ตอนที่ 794 คุณคือราชาของฉัน

วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์

“ถังหนิง จากเรื่อง ‘คนรักที่สาบสูญ’ ด้วยการถ่ายทอดบทบาทตำรวจสาวได้อย่างสมจริงของเธอในเรื่อง ‘คนรักที่สาบสูญ’ ผู้ซึ่งทุกข์ทรมานกับสองตัวตนที่ขัดแย้งกัน”

 

 

“ยินดีด้วยครับ คุณถังหนิง” ตัวแทนผู้มอบรางวัลว่าขึ้นอย่างยินดีขณะที่ผู้ชมต่างส่งเสียงแสดงความยินดีและปรบมือให้การชื่นชม

 

 

ถังหนิงนิ่งค้างไปชั่วขณะ ทันทีที่ได้ยินชื่อของเธอถูกประกาศทำให้เธอรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยได้เป็นอย่างดี

 

 

“ทำไมคุณยังนั่งอยู่ตรงนี้อีกล่ะครับ” โม่ถิงส่งยิ้มอยู่ข้างกายเธอ “ได้เวลาที่คุณต้องไปรับรางวัลแล้วนะครับ ที่รักของผม”

 

 

ถังหนิงหันไปกอดโม่ถิง ในตอนนี้เธอรู้สึกราวกับเป็นดวงจันทร์ที่รายล้อมด้วยดวงดาว

 

 

จากนั้นจึงลุกขึ้นและเดินตรงไปยังเวที ในจังหวะที่นักเขียนบทสูงอายุซึ่งใบหน้าประดับด้วยหนวดเคราเอ่ยสำทับ “จริงๆ แล้วหลังจากเรื่อง ‘คนรักที่สาบสูญ’ ไห่รุ่ยได้ผลิตผลงานน้ำดีออกมามากมาย รวมถึงเรื่อง ‘ฉีฟู’ และละครโทรทัศน์เรื่อง ‘หวงเฟยยอดสตรี’ อีกด้วย ผมต้องขอบอกว่าถังหนิงแสดงได้อย่างสมบูรณ์แบบและเป็นนักแสดงที่ความสามารถรอบด้าน

 

 

“ก่อนหน้านี้ไม่นานเธอได้ถ่ายทำเรื่อง ‘ผู้รอดชีพ’ จากที่ได้ยินมานั้นเป็นเรื่องที่ถือเป็นผลงานขึ้นหิ้งเช่นกัน ผมหวังว่าถังหนิงจะยังคงรักษามาตรฐานเช่นนี้และก้าวขึ้นเป็นนักแสดงที่ดีมากขึ้นไปอีกครับ…

 

 

“ขณะที่ยืนต่อหน้าทุกคน ณ ที่นี้ ผมจะขอพูดถึงการประสบความสำเร็จของถังหนิงที่ผ่านมาครับ ยอดจำหน่ายตั๋วเข้าชมรวมของภาพยนตร์ทั้งสามเรื่องที่เธอแสดงนำทะยานสู่หกพันล้านหยวนเป็นที่เรียบร้อย ยังไม่รวมถึงความสำเร็จของเธอภายใต้สังกัดไห่รุ่ย และเธอได้กลายมาเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของวงการภาพยนตร์ ในส่วนของละครโทรทัศน์ ‘หวงเฟยยอดสตรี’ นั้น ได้ทุบสถิติเรตติ้งสูงสุดที่เคยมีมาด้วยยอดเข้าชมออนไลน์กว่าสองพันล้านครั้ง ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่เธอได้ทำภายในหนึ่งปีในฐานะนักแสดงครับ…

 

 

“ผมมั่นใจว่าคงมีคนไม่มากที่สามารถทำเช่นเธอได้แม้ใช้เวลาตลอดช่วงชีวิตก็ตาม สิ่งหนึ่งที่แน่นอนคือการที่ถังหนิงทุ่มเทให้กับผลงานเช่นเดียวกับคนอื่นๆ เมื่ออยู่ในฐานะนักแสดงครับ”

 

 

ในตอนนี้เองที่ถังหนิงก้าวขึ้นมาบนเวทีและยืนอยู่ข้างผู้แทนมอบรางวัลทั้งสองคน

 

 

เป็นจังหวะที่เธอรู้สึกราวกับว่าผู้คนทั้งโลกกำลังแสดงความยินดีกับเธอ

 

 

เธอถือรางวัลสำคัญไว้ในมือในขณะที่บทเพลงทรงเกียรติดังก้องไปทั่วโถง ทันใดนั้นน้ำตาก็รื้นขึ้นมา

 

 

“คุณถังหนิง ช่วยพูดความรู้สึกในการได้รับรางวัลนี้สักหน่อยครับ” พิธีกรว่าขึ้นพร้อมรอยยิ้ม

 

 

ถังหนิงมองรางวัลในมือก่อนเอ่ยขณะที่กลั้นน้ำตา “ด้วยความสัตย์จริง จากประสบการณ์การทำงานที่ผ่านมาของฉัน ฉันไม่ได้หวังว่าจะได้รับรางวัลในวันนี้เลยค่ะ ด้วยรู้สึกว่าได้สิ่งนี้มาง่ายเกินไปและบทที่ไม่ตรงกับนิสัยปกติของตัวเองนัก แต่เมื่อนึกย้อนไปถึงช่วงที่ถ่ายทำฉันก็อดหัวเราะตัวเองไม่ได้ที่ลืมความยากลำบากที่ตัวเองเคยผ่านมา…

 

 

“อย่างที่ทุกท่านทราบว่าฉันผันตัวจากนางแบบมาเป็นนักแสดง ฉันมั่นใจว่าหลายคนคงได้เห็นทุกความพยายามที่ฉันได้ทำมาตลอดช่วงเวลานี้

 

 

“วันนี้ในที่สุดฉันก็ได้รับรางวัลอันทรงเกียรตินี้ แต่สิ่งที่ฉันก็ยังต้องการจะทำก็คือการกลับบ้านไปให้นมลูกและทำอาหารให้สามีของฉัน และแทบรอที่จะแบ่งปันความยินดีนี้กับคนที่ฉันรักไม่ได้เลยล่ะค่ะ…

 

 

“ฉันอยากขอบคุณทุกท่านเช่นกันที่ตัดสินมอบรางวัลนี้ให้ฉันเพราะมันทำให้ฉันรู้สึกมีคุณค่าในวงการภาพยนตร์และโทรทัศน์ค่ะ

 

 

“สุดท้ายนี้ฉันอยากจะบอกบางสิ่งกับสามีของฉัน ‘คุณคือราชาของฉันค่ะ!’ ”

 

 

โม่ถิงนั่งอยู่ท่ามกลางความมืดและมองขึ้นไปที่ถังหนิงที่กำลังยืนเฉิดฉายอยู่บนเวที เธอเป็นผู้หญิงที่เขาต้องการสนับสนุน เป็นภรรยาที่เขาจะใช้เวลาทั้งชีวิตไปด้วยกัน

 

 

และคำพูดของถังหนิงทำให้เขารู้ว่าเธอเทิดทูนเขาเพียงไหน

 

 

จากนั้นถังหนิงก้าวลงมาจากเวทีและกลับมาอยู่ข้างโม่ถิง ทั้งคู่จุมพิตกันอย่างรักใคร่ต่อหน้าทุกคน

 

 

 

 

“ว้าว…”

 

 

“นี่ ดูสิ!”

 

 

“หวานกันจังเลย! ฉันกำลังจะตายเพราะความหวานนี้แล้ว”

 

 

“ฉันอยากมีใครสักคนที่จะใช้ชีวิตที่เหลือด้วยกันแบบนั้นบ้างจัง”

 

 

รางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมถูกมอบในเวลาถัดมา ทว่าในสายตาของคู่รักโม่พิธีมอบรางวัลได้จบลงเรียบร้อยแล้ว

 

 

อย่างไรก็ตาม ยังมีสิ่งที่สร้างความฮือฮาอยู่ อย่างเช่นการที่ ‘หวงเฟยยอดสตรี’ ชนะรางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยมและรางวัลละครโทรทัศน์ยอดนิยม มีการกล่าวถึงการปรากฏตัวของโม่ถิงในละคร ทุกคนต่างแสดงความยินดีกันอย่างคึกคักเพราะคนในวงการบันเทิงรู้ว่ามีเขาน่าทึ่งได้มากกว่านี้

 

 

ว่าแต่ใครจะทำให้เขายอมแสดงอีกครั้งได้กันล่ะ

 

 

นอกจากถังหนิงแล้วคงไม่มีใครทำได้อีกแล้ว สำหรับคนที่สงสัยและคิดว่าพวกเขาแต่งงานคลุมถุงชนกัน พวกเขาคงไม่มีอะไรต้องพูดอีก ท่อนหนึ่งของเพลงดังเพียงพอแล้วที่จะนิยามความสัมพันธ์ของพวกเขา “หากไม่ใช่ความรักแล้วจะมีสิ่งใดที่ต้องยอมเสียใจอีก”

 

 

ไม่นานพิธีมอบรางวัลก็จบลงจากนั้นถังหนิงและโม่ถิงจึงได้ออกจากงาน หากแต่ก่อนที่พวกเขาจะได้ขึ้นรถบรรดานักข่าวก็ได้ตามพวกเขามาด้านหลัง

 

 

เพราะท่าทีทรงอำนาจของโม่ถิง นักข่าวจึงไม่กล้าเข้าไปใกล้มากนัก ได้แต่ตามอยู่ห่างๆ เพื่อเก็บภาพของคู่รัก ทว่านักข่าวสาวคนหนึ่งกลับเดินไปหาพวกเขาและพูดขึ้น “ฉะ… ฉันมีสูตรลดน้ำหนักที่ส่งต่อมาจากบรรพบุรุษของฉันที่สามารถช่วยฟื้นฟูระบบภูมิคุ้มกันได้ถ้าทำตามอย่างต่อเนื่องค่ะ”

 

 

ถังหนิงรับกระดาษจากเธอและส่งยิ้มให้ “ขอบคุณค่ะ ฉันจะลองดูและบอกผลลัพธ์กับคุณนะคะ”

 

 

เธอนึกไปถึงว่าถังหนิงจะตอบสนองเช่นนี้จึงเกาท้ายทอยที่สั่นไปมาก่อนตอบกลับไป “ฉันรู้สึกเป็นเกียรติที่รู้ว่าคุณจะลองทำดูค่ะ”

 

 

“พวกเราต่างก็เหมือนๆ กันล่ะค่ะ” พูดจบถังหนิงก็ก้าวขึ้นโรลส์รอยซ์ที่จอดรออยู่ด้วยการดูแลจากโม่ถิง ทิ้งความประทับใจไว้ให้กับนักข่าวคนนั้นว่าถังหนิงเป็นนักแสดงที่นิสัยดีที่สุดเท่าที่เธอคยพบมา

 

 

ความจริงแล้วสิ่งที่ถังหนิงต้องการสื่อคือเธอยินดีที่จะเผชิญหน้ากับโลกภายนอกด้วยไมตรีจิตตราบใดที่โลกปฏิบัติกับเธอในทางเดียวกัน

 

 

หลังจากขึ้นมาบนรถถังหนิงอดไม่ได้ที่จะเอ่ย “ไม่ใช่สื่อทุกคนที่ควรถูกเกลียดชัง จริงๆ แล้วพวกเขาบางคนก็จิตใจดีนะคะ”

 

 

โม่ถิงเหลือบมองภรรยาตัวเอง ในจังหวะที่เขากำลังจะตอบกลับ จู่ๆ คนขับรถก็เหยียบเบรกและเอารถเข้าจอดข้างทาง

 

 

“ขอโทษด้วยครับคุณโม่”

 

 

“เกิดอะไรขึ้น”

 

 

“มีคนสลบอยู่ด้านหน้าครับ” คนขับรถตอบ

 

 

“เรียกรถพยาบาลที”

 

 

….

 

 

หลังจากเห็นว่าถังหนิงได้รับรางวัล หลงเจี่ยที่อยู่ที่โรงพยาบาลมีความสุขมากกว่าใครๆ ตอนที่เธอดูแลถังหนิง เธอถูกโม่อวี่โหรวกดขี่ข่มเหงมาหลายปี แต่บัดนี้เธอกลายเป็นราชินีแห่งการแสดงที่เป็นที่รักและมีความสามารถรอบด้านแล้ว

 

 

“เลิกดูข่าวได้แล้วครับ ถึงเวลาเข้านอนแล้วนะ” ลู่เช่อเตือน “หลังจากนี้เดือนหนึ่งคุณค่อยไปแสดงความยินดีกับเธอด้วยตัวเองก็ได้”

 

 

“บางครั้งฉันก็แอบอิจฉาเธอนะ” หลงเจี่ยวางโทรศัพท์ลงและนอนลงอย่างว่าง่าย อย่างไรก็ตามเธอไม่คาดคิดว่าคนที่นั่งอยู่ข้างเตียงของตัวเองยามที่ตื่นขึ้นมาในวันถัดมาจะไม่ใช่ลู่เช่อแต่เป็นคุณนายลู่

 

 

“คุณแม่คะ มาทำอะไร…”

 

 

“นอนลงเถอะ” อีกฝ่ายว่าขึ้นด้วยดวงตาแดงก่ำ “เสี่ยวมั่น จริงๆ ฉันมีบางอย่างอยากจะบอกเธอ”

 

 

“คุณแม่คะ มีอะไรก็พูดเถอะค่ะ” หลงเจี่ยตอบขณะที่นอนลง แม้ว่าสัญชาตญาณของเธอจะบอกว่าคำพูดของคุณนายลู่ต้องทำให้เจ็บปวดไม่น้อย

 

 

“ทำไมเธอกับเสี่ยวเช่อถึงไม่ใช้โอกาสนี้มีลูกอีกคนล่ะ มีลูกชายน่ะ… ฉันไม่หวังอะไรนอกจากการได้มีหลานชาย”

 

 

คนฟังคาดไม่ถึงว่าคุณนายลู่จะชื่นชอบเด็กผู้ชายมากกว่าผู้หญิงแม้ว่าเธอจะมาจากครอบครัวปัญญาชนก็ตาม

 

 

อย่างไรก็ตาม สิ่งต่างๆ ก็ไม่ง่ายดายขนาดนั้น