หลังจากผ่านการสนทนาเมื่อครู่มา เล่อเหยาเหยาไม่รู้ว่าเหลิ่งจวิ้นอวี๋ตั้งใจหรือไม่ แต่เธอตกใจจนเหงื่อท่วมกาย
ประจวบเหมาะกับเวลานี้เป็นช่วงฤดูร้อน เพราะตกใจเรื่องเมื่อครู่ ร่างกายของเธอจึงเหงื่อไหลจนเปียกไปทั่วแผ่นหลัง หน้าผากเต็มไปด้วยเหงื่อ เสื้อผ้าบนร่างกายเหนียวเหนอะหนะ ไม่สบายตัวอย่างมาก
ดังนั้น เล่อเหยาเหยาหลังจากหนีมาถึงห้องพักของตน จึงเตรียมเสื้อผ้าอย่างรวดเร็ว คิดไปอาบน้ำที่ด้านหลังตำหนัก
เวลานี้เป็นช่วงเวลาประมาณสองสามทุ่ม
พระจันทร์ลอยเด่น ดวงดาวระยิบระยับ
ยุคโบราณไม่เหมือนกับยุคปัจจุบันที่ชีวิตยามกลางคืนเต็มไปด้วยสีสัน ดังนั้น ช่วงกลางคืน ทุกคนจึงต่างอาบน้ำ กลับไปพักผ่อนที่ห้องแต่หัววัน
ตำหนักหย่าเฟิงกว้างใหญ่ไพศาล ศาลาอาคาร เรียงรายปะปนกันอย่างเป็นเอกลักษณ์
ศาลากลางน้ำ ทางเดินคดเคี้ยว คานเสาแกะสลักอย่างงดงาม ทิวทัศน์และสิ่งปลูกสร้าง ต่างสร้างขึ้นมาอย่างสง่างามทว่าไม่ลดความหรูหรา
เวลานี้เหม่ยและซิงไม่อยู่ที่จวน พญายมยังอยู่ที่สวนไผ่ น่าจะจัดการสะสางเอกสารเหล่านั้นให้เสร็จก่อนถึงกลับมา
ดังนั้น เล่อเหยาเหยาจึงจะไปอาบน้ำที่หลังตำหนัก โดยที่ไม่หวาดกลัวว่าจะถูกคนเห็นเข้า
รวมทั้งเธอใช้ชีวิตอยู่ที่นี่มาสองเดือนแล้ว นอกจากครั้งก่อนที่เหม่ยและซิงจู่ๆ กลับมาอย่างไม่คาดฝันนั้น เวลาอื่นต่างไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น
และเธอก็รู้ว่าเวลานี้พญายม ไม่มาที่หลังตำหนักแน่นอน ดังนั้นเล่อเหยาเหยาหลังจากหยิบเสื้อผ้าที่ซักจนสะอาดเอาไว้ผลัดเปลี่ยน ก็เดินมาทางด้านหลังตำหนัก
เมื่อมาถึงหลังตำหนัก ห้องอาบน้ำที่สร้างขึ้นอย่างเรียบง่าย ก่อนหน้านี้ไม่มีผู้คนใช้งาน ตอนนี้กลับกลายเป็นสถานที่เฉพาะของเล่อเหยาเหยา
เล่อเหยาเหยานำเสื้อผ้าสะอาดแขวนในห้องอาบน้ำ ก่อนถือถังน้ำสองถังใหญ่ที่ตักน้ำมาจากบ่อน้ำด้านนอก เข้ามาภายในห้องอาบน้ำ ขณะกำลังคิดปิดประตูห้องอาบน้ำลง เช่นนี้แม้มีคนมาที่นี่ ก็ไม่สามารถเห็นภาพด้านในได้
คิดไม่ถึง มือเล่อเหยาเหยาเพิ่งวางลงบนประตูไม้ของห้องอาบน้ำ กำลังจะปิดประตูลง กลับมีมือใหญ่เรียวยาวพลันปรากฎขึ้นมาหยุดยั้งการปิดประตูของเธอ
“เอ่อ”
สำหรับมือใหญ่ที่พลันปรากฎขึ้นนี้ ทำให้เล่อเหยาเหยาไม่ได้สติ ใบหน้าจิ้มลิ้มเพียงตะลึงงัน พลันหมุนดวงตาคู่งาม มองตามมือใหญ่เรียวยาวนั้นไป
เมื่อเห็นเจ้าของมือใหญ่คู่นั้นชัดเจน ร่างกายรู้สึกเพียงเหมือนถูกฟ้าผ่า ตะลึงงันอยู่ตรงนั้น
ยามราตรีที่น่าหลงใหลเช่นนี้ แสงจันทร์ขาวนวลสาดลงมายังพื้นอย่างอ่อนโยน ทำให้ทั่วพื้นดิน ดูกระเพื่อมเคลื่อนไหวขึ้นหลายส่วน
เห็นเพียงชายชุดดำ ร่างกายผอมเพรียว ผมสีดำสยายไปทางด้านหลัง
ชุดสีดำ เส้นผมสีดำแทบจะกลมกลืนไปกับความมืดยามค่ำคืน และใบหน้าที่อยู่ท่ามกลางความมืดของเขานั้น ทำให้เขาดูเหมือนปีศาจที่ลึกลับ!
ตอนแรกเล่อเหยาเหยาที่ไม่กลัวความมืด ยังถูกคนที่มาทำให้ตกใจ
เมื่อเห็นท่าทางของคนที่มาชัดเจน กลับยิ่งตกใจขึ้นอีกไม่น้อย เพราะคนที่มามิใช่ผู้ใด แต่เป็นพญายมที่ควรอยู่ที่สวนไผ่นั้น!
เห็นเหลิ่งจวิ้นอวี๋พลันปรากฎตัวขึ้นมาตรงหน้า เล่อเหยาเหยาตกตะลึงและสงสัย ดวงตาคู่งามเปี่ยมไปด้วยความไม่เข้าใจ จึงจ้องมองคนที่มาตาไม่กระพริบ
“ทะ…ท่านอ๋อง เหตุใดมาอยู่ที่นี่”
ที่นี่ เป็นสถานที่ที่เขาไม่เคยย่างกรายเข้ามาไม่ใช่หรือ!
เพราะที่นี่ไม่หรูหรา ลับตาคน ดังนั้นคนที่มาที่นี่จึงมีน้อยมาก รวมทั้งเวลากลางคืนเช่นนี้ ยิ่งไม่มีผู้ใดมาปรากฎตัว
ดังนั้น เล่อเหยาเหยาจึงกล้าหยิบเสื้อผ้ามาอาบน้ำทางนี้
คิดไม่ถึง คืนนี้พญายมกลับมาปรากฎตัวขึ้นอย่างไม่คาดคิดมาก่อน
และเมื่อนึกถึงความผิดปกติของเหลิ่งจวิ้นอวี๋ในคืนนี้ คลับคล้ายคลับคลาว่าเขาเหมือนสังเกตถึงบางสิ่ง ทำให้เล่อเหยาเหยาที่หายตกตะลึง ดวงตาคู่งามที่มองชายหนุ่ม ค่อยๆ แฝงด้วยความระมัดระวัง
เห็นถึงความผิดปกติในแววตาของเล่อเหยาเหยา ชายหนุ่มจึงแกล้งทำเป็นไม่เห็น ทว่าเพียงยิ้มมุมปาก ก่อนเอ่ยกับเล่อเหยาเหยาที่มีสีหน้าระแวดระวังว่า
“ในวังอ๋องมีโรงอาบน้ำเฉพาะมิใช่หรือ เหตุใดเจ้าต้องมาอาบน้ำในที่ลับตาคนด้วย”
“เอ่อ”
เมื่อเจอคำพูดของชายหนุ่ม เล่อเหยาเหยาพูดไม่ออก ไม่รู้ควรตอบกลับไปเช่นไรดี
เพราะชายหนุ่มพูดไม่ผิด ภายในวังอ๋องมีโรงอาบน้ำที่สร้างขึ้นโดยเฉพาะ อุปกรณ์ภายในยังครบครันสะอาดสะอ้าน
ฤดูหนาวยังจัดเตรียมน้ำอุ่นให้!
แต่มีข้อเสียอย่างเดียวคือ ที่นั่นคนเยอะเกินไป!
โดยเฉพาะตอนนี้เป็นฤดูร้อน ที่นี่ไม่มีแอร์หรือพัดลม บ่าวไพร่ในวังอ๋องส่วนมาก ตกกลางคืนจะหลับอย่างต้องทนร้อน จึงมักไปอาบน้ำที่โรงอาบน้ำ
ก่อนนี้เล่อเหยาเหยายังไม่ได้ย้ายมาที่ตำหนักหย่าเฟิง มักกังวลถึงปัญหาเรื่องการอาบน้ำ
จนกระทั่งเธอมาอยู่ที่นี่ หลังพบว่ามีสถานที่ ที่ลับตาคนแห่งนี้ จึงมีความสุขอย่างมาก ใช้ที่นี่เป็นสถานที่ของตน คิดไม่ถึง ชายหนุ่มที่ไม่เคยย่างกรายมาที่นี่พลันปรากฎตัวขึ้น ทำให้เล่อเหยาเหยาตั้งตัวไม่ทัน
ทันใดนั้น เธอจึงสับสนวุ่นวายใจ เล่อเหยาเหยาไม่รู้จะตอบคำถามเช่นไรดี
เมื่อเห็นสายตาของชายหนุ่มที่มองมาที่ตนยังเรียบเฉย คล้ายกำลังรอคอยคำตอบจากเธอ เล่อเหยาเหยาจึงลังเล ก่อนเอ่ยว่า
“ข้า ไม่ชอบสถานที่ที่คนมากเกินไป”
“โอ้ เช่นนั้นหรือ”
สำหรับคำพูดของเล่อเหยาเหยา เหลิ่งจวิ้นอวี๋จึงเอ่ยถามขึ้นอีกครั้ง
“เอ่อ คือว่า…”
เล่อเหยาเหยาคิดไม่ถึงว่าชายหนุ่มที่ปกติไม่ชอบเรื่องวุ่นวาย วันนี้คล้ายต้องการซักถามให้รู้ถึงต้นตอให้ได้ เธอจึงพลันหนังศีรษะชาวาบ
เธอที่ปกติเฉลียวฉลาด เวลานี้ลิ้นคล้ายถูกแมวขโมยไป เอ่ยพูดเหตุผลออกมาไม่ได้
ทว่าชายหนุ่มที่รอคำตอบเธออยู่นาน ยังไม่ได้ยินคำตอบจากเธอ แต่เขากลับไม่บีบคั้นเธอ
ดวงตาเย็นชามองไปที่ถังน้ำใสขนาดใหญ่สองถังข้างกายเธอ ก่อนยิ้มพลางเอ่ยว่า
“พอดีเลย วันนี้เปิ่นหวางก็ยังไม่ได้อาบน้ำ เช่นนั้นพวกเรามาอาบน้ำด้วยกันเถิด”
“อะไรนะ อะ…อาบน้ำด้วยกัน”
เมื่อได้ยินคำพูดของชายหนุ่ม เล่อเหยาเหยาเหมือนถูกฟ้าผ่าตอนกลางวันแสกๆ สมองเกิดเสียง ‘ตูม’ ขึ้นจนแทบแหลกเหลว
ขณะที่เธอตกตะลึง ไม่ได้สติ ก็เห็นชายหนุ่มยกมือขึ้น ก่อนสายรัดเอวบนเอวพลันถูกเขาคลายออก
ชายหนุ่มเพียงใช้มือโยนไป สายรัดเอวนั้นก็ถูกโยนลงไปอยู่บนพื้น ลงมือถอดเสื้อผ้า เสื้อคลุมยาวสีดำที่ห่อหุ้มอยู่บนร่างกายเขาพลันหลุดลง เผยชุดชั้นในที่อยู่ด้านในของเขาออกมา
เล่อเหยาเหยาเห็นเช่นนั้น ตกใจอย่างหนัก ขณะที่ได้สติคิดหยุดยั้ง กลับเห็นชายหนุ่มถอดเสื้อชั้นในที่เหลือเพียงชิ้นเดียวนั้นลงอย่างรวดเร็ว เผยหน้าอกแข็งแรงกว้างใหญ่นั้นออกมา
เวลานี้ พระจันทร์ลอยเด่น แสงจันทร์กลางฤดูร้อน คล้ายกับใบหน้าของสาวน้อยที่งดงาม แสงจันทร์ที่สว่างไสวนั้น แม้ไม่ใช้ตะเกียง ก็สามารถเห็นบรรยากาศรอบด้านได้ชัดเจนถึงเจ็ดแปดส่วน
รวมทั้งเล่อเหยาเหยาได้แขวนโคมไฟไว้ที่ด้านข้างด้วย
แสงสีเหลืองนวลนั้น ทำให้บรรยากาศรอบด้านแจ่มชัดขึ้น
เห็นเพียงชายหนุ่มตรงหน้า เพียงไม่นานก็ถอดเสื้อผ้าของตนออกมาจนหมด เหลือเพียงกางเกงชั้นในบางเบา
การถอดเสื้อผ้าที่รวดเร็วนั้น ทำให้คนมองอย่างชื่นชม และทำให้เล่อเหยาเหยาที่คิดยับยั้งก็ไม่ทันเวลา
จากนั้นเล่อเหยาเหยาได้ยินเสียง “ซ่าซ่า” ของน้ำขึ้น เห็นชายหนุ่มตรงหน้ายกถังน้ำข้างเท้าเธอขึ้น ก่อนเทรดศีรษะตนลงมา
หยดน้ำจึงกระเซ็นรอบทิศ เพราะเล่อเหยาเหยาอยู่ใกล้ชิดกับชายหนุ่มอย่างมาก ดังนั้นเหล่าหยดน้ำนั้นจึงย่อมสาดลงบนตัวเธอเป็นส่วนใหญ่
ทำให้เล่อเหยาเหยาร้องตกใจออกมา คิดหลบก็ไม่ทันเสียแล้ว
เดิมคิดว่า ชายหนุ่มไม่ตั้งใจ ผู้ใดจะรู้ เมื่อเล่อเหยาเหยาเงยหน้าขึ้นสบสายตาแฝงด้วยการเย้าแหย่ของชายหนุ่ม จึงรู้ว่าเขาตั้งใจ!
“กระต่ายน้อย เหตุใดเจ้ายังยืนตะลึงอยู่ตรงนั้น มาสิ พวกเรามาอาบน้ำด้วยกันเถิด เปิ่นหวางจะช่วยถูหลังให้เจ้าเอง!”
“เอ่อ มะ…ไม่ต้อง อวี๋ ท่านอาบไปก่อนเถิด ขะ…ข้าอีกสักครู่ค่อยอาบด้วยตนเอง ไม่ต้องยุ่งยากขนาดนั้น”
เมื่อได้ยินคำพูดของเหลิ่งจวิ้นอวี๋ เล่อเหยาเหยาตกใจจนขนลุกชัน
ช่วยเธอถูหลังหรือ!
สวรรค์ สังหารเธอเถิด!
แต่ขณะที่เล่อเหยาเหยาตกใจ สำหรับคำพูดเธอ ชายหนุ่มกลับคิดว่าเธอเพียงเกรงใจ จึงยิ้มพลางเอ่ยว่า
“ไม่ลำบากหรอก เมื่อครู่เจ้าบอกว่าเหนื่อยมิใช่หรือ พอดีเลยให้เปิ่นหวางช่วยถูหลังให้เจ้า ช่วยให้เจ้าคลายความเครียดลง จะได้สบายตัวขึ้น”
หากเป็นผู้อื่นที่ได้ยินคำพูดนี้ของชายหนุ่ม ต้องตกใจอย่างไม่คาดฝันแน่นอน
เพราะเหลิ่งจวิ้นอวี๋คือใคร
เขาเป็นถึงรุ่ยอ๋องผู้สง่างามแห้งแคว้นเทียนหยวน มีอำนาจบารมีในมือ อยู่ใต้ล่างคนเพียงผู้เดียว แต่อยู่เหนือคนนับหมื่น มีเพียงผู้อื่นปรนนิบัติเขา จะมีผู้ใดได้รับเกียรติ ถูกเขาปรนนิบัติเช่นนี้!
เล่อเหยาเหยาเวลานี้ เมื่อได้ยินคำพูดนี้ของเหลิ่งจวิ้นอวี๋ จึงตกตะลึงอย่างหนัก
เพราะเธอเป็นเพียงขันทีตัวปลอม หากถูกพญายมช่วยถูหลังให้จริง นั่นมิเท่ากับว่าให้เธอเปิดเผยสถานะผู้หญิงของตนหรือ!
แม้ว่าเหลิ่งจวิ้นอวี๋จะบอกว่าเขาชื่นชอบเธอ แต่ว่าเธอก็ไม่กล้ารับประกันได้ว่า หากเวลานี้ตนเองบอกเขาไปว่าเธอเป็นผู้หญิง แล้วเขาจะไม่โกรธ
ถึงแม้จะพูดถึงเรื่องความรัก เธอเองก็ไม่รู้ว่าเหลิ่งจวิ้นอวี๋ชอบเธอมากแค่ไหน จะยกโทษให้เธอหรือเปล่าที่เธอปิดบังเขา
สำหรับเรื่องนี้ เล่อเหยาเหยาไม่มีความมั่นใจเลย
เธอหวาดกลัว!
เธอเสียดายช่วงเวลาที่ดีของพวกเธอในตอนนี้ แต่สถานะของเธอ เหมือนหนามงอกอยู่ในใจ เธอกลัวว่าหากเธอเปิดเผยสถานะ พญายมอาจจะโมโห วันหน้าจะไม่อยากเจอเธออีก
พอคิดถึงตรงนี้ เล่อเหยาเหยาวิตกกังวล เธอหวาดกลัว ขลาดกลัว กังวลที่จะสูญเสียชายผู้นี้
ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อใด ชายผู้นี้ได้ยึดครองตำแหน่งในใจของเธอไปแล้ว
แต่ขณะเล่อเหยาเหยาคิดในใจ เห็นชายหนุ่มยืดแขนออกมาคิดดึงเธอเข้าไปอาบน้ำด้วยกัน เล่อเหยาเหยาจึงตกใจ จนหัวใจแทบกระเด็นออกมา
ทันใดนั้น ร่างกายเล่อเหยาเหยาดุจสวมสปริง กระโดดไปด้านหลังอย่างรวดเร็ว
สำหรับท่าทางเลิกคิ้วอย่างเหนือความคาดหมายของชายหนุ่ม เล่อเหยาเหยาเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าวิตกกังวลว่า
“คือ คือว่า ท่านอ๋อง บ่าวลืมว่ายังมีเรื่องสำคัญที่ยังไม่ได้ทำ ท่าน ท่านอาบก่อนเถิด”
เล่อเหยาเหยารีบร้อนเอ่ยให้จบ และไม่กล้ามองชายหนุ่มด้านหลังแม้แต่แวบเดียว ก่อนพุ่งตัวออกไป ดุจด้านหลังมีปีศาจไล่ตามเธออยู่
เมื่อเห็นเงาร่างที่รีบร้อนจากไปนั้น เหลิ่งจวิ้นอวี๋เพียงเม้มริมฝีปาก ดวงตาเย็นชาเป็นประกายครู่หนึ่ง พลันเผยอริมฝีปากขึ้น เอ่ยพึมพำคล้ายขบคิดกับตนเองว่า
“เด็กน้อย เจ้าจะหลีกหนีไปถึงเมื่อใด”