บทที่ 182 เป็นแบบนี้ได้ยังไง

ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี

ตรงหน้าของเขา จอยังมืดดำอยู่

หลี่สือเดินจากไปไกลแล้ว

เผยเชียนรู้สึกเหมือนโดนโลกนี้ทอดทิ้ง

ใครๆ ก็รู้ว่าจะเกิดอะไรต่อไป

ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูจะดังเป็นพลุแตก!

รายการทีวีแบบนี้มีอิทธิพลสุดๆ ก็เหมือนเวลารายการอาหารแนะนำอะไรอร่อยๆ ไม่นานก็จะมีร้านสาขาเปิดขายทั่วทั้งประเทศ

แน่นอนว่ามันก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้น เพราะโมเดลธุรกิจของร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูแตกต่างจากร้านอาหาร

ร้านอาหารจะไปเปิดที่ไหนก็ขายอาหารอย่างเดิม จะเข้าร้านสาขาไหนก็ได้กินอาหารอย่างเดียวกัน แต่เฉินเหล่ยพูดถึงร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูสาขาหลัก

แฟนคลับของเฉินเหล่ยจะแห่มาที่ร้านเพื่อให้ได้ใกล้ชิดเขา เหล่าแฟนๆ จะแวะมาเยี่ยมชม ‘ร้านอินเทอร์เน็ตเล็กๆ’ แห่งนี้ที่เฉินเหล่ยเคยทำงาน แต่ไม่ได้นึกสนใจร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูสาขาอื่น

ก็เหมือนเรื่องราวของ The Beatles พวกเขาเริ่มจากการเป็นนักร้องประจำที่บาร์เล็กๆ แห่งหนึ่ง บาร์แห่งนั้นกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมมาจนถึงปัจจุบัน แต่บาร์อื่นๆ ในละแวกใกล้เคียงกลับไม่ค่อยมีคนเข้า

สำหรับแฟนๆ ที่ชอบตามดารานักร้องที่ตัวเองชื่นชอบ แค่ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูสาขาหลักก็เพียงพอแล้วสำหรับการเดินทางมา ‘แสวงบุญ’ ไม่จำเป็นต้องไปร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูสาขาอื่นอีก

ดังนั้นสถานการณ์เลวร้ายที่สุดที่เผยเชียนจะเผชิญคือร้านสาขาหลักมีรายได้เพิ่มขึ้นกระฉูด

ส่วนร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูสาขาอื่นๆ จะไม่เจอปัญหาอะไรในช่วงนี้

แต่การที่สาขาหลักจะทำรายได้มากขึ้นก็ถือเป็นข่าวร้ายสำหรับเผยเชียนแล้ว!

นั่นเพราะสัปดาห์นี้ยังไม่หมด ถ้าเฉินเหล่ยกลับมาร้องเพลงที่ร้านสาขาหลัก ใครจะรู้ว่าสามวันที่เหลือนี้ พวกเขาจะทำเงินจากการขายเครื่องดื่มได้มากเท่าไหร่!

เผยเชียนอยากจะปฏิเสธเฉินเหล่ย แต่ก็นึกเหตุผลที่เหมาะสมไม่ออก

คิดไปคิดมาแขนขาของเขาก็เริ่มอ่อนแรง ในใจรู้สึกแย่สุดๆ

เผยเชียนนั่งอยู่นานกว่าจะลุกยืนขึ้น

หลี่สือออกจากร้านไปแล้ว ร้านค้าในละแวกเดียวกับร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูคงจะเลิกจัดโปรโมชันแย่งลูกค้าจากพวกเขา เพราะแน่นอนว่าตอนนี้ต่อให้พยายามแค่ไหนก็คงไม่มีทางแย่งลูกค้ามาได้สักคน

ช่วงที่มาร้านในละแวกเดียวกับร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูพากันจัดโปรโมชันเพิ่มความนิยมให้ร้านตัวเอง แต่พอเฉินเหล่ยดังขึ้นมา ลูกค้าที่พวกเขาหามาได้ต้องหันไปสนใจร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูกันหมดแน่

เผยเชียนพยายามผลักไสไล่ส่งเฉินเหล่ยออกไปอย่างสุดกำลังเพราะอีกฝ่ายทำเงินให้ร้านได้ แต่ตอนนี้เจ้านั่นกำลังจะกลับมาทำให้สถานการณ์แย่ยิ่งกว่าเก่า!

ชายหนุ่มแสนเหนื่อยล้าและทุกข์ระทม เขาอยากกลับขึ้นเตียงอันอบอุ่น จากนั้นก็ซุกตัวเข้าผ้าห่มแล้วหลับไป

ตอนเดินมาถึงบันได เขาก็ได้ยินเสียงดังมาจากด้านล่าง

หม่าหยางรีบวิ่งแจ้นตามหาเขาอย่างตื่นเต้น “พี่เชียน! พี่เชียนอยู่ข้างบนรึเปล่า”

เผยเชียนตอบออกไปอย่างเหนื่อยอ่อน “มีอะไร”

“ลูกค้า! ลูกค้าเต็มไปหมดเลยพี่!” ใบหน้าใหญ่ยาวของหม่าหยางเต็มไปด้วยความตื่นเต้นดีใจ

เผยเชียนมองลงไปด้านล่างแล้วสังเกตเห็นลูกค้าทยอยมายืนอออยู่หน้าร้านเต็มไปหมด คนมากมายเบียดเสียดเข้ามาในส่วนกลางของชั้นแรก แต่ละคนรีบหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายรูปกันยกใหญ่

บางคนรีบพุ่งไปจับจองที่นั่งก่อน บางคนพอเห็นที่นั่งไม่เหลือแล้วก็ได้แต่เขย่งเท้าถ่ายรูปนักร้องบนเวที อีกกลุ่มหนึ่งรีบวิ่งขึ้นไปหาที่นั่งบนชั้นสอง

เผยเชียนกับหม่าหยางแทบจะถูกกลืนหายเข้าไปในฝูงชน ทั้งสองเบียดตัวฝ่าคลื่นมนุษย์ลงมาชั้นล่างแล้วหนีออกไปทางประตูหลังร้านที่ใช้ได้เฉพาะพนักงานเท่านั้น

พอออกไปได้ก็เห็นคนมากมายบนถนนกำลังพุ่งมาทางร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู

หลังจากสังเกตดูให้ดีอีกที เขาก็เข้าใจ

คนที่มานั่งบาร์แถวนี้กับคนที่อาศัยในละแวกนี้ต่างวิ่งแจ้นมาที่ร้านกันหมด!

เนื่องจากบาร์แถวนี้จัดโปรโมชันพร้อมให้ส่วนลด ช่วงกลางคืนจึงมีคนแห่แหนมากันมากมาย ระหว่างที่กำลังสังสรรค์กันอย่างสนุกสนาน พวกเขาก็รู้เรื่องเฉินเหล่ยกับร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูเข้า!

ข่าวแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว และเพราะอยู่ไม่ห่างมากเท่าไหร่ คนพวกนี้เลยตัดสินใจลองไปที่ร้านดู

ส่วนเรื่องราคามหาโหดของร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู…

ไม่มีใครบ่นถึงอีก ขอแค่เข้าไปถ่ายรูปมาอวดเพื่อนได้ จะเสียงเงินเป็นหมื่นเพื่อเครื่องดื่มแก้วเดียวก็ยังไหว

เผยเชียนน้ำตาปริ่มเมื่อเห็นฝูงชนแห่มาร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู

ร้านอินเทอร์เน็ตอันแสนยอดเยี่ยมของฉันได้จากไปแล้ว!

ปวดใจเหลือเกิน!

“วู้ฮู้!”

เผยเชียนตกใจ เกิดอะไรขึ้น ฉันยังไม่ทันได้ร้องไห้เลย

เขาหันไปดูแล้วเห็นว่าหม่าหยางเป็นคนร้องตะโกน

“พี่เชียน ผมเข้าใจแล้วว่าทำไมพี่ส่งเฉินเหล่ยไปเซี่ยงไฮ้ พี่เชื่อมาตลอดใช่มั้ยว่าเจ้านั่นจะดังได้

“ผมเข้าใจพี่ผิดไป วู้ฮู้…”

ตอนแรกเผยเชียนรู้สึกอยากจะร้องไห้ แต่พอเห็นหม่าหยางร้องโหวกเหวกเหมือนฮิปโป ก็หมดอารมณ์ทันที

ชายหนุ่มมองเข้าไปในร้านอย่างเศร้าสร้อย “จางหยวนล่ะ”

หม่าหยางปาดน้ำตา “รับแขกอยู่กับผู้จัดการสาขาข้างในครับ ตอนนี้คนเยอะมาก พวกผมเลยคุยกันว่าจะเปิดร้านตลอดทั้งคืน!”

เผยเชียน “…ไม่ต้องหรอก ดูแลสุขภาพตัวเองดีกว่า”

หม่าหยางตบอก “ไม่ต้องห่วงครับพี่เชียน พวกเราสามคนจะผลัดกันไปพัก ถ้ายุ่งมากจริงๆ ก็จะไปขอยืมตัวพนักงานจากบาร์แถวๆ นี้ เดี๋ยวพวกผมจ่ายเงินค่าล่วงเวลาสามเท่า ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร!

“พี่อุตส่าห์ทุ่มเทปั้นร้านให้ดัง พวกผมจะปล่อยให้ความพยายามของพี่สูญเปล่าได้ยังไง

“ความจริงผมกับจางหยวนก็เป็นฝ่ายบริหารร้าน แต่ไม่เคยแบ่งเบาภาระพี่ได้เลย แค่นี้ก็รู้สึกผิดมากๆ แล้ว

“แต่ครั้งนี้ไม่ต้องห่วงเลยพี่ ให้พวกผมจัดการเอง!”

ริมฝีปากเผยเชียนกระตุกเล็กน้อย “…งั้นก็ขอบใจมาก”

หม่าหยางปาดน้ำตาออกจากใบหน้าใหญ่ยาวก่อนจะยิ้มกว้าง “ไม่เป็นไรเลยพี่! พวกเราไม่ต้องพูดอะไรกันมาก เพราะเราแค่มองตาก็รู้ใจกันแล้ว”

เผยเชียน “…”

ทำอะไรไม่ได้แล้ว

ยังเหลืออีกสามวัน จะเปิดร้านทั้งคืนหรือไม่ก็ไม่ได้ต่างกัน

“โอเคครับพี่เชียน ผมขอตัวกลับไปทำงานก่อน พี่ทำงานหนักมากช่วงนี้ กลับไปพักผ่อนเถอะ!”

หม่าหยางเดินกลับเข้าไปในร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูผ่านประตูพนักงาน เผยเชียนมองแผ่นหลังอีกฝ่ายด้วยความรู้สึกเหงาหงอยอย่างบอกไม่ถูก

วันถัดมา

วันจันทร์

เผยเชียนลืมตาตื่น ตอนนี้เที่ยงแล้ว

หลังจากว้าวุ่นใจอยู่นาน เขาก็ตัดสินใจเรียกระบบขึ้นมา

เมื่อคืนร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูเปิดทำการจนถึงเช้า เผยเชียนไม่รู้ว่าพวกเขาขายเครื่องดื่มไปได้เท่าไหร่ แต่ก็น่าจะเช็กได้จากเงินทุนระบบ

เที่ยงคืนของวันนี้ รายได้จากเกมที่ทำได้ในสัปดาห์ก่อนก็จะโอนเข้าบัญชีด้วย

ก่อนเข้านอน เงินทุนระบบยังขึ้นขาดทุนอยู่ประมาณสองล้านหนึ่งแสนหยวน

เผยเชียนเค้นหัวหาทางผลาญเงินอย่างหนัก

ตามแผนเดิมของเขา ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูไม่ควรจะทำกำไรได้ ส่วนรายได้จากเกม เขาคาดไว้ว่าน่าจะมีเพิ่มขึ้นมาอย่างมากประมาณหนึ่งล้านหกแสนถึงหนึ่งล้านแปดแสนหยวน

เกมแม่ทัพผีกับเกมนักออกแบบเกมทำรายได้ได้ประมาณหกถึงเจ็ดแสนหยวนต่อเดือน เกมฐานทัพกลางทะเลทำรายได้ได้ประมาณสามล้านห้าแสนหยวนต่อเดือน หมายความว่าสัปดาห์นี้น่าจะมีรายได้เพิ่มมาประมาณหนึ่งล้านสองแสนหยวน

นับรวมจากที่แพลตฟอร์มทางการเปลี่ยนอัตราส่วนแบ่งรายได้กับยอดรายได้ของ DLC เผยเชียนกะเอาไว้ว่าสัปดาห์ก่อนน่าจะทำเงินได้ประมาณหนึ่งล้านแปดแสนหยวนเป็นอย่างมาก

ถึงร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูจะเปิดให้บริการตลอดทั้งคืน แต่ชายหนุ่มก็คิดว่าน่าจะทำเงินได้อย่างมากประมาณหนึ่งแสนหยวน ไม่น่าจะเกินไปกว่านี้

บางบาร์ทำเงินได้หลายแสนจากการให้ลูกค้าจองโต๊ะส่วนตัวและให้บริการเป็นพิเศษ แต่ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูไม่มีบริการแบบนั้น อย่างมากลูกค้าก็ทำได้แค่ซื้อเครื่องดื่มกับเล่นอินเทอร์เน็ต

ปัญหาจริงๆ อยู่ที่ว่าสองวันจากนี้สถานการณ์จะเป็นยังไง ถ้าเฉินเหล่ยกลับมาที่ร้าน ลูกค้าหลายคนก็น่าจะเริ่มให้ทิปกัน

แต่ตอนนี้เผยเชียนมีพนักงานในสังกัดเยอะขึ้น การเอาเงินไปผลาญกับเหล่าพนักงานไม่ใช่เรื่องยากอะไร น่าจะละลายเงินไปได้หลายแสนและกลับมาขาดทุนได้

ดังนั้นเผยเชียนจึงคิดว่าตัวเองยังโชคดีอยู่ น่าจะขาดทุนได้สักสามถึงสี่แสนหยวน

ก็ยังพอรับได้

หน้าจอปรากฏขึ้นเบื้องหน้าเผยเชียน

<ระบบแปลงความมั่งคั่ง>

<เจ้าของ: เผยเชียน>

<อัตราแปลงกำไรอยู่ที่ 100:1 อัตราการขาดทุนอยู่ที่ 1:1>

<วันปิดบัญชีครั้งต่อไป: อีก 2 วัน>

<เงินทุนระบบ: 6,270,000 (↑1,270,000)>

<ความมั่งคั่งส่วนบุคคล: 45,691.4>

“แม่งอะไรวะเนี่ย!”

เผยเชียนแทบกระอักเลือด

“รายได้เพิ่มจากที่คิดไว้มาตั้งหนึ่งล้านห้าแสนได้ไงวะ!

“ต้องมีปัญหาอะไรสักอย่าง!”

เผยเชียนใกล้จะกระอักเลือดออกมา เขารีบโดดลงจากเตียงแล้ววิ่งไปเปิดโน้ตบุ๊กเพื่อเช็กรายได้เกมในเครือเถิงต๋า

รายได้จากเกมแม่ทัพผีกับเกมนักออกแบบเกมสูงกว่าที่เผยเชียนคาดไว้ แต่ก็ยังอยู่ในเกณฑ์ที่รับไหว

ส่วนเกมฐานทัพกลางทะเลทำเงินได้สูงกว่ากรณีเลวร้ายที่สุดที่เผยเชียนคิดไว้ถึงหนึ่งล้านหยวน!

จากข้อมูลเดือนนี้เกมฐานทัพกลางทะเลทำเงินได้กว่าสิบล้านหยวน หักออกสามสิบเปอร์เซ็นต์กับหักภาษีก็ยังมียอดรวมมากกว่าสองล้านในสัปดาห์นี้

เผยเชียนไม่ได้คำนวณไว้ว่าเกมฐานทัพกลางทะเลจะทำเงินได้เยอะขนาดนี้!

เขารู้สึกแขนขาอ่อนแรง

เกิดอะไรขึ้นกันวะเนี่ย

เขาเช็กดูแล้วไม่ใช่เหรอว่าเกมฐานทัพกลางทะเลไม่ได้มีปัญหาอะไร

หลายวันที่ผ่านมาเขามัวแต่ไปสนใจร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู ชายหนุ่มไม่คาดคิดเลยว่าเกมฐานทัพกลางทะเลที่มองข้ามไปจะส่งผลร้ายแรงต่อแผนการของเขาได้ขนาดนี้!

“สัปดาห์ที่ผ่านมาเกิดอะไรขึ้นกับเกมฐานทัพกลางทะเลวะ!

“หลี่เจิงเหว่ยโฆษณาเกมฐานทัพกลางทะเลให้ แต่ก็ไม่น่าจะส่งผลกระทบได้ขนาดนี้

“แถมปืนบาเร็ตมรณะห้าร้อยกระบอกของเดือนหน้าก็ยังไม่ได้ขาย! แต่ดันขายปืนกินเลนเพลิงได้หนึ่งหมื่นชิ้นภายในสัปดาห์เดียว!

“นี่มันเรื่องบ้าอะไร ไม่เห็นจะสมเหตุสมผลเลยสักนิด!

“ฉันมองข้ามอะไรไป!”