บทที่ 218 จุดยืน

ห้วงเวลาบุปผาผลิบาน

คุณหนู​สวี​เขียนจดหมาย​เสร็จ​อย่างรวดเร็ว​ ​ฝาก​อวี​้​ถัง​หา​คนที​่​เชื่อถือได้​ช่วย​ไป​ส่งจดหมาย​ให้​ ​“​ข้า​ไม่มี​คน​ทั้ง​ไม่​คุ้น​ที่ทาง​ ​เดิม​คิด​ว่า​แค่​มาร​่วม​พิธี​บรรยาย​ธรรม​ ​ไม่ได้​พามือ​เท้า​ติด​มาด​้วย​ ​เรื่อง​นี้​ต้อง​ฝาก​น้อง​อวี​้​แล้ว​”

อวี​้​ถัง​กลับ​คิด​ว่า​จะ​ฝากฝัง​ใคร​ก็​สู้​ให้​คน​สกุล​เผย​ไป​จัดการ​มิได้

คุณหนู​สวี​ยัง​ลังเล​ไม่แน่ใจ

อวี​้​ถัง​เอ่ย​ว่า​ ​“​ในเมื่อ​นายท่าน​สาม​อยู่​ที่นี่​ ​เรื่อง​ที่เกิด​ใน​วัด​เจา​หมิง​ย่อม​ปิด​เขา​ไม่ได้​ ​ถ้า​ท่าน​จะ​ลงมือ​เพียงลำพัง​ ​มิสู​้​ขอความช่วยเหลือ​จาก​นายท่าน​สาม​ ​อีก​อย่าง​ ​ปัญหา​ใหญ่​รอ​อยู่​ข้างหน้า​ ​อย่างไร​ก็​ต้อง​ขอความช่วยเหลือ​จาก​ทุก​สกุล​ ​ในเมื่อ​สมควร​ด้วย​เหตุ​และ​ผล​ ​ข้า​เชื่อ​ว่านาย​ท่าน​สาม​ต้อง​เข้าใจ​แน่​”

คุณหนู​สวี​เงียบ​คิด​ไป​ครู่หนึ่ง​ ​เอ่ย​ว่า​ ​“​ข้า​รู้​แม้​การกระทำ​ของ​ข้า​ไม่​อาจ​ปิดบัง​นายท่าน​สาม​ได้​ ​และ​ข้า​ก็​เชื่อ​ว่า​คน​ของ​สกุล​เผย​จะ​ไม่​เปิด​จดหมาย​ของ​ข้า​ ​แต่​ข้า​อยาก​จะแจ้ง​ต่อ​พี่​รอง​อิน​ด้วย​ตนเอง​ ​เพราะ​ข้า​ไม่รู้​ว่า​หลังจาก​เกิดเรื่อง​นี้​ขึ้น​แล้ว​ ​สกุล​ข้า​กับ​สกุล​เผย​จะ​ยัง​ยืน​อยู่​ข้างเดียว​กันได​้​หรือไม่​ ​นับแต่​ตอนนี้​ ​ยิ่ง​รับ​น้ำใจ​จาก​สกุล​เผย​ได้​น้อย​เท่าไร​ก็​จะ​ยิ่ง​ดี​เท่านั้น​”

เรื่อง​แบบนี้​อวี​้​ถัง​เข้าใจ​ดี​ ​นาง​เอ่ย​ว่า​ ​“​แต่​ข้าว​่า​เรื่อง​นี้​อย่างไร​ก็​ต้อง​บอก​สกุล​เผย​”

“​นั่นแน่​นอน​อยู่​แล้ว​”​ ​คุณหนู​สวี​ยิ้ม​เอ่ย​ว่า​ ​“​พวกเรา​ต่าง​จุดยืน​ ​ต่าง​คน​ต่าง​แยกกัน​เป็นอิสระ​ ​เจ้า​เป็น​แบบนี้​ ​ข้า​กลับ​ยิ่ง​ดีใจ​ที่​ได้​เป็น​สหาย​กับ​เจ้า​ ​ข้า​เกลียด​พวก​ที่​ทำ​อะไร​ตาม​ความรู้สึก​ ​สุดท้าย​พอทุ​กอย​่าง​เละเทะ​ยุ่งเหยิง​ ​กลับมา​โบ้ย​ว่า​อีก​ฝ่าย​ไร้คุณ​ธรรม​”

อวี​้​ถัง​หัวเราะ

นาง​เดิน​เข้าไป​กอด​คุณหนู​สวี​ ​ใน​ใจ​ก็​ลอบ​ภาวนา​ ​ขอให้​เรื่อง​นี้​เป็นคุณ​หนู​สวีที​่​คิดมาก​ไป​เอง​ ​หวัง​ว่า​หลังจาก​จบเรื่อง​นี้​แล้ว​ ​นาง​กับ​คุณหนู​สวี​จะ​ยัง​ร่วม​เดินทาง​เส้น​เดียวกัน​ได้

อวี​้​ถัง​พลัน​คิดถึง​คน​สอง​คน​ขึ้น​มา

พี่น้อง​สกุล​ชวี

เพราะ​เรื่อง​ของ​สกุล​เว​่ย​ ​แม้นา​งกั​บส​อง​พี่น้อง​สกุล​ชวี​จะ​เคย​ไปมาหาสู่​ ​แต่​ก็​ไม่​อาจ​เปลี่ยน​ชะตา​ของ​สอง​พี่น้อง​สกุล​ชวี​ได้​ ​คน​ทั้งสอง​ยัง​เหมือนกับ​ชาติก่อน​ ​บัดนี้​ใช้ชีวิต​อยู่​ใน​เมือง​หลิน​อัน​ ​ค่อยๆ​ ​เริ่ม​มีชื่อเสียง​ ​แต่​อย่างไร​ชาติ​นี้​ก็​ต่าง​ไป​จาก​ชาติที่แล้ว​ ​ชาติก่อน​สกุล​เผย​นิ่ง​สงบ​ไม่ยอม​เคลื่อนไหว​ ​ชาติ​นี้​อาจ​เพราะ​อวี​้​ถัง​เข้าไป​พัวพัน​กับ​สกุล​เผย​ ​หรือ​อาจ​เพราะ​เวลา​ยัง​เร็ว​เกินไป​ ​จึง​รู้สึก​ว่า​สกุล​เผย​เปิด​หน้า​เปิด​ตาก​ว่า​เมื่อก่อน​ ​ออกมา​ปรากฏตัว​ให้​ชาว​หลิน​อัน​ให้​เห็น​บ้าง​ใน​บางครั้ง​ ​เป็นการ​เตือนสติ​ชาว​หลิน​อัน​อยู่​เรื่อยๆ​ ​ว่า​สกุล​เผย​ต่างหาก​ที่​เป็น​สกุล​ใหญ่​อันดับ​หนึ่ง​ของ​เมือง​หลิน​อัน​ ​สอง​พี่น้อง​สกุล​ชวี​จัดการ​เรื่องราว​ได้​ระมัดระวัง​กว่า​ชาติก่อน​มาก​ ​แต่​ไร​ก็​จะ​คอย​ดู​ทิศทาง​ลม​ของ​สกุล​เผย​เสมอ​ ​ไม่กล้า​ล่วงเกิน​สกุล​เผย​ง่ายๆ​ ​หา​ได้​ท่า​ใหญ่​วางโต​เหมือนชาติ​ก่อน

พี่น้อง​สอง​คน​นี้​สามารถ​เชื่อถือได้

แต่​ประเด็น​คือ​ต้อง​จ่าย​เงิน​มาก​น้อย​เท่าไร

คุณหนู​สวี​ย่อม​ยินดี​จะ​ควัก​เงินอยู่​แล้ว

อวี​้​ถัง​เล่าเรื่อง​สอง​พี่น้อง​สกุล​ชวี​ให้​คุณหนู​สวี​ฟัง

คุณหนู​สวี​ดีใจ​มาก​ ​“​ไม่​กลัว​ว่า​คน​เป็นอันธ​พาล​ ​กลัว​แต่​ไม่รู้​รากเหง้า​ ​ในเมื่อ​เป็น​คนเมือง​หลิน​อัน​ ​เช่นนั้น​ก็​ไม่มี​อะไร​ให้​กังวล​ ​ข้า​จะ​ให้​คน​ไป​ตามตัว​สอง​คน​นี้​มา​เลย​ ​ให้​พวกเขา​เร่งฝีเท้า​นำ​จดหมาย​ไป​ส่ง​ที่​ไหว​อัน​โดย​ไม่ต้อง​หยุดพัก​ ​หาก​เร็ว​ขึ้น​หนึ่ง​วัน​ ​ข้า​จะ​ให้​เพิ่ม​สิบ​ตำลึง​ ​ไม่​สิ​ ​เอา​ไป​ยี่สิบ​ตำลึง​เลย​”

จาก​หลิน​อัน​ไป​ไหว​อัน​เดินทาง​ทางบก​ใช้เวลา​สิบ​วัน​ ​ทางน้ำ​เจ็ด​วัน​ ​หรือ​หาก​ขี่ม้า​เป็น​ ​สิบ​วัน​พอ​จะ​ใช้​ไป​กลับ​ได้​เลย​ ​หากว่า​ตะบึง​ม้าเร็ว​โดย​ไม่​พัก​ ​ไม่รู้​แน่ว​่า​ใช้เวลา​เท่าไร

อวี​้​ถัง​คิด​ว่า​จะ​ช่วย​สอง​พี่น้อง​สกุล​ชวี​ออกความเห็น​ดี​หรือไม่​ ​เช่นว่า​ให้ยืม​ม้า​สัก​ตัว​จาก​สกุล​เผย

แต่​สุดท้าย​นาง​ก็​ไม่ได้​พูด​อะไร

นับแต่​นี้​ ​พวก​นาง​ต่าง​มี​จุดยืน​คนละ​จุด

อวี​้​ถัง​ให้​ซวง​เถา​นำ​สาร​ไป​ส่ง​อาหมิง​ ​ให้​อาหมิง​พาส​อง​พี่น้อง​สกุล​ชวี​มาหา

สอง​พี่น้อง​สกุล​ชวี​มาถึง​ตอนค่ำ​ ​ซวง​เถา​นำ​จดหมาย​ของ​คุณหนู​สวี​มอบให้​พวกเขา

สอง​พี่น้อง​สกุล​ชวี​เห็น​ว่า​จดหมาย​ส่ง​ถึง​ท่าน​ข้าหลวง​ไหว​อัน​ ​อด​จะ​มอง​อวี​้​ถัง​สัก​หลาย​ทีมิ​ได้​ ​ไม่​เพียง​ตอบรับ​อย่าง​ชื่นมื่น​ ​พอ​ออกจาก​วัด​เจา​หมิง​ก็ตาม​หาม​้า​มา​ใช้งาน​ทันที

หัวใจ​ของ​คุณหนู​สวี​ยังคง​เต้น​เร็ว​เหมือน​รัว​กลอง​ ​ไม่รู้​ว่า​ทำ​เช่นนี้​เป็น​สิ่ง​ที่​ถูก​หรือ​ผิด​กัน​แน่​ ​นาง​จึง​บอก​เรื่อง​นี้​ให้​นาย​หญิง​สาม​สกุล​หยาง​ฟัง

นาย​หญิง​สาม​สกุล​หยาง​ก็​รู้สึก​ว่า​ตึง​มือ

นาง​แค่​อยาก​จะ​มาดู​ว่า​คุณหนู​รอง​สกุล​เผย​เป็น​คน​อย่างไร​ ​แล้ว​ถือโอกาส​นี้​ลองดู​ด้วยว่า​จะ​สามารถ​เกี่ยวดอง​กับ​สกุล​เผย​ได้​หรือไม่​ ​สุดท้าย​กลับ​ถูก​ดึง​เข้าไป​พัวพัน​กับ​เรื่อง​นี้​ ​นาง​ใคร่ครวญ​พัก​หนึ่ง​ ​แล้ว​เอ่ย​กับ​คุณหนู​สวี​ว่า​ ​“​เรื่อง​นี้​เจ้า​ทำดี​มาก​ ​แม้​พี่​รอง​เจ้า​จะ​ไม่​ชอบ​งานเอกสาร​อัน​เหน็ดเหนื่อย​ ​แต่​มิใช่​สิ่ง​ที่จะ​ปัด​ความรับผิดชอบ​ได้​ ​หาก​เป้าหมาย​ใน​การ​จัด​พิธี​บรรยาย​ธรรม​ของ​สกุล​เผย​คือ​เรื่อง​นี้​จริงๆ​ ​พี่​รอง​ของ​เจ้า​ย่อม​มี​วิธี​ปลีกตัว​พา​พวกเรา​ออกมา​แน่​ ​สอง​วันนี้​เจ้า​ก็​ไม่ต้อง​เดินเล่น​ไป​ทั่ว​ ​รอ​ให้​พิธี​บรรยาย​ธรรม​ทาง​นี้​จบ​ ​พวกเรา​รีบ​เดินทาง​กลับ​ไหว​อัน​ทันที​”

คุณหนู​สวี​พยักหน้า​รับ

นาย​หญิง​สาม​สกุล​หยาง​เอ่ย​ว่า​ ​“​คุณหนู​สกุล​อวี​้​ตอนนี้​ทำ​อะไร​อยู่​รึ​?​”

ความนัย​ก็​คือ​ ​อวี​้​ถัง​ไม่แน่​ว่า​จะ​เชื่อถือได้

คุณหนู​สวี​หัวเราะ​ ​เอ่ย​ว่า​ ​“​นาง​นั่ง​เป็นเพื่อน​ข้า​ครู่หนึ่ง​ ​ปลอบใจ​ข้า​นานสองนาน​ ​จากนั้น​ก็​กลับ​ห้อง​ของ​ตัวเอง​ไป​ ​นาง​สั่ง​คน​ไป​ส่งจดหมาย​ให้​เด็กรับใช้​ข้าง​กาย​เผยส​ยาก​วง​ที่​ชื่อว่า​อาหมิ​งอะ​ไร​นั่น​ ​บอกว่า​อยาก​พบ​เผยส​ยาก​วง​ ​แต่​เผยส​ยาก​วง​ก็​ไม่​ตอบ​จดหมาย​กลับมา​เสียที​ ​ข้า​เดา​ว่า​ ​เผยส​ยาก​วง​ทาง​นั้น​คง​วุ่นอยู่กับ​การ​ต้อนรับ​คน​สกุล​เถา​กับ​สกุล​เผิ​งอยู​่​ ​จึง​ไม่มีเวลา​พบ​นาง​ ​หากว่า​ได้​พบ​ ​ก็​คง​เป็นช่วง​เย็น​แล้ว​”

เห็น​ได้​ว่านา​งก​็​ส่ง​คน​ไป​จับตาดู​อวี​้​ถัง​เช่นเดียวกัน

คุณหนู​สวี​ยัง​เล่าเรื่อง​ที่สอง​คน​ไป​พบ​มา​ให้​นาย​หญิง​สาม​สกุล​หยาง​ฟัง​ด้วย

นาย​หญิง​สาม​สกุล​หยาง​ประหลาดใจ​นัก​ ​พลัน​มอง​อวี​้​ถัง​ด้วย​สายตา​ที่สูง​ขึ้น​ ​“​คิดไม่ถึง​ว่า​คุณหนู​จาก​สกุล​เล็ก​ๆ​ ​กลับเป็น​คน​มีน้ำใจ​โอบอ้อมอารี​ ​เห็น​ได้​ว่า​ชาติกำเนิด​ของ​คน​เป็นเรื่อง​หนึ่ง​ ​ความรู้​ประสบการณ์​ก็​เป็น​อีก​เรื่อง​หนึ่ง​ ​เด็ก​คน​นี้​เจ้า​คบหา​ไว้​ได้​!​”​ ​ทั้ง​เอ่ย​ว่า​ ​“​นาง​หมั้น​หมาย​แล้ว​หรือยัง​?​”​ ​คิด​ว่า​หาก​คุณหนู​เช่นนี้​สามารถ​แต่ง​เข้า​สกุล​นาง​หรือ​สกุล​หลี​ ​สกุล​จาง​ได้​ ​ล้วนแต่​ไม่เลว​ทั้งสิ้น

คุณหนู​สวี​เม้มปาก​ยิ้ม​ๆ​ ​“​ท่าน​เป็น​แม่สื่อ​จน​เคยตัว​หรือ​เจ้า​คะ​?​ ​สกุล​นาง​ต้องการ​ให้​เขย​ชาย​แต่ง​เข้าเจ้า​ค่ะ​”

นาย​หญิง​สาม​สกุล​หยาง​โบกมือ​อย่าง​ไม่เชื่อ​ ​“​มีเรื่อง​อะไร​เปลี่ยนแปลง​ไม่ได้​บ้าง​ล่ะ​ ​เรื่อง​ของ​คุณหนู​อวี​้​วันหลัง​ค่อย​ว่า​กัน​ใหม่​ ​พวกเรา​ต้อง​รับมือ​เรื่อง​ตรงหน้า​ให้​ผ่าน​ไป​เสียก่อน​”

คุณหนู​สวี​พยักหน้า​ ​“​ข้า​คิด​ว่า​พิธี​บรรยาย​ธรรม​นี้​พวกเรา​ไม่ต้อง​เข้าร่วม​จะ​ดีกว่า​ ​มิสู​้​หา​ข้ออ้าง​สัก​ข้อ​เก็บตัว​อยู่​ใน​ห้อง​เซียง​ฟาง​”

ตอน​พิธี​บรรยาย​ธรรม​ย่อม​มี​คน​ล้นหลาม​ ​หลาย​สกุลมา​พร้อมหน้า​ ​พวก​นาง​สกุล​สวี​ ​สกุล​หยาง​ ​สกุล​อิน​ล้วน​มิใช่​คน​ไร้​ชื่อเสียง​ ​การ​ไป​ปรากฏตัว​ที่นั่น​จะ​สะดุดตา​เกินไป

นาย​หญิง​สาม​สกุล​หยาง​ก็​เห็นด้วย

สกุล​อิน​ใน​รุ่น​ของ​อิน​หมิง​หย่วน​นี้​ ​บ้าน​ทั้ง​ห้า​สาย​มีคุณ​ชาย​เพียง​สาม​คน​ ​มี​เพียง​สะใภ้​ของ​อิน​หมิง​หย่วน​ที่​มีเรื่อง​เช่นนี้​ ​นาย​หญิง​อีก​สอง​คน​ของ​สกุล​อิน​แม้​พอ​จะ​ดูแล​งาน​ใน​เรือน​ได้​ ​แต่​เรื่อง​อื่น​กลับ​เละเทะ​ไป​หมด

นาง​เสนอ​ว่า​ ​“​บอกว่า​ข้า​ถูก​ไอ​เย็น​กะทันหัน​ ​เจ้า​ต้อง​คอย​ดูแล​ข้า​อยู่​ใน​ห้อง​”

คุณหนู​สวี​จะ​ให้​ผู้อาวุโส​แบกรับ​หน้าที่​นี้​ได้​อย่างไร​ ​นาง​รีบ​เอ่ย​ว่า​ ​“​บอกว่า​ข้า​ไม่สบาย​ดีกว่า​เจ้าค่ะ​”

นาย​หญิง​สาม​สกุล​หยาง​ส่ายหน้า​ ​คล้าย​ตัดสินใจ​แล้ว​ ​“​เช่นนั้น​ไม่​เหมาะ​ ​ไม่​อาจ​ให้​เจ้า​รับบท​นั้น​ได้​”

คุณหนู​สวีต​้​อง​แต่ง​เข้า​สกุล​อิน​ ​อิน​หมิง​หย่วน​ขึ้นชื่อว่า​มีสุข​ภาพ​ไม่​ค่อย​ดี​อยู่​แล้ว​ ​ไม่​อาจ​ให้​คุณหนู​สวี​รับบท​นี้​ได้​อีก

เรื่อง​นี้​จึง​ตกลง​กัน​เสร็จสิ้น

นาย​หญิง​สาม​สกุล​หยาง​เอ่ย​ว่า​ ​“​คุณหนู​อวี​้​ทาง​นั้น​ ​ให้​คน​ตามดู​ต่อไป​ ​ไม่แน่​พวกเรา​อาจ​ได้​รู้​จาก​เผยส​ยาก​วง​ว่า​พิธี​บรรยาย​ธรรม​ของ​สกุล​เผย​นี้​เป็นความ​ตั้งใจ​หรือ​ไร้​เจตนา​กัน​แน่​”

คุณหนู​สวี​รับคำ​ ​รอ​จน​นาย​หญิง​สาม​สกุล​หยาง​เดิน​จากไป​ ​นาง​ก็​นั่ง​ไม่​ติด​ ​คิด​ว่า​อวี​้​ถัง​มีนิ​สัย​เข้ากับ​นาง​ได้​ ​แต่กลับ​ไร้​ที่พึ่ง​พา​ ​หาก​เกิดเรื่อง​อะไร​ขึ้น​ ​เก้า​ใน​สิบ​คง​เป็น​คนที​่​ต้อง​ถูก​ทอดทิ้ง​แน่​ ​นาง​คิด​ว่า​ตน​ไม่​ควร​ยืน​มองดู​อยู่​ข้างๆ​ ​เช่นนี้

ใคร่ครวญ​อยู่นาน​ ​นาง​ตัดสินใจ​ไป​เตือน​อวี​้​ถัง​สัก​คำ

นาง​ค่อย​ลุกขึ้น​ยืน​ ​แล้ว​มุ่งหน้า​ไป​ทางเรือ​นพัก​ของ​อวี​้​ถัง

อวี​้​ถัง​ตอนนี้​กำลัง​คุย​กับ​เผย​เยี​่​ยน​อยู่​ใต้​ต้น​การบูร​ใน​ลาน​พอดี​ ​“​…​ที่​ข้า​รู้​ก็​มี​แค่นี้​ ​ไม่รู้​ว่า​จะ​เป็นประโยชน์​ต่อ​ท่าน​หรือไม่​ ​แต่​หวัง​ให้​เป็น​แค่​เรื่อง​ตื่นตระหนก​ก็​พอ​”

เผย​เยี​่​ยน​ยังคง​สวม​ชุด​ต้าว​ผาว​สี​หม่น​เหมือน​เก่า​ ​ตั้งแต่​ที่​อวี​้​ถัง​เริ่ม​เปิดปาก​พูด​ ​เขา​ก็​เอาแต่​จ้องหน้า​อวี​้​ถัง​อย่างจริงจัง​ ​ดวงตา​นิ่ง​เรียบ​ไร้ค​ลื่น​เป็น​สีดำ​ลึก​ไม่​สิ้นสุด​ ​ราวกับ​ผิว​ทะเล​ยาม​ราตรี​ ​ทำให้​คน​มองไม่เห็น​ถึง​อันตราย

กระทั่ง​อวี​้​ถัง​พูด​จบ​ ​เขา​ถึง​เอ่ย​อย่าง​เรียบ​เฉย​ว่า​ ​“​ทำไม​เจ้า​ต้อง​เล่าเรื่อง​พวก​นี้​ให้​ข้า​ฟัง​?​ ​เรื่อง​ที่​คุณหนู​สวี​ยัง​รู้​ ​ข้า​ย่อม​จะ​รู้อยู่​แล้ว​ ​ข้า​ไม่มีทาง​ด้อย​ไป​กว่า​คุณหนู​สวี​หรอก​”

แค่นาง​นำ​เรื่อง​มารา​ยงาน​เขา​ก็​ยัง​ผิด​!

อวี​้​ถัง​โมโห​จน​ทนไม่ไหว​ ​สะบัด​มือ​แล้ว​หมุนตัว​กลับ​ ​แต่​ก็​รู้สึก​ไม่​ยินยอม​อยู่​บ้าง​ ​ด้วย​กลัว​เขา​จะ​ประมาท​ศัตรู​ ​จน​ทำให้​สกุล​เผย​พลอย​ลำบาก​ไป​ด้วย​ ​จึง​ได้​แต่​เอ่ย​อย่าง​อดทน​ว่า​ ​“​อย่างไร​ระวัง​ไว้​เป็น​ดีที​่​สุด​ ​สิ่ง​ที่​ควร​พูด​ข้า​ก็​พูด​หมด​แล้ว​ ​ถ้า​ท่าน​ไม่​อยาก​ฟัง​ ​ต่อไป​ข้า​ก็​จะ​ไม่​พูด​อีก​ ​ท่าน​รู้แก่ใจ​ไว้​ก็ดี​!​”​ ​พูด​จบ​ ​ก็​หมุนตัว​เดิน​กลับ​ทันที

เผย​เยี​่​ยน​มอง​แผ่น​หลัง​ของ​อวี​้​ถัง​ ​ริมฝีปาก​กระตุก​ขึ้น​หลาย​ที​ก่อน​จะ​กลับคืน​สู่​อารมณ์​ปกติ​ ​ส่งเสียง​ไป​ยัง​แผ่น​หลัง​ของ​นาง​ว่า​ ​“​เจ้า​เดา​สิว​่า​ก่อน​มา​ข้า​ได้​เจอ​ใคร​?​”

อวี​้​ถัง​อยาก​ทำใจ​แข็ง​และ​เดิน​ออกมา​อย่าง​ไม่สน​ใจ​ ​แต่​นาง​ก็​รู้​อีกว่า​ ​เผย​เยี​่​ยน​ไม่มีทาง​พูดจา​ส่งเดช​ ​พูด​แบบนี้​ย่อม​มีเหตุผล​ของ​เขา​ ​อีก​อย่าง​ ​เรื่อง​นี้​ก็​ไม่มีทาง​เกี่ยวพัน​มาถึง​นาง​หรือว่า​สกุล​อวี​้​ของ​นาง​อยู่​แล้ว

นาง​ได้​แต่​หันกลับ​ไป​ ​จ้อง​เขา​เขม็ง​แล้ว​เอ่ย​ว่า​ ​“​เมื่อ​ครู่​ท่าน​ไป​เจอ​ใคร​มา​?​”

เผย​เยี​่​ยน​เอา​มือ​ไพล่หลัง​ยืน​ตะ​หง่าน​เหมือน​สน​สูง​ ​แต่​ใน​สายตา​ของ​อวี​้​ถัง​ ​นาง​รู้สึก​อย่าง​ประหลาด​เพราะ​เผย​เยี​่​ยน​คล้าย​จะ​ผ่อนคลาย​ลง​กว่า​เมื่อ​ครู่​แล้ว

เขา​เลิก​คิ้ว​เอ่ย​ว่า​ ​“​ท่าน​เสิ่น​มาหา​ข้า​”

ท่าน​เสิ่น​มาหา​เขา​ก็​มาหา​ไป​สิ​ ​เกี่ยว​อะไร​กับ​นาง​?

อวี​้​ถัง​ไม่เข้าใจ

เผย​เยี​่​ยน​ลอบ​ถอนหายใจ​ใน​อก

คุณหนู​อวี​้​มีประสบการณ์​น้อย​ไป​หน่อย​ ​ไม่​เหมือน​คุณหนู​สวี​ผู้​อยู่​กับ​แผนผัง​เครือญาติ​ตั้งแต่​เล็ก​ ​แค่​บอก​คำ​เดียว​เป็น​รู้เรื่อง​แล้ว

เขา​จึง​ได้​แต่​เอ่ย​ว่า​ ​“​ท่าน​เสิ่น​เป็น​อาจารย์​ของ​หลี​่ต​วน​ ​หลี​่​อี้​ถูก​ตั้งข้อหา​ไม่ไว้วางใจ​ ​ตอนนี้​อยู่​ใน​คุก​ ​น่าจะ​ถูก​ตัดสิน​ให้​เนรเทศ​ ​หลี​่ต​วน​วิ่งรอก​ขอความช่วยเหลือ​ ​ท่าน​เสิ่น​ทาง​นี้​รู้​ข่าว​ ​เมื่อ​ครู่​เขา​กระหืดกระหอบ​มาหา​ข้า​ ​อยาก​ให้​ข้า​เห็นแก่​คนเมือง​เดียวกัน​ ​ช่วย​หลี​่​อี้​พูด​อะไร​ดี​ๆ​ ​สัก​หลาย​ประโยค​ ​ให้​ลดโทษ​เหลือ​เพียง​ปลดออก​จาก​ตำแหน่ง​จ่าย​เงินชดเชย​แทน​การถูก​เนรเทศ​”

เช่นนี้​หลี​่​อี้​จะ​ไม่ได้​กำไร​เกินไป​หน่อย​รึ​!

อวี​้​ถัง​ไม่​เพียง​ก้าว​ขึ้น​มา​หลาย​ก้าว​ ​ทั้ง​ยัง​เอ่ย​ร้อนรน​ว่า​ ​“​แล้ว​ท่าน​ตอบ​ว่า​อย่างไร​?​”

เผย​เยี​่​ยน​กระแอม​เบา​ๆ​ ​ที​หนึ่ง​ ​สีหน้า​ลังเล​ ​“​ข้า​ตัดสินใจ​ไม่​ถูก​ ​พอดี​เจ้า​อยาก​พบ​ข้า​ ​ข้า​ถึง​มาหา​ก่อน​ ​สำหรับ​เจ้า​ ​เรื่อง​นี้​สมควร​ทำ​อย่างไร​?​”

อวี​้​ถัง​เดือดดาล​สุดขีด​ ​“​ขจัด​ทุกข์​ภัย​ให้​ปวงประชา​ ​มี​อะไร​ให้​ต้อง​คิดมาก​อีก​ ​แม้​คนเมือง​เดียวกัน​ควรจะ​ไว้​ไมตรี​ ​แต่​ผู้​ร่วม​เมือง​ประเภท​นี้​ ​ใคร​ช่วย​คน​นั้น​ก็​เสื่อม​เกียรติ​ ​ท่าน​จะ​ทำ​เรื่อง​เช่นนั้น​ได้​อย่างไร​?​ ​แค่​คิด​ก็​ไม่สมควร​จะ​คิด​ด้วยซ้ำ​”​ ​พูดถึง​ตรงนี้​ ​นาง​ก็​ถลึงตา​ส่ง​ให้​เขา​ที​หนึ่ง

สายตา​นั่น​ ​กลับ​ทำให้​นาง​เห็น​กระแส​ขบขัน​บางเบา​ใน​ดวงตา​ของ​เผย​เยี​่​ยน

อวี​้​ถัง​ชะงัก​ไป

ใช่​หมายความ​ถึง​สิ่ง​ที่นา​งคิด​หรือไม่​?

น่าเสียดาย​ไม่​รอ​ให้​นาง​ขบคิด​อย่างละเอียด​ ​เผย​เยี​่​ยน​ก็​ทำ​หน้า​ใคร่ครวญ​เอ่ย​ว่า​ ​“​แต่​ถ้า​เนรเทศ​ออก​ไป​ ​สกุล​หลี​่​คง​ต้อง​จบสิ้น​แน่​ ​หลี​่ต​วน​ผู้​นั้น​นับว่า​มี​ความสามารถ​ ​ใน​เมือง​หลิน​อัน​นอกจาก​สกุล​หลี​่​ก็​ไม่มี​สกุล​ใด​มาชิ​งอัน​ดับ​สูง​ต่ำ​กับ​สกุล​เผย​ของ​ข้า​ได้​แล้ว​…​”

เขา​ต้องการ​ปกป้อง​สกุล​หลี​่​อย่างนั้น​รึ​?

อวี​้​ถัง​เอ่ย​อย่าง​ไม่สบอารมณ์​ว่า​ ​“​สกุล​ท่าน​มีเรื่อง​ให้​หงุดหงิด​ใจมาก​พอแล้ว​ ​หาก​ก้าว​พลาด​ไป​เหตุการณ์​อาจ​พลิกผัน​ได้​ ​ยัง​คิด​จะ​ตั้งเป้าหมาย​อะไร​อีก​?​ ​รังเกียจ​ว่า​ตอนนี้​ยัง​วุ่นวาย​ไม่พอ​รึ​?​ ​มีคำ​หนึ่ง​พูด​เอาไว้​ว่า​ ​ต่อหน้า​ผู้​แข็งแกร่ง​อุบาย​ใดๆ​ ​ย่อม​ไร้ประโยชน์​ ​ท่าน​ต้อง​กด​ข่ม​คน​พวก​นี้​ไว้​จน​หายใจไม่ออก​ ​แล้ว​ดู​ว่ายั​งมี​ใคร​กล้ามา​ปากดี​ต่อหน้า​ท่าน​อีก​?​ ​ท่าน​จะ​ทุ่ม​แรง​สักครั้ง​ ​ให้​คน​พวก​นั้น​ได้​แต่​อิจฉา​แต่​ไม่กล้า​ริษยา​ท่าน​ไม่ได้​รึ​!​”

————————————————————-