝึกตบะอย่างพวกท่านได้ ทำให้ข้าไม่สามารถช่วยปกป้องไต้เอ๋อร์แทนท่าน แล้วยังทำให้ท่านต้องเหนื่อยอยู่ปกป้องพวกเราที่นี่ท่านจึงไม่สามารถไปสนามรบได้ แต่ตอนนี้ข้าไม่สามารถหลบอยู่หลังท่าน สามีของข้า พ่อสามี ท่านพ่อ ล้วนไปสู้ศึกที่หน้าประตูเมือง ในฐานะลูกสาวตระกูลเว่ยลูกสะใภ้ตระกูลฉิน ข้า…จะใจเสาะหลบอยู่หลังท่านได้อย่างไร?”

ฉินอี๋อยากจะไปสู้รบเพียงใดเว่ยผิ่นเหยารู้ดี

แต่นางกลับทำได้เพียงอยู่ในจวนแม่ทัพ รับเอาบรรดาผู้หญิงทั้งสามตระกูลใหญ่มาปกป้องเอาไว้ เพียงเพื่อให้ญาติของพวกเขาสามารถไปรบกับศัตรูโดยไม่ต้องห่วงคนข้างหลัง

จริงอยู่เมื่อหลายชั่วโมงก่อนมีทหารข้าศึกแอบเข้ามาคิดจะลอบสังหารพวกนาง เพื่อให้พวกพ่อสามีหมดใจในการต่อสู้ แต่ว่าคนพวกนั้นล้วนถูกฉินอี๋จัดการสิ้น

แต่ที่เว่ยผิ่นเหยาคิดไม่ถึงก็คือ หลิวเฝ่ยจะโผล่ออกมาและหลายปีนี้เขาปิดซ่อนความสามารถมาโดยตลอด

เจินอู่ขั้นสูง!

ฉินอี๋เป็นเพียงแค่เจินอู่ขั้นกลางเท่านั้น เผชิญหน้ากับคนที่สูงกว่านางขั้นหนึ่งแล้วยังต้องปกป้องเด็กและคนแก่มากมายนางจะต้านทานได้อย่างไร?

………………………..

ตอนที่ 402 รักษาศักดิ์ศรีที่เหลืออยู่ (2)

“พวกเจ้าไม่ต้องรีบร้อน วันนี้คนจวนแม่ทัพจะไม่เหลือใครแล้ว!” หลิวเฝ่ยหัวเราะเยาะ “ฉินอี๋ ข้าถือโอกาสบอกเจ้าเสียเลย น่าหลานหูตาแก่นั่นตายแล้วฮ่าฮ่าฮ่า!”

แม้เขาไม่ได้ไปที่ประตูเมืองแต่แคว้นหลิวอวิ๋นแคว้นเดียวเผชิญหน้ากับยอดฝีมือสี่แคว้นไม่มีความเป็นไปได้เลยที่จะมีชีวิตรอด ดังนั้นน่าหลานหูนั่นจะต้องตายไปแล้วแน่

ตระกูลน่าหลานที่ไม่มีน่าหลานหูแค่แตะก็ล้ม!

มือของฉินอี๋สั่นทว่าสีหน้าเรียบนิ่ง “คนตระกูลน่าหลานภาคภูมิใจกับการปกป้องครอบครัวและแคว้น ข้าภูมิใจในคนในตระกูลของข้า ดังนั้นข้าไม่มีทางก้มหัวให้หมาขโมยเช่นพวกเจ้า ข้าจะต้องรักษาศักดิ์ศรีไว้พบหน้าพวกเขา!”

คนตระกูลน่าหลานไม่เคยกลัวตาย! ที่พวกเขากลัวคือแคว้นล่มสลายและไร้ซึ่งบ้าน

“ไม่ดูกำลังตัวเอง!” หลิวเฝ่ยยิ้มเย็น ฟาดฝ่ามือออกไป

ฉินอี๋รีบเบี่ยงตัวปกป้องไต้เอ๋อร์ไว้ในอ้อมแขน

ฝ่ามือลมฟาดเข้าที่ไหล่ของนาง นางกระอักเลือดออกจากปากแต่สีหน้ายังคงไร้ความหวาดกลัวสงบนิ่งเช่นเดิม

หลิวเฝ่ยเอ่ยเยาะเย้ย “ฉินอี๋ ข้าให้โอกาสเจ้าคุกเข่าก้มหัวให้ข้าแล้วข้าจะไว้ชีวิตเจ้า”

ฉินอี๋เช็ดเลือดที่มุมปากสองขาเหยียดตรงยืนอยู่ใต้แสงอาทิตย์ตก

“สะใภ้ตระกูลน่าหลาน คุกเข่าให้ฟ้า คุกเข่าให้ดิน คุกเข่าให้ฮ่องเต้ คุกเข่าให้พ่อแม่ มีเพียงศัตรูที่ไม่มีวันคุกเข่าให้!”

เสียงของนางหนักแน่น ดั่งระฆัง ดั่งท้องทะเล ดั่งต้นไผ่

ได้เป็นคนตระกูลน่าหลานนางก็จะไม่มีวันทำให้ตระกูลน่าหลานต้องขายหน้า

พ่อสามีกับสามีล้วนเป็นคนซื่อสัตย์ซื่อตรงหยิ่งทะนงในศักดิ์ศรี เช่นนั้นนางก็ต้องเคารพในความภักดีของตระกูลน่าหลาน

ด้านหลังจวนแม่ทัพ เว่ยเมิ่งเจี๋ยมองภาพที่เกิดขึ้นตรงหน้านิ่งค้าง

เพราะเว่ยผิ่นเหยาเป็นต้นเหตุ ฉินอี๋ไม่ชอบนางมาตลอด

ทว่านางอยากเป็นอนุภรรยาฉินซวิน อย่างไรเสียฉินซวินก็เป็นน้องชายของฉินอี๋ เว่ยผิ่นเหยาไม่สามารถมีลูกได้ฉินซวินจะรับอนุภรรยาก็เป็นเรื่องสมควร

นางไม่เข้าใจจริงๆ เหตุใดฉินอี๋จึงกีดกันนางเช่นนี้

ดังนั้นครั้งนี้ตอนที่ฉินอี๋ไปรับผู้หญิงตระกูลเว่ยกับไม่อยากเอานางมาด้วย

สุดท้ายเว่ยฮูหยิน ท่านย่าของนางดื้อรั้นจะเอานางมาด้วยมิเช่นนั้นนางก็จะไม่ยอมไป

ฉินอี๋ไม่มีวิธี เพื่อให้ตระกูลเว่ยต่อสู้ได้อย่างสบายดีจึงต้องฝืนเอานางมาด้วย

ทว่าตอนนี้ดูแล้ว…อยู่กับฉินอี๋นี่ท่าจะไม่ปลอดภัย

เว่ยเมิ่งเจี๋ยกรอกตาไปมา เห็นหลิวเฝ่ยสั่งคนค้นจวนนางก็ยืนไม่ติดรีบวิ่งออกมาจากหลังจวน

“ผู้นำตระกูลหลิวข้าถูกฉินอี๋ลากมา ข้าไม่รู้เรื่อง” เว่ยเมิ่งเจี๋ยเข้าไปร้องไห้เศร้าโศกตรงหน้าหลิวเฝ่ยคุกเข่าลงกับพื้น “ข้าเป็นคนตระกูลเว่ยไม่ใช่คนตระกูลน่าหลาน ขอท่านปล่อยข้ากลับไป ข้าไม่รู้เรื่องด้วยจริง ๆ…”

เว่ยผิ่นเหยาร้องตะโกนด้วยความโกรธ “เว่ยเมิ่งเจี๋ยเจ้าทำเช่นนี้ได้อย่างไร? เจ้าเอาชื่อเสียงท่านพ่อไปไว้ที่ใดกัน?”

เว่ยเมิ่งเจี๋ยหันกลับไปชี้เว่ยผิ่นเหยา

“ผู้นำตระกูลหลิว ผู้หญิงคนนี้เป็นน้องสะใภ้ของฉินอี๋ ท่านควรจะกำจัดตระกูลน่าหลานกับตระกูลฉินไปพร้อมกันพวกเราตระกูลเว่ยไม่รู้เรื่องด้วย”

ในจวนใหญ่นอกจากตระกูลฉินกับตระกูลเว่ยแล้วยังมีผู้หญิงตระกูลเจี่ยงหนึ่งในสามตระกูลใหญ่อยู่ด้วย

หลังจากหลิวเฝ่ยนำกลุ่มคนมาปรากฏตัว คนอื่นๆ ได้ยินข่าวก็เดินออกมาจากหลังจวน

ใครจะรู้ทันทีที่เดินออกมาก็เห็นเว่ยเมิ่งเจี๋ยกอดขาหลิวเฝ่ยร้องไห้อย่างน่าสังเวช

“ไร้ยางอาย!” คุณหนูใหญ่ตระกูลเจี่ยงชี้เว่ยเมิ่งเจี๋ยด้วยความโกรธ “พ่อของเจ้าคนตระกูลเจ้าล้วนกำลังสู้สุดชีวิตอยู่ด้านนอก แต่เจ้าในฐานะคนในสามตระกูลใหญ่กลับคุกเข่าให้ศัตรู เจ้าเอาชื่อเสียงตระกูลเว่ยไปไว้ที่ไหนแล้ว?”