หมื่นสวรรค์สิ้นโลกา Online Ep.477 – จะกลับมาหาเจ้าในภายหลัง
กู่ฉิงซานจ้องมองเข้าไปยังฉากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเบื้องหลังประตูแสง ขณะที่ผู้คนทั้งหมดภายในประตู มิได้ตระหนักถึงสายตาของเขาเลย
ไม่รู้ว่าใบหน้าของหญิงสาวได้ใช้เทคนิคมนตราใด มันจึงสามารถทะลวงฝ่าโลกชั้นผิวนอกนับล้านๆโลก และลอบมองโลกในชั้นกลางได้โดยตรง
พลังอันยิ่งใหญ่ที่เธอครอบครองนี้ มันได้ทะลุเกินกว่าจินตนาการของกู่ฉิงซานไปแล้ว
มองไปยังอีกฝั่งหนึ่งของบานประตู นายทหารติดอาวุธยังคงทำการสำเร็จโทษเชลยแห่งรากษสลงอย่างต่อเนื่อง
บางคนก็ใช้กระบี่ยาวตัดศีรษะของเชลยลงโดยตรง
ขณะที่บางคนก็ใช้ปืนยาวเล็ง และยิงไปที่หัวทีละคน ทีละคน
ทว่าประสิทธิภาพอาวุธของพวกเขานั้นช่างต่ำต้อยนัก เพราะปืนยาวที่พวกเขาใช้ มันยิงได้ทีละนัดเท่านั้น พอยิงเสร็จ ก็ต้องโหลดและถอนปลอกกระสุนด้วยตนเอง ซึ่งมันไม่สะดวกเอาเสียเลย
ด้วยคำสั่งของนายทหารอาวุโส ทหารหลายคนจึงออกจากตำแหน่งทันที
พวกเขาหยิบกระสุนปืนและบรรจุมันลงในอาวุธคู่กายตน พร้อมกับเล็งมายังทางออกของประตูแสง
กู่ฉิงซานลองสังเกตดีๆอีกครั้ง และพบว่าปืนที่อยู่ในมือของคนเหล่านี้ มันเป็นรุ่นเก่าที่ล้าสมัยมาก
-ทั้งหมดล้วนเป็นปืนยาวโบราณ และแม้กระทั่งกระสุนก็สามารถโหลดได้เพียงทีละหนึ่งเท่านั้น
พลปืนยาวเอ่ยถามเสียงเบาๆออกมา “หัวหน้า ท่านจะให้พวกเราทำยังไง ให้จัดการฆ่ามันเลยไหม?”
นายทหารอาวุโสกล่าว “ไม่ได้ เจ้าห้ามลงมือเต็มกำลัง ข้าต้องการจับเป็นมัน”
อีกหนึ่งพลปืนเอ่ยออกมาว่า “จับเป็น? แต่ด้วยการยิงจากอาวุธปืนของพวกเรา มันยากมากเลยนะที่จะสามารถปล่อยให้ศัตรูมีชีวิตรอดต่อไปได้”
นายทหารอาวุโสอธิบายอย่างอดทน “เอาล่ะๆ ที่ข้าสั่งแบบนั้นไป ก็เป็นเพราะว่าต้องการที่จะเข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับประตูมิตินี้กันแน่ – เพราะในช่วงเวลาแห่งการสู้รบขั้นแตกหักกับโลกของพวกเราเช่นนี้ มันไม่ใช่เรื่องปกติเลยที่รากษสจะส่งผู้ใดเข้ามา”
นี่มันเป็นเรื่องที่แปลกอย่างแท้จริง และจะต้องได้รับคำอธิบาย
“รับทราบ” เหล่าพลปืนยาวเอ่ยเป็นเสียงเดียวกัน
พวกเขาชักไกปืนเสียงดังแกร๊ก และเตรียมพร้อมสำหรับการยิงครั้งสุดท้าย
กู่ฉิงซานมองไปยังศัตรูที่ยืนเฝ้าอยู่อีกฝั่งหนึ่งของประตูแสง
บัดนี้ เขาตกตะลึงไปแล้วโดยสมบูรณ์
ไม่คาดคิดเลยว่า กำลังรบของจิ้งจอกขาวจะถูกโค่นลง พ่ายแพ้ไปเสียแล้ว!
ทั้งๆที่ความแข็งแกร่งของจิ้งจอกขาวเหนือล้ำยิ่งกว่าขอบเขตลมปราณจิต เป็นการดำรงอยู่ที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่กู่ฉิงซานเคยเห็นมา
แต่จิ้งจอกขาวก็ถูกกลืนกินไปแล้วโดยใบหน้าของหญิงสาว
แถมกองกำลังแห่งรากษสของจิ้งจอกขาว .. ก็ดันมาถูกโค่นลงซะอีกโดยกลุ่มทหารที่ใช้อาวุธปืนโบราณ!
ฉากโลกใหม่ที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้านี้ … ได้เปลี่ยนมุมมองของกู่ฉิงซานไปโดยสิ้นเชิง
“มีโลกนับล้านล้าน อยู่ในโลกทั้ง 900 ล้านชั้น … ”
กู่ฉิงซานบ่นงึมงำ ปากอ้าถอนหายใจ
ภาพตรงหน้านี้ทำให้เขาสามารถตระหนักได้ถึงบางสิ่ง
นับจากนี้ไป เขาจะไม่ตัดสินทุกสิ่งอย่างด้วยความคิดและทัศนคติตามธรรมชาติของตนเองอีกเด็ดขาด
สามัญสำนึกเป็นสิ่งที่ไม่มีความจำเป็นเลย สำหรับการเผชิญกับการดำรงอยู่ของโลกนับไม่ถ้วน และอารยธรรมอันแปลกประหลาดไร้ที่สิ้นสุด
ณ ตอนนี้ โลกของจิ้งจอกขาวได้ถูกกวาดล้างลงแล้วโดยกลุ่มทหารที่ถืออาวุธปืนยาวโบราณ
-เช่นนั้นแล้ว สิ่งที่ข้าทนพยายามมากมายกระทั่งคว้าชัยชนะมาไว้ในกำมือ มันจะไปมีความหมายอะไร?
กู่ฉิงซานถอนหายใจอีกครั้ง
“เจ้าได้ช่วยให้ข้าได้รับบางสิ่ง ดังนั้นข้าจึงช่วยให้เจ้าหลีกเลี่ยงวิกฤติที่อันตรายถึงชีวิตเป็นการตอบแทน” เสียงใบหน้าหญิงสาวดังขึ้น “หวังว่าการแลกเปลี่ยนนี้ จะทำให้เจ้าพอใจ”
“เป็นที่พอใจ ข้าพึงใจเป็นอย่างยิ่ง ขอบพระคุณท่าน” กู่ฉิงซานเอ่ยอย่างจริงใจ
“นี่มันเป็นการแลกเปลี่ยน ฉะนั้นเจ้าไม่จำเป็นต้องกล่าวขอบคุณ”
ใบหน้าหญิงสาวกล่าว
“การแก้แค้นบรรลุผลแล้ว และความปรารถนาของข้าก็สิ้นสุดลงแล้วเช่นกัน นับจากนี้ไป ข้าจะกลายเป็นมารที่แท้จริง” บนใบหน้าของเธอแสดงออกถึงความเสียใจ
“มารกับสิ่งมีชีวิตทั้งหลายมิอาจอยู่ร่วมกันได้ นับจากนี้ไปในอนาคต หน้าที่ของข้าคือ การทำลายล้างโลกอีกนับไม่ถ้วน”
กู่ฉิงซานรับฟังอย่างเป็นเรื่องเป็นราว สมองขบคิดก่อนจะกล่าว “แต่ข้าสัมผัสได้ว่าหัวใจของท่านยังมิได้มืดบอด แล้วหากเป็นในกรณีนี้ การที่ท่านเปลี่ยนเป็นมาร มันจะแตกต่างกันอย่างไรกับในยามที่เป็นมนุษย์?”
ใบหน้าหญิงสาวมองเขาอย่างคาดไม่ถึง มิอาจเอ่ยกล่าวอะไรออกมาได้อยู่ครู่หนึ่ง
คล้ายกับว่าเธอกำลังทำความเข้าใจถึงทัศนคติที่แท้จริงของอีกฝ่าย
ไม่เคยคาดคิดเลย ว่ารุ่นเยาว์ในโลกกระจัดกระจาย จะสามารถเอ่ยคำเช่นนี้ออกมาได้
ผ่านไปนาน ใบหน้าหญิงสาวก็เอ่ยออกมา “เฉียนซานเย่ได้ผลักข้าลงสู่เส้นทางที่ไม่มีวันหวนกลับ ดังนั้นข้าจึงมิอาจย้อนกลับไปได้”
เธอดูเหมือนว่าจะตกลงไปในห้วงความทรงจำ
“ในอดีตที่ผ่านมา ข้าได้ปิดซ่อนความจริงเกี่ยวกับตัวข้า มิบอกมันแก่เขา แต่นั่นก็เพื่อเป็นการปกป้องตัวเขาเอง”
“ปกป้องเขาอย่างนั้นหรือ?”
“ใช่ เพราะเขาก็มีปัญหาเดียวกันกับคนทั่วๆไปในโลกใบนี้”
“ปัญหาเดียวกันกับคนทั่วๆไป?”
“นั่นคือความแข็งแกร่งของตนมิสอดคล้องกับความทะเยอะทะยานที่มี และปฏิบัติตนอย่างโหดร้ายต่อโลกอื่นๆ”
“ด้วยสองสิ่งนี้ หากได้ล่วงรู้ถึงเรื่องราวของหมื่นโลกา ตัวเขาก็จักถูกทำลายล้างลงอย่างง่ายดาย”
“เดิมทีแล้วข้าต้องการรอจนกว่าเด็กจะเกิดมา แล้วจึงค่อยบอกเขา … ”
ใบหน้าหญิงสาวเผยถึงความโศกเศร้า
“มันไม่คุ้มค่าหรอกที่จะไปมัวคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วในอดีต” กู่ฉิงซานแนะนำ “ผู้ฝึกยุทธในโลกล่องเวหา ได้ใช้ชีวิตภายใต้อารยธรรมเช่นนี้ตลอดมา ดังนั้น มันไม่คุ้มค่าหรอกกับการที่ท่านจะต้องมาโศกเศร้าเกี่ยวกับเรื่องนี้”
ใบหน้าหญิงสาวกลับคืนสู่ความสงบ ปากเอ่ยเสียงกระซิบ “นั่นสินะ เรื่องมันผ่านพ้นไปแล้ว และเหล่าผู้ที่มีส่วมร่วมในการทำร้ายข้าก็ไม่มีผู้ใดหลุดรอดจากเงื้อมมือไปได้”
เธอมองมายังกู่ฉิงซาน และค่อยๆเผยอปากออก
ตามด้วยกองม้วนคัมภีร์จำนวนมาก ลอยออกมาจากปากของเธอ และตกลงเหนือศีรษะของกู่ฉิงซาน
“ม้วนคัมภีร์เหล่านี้เป็นเคล็ดวิชาที่ข้าเคยได้ใช้มันในครั้งอดีต”
“พวกมันจะนำพาเจ้าไปหาคนที่ครั้งหนึ่งเคยมีพระคุณกับข้า”
“เจ้าจงมอบดอกไม้ให้คนๆนั้นเพื่อข้า นี่คือความปรารถนาสุดท้ายของข้าในฐานะมนุษย์ และยังเป็นข้อแลกเปลี่ยนกับเจ้าอีกด้วย” ใบหน้าหญิงสาวกล่าว
“ไม่มีปัญหา” กู่ฉิงซานตอบรับ
แล้วเขาก็เอ่ยถาม “แต่ข้ายังต้องการจะทราบล่วงหน้าว่าจักต้องผ่านไปอีกกี่โลกกัน และต้องใช้เวลายาวนานเพียงใด จึงจะได้พบกับคนที่ท่านพูดถึง”
“ข้ามผ่านไปอีกกี่โลกอย่างนั้นหรือ?” ใบหน้าหญิงสาวเผยท่าทีแปลกๆออกมา
เธอนิ่งงันไปครู่หนึ่ง ก่อนจะได้สติกลับคืน
ราวกับได้ยินถึงเรื่องตลกไร้สาระ เธอระเบิดเสียงหัวเราะดังสนั่นออกมา
“ฮ่าฮ่าฮ่า เจ้าคิดจริงๆน่ะหรือว่าการข้ามผ่านโลกในแต่ละชั้น มันจะต้องข้ามผ่านไปทีละโลกน่ะ?”
“ก็แล้วมันมิใช่หรือ?”
“โดยผิวเผินแล้วโลกนั้นมีอยู่ราวๆ 900 ล้านชั้น อย่างไรก็ตาม ภายในแต่ละชั้นอาจประกอบด้วยโลกอีกนับล้านๆใบ ไม่ต้องกล่าวถึงเจ้า ต่อให้เป็นข้าเองก็ไม่อาจเดินทางข้ามผ่านโลกทั้งหมดทีละใบได้!”
“ … เช่นนั้นแล้ว หมายความว่าจิ้งจอกขาวโป้ปดข้าใช่หรือไม่?” กู่ฉิงซานเอ่ยด้วยความสับสน
“เขาไม่ได้โป้ปดเจ้าหรอก แต่เขาเป็นแค่โลกบ้านนอกที่อยู่ในชั้นกลางต่างหาก ดังนั้นแม้จะพอมีความรู้อยู่บ้าง แต่ก็ไม่ครบถ้วนทั้งหมด”
“ถ้าอย่างนั้น … ” กู่ฉิงซานกำลังจะเอ่ยถาม
แต่ใบหน้าหญิงสาวขัดจังหวะเขาเสียก่อน และเอ่ยโดยตรง “ออกไปทำตามความปรารถนาของข้า แล้วจงดูมันด้วยตาของตัวเอง”
“ดูอะไร?”
“ก็ดูให้เห็นกับตา ถึงความจริงของโลกอย่างไรเล่า”
จากบรรดากองม้วนคัมภีร์ที่ลอยอยู่เหนือศีรษะของกู่ฉิงซาน หนึ่งในนั้นได้คลี่ออกทันใด
พร้อมกับม่านแสงแพรวพราวที่สาดปกคลุมลงบนร่างของกู่ฉิงซาน
และไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อใด ที่ในมือของเขา ปรากฏดอกไม้โปร่งใสทอประกายระยับขึ้น
หญิงสาวจ้องมองไปที่ดอกไม้ในมือของเขา สีหน้าท่าทีของเธอกลายเป็นอ่อนโยน
“จงนำดอกไม้นี้ไปมอบให้ในสถานที่ซึ่งมี‘ขาเป๋แบรี่’อยู่ ข้าหวังว่าเขาจะยังคงสบายดี”
ใบหน้าหญิงสาวเปล่งประโยคนี้ออกมาอย่างอ่อนโยน
เธอสังหารผู้ฝึกยุทธทั้งหมดในโลกล่องเวหา แต่การแสดงออกในช่วงเวลานี้ มันราวกับเธอกำลังประหม่าและเหนียมอาย
ช่วงเวลานี้ เธอดูราวกับจะย้อนคืนสู่อดีต กลับไปในช่วงเวลาที่เคยเป็นเด็กสาวอีกครั้ง
“แน่นอน ข้าจะมอบมันให้แก่เขา รวมไปถึงคำอวยพรของท่านด้วย”
กู่ฉิงซานที่ได้รับดอกไม้โปร่งใส เปล่งวาจามั่นอย่างจริงจัง
อีกฝ่ายได้ช่วยเหลือตนเองเอาไว้ ขณะที่ตนเองช่วยเหลืออีกฝ่าย นี่นับว่าเป็นการแลกเปลี่ยนที่ยุติธรรมแล้ว
ใบหน้าหญิงสาวเมื่อเห็นถึงทัศนคติที่แสดงออกมาของเขา เธอก็พยักหน้า
ม่านแสงที่ปกคลุมกู่ฉิงซานได้ขยายออกไปอย่างรวดเร็ว
ทันใดนั้น กู่ฉิงซานก็หายวับไปจากในความว่างเปล่า
ใบหน้าหญิงสาวเฝ้ามองฉากนี้อย่างเงียบๆ
จนกระทั่งกู่ฉิงซานหายลับไปโดยสมบูรณ์ เธอจึงค่อยๆลดระดับลง
และย่ำลงบนร่างของมารโลกา
“แม่จ๋า … ท้องข้าร้อง … ”
มารโลกาเปล่งเสียงยาวเหยียดในแต่ละคำออกมา
บนใบหน้าของหญิงสาว ได้เผยให้เห็นถึงร่องรอยของความอบอุ่นออกมา
“เจ้าหิวหรือ?”
“ใช่ หิว หิวจัง … ”
“มันจบแล้วล่ะ หลังจากนี้แม่จะพาเจ้าไปยังโลกถัดไป แล้วทีนี้เจ้าก็สามารถกิน กินได้เลยจนกว่าท้องที่ร้องของเจ้าจะพอใจ”
“ยอด .. ยอดไปเลย … ”
เสียงของมารโลกา ฟังดูค่อนข้างเผยถึงความสุขเล็กน้อย
…..
อำนาจอันอ่อนโยน ได้ผลักดันกู่ฉิงซานบินไปอย่างรวดเร็ว
เขาอยู่ท่ามกลางกระแสมิติ และข้ามผ่านพื้นที่มิติอันหลากมามากมายเท่าใดแล้วก็มิอาจนับได้
บางครั้ง ก็จะเกิดความรู้สึกคล้ายดั่งการทะลุชั้นกระจกบางๆไป
นี่อาจหมายถึงการข้ามผ่านโลกลำดับชั้นใช่หรือไม่?
กู่ฉิงซานขบคิดในจิตใจ
ฉะนั้น ด้วยระยะทางเช่นนี้ มันคงไกลเกินกว่าตำแหน่งของร่างใหญ่ที่อยู่มายาวนานกว่า 100000 ปีไปมากโขแล้วสินะ
“อำนาจนี่ … มันน่าเหลือเชื่อมากจริงๆ ”
เขาถอนหายใจ
ท่ามกลางมิติ ทิวทัศน์มากมายได้แวบผ่านดวงตาของเขาไป
ทุกๆประเภทของความแปลกประหลาด และสิ่งมีชีวิตทั้งหมด ปรากฏขึ้นและหายไปในกระแสมิติอันเชี่ยวกราด
ไม่ว่าจะเป็น กลุ่มสิ่งมีชีวิตที่เปล่งประกายระยับ มีรูปร่างคล้ายมนุษย์ ที่กำลังถือคันศรในมือแล้วยิงมันเข้าหาอากาศที่ว่างเปล่า
และแม้จะไม่มีสิ่งใดอยู่ในความว่างเปล่านั้น แต่ทว่าก็บังเกิดเสียงกรีดร้องอันน่าหวาดกลัวดังออกมา
เมื่อบินผ่านพ้นพื้นที่มิตินี้ไป กู่ฉิงซานก็เห็นถึงฝูงดอกไม้ที่กำลังเบ่งบานอยู่ใต้สองฝ่าเท้าของเขา
ฝูงดอกไม้กำลังเต้นรำอย่างมีความสุขอยู่รอบกะโหลกใหญ่
นี่ดูเหมือนว่าจะเป็นพิธีกรรมบางอย่าง
แล้วภาพก็ผ่านวาบบบบ! ไปอย่างรวดเร็ว
แต่ในตอนนั้นเอง หลังจากผ่านพ้นไปช่วงเวลาหนึ่ง กู่ฉิงซานก็ดันกระแทกเข้ากับบางส่วนที่อ่อนนุ่มจนใบหน้าของเขาจมลึกลงไป และกระเด็นออกมา
“กรี๊ดดดดด!”
ตามด้วยเสียงหวีดร้องแหลมของหญิงสาว
“ไอ้สารเลว! ไร้ยางอาย!”
แต่ด้วยอำนาจที่ห่อหุ้มรอบกายเขา ส่งผลให้กู่ฉิงซานเบนทิศทางกลับ และสามารถออกจากที่นั่นได้อย่างรวดเร็ว
จากนั้น ความเร็วในการบินของกู่ฉิงซานก็เริ่มทวีมากยิ่งขึ้น
กู่ฉิงซานอดไม่ได้ที่จะส่ายหัวของเขา
โลกนับล้านล้านใบ นั่นหมายถึงอารยธรรมนับล้านล้าน แล้วใครมันจะไปบอกได้กันว่าเมื่อครู่นี้เขาพึ่งไปชนเข้ากับอะไร?
เขายังคงบินไปยังทิศทางหนึ่งอย่างต่อเนื่อง
ในขณะเดียวนั้นเอง สายตาของเขาก็เบนไปเห็นร่างของจักรพรรดินีมารสวรรค์ ที่ครั้งหนึ่งตนเคยได้ร่วมมือกันสังหารศัตรู
-เด็กสาวในชุดดำ ที่ครอบครองความงดงามชนิดล่มประเทศ
เด็กสาวถูกห้อมล้อมไปด้วยมารสวรรค์ชั้นผู้น้อย
พวกเธอต่างร่วมกันร่ำร้องเพลงอย่างอ่อนช้อยและกำลังโบยบินเข้าไปยังพื้นที่มิติที่เต็มไปด้วยแสงจรัส เปล่งประกายงดงามสดใส
เด็กสาวในชุดดำกำลังขับร้อง ทว่าทันใดนั้นเอง จู่ๆในหัวใจก็เหมือนจะรู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่าง
เธอเชิดหน้าขึ้นอย่างรวดเร็ว จ้องมองไปยังมิติที่ว่างเปล่าในทิศทางที่ว่านั่น
แล้วสายตาของเธอก็ประสานเข้ากับกู่ฉิงซาน
“เป็นเจ้า!”
เด็กสาวในชุดดำเอ่ยออกมาด้วยความประหลาดใจ
แต่กู่ฉิงซานดูเหมือนจะไม่มีเวลามากพอที่จะกล่าวทักทาย
เขาคล้ายกับเป็นเพียงภาพติดตา ตัดผ่านเข้าไปในมิติที่ว่างเปล่า และบินลึกห่างเข้าไปยังช่วงปลายมิติอันห่างไกล
‘ว่องไวยิ่งนัก!’
ด้วยความว่องไวระดับนี้ ต่อให้ตัวเธอเองทุ่มออกอย่างเต็มกำลัง หรือแม้กระทั่งเปิดใช้งานเทคนิคลับ ก็คงไม่สามารถไล่ตามจับได้อยู่ดี
อีกฝ่ายจะต้องครอบครองบางสิ่งที่วิเศษเป็นอย่างยิ่งเอาไว้แน่ๆ
เด็กสาวชุดดำตะลึงงันไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเร่งตะโกนไล่หลังเขาไป
“เจ้ายังติดหนี้เรื่องโลกใหม่กับข้าอยู่นะ!”
ขณะที่ไกลออกไป มีเสียงตอบลอยกลับมา “เรื่องนั้นเอาไว้ข้าจะกลับมาหาเจ้าในภายหลัง”