ตอนที่ 195 เยี่ยนอวี่เกลี้ยกล่อมท่านแม่ทัพหวั่นไหว (2)

หมอหญิงจ้าวดวงใจ

ตอนที่ 195 เยี่ยนอวี่เกลี้ยกล่อมท่านแม่ทัพหวั่นไหว (2)

เหยาเยี่ยนอวี่พยักหน้า “หมักไว้ครึ่งวันประเดี๋ยวรอให้ถึงตอนเที่ยงค่อยเผา”

“อ้อ” ถังเซียวอี้พยักหน้าแล้วถอนหายใจยาว งานนี้เหนื่อยกว่าฝึกวิชาต่อสู้เสียอีก

เว่ยจางกลับไปเช็ดตัวเปลี่ยนเสื้อผ้า จากนั้นก็มอบหมายภารกิจให้ทหารที่ติดตามมาไปฝึกซ้อมแล้วค่อยตรงมาที่เรือลำนี้

ในห้องโดยสารเรือ เหยาเหยียนอี้ที่กำลังเล่นหมากล้อมกับเซียวหลินก็ชำเลืองเห็นบางคนที่อยู่ข้างนอกกำลังเดินไปหาน้องสาวตนเองด้วยความสง่าผ่าเผย เขาจึงตบหมากล้อมลงบนกระดานด้วยความโมโห

“พี่เหยาเป็นอะไรไป” เซียวหลินหยีตาพลางเอ่ยถาม

“ไอ้หมอนี่สารเลวเกินไปแล้ว!” ต่อให้เหยาเหยียนอี้จะรู้ว่าเว่ยจางทำตามพระราชโองการของฮ่องเต้มาปกป้องพวกเขาสองพี่น้องยามมุ่งหน้าไปตอนใต้ ทว่าก็ยังไม่ชอบขี้หน้าเว่ยจาง ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเหตุใด แต่โดยรวมก็คือไม่ชอบเขา!

ตอนนี้สุดท้ายเขาก็เข้าใจว่าตอนนั้นที่พี่ใหญ่หมั้นหมายกับซูอวี้ยั่ง เหตุใดถึงทำหน้าบูดบึ้งทั้งวัน เขาไม่มีเหตุผลใดๆ ก็แค่รู้สึกไม่พอใจเท่านั้น!

“ท่านหมายถึงแม่ทัพเว่ยหรือ” เซียวหลินมองไปข้างนอกครู่หนึ่ง เหยาเยี่ยนอวี่ในเสื้อคลุมบุรุษด้านนอกกำลังพูดคุยกับถังเซียวอี้และเว่ยจาง ข้างกายมีชุ่ยเวย และสาวใช้คนหนึ่งยืนอยู่ พวกเขาแต่ละคนไม่ได้แสดงท่าทีอะไรเป็นพิเศษ คล้ายกำลังพูดคุยถึงปลาในถังนั้น

ไม่มีอะไรพิเศษนี่? เซียวหลินมองเหยาเหยียนอี้อีกครั้ง เหตุใดถึงรู้สึกว่าพี่ชายคนนี้ถึงท่าทางแค้นเคืองนัก

“ไม่เล่นแล้ว” เหยาเหยียนอี้ยกมือโยนหมากล้อมด้วยความขุ่นเคืองใจ เลิกชายชุดคลุมขึ้นพร้อมลงจากตั่งไม้

“นี่?” เซียวหลินมองเหยาเหยียนเดินจากไปอย่างฉงนสงสัยแล้วหันไปมองข้างนอก เผอิญเจอกับเหยาเยี่ยนอวี่ที่กำลังส่งยิ้มให้เว่ยจาง จากนั้นเว่ยจางก็ยิ้มตอบ

ท่าทางที่ทั้งสองส่งยิ้มให้กัน…

อ๊ะ! เซียวหลินยกมือตบหน้าผากของตนเองทันที หัวเราะเบาๆ “ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้นี่เอง! ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้นี่เอง! ข้าช่างโง่เขลาจริงๆ!”

ตอนเที่ยง บนเรือก็เริ่มเผาปลา

คุณหนูเหยาเป็นฝ่ายแพ้ในการเดิมพันครั้งนี้จึงเผาปลาด้วยความตั้งใจ ทั้งสี่คนที่นั่งอยู่ข้างๆ ยังคงดื่มสุราพลางครุ่นคิดเรื่องของตน เวลานี้เซียวหลินกลับรู้สึกเห็นใจเหยาเหยียนอี้ขึ้นมา น้องสาวสุดแสนดีคนนี้ จุ๊! ถ้าเปลี่ยนเป็นตนเองก็ต้องไม่มีความสุขเหมือนกัน

ดังนั้นท่านเซียวโหวจึงคิดหาวิธีเพื่อระบายอารมณ์แทนคุณชายรองเสียหน่อย

“นี่ข้าว่าแค่ดื่มสุราคงไม่มีความหมายอะไร ไม่เช่นนั้นพวกเราเดิมพันดื่มสุราเป็นเช่นไรบ้าง”

“เดิมพันดื่มสุราอะไร” เหยาเหยียนอี้ที่รู้สึกไม่พอใจอยู่แล้วจึงเข้าใจในความหมายของท่านเซียวโหว

เซียวหลินคลี่ยิ้มแล้วดึงเหยาเหยียนอี้พร้อมกับพูดขึ้น “พวกเรามาเล่น ‘วิเคราะห์คำ’ กัน ผู้ที่พ่ายแพ้ให้ดื่มเหล้าดีหรือไม่”

เหยาเหยียนอี้ได้สติกลับมาทันทีแล้วตบโต๊ะพลางพูด “ดี!”

ถึงแม้ภายนอกของถังเซียวอี้จะดูเป็นคนง่ายๆ พูดจาก็ไม่ได้ค่อยมีมารยาท แท้จริงแล้วธุระการงานทางการทหารกว่าครึ่งของเว่ยจางเขาเป็นคนจัดการทั้งหมด หลายปีที่อยู่ในค่ายทหารเว่ยจางไม่ค่อยมีความอดทนในการร่ำเรียนหนังสือ งานที่ตีความตามตัวอักษรส่วนมากก็มอบหมายให้เขาเป็นคนจัดการ

พอได้ยินว่าจะเดิมพันดื่มสุรา ถังเซียวอี้ก็รู้ว่าแม่ทัพของเขาต้องพ่ายแพ้แน่นอน ดังนั้นจึงโต้แย้งกลับทันที “หาการเดิมพันเช่นนี้มาจากไหนกัน เล่นเป่ายิ้งฉุบยังจะสนุกกว่า”

เซียวหลินส่ายหน้าด้วยรอยยิ้ม “เป่ายิ้งฉุบตะโกนเสียงดังเกินไปไม่ดี”

เหยาเหยียนอี้จึงเอ่ยถามด้วยรอยยิ้มโดยตรง “ทำไม กลัวหรือ วางใจเถอะ ต่อให้พ่ายแพ้ก็แค่ดื่มสุราหนึ่งจอกเท่านั้น ที่นี่ไม่มีคนนอก หรือกลัวว่าใครจะหัวเราะเยาะ”

นี่กำลังแสดงออกมาอย่างชัดเจนว่ากำลังท้าทายพวกเราอยู่

ถังเซียวอี้กลับไม่กลัว ทว่าเขากังวลใจว่าท่านแม่ทัพของเขาจะอับอายขายหน้าต่อหน้าแม่นางที่หมายปองแล้วสู้หน้าไม่ได้ จึงรู้สึกกระวนกระวายเล็กน้อย

เว่ยจางกลับคลี่ยิ้มอ่อนๆ “เจ้าพูดถูก ก็แค่ละเล่นเท่านั้น มากสุดก็แค่ดื่มสุรา”

“ดี!” เซียวหลินได้ยินเว่ยจางตกลงแล้วรู้สึกว่าน่าสนใจขึ้นมา จากนั้นเงยหน้าดื่มสุราจนหมดไปหนึ่งจอกแล้วพูดขึ้น “ข้าเริ่มก่อน!”

เซียวหลินพึมพำเสียงเรียบแล้วพูดขึ้น “ต้นหญ้าแข็งแรง ดอกไม้นานาพันธุ์นอกบ้าน สวนริมแม่น้ำย่อมเหนือกว่าน้ำพุธรรมชาติ”

เหยาเหยียนอี้คลี่ยิ้ม “ได้บ้านสวนคือเฉ่าจ้วง[1] แม่น้ำคือสุยเข่อร์[2] สองคำนี้น่าจะเป็นทิวทัศน์ยามฤดูใบไม้ผลิยอดเยี่ยมจริงๆ!”

ถังเซียวอี้สบถหยาบ ในใจคิดว่าแม่ทัพของเขาคงจะถูกลงโทษในครั้งนี้แน่นอน ดังนั้นจึงตอบกลับโดยทันที “ดินใต้พื้นส่งกลิ่นหอมเย้ายวนใจ กิ่งไม้ที่ใกล้แห้งตายมีชีวิตงอกงามขึ้นมาใหม่”

เหยาเหยียนอี้เอ่ยชมด้วยรอยยิ้มเบิกบานแล้วหันไปมองเว่ยจาง

เว่ยจางขมวดคิ้วเล็กน้อย จับจอกเหล้า ไม่เอ่ยคำ

“หากต่อคำพูดไม่ได้ เช่นนี้ก็ดื่มจอกเหล้าสักจอกเถอะ” เซียวหลินเตือนอย่าง ‘หวังดี’

เขาหวังดีจริงๆ อยากจะให้เว่ยจางเมามายต่อหน้าเหยาเหยียนอี้ ทำให้ความขุ่นเคืองภายในใจของเหยาเหยียนอี้ได้ระบาย ไม่แน่วันข้างหน้าอาจจะไม่คัดค้านที่คนๆ นี้มีใจให้เหยาเยี่ยนอวี่ก็ได้

ดั่งคาด เว่ยจางคลี่ยิ้มบางๆ แล้วพูดขึ้น “ข้าพอเข้าใจความหมายคร่าวๆ ของการประลองการดื่มสุราครั้งนี้แล้ว และมีประโยคหนึ่งไม่ทราบว่าจะเหมาะสมหรือไม่ ‘พวกเราสี่คนที่ทำงานในราชสำนักต่างก็ชื่นชมในทิวทัศน์ยามฤดูใบไม้ผลิเร็วเกินไป ชาวนาสิบกว่ายังชมทิวทัศน์ก่อนพวกเราเสียอีก’ ”

“ไม่เลว!” เซียวหลินตบโต๊ะพลางคลี่ยิ้ม “แม่ทัพเว่ย! เจ้าถือว่าไม่เลว มีความสามารถทั้งบุ๋นและบู๊ยอดเยี่ยม!”

เว่ยจางคลี่ยิ้มบาง “ไม่บังอาจรับขอรับ การเดิมพันดื่มสุราแค่เล่นๆ เท่านั้น อย่างไรหากพูดถึงก็แค่ดื่มสุราเป็นการลงโทษ”

เหยาเหยียนอี้คลี่ยิ้ม “พูดได้ไม่เลว ข้าก็มี…บุรุษทุกท่านกำลังลอบพูดคุยอย่างสนุกสนาน สตรีหนึ่งนางเป็นคนสำคัญอย่างยิ่ง” พูดจบก็ยกจอกเหล้าในมือขึ้นดื่มแล้วหันไปมองเซียวหลิน

การละเล่นการวิเคราะห์คำเช่นนี้ง่ายเกินไปสำหรับเซียวหลิน เขาจึงพูดอย่างผิวเผิน “มนุษย์เราจะแจ้งรายชื่อล่วงหน้าได้อย่างไร เพราะว่าคนปากใหญ่ล้วนพูดอะไรออกมาได้ง่ายดาย”

ถังเซียวอี้เป็นห่วงเว่ยจาง ดังนั้นจึงตั้งใจพึมพำแล้วยังไม่พูดไม่จาก็เพื่อที่จะให้เวลาเว่ยจางครุ่นคิด เซียวหลินที่อยู่ข้างๆ จึงเร่งเร้ากดดันเขาด้วยท่าทีขมขื่นพลางพูดขึ้น “จำได้ว่าคำพูดของตนก็ย่อมออกจากปากของตน บนถนนหนทางทุกคนย่อมต้องต่างคนต่างเดิน” พูดจบจึงจิบสุราในจอกหนึ่งคำ ก่อนเสริมว่า “ท่านเซียวโหวช่างทำให้คนลำบากจริงๆ ประเดี๋ยวถ้าพวกเราเล่นการเดิมพันดื่มสุรานี้เสร็จ ก็เล่นปาเป้าอีกหนึ่งกิจกรรมเถอะ!”

เซียวหลินคลี่ยิ้ม “ประเดี๋ยวเจ้ายังดื่มสุราต่อได้พวกเราค่อยประลองกัน”

เหยาเยี่ยนอวี่ยื่นปลาสี่ตัวที่เผาเสร็จให้ชุ่ยเวยแล้วถือโอกาสหันไปมองเว่ยจาง ทว่ากลับเห็นสีหน้าท่านแม่ทัพเว่ยนิ่งเฉยไม่สะทกสะท้านจึงลอบถอนหายใจ ภายในใจกำลังคิดว่า บังคับให้ท่านแม่ทัพคนหนึ่งเล่นกิจกรรมเช่นนี้ ช่างทำให้คนทุกข์ทรมานจริงๆ จริงๆ แล้วคนๆ นี้ก็รู้ว่าพวกเขาตั้งใจทำให้เขาลำบากใจ กลับไม่โกรธเคืองแม้แต่เพียงน้อย

ถึงแม้เว่ยจางไม่ชื่นชอบการประลองด้วยตัวอักษรเช่นนี้ ทว่าก็ไม่ใช่ว่าทำไม่ได้ แค่ถ้าถูกบีบบังคับจนสุดทางตันแล้วก็พอครุ่นคิดคำตอบได้ เวลานี้ยิ่งอยู่ต่อหน้าเหยาเยี่ยนอวี่ เขาก็ต้องละเล่นอย่างสุดกำลังและความสามารถที่มี หลังจากที่พึมพำกับตัวเองไปสักพักก็พูดขึ้นต่อ “ตระกูลจางใช้ธนูยาวเป็นไม้แท่ง ที่นาตระกูลเจี่ยงใกล้จะมีหญ้าขึ้นเต็มแล้ว”

สีหน้าเหยาเหยียนอี้คาดไม่ถึง เขาะชำเลืองมองเซียวหลินครู่หนึ่ง

เซียวหลินยิ้มพูด “ท่านแม่ทัพเว่ย! ยอดเยี่ยม!”

เหยาเหยียนอี้ขึงตามองเซียวหลิน ภายในใจไม่ใช่ว่าอยากให้เขาดื่มสุราหรือ เหตุใดตอนนี้ถึงจะชื่นชมและยกย่องเขาออกหน้าออกตาเช่นนี้!

“คนในจวนหนีรู้สึกกระวนกระวาย ตระกูลซวี่เป็นตระกูลที่เที่ยงธรรม” เว่ยจางใช้สองตระกูลมากล่าวคำพูดวิเคราะห์คำ เหยาเหยียนอี้เหมือนกำลังแข่งกับเขาจึงเอาสองตระกูลออกมาพูด

เซียวหลินคลี่ยิ้ม “ไม่เลว ดูๆ แล้วแม่ทัพถังกับแม่ทัพเว่ยเป็นคนที่ไม่เผยตัวตนที่แท้จริงของตนเองออกมาโดยแท้ ข้าว่าพวกเรามาเล่นอะไรที่ล้ำลึกกว่านี้เถอะ” ว่าแล้วก็เอ่ยต่อ “ตอนออกจากจวนก็ให้สวมใส่ผ้าต่วนไปพูดคุยเล่นกับผู้คนสักหลายแห่งบ้างก็ดี”

[1]เฉ่าจ้วง เฉ่าเป็นหมวดคำอักษรจีน ที่แปลว่าหญ้า ส่วนจ้วง ในคำภาษาจีนแปลว่าแข็งแรง

[2]สุยเข่อร์ สุยเป็นหมวดคำอักษรจีนที่แปลว่า น้ำ ส่วนเข่อร์ มีความหมายว่าสามารถ