วันที่ 30 มิถุนายน วันปิดบัญชี

เผยเชียนยกโค้กซดอึกใหญ่ แม้แต่เครื่องดื่มแห่งความสุขของชาวเสพติดน้ำตาลยังทำให้เขาอารมณ์ดีขึ้นไม่ได้

สามวันที่ผ่านมา ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูเป็นที่นิยมยิ่งกว่าที่ชายหนุ่มคิดไว้ แฟนๆ ของเฉินเหล่ยบินมาจากทุกส่วนในประเทศเพื่อมาซื้อเครื่องดื่มแจกทิปให้เขาอย่างบ้าคลั่ง

เมื่อหมดหวังที่จะทำให้ตัวเองขาดทุน เผยเชียนก็ได้แต่กลับไปเก็บตัวเงียบในอพาร์ตเม้นต์อยู่สองวัน

ช่วงสองวันที่ผ่านมา เผยเชียนจมอยู่กับคำถามหนึ่ง

เขาไปพลาดตรงไหนกัน

เหมือนว่าสิ่งที่เขาสร้างมาจะพังทลายไปในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อทุกครั้ง…

ตั้งแต่ได้ไอ้ระบบแสนโกงนี่มา เขาทำให้ตัวเองขาดทุนได้แค่ครั้งเดียว แถมยังขาดทุนแค่สองหมื่นหยวน

แต่แทนที่จะขาดทุนสักเท่านั้น เขากลับทำกำไรได้สองล้านหยวนแทน

ทุกอย่างตรงกันข้ามกับที่เผยเชียนคิดไว้หมด

ตอนแรกชายหนุ่มคิดว่าถ้ามีระบบนี้ เขาก็จะสามารถทำให้ตัวเองขาดทุนแล้วกลายเป็นคนรวยได้ แต่ดูจากสถานการณ์ตอนนี้แล้ว เงินทุนระบบพุ่งขึ้นไม่หยุด ส่วนความมั่งคั่งส่วนบุคคลยังเท่าเดิม จนถึงตอนนี้เขาไม่เคยมียอดเงินในความมั่งคั่งส่วนบุคคลเกินหนึ่งแสนเลย

“แปลกจริงๆ ตามหลักการแล้ว ฉันไม่ควรจนแบบนี้สิ

“แล้วทำไมฉันถึงจนได้ขนาดนี้…”

เผยเชียนเริ่มตั้งคำถามกับชีวิตของตัวเอง

เขาเดินถูกทางมาโดยตลอด

ตอนต้นสัปดาห์ ชายหนุ่มไม่ได้คิดเลยว่าตัวเองจะทำเงินได้เยอะขนาดนี้

ที่เกมฐานทัพกลางทะเลดังขึ้นมาอีกรอบกับสถานการณ์อันแสนปวดใจของร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูนั้นอยู่นอกเหนือความคาดหมายของเขา

ถ้ารู้ว่ารอบนี้จะทำให้ตัวเองขาดทุนไม่ได้ ชายหนุ่มคงคิดหาวิธีได้เงินเพิ่มไปแล้ว แต่เขาทำนายอนาคตไม่ได้ไง!

อีกอย่างหนึ่งแสนหยวนกับสองหมื่นหยวนก็ไม่ได้แตกต่างอะไรกันมากสำหรับเขาในตอนนี้

เผยเชียนสามารถใช้เงินทุนระบบซื้อของที่มีความเกี่ยวข้องกับงานได้ แต่สิ่งที่เขาอยากซื้อจริงๆ นั้นไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับงาน ชายหนุ่มแค่อยากใช้เงินเที่ยวเล่นและซื้อของเข้าบ้านตัวเอง

ขาดทุนได้หกถึงเจ็ดแสนหยวนย่อมดีกว่าทำกำไรได้เดือนละหนึ่งแสนหยวนอยู่แล้ว

ตอนนี้ระบบให้เงินทุนระบบตั้งต้นมาที่ห้าล้านหยวน รอบหน้ายอดน่าจะเพิ่มขึ้นอีก ตามหลักการแล้ว ถ้ามีเงินเยอะขนาดนี้ก็ไม่น่าจะยากอะไรที่จะขาดทุนสักหกถึงเจ็ดแสนหยวน

แต่เขากลับทำไม่ได้ น่าเจ็บใจสุดๆ!

“หรือว่าฉันต้องหันไปพึ่งอัตราแปลงกำไร 100:1 แทน แต่โคตรน้อยเลย

“ไม่ได้ ฉันจะไม่ยอมแพ้!”

เผยเชียนกำลังเถียงกับตัวเองในใจตอนที่หน้าจอระบบปรากฏขึ้น

<ระบบแปลงความมั่งคั่ง>

<เจ้าของ: เผยเชียน>

<อัตราแปลงกำไรอยู่ที่ 100:1 อัตราการขาดทุนอยู่ที่ 1:1>

<เริ่มสรุปบัญชี...>

<เงินทุนระบบ: 7,360,000 (↑2,360,000)>

<ความมั่งคั่งส่วนบุคคล: 45,256.4>

<ภารกิจพิเศษประจำสัปดาห์: บริษัทจะต้องตั้งหน้าร้านใกล้บริเวณที่คนพลุกพล่านหรือบริเวณมหาวิทยาลัย [สำเร็จ]>

<รางวัลที่จะได้รับเมื่อปฏิบัติภารกิจพิเศษสำเร็จ: เพิ่มเงิน 10% หลังดำเนินการแปลงค่าเงิน>

<กำลังสรุปบัญชี...>

<กำลังแปลงค่าเงิน...>

<เงินทุนระบบ: 7,360,000>

<ความมั่งคั่งส่วนบุคคล: 71,299.78 (↑23,675.8 x 110%)>

เผยเชียนพูดอะไรไม่ออก

ตั้งใจทำงานอย่างหนักมาสองเดือนเต็ม แต่ได้เงินแปลงเข้ามาแค่สองหมื่นกว่าหยวน แย่กว่ารอบก่อนอีก…

ปวดใจชะมัด!

พอเห็นยอดความมั่งคั่งส่วนบุคคลอันแสนเศร้า เผยเชียนก็คิดอะไรไม่ออกอีก

“พักสักหน่อยดีกว่า ฉันควรจะนอนเปื่อยไปสักหนึ่งสัปดาห์

“เกมในเครือเถิงต๋าทำเงินได้เรื่อยๆ เกมฐานทัพกลางทะเลนี่ยิ่งไม่ต้องพูดถึง รายได้เดือนนี้พุ่งไปแปดหลัก คำนวณจากอัตราแบ่งกำไรใหม่ที่แพลตฟอร์มทางการให้มาแล้ว เราน่าจะทำเงินได้เดือนละเจ็ดถึงแปดล้านหยวน

“แม้แต่ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูสาขาหลักก็ทำเงินได้กับเขาแล้ว ถึงสาขาอื่นๆ จะยังขาดทุนอยู่ แต่ก็ไม่ได้ขาดทุนมากเท่าเมื่อก่อน

“จากที่คำนวณดู ถ้าฉันไม่ทำอะไรเลย หรือไม่ก็ลงทุนกับโปรเจ็กต์ทุนต่ำที่ได้ผลตอบแทนต่ำ ถึงจะมีรายจ่ายเท่าเดิม แต่ฉันก็น่าจะได้กำไรห้าถึงหกล้านหยวนต่อเดือน”

เผยเชียนไม่คิดจะตัดค่าใช้จ่าย เขาไม่มีทางลดสวัสดิการพนักงานเพื่อให้ตัวเองรวยขึ้น

เหตุผลก็เพราะคงจะขายหน้าน่าดู แถมยังไม่น่าจะส่งผลอะไรขนาดนั้น

ลดสวัสดิการพนักงานลงสี่แสนหยวนก็เพิ่มเงินให้เขาได้แค่สี่พัน เขาจะยังถือว่าเป็นมนุษย์อยู่ไหมถ้าเลือกทำอย่างนั้น

แถมต่อให้ยังคงค่าใช้จ่ายไว้เท่านี้ เขาก็ยังทำกำไรได้

“คิดดูสิว่าถ้ารอบบัญชีหน้าให้เวลามาสองเดือน ถ้าทำกำไรได้เดือนละห้าล้าน วันปิดบัญชีก็จะได้กำไรสิบล้าน แบบนั้นก็ดีกว่าตั้งหน้าตั้งตาหาทางทำให้ตัวเองขาดทุนแต่สุดท้ายได้เงินมาแค่สองหมื่นหยวนรึเปล่า”

จู่ๆ เผยเชียนก็คิดขึ้นได้ว่าการทำตัวขี้เกียจไปวันๆ คือตัวเลือกที่ดีเลิศ!

ระหว่างที่กำลังคิด ข้อความใหม่ก็ปรากฏขึ้นบนหน้าจอระบบ

<วันปิดบัญชีครั้งต่อไป: อีก 120 วัน>

<ดำเนินการทบรวมเงินทุนระบบ จำนวนเป้าหมาย: 8,000,000>

<ทบเงินเพิ่ม 63,457.6…>

<ทบรวมเงินทุนระบบเสร็จสิ้น>

<เงินทุนระบบ: 8,000,000>

<ความมั่งคั่งส่วนบุคคล: 71,299.78>

<ภารกิจพิเศษประจำรอบ: การดำเนินธุรกิจมีทั้งกำไรและขาดทุน ดูเหมือนว่าเจ้าของระบบจะหลงระเริงกับกำไรที่ตัวเองทำได้อยู่ ซึ่งไม่ใช่ทัศนคติที่นักธุรกิจควรจะมี ขอแนะนำให้เจ้าของระบบทำให้ตัวเองขาดทุนให้ได้ในรอบปิดบัญชีครั้งต่อไป>

<รางวัลที่จะได้รับเมื่อปฏิบัติภารกิจพิเศษสำเร็จ: เปลี่ยนแปลงกฎระบบ>

เผยเชียนที่เพิ่งคิดว่าจะทำตัวขี้เกียจสักหนึ่งสัปดาห์อึ้งไป

เขาอ่านรายละเอียดภารกิจพิเศษประจำรอบดูอีกครั้งแล้วก็อดด่าขึ้นมาไม่ได้

“ไอ้ระบบชาติชั่ว!”

แม่งเอ๊ย กล้าดียังไงมาบอกว่า ‘ดูเหมือนว่าเจ้าของระบบจะหลงระเริงกับกำไรที่ตัวเองทำได้อยู่’

อะไรคือหลงระเริง ฉันหาทางขาดทุนมาตลอด แกจะมาโทษว่าฉันไม่ยอมขาดทุนเลยไม่ได้!

แต่ระบบไม่ได้คิดเหมือนเขา

สองรอบบัญชีที่ผ่านมา เผยเชียนทำกำไรได้สองครั้งติด

ดูจากทั้งห้ารอบบัญชีก็จะเป็น กำไร กำไร ขาดทุน กำไร กำไร

ถ้าไม่ได้ดูวิธีการแล้วดูแค่ผลลัพธ์ก็คงจะคิดว่าเผยเชียนซึ่งเป็นเจ้าของระบบทำกำไรได้มาโดยตลอด

ในใจเผยเชียนเต็มไปด้วยคำด่า

สิ่งที่น่าสนใจที่สุดคือรางวัลที่จะได้รับเมื่อปฏิบัติภารกิจพิเศษสำเร็จ

‘เปลี่ยนแปลงกฎระบบ’!

ระบบไม่ได้ระบุชัดเจนว่าจะเปลี่ยนอะไร แต่แค่นี้ก็ทำให้เผยเชียนรู้สึกว่าต้องเป็นรางวัลที่ดีมากๆ และคุ้มค่ากับความพยายามแน่

จนถึงปัจจุบัน ระบบแปลงเงินเข้าความมั่งคั่งส่วนบุคคลให้เผยเชียนแค่ตอนวันสรุปบัญชี

แต่รางวัล ‘เปลี่ยนแปลงกฎระบบ’ ทำให้เขาจินตนาการไปไกล

อาจจะมีอะไรเพิ่มมาเป็นพิเศษ

หรือไม่ก็เปลี่ยนอัตราแปลงกำไรขาดทุน!

เผยเชียนรู้ว่ารางวัลนี้อาจจะเป็นหลุมพราง แต่เขาก็อดไม่ได้ที่จะลองกระโดดลงไป!

เขาอาจจะได้อะไรที่เปล่าประโยชน์เป็นรางวัลตอนทำภารกิจเสร็จ แต่ถ้าเกิดได้อะไรดีๆ ขึ้นมาล่ะ

เผยเชียนไม่สามารถมองข้ามรางวัล ‘เปลี่ยนแปลงกฎระบบ’ เพื่อแลกกับเงินแค่หมื่นหยวนได้ เพราะถือเป็นเรื่องที่โง่มาก

หลังจากด่าระบบอยู่พักใหญ่ เผยเชียนก็ใจเย็นลง

“ไอ้ระบบหน้าโง่ ถือว่าแกจริงใจกับฉันมาตลอด ครั้งนี้ฉันจะยอมเชื่อแกก็ได้”

ไหนๆ ก็ปิดบัญชีไปแล้ว ตอนนี้ก็ได้ภารกิจพิเศษใหม่มา คงต้องทิ้งเรื่องราวน่าปวดใจไว้ข้างหลัง

เผยเชียนรวบรวมสติคิดหาวิธีทำให้ตัวเองขาดทุนเพื่อที่จะได้ทำภารกิจพิเศษให้สำเร็จ

ข่าวดีคือรอบบัญชีนี้ยาวกว่าเดิม รอบก่อนให้เวลาแค่สองเดือน แต่รอบนี้ให้เวลาถึงสี่เดือน

ในสี่เดือนนี้เผยเชียนน่าจะพอทำอะไรสักอย่างได้ เขาสามารถทำสิ่งที่ไม่มีเวลาทำในรอบบัญชีก่อนได้