ตอนที่ 122 -การตายของเคนดัล

เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god)

ตอนที่ 122 -การตายของเคนดัล

เห็นการล่าถอยของราชาพยัคฆ์ขนทอง ครอสถอนหายใจด้วยความโล่งอก ในช่วงเวลานี้หัวใจของเขาเต้นแรงและหากใครก็ตามที่ยืนอยู่ด้านหลังเขา พวกเขาจะสามารถได้ยินเสียงของมันได้อย่างชัดเจน ในช่วงเวลาแห่งความสิ้นหวัง ครอสก็เกือบจะถึงคราวชะตาขาดแล้ว อย่างไรก็ตามตอนนี้เขาดีใจเพราะเขาประสบความสำเร็จ แต่ในเวลาเดียวกันมันเร็วเกินไปที่จะชื่นชมยินดี เนื่องจากในขณะที่ราชาพยัคฆ์ขนทองถูกทำให้ถอยหลังไปชั่วคราวเนื่องจากลูกราชาพยัคฆ์ขนทอง แต่พยัคฆ์ระดับ 4 ที่อยู่ข้างหลังนั้นไม่ ไม่มีหนทางใดที่ครอสจะทำให้พยัคฆ์ระดับ 4 ถอยหลังไปได้ แต่เขาต้องทำให้แน่ใจว่าเขาไม่ได้ทำอะไรเร่งรีบ มิฉะนั้นจะนำไปสู่จุบจบที่ไม่พึงประสงค์

ตอนนี้ดวงตาของราชาพยัคฆ์ขนทองนั้นมีสีแดงเข้มด้วยความโกรธ และครอสที่มีประสบการณ์รู้ว่าราชาพยัคฆ์ขนทองอยู่ในสถานะที่โกรธจัด มันเป็นเพียงเพราะความจริงที่ว่าเขามีลูกราชาพยัคฆ์ขนทองที่ทำให้มันไม่สามารถกระตุ้นความโกรธได้ ลูกราชาพยัคฆ์ขนทองนั่นคือโล่ป้องกันของครอส และถ้าเขาสูญเสียการควบคุมมัน ครอสก็รู้ว่าสิ่งต่อไปจะเป็นจุดจบของชีวิตเขา

ภายใต้การคุกคามของความตาย ครอสก็สงบนิ่งอย่างน่าประหลาดเมื่อเขาคิดว่าจะทำอย่างไรต่อไป แม้จะอยู่ในสถานการณ์ที่ทุกที่มีแต่ความตาย แต่รับประกันว่าเขายังไม่ยอมแพ้ความปรารถนาที่จะมีชีวิตอยู่ ตราบใดที่มีโอกาสเขาจะไม่ปล่อยมันไป แม้ว่าทุกอย่างจะพูดว่ามันเป็นโอกาสที่จะมีชีวิตรอดน้อยมากและเขาก็ไม่แน่ใจว่าเขาจะหนีรอดไปได้หรือไม่

จากนั้นดวงตาของครอสก็กวาดไปที่กลุ่มทหารรับจ้างอัคนี หัวใจของเขาเต้นรัวชั่วครู่หนึ่ง ก่อนที่เขาจะโยนลูกราชาพยัคฆ์ขนทองไปที่ที่พวกเขายืนอยู่ทันที

“โฮก!” ในขณะที่ครอสเคลื่อนไหว ราชาพยัคฆ์ขนทองก็ได้ระเบิดการเคลื่อนไหว ทันทีที่ระเบิดขึ้นมาไปยังที่ที่ครอสยืนอยู่ มันเหวี่ยงอุ้งเท้าทั้งสองของมันลงบนไหล่ของครอสทำให้บาดแผลลึกลงบนไหล่ของเขา ราชาพยัคฆ์ขนทองส่งเสียงคำรามที่ราวกับทำให้ท้องฟ้าแตกกระจาย จนทำให้ครอสหายใจไม่ออก

เนื่องจากการกระทำของราชาพยัคฆ์ขนทอง ครอสพลันหน้าซีดทันทีเมื่อจิตใจของเขาเริ่มว่างเปล่า เขาโยนลูกของมันไปยังทหารรับจ้างอัคนีเพราะเขาคิดว่าราชาพยัคฆ์ขนทองจะเปลี่ยนเป้าหมาย แต่เขาไม่คิดว่าราชาพยัคฆ์ขนทองจะเคลื่อนไหวเร็วขนาดนั้น ทันทีที่เขาโยนลูกของมันไป ราชาพยัคฆ์ขนทองก็ปรากฏตัวต่อหน้าเขา ในขณะนั้นครอสรู้ว่าชีวิตของเขาจบสิ้นสุดลงแล้ว

” ฮูว์! ฮูว์!”

ลูกราชาพยัคฆ์ขนทองเริ่มร้องด้วยความกลัวหลังจากถูกโยนโดยครอส ความรู้สึกไร้น้ำหนักทำให้ลูกราชาพยัคฆ์ขนทองกลัว ทำให้มันร้องออกมามากกว่าเดิม

เมื่อเห็นลูกถูกโยนขึ้นไปในอากาศแล้วก็โค้งตกลงมา ดวงตาสีแดงเข้มของราชาพยัคฆ์ขนทองเริ่มตื่นตระหนกขณะที่มันเริ่มอกสั่นขวัญหาย ด้วยเสียงคำรามเพียงครั้งเดียว มันกระโจนออกจากตำแหน่งเหนือร่างของครอสและไล่ตามลูกที่อยู่กลางอากาศ

เมื่อรู้สึกถึงความหนักอึ้งในบ่าของเขาที่ถูกยกออกไป ครอสก็ตกตะลึงไปชั่วขณะ เมื่อเห็นว่าราชาพยัคฆ์ขนทองได้ไล่ตามลูกของมันไป เขาก็ได้สติขึ้นมาและยิ้มอย่างมีความสุขบนใบหน้าของเขา แม้เขาจะรู้สึกแสบร้อนบนไหล่ แต่แขนและขาของเขาก็ถูกผลักอย่างรุนแรงลงกับพื้น เดินโซเซเข้าไปในป่าแล้วเขาก็หายตัวไปจากสายตา

เมื่อเห็นครอสหนีเข้าไปในพุ่มไม้ พยัคฆ์ระดับ 4 ที่ปิดกั้นเส้นทางนั้นก็กระทืบอุ้งเท้าทั้งสองลงบนพื้นอย่างไม่สบายใจและต้องการที่จะไล่ตามเขา อย่างไรก็ตาม หลังจากได้เห็นการระเบิดความโกรธจากราชาพยัคฆ์ขนทอง มันก็หยุดยั้งแรงกระตุ้นของมัน แม้ว่าในตอนแรกพวกมันจะมีสติปัญญาบางส่วน แล้วสัตว์อสูรระดับ 4 ก็ยังงี่เง่าเกินไป ความสามารถในการคิดผ่านปัญหาต่าง ๆ ไม่สามารถเปรียบเทียบกับมนุษย์ที่เป็นผู้ใหญ่ได้ ราชาพยัคฆ์ขนทองได้บอกให้มันปิดกั้นกลุ่มคนที่อยู่ในเส้นทาง แต่ไม่ได้บอกให้พยัคฆ์ไล่ล่าใครก็ตามที่พยายามหลบหนี ก่อนที่จะมีคำสั่งใด ๆ เพิ่มเติมจะมาจากราชาพยัคฆ์ขนทอง สัตว์อสูรระดับ 4 ที่สมองมีแต่กล้ามนี้จะจ้องมองอย่างช่วยไม่ได้ในขณะที่ครอสหลบหนีไป แม้ว่ามันจะต้องการที่จะไล่ตาม มันก็ไม่กล้าที่จะทำ

ขณะที่กัปตันเคนดัลกำลังจะหายตัวไปในพุ่มไม้ ร่างพร่ามัวสีดำก็ลอยเข้ามาและกระแทกเขาเข้าที่หน้าอกก่อนที่จะตกลงสู่พื้น

ในปฏิกิริยาการตอบสนอง กัปตันเคนดัลเอื้อมมือของเขาออกโดยสัญชาตญาณเพื่อรับสิ่งที่มากระทบเขา ทันทีที่มือของเขาสัมผัสกับวัตถุสีดำ เขาก็เข้าใจว่ามันเป็นอะไรและหน้าซีด ” บัดซบ นี่เป็นลูกของราชาพยัคฆ์ขนทอง” เมื่อถึงจุดนี้ลูกของราชาพยัคฆ์ขนทองก็ไม่ได้เป็นทรัพย์สินที่มีค่าอีกต่อไป แต่กลับกลายเป็นเผือกร้อน ใครก็ตามที่แตะต้องมันจะถูกเผาไหม้

เมื่อเคนดัลตัดสินใจโยนลูกราชาพยัคฆ์ขนทองกลับไป เสียงคำรามที่น่ากลัวก็ได้ยินในขณะที่มีร่างสีดำลอยเข้ามาหาเขาทันที พยัคฆ์ตัวใหญ่ปากเหม็นตบลงบนหน้าอกของเคนดัลทันที

เคนดัลไม่มีเวลาตอบสนอง ครึ่งบนทั้งหมดของร่างกายของเขาอยู่ในปากของราชาพยัคฆ์ขนทองและเขี้ยวที่แหลมคมของมันฝังลึกลงภายในร่างกายเคนดัล เลือดเริ่มพุ่งออกมาจากบาดแผลของเขาเหมือนน้ำพุปกคลุมส่วนบนทั้งหมดของร่างกายด้วยสีแดงเลือด

“อ๊าก ! ” เคนดัลกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดและความโศกเศร้า ช่วงเวลาที่เคนดัลล์ถูกราชาพยัคฆ์ขนทองกัด เสียงของเขาก็เบาลงเล็กน้อย

” กัปตันเคนดัล!”

” ลุงเคนดัล!”

เมื่อเห็นส่วนบนของร่างของเคนดัลถูกราชาพยัคฆ์ขนทองกัด สมาชิกทุกคนของทหารรับจ้างอัคนีต่างก็จ้องมองด้วยความเกลียดชังไปที่ราชาพยัคฆ์ ขณะที่พวกเขาร้องเสียงแหลม

เสียงกรีดร้องจากหัวใจของทหารรับจ้างอัคนีทั้งหมดมาถึงหูของเจี้ยนเฉินผู้ซึ่งถอนตัวออกจากพุ่มไม้พร้อมกับใบหน้าที่น่ากลัวทันที

เมื่อเห็นว่าเคนดัลซีดด้วยความหวาดกลัวและเสียเลือดจากการกัดส่วนบนสุดของร่างกายของเขา เจี้ยนเฉินส่งเสียงเตือน กระบี่วายุโปรยปรากฏขึ้นในมือขวาของเขาทันทีและระเบิดด้วยพลังลำแสงสีเงินในขณะที่ปราณกระบี่หมุนวนอยู่รอบใบมีด

“หวือ!”

กระบี่หลุดออกจากฝ่ามือของเจี้ยนเฉินราวกับว่าได้กลายเป็นกระบี่อมตะที่ชาญฉลาดและบินไปที่หัวของราชาพยัคฆ์ขนทอง

ในขณะที่กระบี่ที่เต็มไปด้วยปราณกระบี่โดนหัวของพยัคฆ์ มันเพียงแทรกซึมผ่านชั้นของขนเล็ก ๆ ไปได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้นซึ่งไม่ได้สร้างความเสียหายมากนัก

แม้ว่ากระบี่วิญญาณของเจี้ยนเฉินจะแข็งแกร่งกว่าการโจมตีปกติของเขาถึงสิบเท่า แต่ราชาพยัคฆ์ขนทองเป็นสัตว์อสูรระดับ 5 ในเมื่อเจี้ยนเฉินเป็นเพียงแค่เซียนระดับสูงขั้นกลางเท่านั้น การก่อให้เกิดการบาดเจ็บสาหัสเป็นเหตุการณ์ที่นึกไม่ถึง

“โฮก ! ” รู้สึกเจ็บปวดเล็กน้อยบนหัวของมัน ดวงตาของพยัคฆ์เปลี่ยนเป็นสีแดงเข้มเมื่อพวกมันทั้งคู่จ้องไปที่เจี้ยนเฉิน ด้วยพลัง มันจึงฉีกร่างของเคนดัลออกเป็นสองส่วน ส่วนบนของร่างของเคนดัลถูกกลืนโดยราชาพยัคฆ์ขนทองในทันที ในขณะที่ร่างกายครึ่งล่างของเขาพลันตกลงไปที่พื้น เลือดเริ่มไหลออกมาทุกที่

” ลุงเคนดัล!”

เมื่อเห็นร่างครึ่งล่างของเคนดัลล้มลงกับพื้น ทุกคนในกลุ่มก็ตะโกนออกมาด้วยความตกใจในขณะที่ดวงตาของพวกเขาเต็มไปด้วยน้ำตาที่ไหลออกมาด้วยความเจ็บปวด

“โฮก ! ” พยัคฆ์คำรามในขณะที่มันกระโจนไปยังที่ที่เจี้ยนเฉินอยู่

การใช้ย่างก้าวพริบตา เจี้ยนเฉินบินเหมือนปีศาจความเร็ว หนีห่างออกไปสองสามกิโลเมตรเพื่อหลบการโจมตีของราชาพยัคฆ์ ในเวลาเดียวกันกระบี่วายุโปรยได้กลับกลายเป็นแสงสีเงินที่สะท้อนตัวของมันเองอยู่กลางอากาศและพุ่งเข้าหาหัวพยัคฆ์อีกครั้ง

อย่างไรก็ตามในขณะที่กระบี่วายุโปรยกำลังจะเจาะเข้าไปในหัวของพยัคฆ์ หางของราชาพยัคฆ์ขนทองหายไปอย่างพร่ามัวและตบเข้ากับกระบี่วายุโปรยเบา ๆ

“ติง ! “

หางที่ดูอ่อนนุ่มของพยัคฆ์นั้นแข็งแกร่งอย่างน่าประหลาดใจเมื่อกระบี่วายุโปรยชนกับหางทำให้เกิดเสียงที่คมชัด กระบี่ถูกส่งลอยออกไปไม่สองสามเมตรและปราณกระบี่ที่แข็งแกร่งอย่างไม่น่าเชื่อได้หายไปและกระบี่ก็กลับคืนสู่สภาพปกติอีกครั้ง

ร่างของเจี้ยนเฉินสั่นเล็กน้อยขณะที่ใบหน้าของเขาเริ่มซีด อย่างช้า ๆ หยดเลือดเริ่มไหลออกมาจากปากของเขาเพราะสิ่งที่เกิดขึ้นกับอาวุธของเขา กระบี่วายุโปรยของเขาเป็นสัญลักษณ์การบ่มเพาะของเขาและหลังจากใช้ จิตวิญญาณ ของเขาเพื่อควบคุมมัน ไม่ว่าความเสียหายจะเกิดขึ้นเพียงใดในสถานะนี้เจี้ยนเฉินจะรู้สึกได้ถึงผลของมันโดยตรง ในขณะที่หางของพยัคฆ์ไม่ได้กระทบกับเจี้ยนเฉินโดยตรงความเสียหายที่เกิดขึ้นกับกระบี่วายุโปรยนั้นชัดเจนเกินกว่าที่จะทำได้ ทำให้เจี้ยนเฉินได้รับบาดเจ็บเพิ่มเติม

ราชาพยัคฆ์ขนทองหายตัวไปพร้อมกับเงาของมันเมื่อมันบินไปหาเจี้ยนเฉินด้วยความเร็วที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า กรงเล็บทั้งสองของมันเหวี่ยงลงทันทีพร้อมกับพลังทำลายล้างที่หน้าอกของเจี้ยนเฉิน

เจี้ยนเฉินพยายามหลบ แต่น่าเสียดายที่เขาช้ากว่าราชาพยัคฆ์ขนทอง เนื่องจากบาดแผลของเขาจากก่อนหน้านี้เขาจึงไม่สามารถหลบเลี่ยงการโจมตีของราชาพยัคฆ์ได้อย่างสมบูรณ์

กรงเล็บของเสือนั้นมีลมเย็นเมื่อพวกมันกระแทกหน้าอกของเจี้ยนเฉิน ในเวลาเดียวกันหน้าอกก็ย่ำแย่และสามารถเห็นกระดูกบางส่วนของหน้าอกได้

ด้วยการร้องด้วยความเจ็บปวด หน้าของเจี้ยนเฉินก็ซีดเหมือนกระดาษในขณะที่เขารู้สึกเจ็บปวดอย่างร้ายแรงกับสัตว์อสูรระดับ 5 เจี้ยนเฉินไม่มีวิธีการป้องกันตัวเองและแม้แต่กระบี่วิญญาณที่เขาภูมิใจก็ไม่มากพอที่จะทิ้งแม้แต่บาดแผลที่เล็กที่สุดไว้บนตัวของราชาพยัคฆ์ขนทอง

” เจี้ยนเฉินรีบหนีเร็ว ข้าจะถ่วงเวลาให้เจ้า ! ” เสี่ยวเต๋าร้องออกมาทันทีที่เขาดึงกริชเล่มเล็ก ๆ ของเขาออกมาแล้วยกขึ้นไปแทงที่ร่างของพยัคฆ์