เยี่ยเฟิงได้รับบาดเจ็บทั่วร่างกาย กู้ชูหน่วนไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร นางจึงทำได้เพียงหยิบขวดแก้วออกจากตัวอย่างสั่นเทา แล้วเอายาแก้ปวดให้เขากิน จากนั้นก็ปลดเสื้อผ้าของเยี่ยเฟิง

แม้ว่าเขาจะได้รับบาดเจ็บสาหัสจนสลบไป แต่มือของเขายังคงกุมหน้าอกไว้แน่น กู้ชูหน่วนต้องพยายามอย่างมากที่จะปลดเสื้อผ้าของเขา

“เสี่ยวเซวียนเซวียน ไปเอาน้ำมา เร็วเข้า”

“อ้อ……ได้”

เซี่ยวอวี่เซวียนไม่กล้าชักช้า หลังจากมองไปรอบ ๆ วัดร้างแล้ว เขาก็พบอ่างเก่าๆ อันหนึ่ง และวิ่งไปอย่างรวดเร็ว

ไม่นานเขาก็เอาน้ำเข้ามา

กู้ชูหน่วนฉีกมุมเสื้อผ้าของนาง และเอาชุบน้ำเช็ดเลือดบนร่างกายของเขา

“อืม……”

เยี่ยเฟิงขมวดคิ้วด้วยความเจ็บปวดและขดตัวกลม

กู้ชูหน่วนขมวดคิ้วและพยายามทำอย่างมือเบาที่สุด

กองไฟกำลังปะทุ กู้ชูหน่วนเช็ดตัวและเซี่ยวอวี่เซวียนบิดผ้า ไม่รู้ว่าเปลี่ยนน้ำสะอาดไปกี่อ่างแล้ว

ในระหว่างที่เช็ดตัว กู้ชูหน่วนก็พบว่าไม่เพียงแต่เขาจะถูกกัดตั้งแต่ไหล่ไปจนถึงน่องเท่านั้น

แต่หลายแห่งบนร่างกายของเขายังเป็นหลุมด้วย หากนางเดาไม่ผิด หลุมนี้เกิดจาการที่เขาถูกกัดเนื้อ และไม่กลับมาเป็นเหมือนเดิม

“แม่สาวอัปลักษณ์ เขามีไข่มุกเหวินหยวนมิใช่หรือ?ทำไมถึงหาบนตัวเขาไม่เจอล่ะ?”

หากไข่มุกเหวินหยวนยังอยู่ อย่างน้อยก็น่าจะช่วยบาดแผลของเขาสมานได้อย่างรวดเร็ว

กู้ชูหน่วนส่ายหัว

เมื่อครู่นางลองค้นหาดูแล้ว

บนตัวของเยี่ยเฟิง ไม่มีแม้แต่อีแปะเดียว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงไข่มุกเหวินหยวนเลย

ไข่มุกเหวินหยวนเป็นสิ่งที่มีค่ามากเช่นนั้น คงจะถูกผู้นำกองธงกล้วยไม้และคนอื่น ๆ เอาไปแล้ว

หลังจากทำความสะอาดแล้ว กู้ชูหน่วนก็เปิดยาห้ามเลือด และทาลงบนบาดแผลที่ถูกกัด

เยี่ยเฟิงขมวดคิ้วแน่นและส่งเสียงครวญครางเป็นบางครั้งบางคราว ตามด้วยคำวิงวอนที่ไร้ประโยชน์

“เจ็บ…อย่า…ได้โปรด…ได้โปรด อย่า…”

“คนพวกนั้นชั่วร้ายมากเกินไป คนดี ๆ คนหนึ่งต้องถูกพวกเขาทรมานจนกลายเป็นเช่นนี้ เลวร้ายยิ่งกว่าสัตว์เดรัจฉาน”

กู้ชูหน่วนกระวนกระวายใจ นางพกยาติดตัวมาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น หากไม่ใช้อย่างประหยัดก็จะหมด

“แม่สาวอัปลักษณ์ ที่ท้องของเขายังมีมีดอยู่อีกสองเล่ม”

“ข้าไม่เห็นเลย”

กู้ชูหน่วนลองคล้ำหาที่ท้องของเขา แต่ก็ไม่พบอาวุธมีคมใด ๆ ในท้ายที่สุดก็ทำได้เพียงหยิบมีดบนพื้นที่เยี่ยเฟิงดึงออกมาด้วยตนเอง จากนั้นก็ใช้ไฟฆ่าเชื้อโรค แล้วผ่าท้องของเยี่ยเฟิงเพื่อนำมีดอีกสองเล่มออกมา

“อืม……”

เยี่ยเฟิงจับมือของกู้ชูหน่วนโดยไม่รู้ตัว

กู้ชูหน่วนตะโกน “จับเขาไว้ อย่าให้เขาขยับ”

“ได้……”

เซี่ยวอวี่เซวียนเกือบจะตะลึงงุนงง เขารีบจับมือของเยี่ยเฟิงไว้แน่น และเฝ้าดูฝีมือการทำแผลของกู้ชูหน่วน ใส่ยา พันแผล จนเสร็จกระบวนการ

นางทำอย่างคล่องแคล่ว เซี่ยวอวี่เซวียนไม่เชื่อว่านางจะไม่รู้วิชาแพทย์

เมื่อกู้ชูหน่วนไม่มียาใช้แล้ว ฝูกวงก็กลับมาพร้อมกับสมุนไพร

กู้ชูหน่วนรู้สึกดีใจเล็กน้อย

“นายท่าน ยังเหลือยาอยู่อีกตัวหนึ่ง และใกล้ ๆ นี้ไม่มีเลย ข้าจะไปดูที่ไกลออกไป”

หลังจากพูดจบ ฝูกวงก็หายไปในทันที รวดเร็วราวกับสายลม

ในขณะที่ทำยา กู้ชูหน่วนก็กล่าวว่า “เจ้าถอดเสื้อออก”

“หา……ทำไมต้องให้ข้าถอดเสื้อด้วย?”

“เขาเลือดไหลไม่หยุด จึงต้องพันแผล และที่นี่ก็ไม่มีอะไรพอที่จะพันแผลได้เลย มีแต่เสื้อผ้าของเจ้า”

“ก็ได้”

เซี่ยวอวี่เซวียนถอดเสื้อข้างนอกออกแล้วฉีกเป็นเส้น

หลังจากนั้นกู้ชูหน่วนก็ให้เขาถอดอีก

แต่เขาไม่ทำแล้ว

“ข้าเหลือเสื้ออยู่ชิ้นเดียวแล้ว หากถอดให้เขาอีก แล้วข้าจะใส่อะไร”

“เสื้อผ้าของเยี่ยเฟิงถูกฉีกจนเป็นเช่นนี้แล้ว เขารักศักดิ์ศรีมาก หากเขารู้ว่าว่าไม่มีอะไรปกปิดร่างกาย เขาจะคิดอย่างไร?”

“เขารักศักดิ์ศรี แล้วข้าไม่รักศักดิ์ศรีหรือ?อีกอย่างข้าก็เป็นบุตรชายแท้ ๆ ของท่านแม่ทัพใหญ่แห่งรัฐเยี่ย”