สำหรับความสงสัยของสืออวี้ อวี๋หลิวเหมยขออธิบายแบบนี้
“ฉันบอกแล้วว่าท่าทีที่เพื่อนร่วมโต๊ะกินอาหารบ่งบอกนิสัยได้ ทำไมฉันถึงพุ่งเป้าไปที่เขา? ตอนที่ฉันกินไปได้ครึ่งทางแล้วลุกไปเข้าห้องน้ำ ได้ยินเขาคุยโทรศัพท์อยู่ตรงห้องน้ำพอดี เห็นพูดว่าผู้หญิงน่ะผอมๆถึงจะสวย ปรากฏว่าพอฉันออกมาจากห้องน้ำก็เห็นผู้หญิงคนนี้คีบไส้หมูให้ผู้หญิงคนข้างๆใหญ่เลย! ปากบอกว่าผอมๆถึงจะสวยแต่กลับเอาของกินแล้วอ้วนไปให้คนอื่น ดูก็รู้ว่าเป็นผู้หญิงคิดไม่ซื่อ แล้วก็ ตอนที่ฉันเดินผ่านโต๊ะนั้น เห็นกุ้งตัวใหญ่เหลืออยู่แค่สามตัว ฉันเห็นเขาทำเหมือนใจดีคีบกุ้งตัวเล็กให้คนอื่น แสร้งทำเป็นใจกว้าง สุดท้ายก็เอาตัวใหญ่ไปกินเอง! คนแบบนี้มันคบไม่ได้!”
ในสายตาของคนช่างกิน เรื่องพวกนี้เกิดขึ้นภายในไม่กี่วินาที เพียงพอที่จะตัดสินคน
สืออวี้อึ้งอ้าปากค้างกับทฤษฎีอันลึกล้ำของเหมยจื่อ แต่เสี่ยวเชี่ยนกลับขำ
“เธอชนะ”
เสียทีที่เป็นจิตแพทย์ แต่กลับเก็บรายละเอียดสู้อวี๋หลิวเหมยไม่ได้ อาจเพราะปกติเธอไม่ค่อยได้ยุ่งกับหลุ่ยเสี่ยวฉา ถึงได้มองคนไม่ออก
“อย่าชมฉันเลย ฉันเขินนะ” ถูกพี่สะใภ้ชมอวี๋หลิวเหมยก็รู้สึกเขินอายเล็กน้อย
“อย่ามา ตอนที่เธอแย่งเนื้อแกะชิ้นสุดท้ายไปฉันไม่เห็นเธอจะอายเลย!” สืออวี้สนิทกับเหมยจื่อถึงขนาดที่ล้อกันเล่นได้แล้ว
“นั่นแหละตัวตนของฉัน! งั้นมาคีบออกจากท้องฉันสิ มาสิจ๊ะเบบี๋~” อวี๋หลิวเหมยหยอกสืออวี้กลับ
เสี่ยวเชี่ยนยิ้มพลางมองทั้งสองคน ในที่สุดเสียงจากทางนี้ก็ดึงดูดความสนใจจากโต๊ะนั้น
หลังจากที่เห็นเสี่ยวเชี่ยน สาวแสบก้นก็ส่งสายตาอาฆาตกลับมา
“มันนั่นแหละ!”
สาวแสบก้นชี้ไปที่เสี่ยวเชี่ยนแล้วสะกิดผู้ชายที่นั่งข้างๆ
“มันแกล้งฉัน รีบไปสิ นายเป็นผู้ชายหรือเปล่าเนี่ย คนอื่นแกล้งฉันนายจะไม่สนเลยเหรอ?”
พอถูกสาวแสบก้นบังคับ ผู้ชายที่นั่งข้างๆจึงเดินไปทางเสี่ยวเชี่ยน
“คุณแกล้งแฟนผมเหรอ?”
“คุณจะเอายังไง?” เสี่ยวเชี่ยนไม่ได้กลัวเลยสักนิด
“จัดการมัน! ตอนนี้ฉันยังบวมอยู่เลย!” สาวแสบก้นดื่มเบียร์ไปเล็กน้อยจึงค่อนข้างมีอารมณ์ เดินโซซัดโซเซตามมา
“โอ้โห! กล้าทำพี่สะใภ้ต่อหน้าฉันเหรอ? ไม่เห็นคนตระกูลอวี๋ในสายตาเลยงั้นสิ? เอาสิ ใครกล้าแตะพี่สะใภ้แม้แต่ปลายผมเจอดีแน่!” อวี๋หลิวเหมยชอบมากได้แสดงบทเป็นฮีโร่ช่วยสาว เธอพับแขนเสื้อขึ้นทันที แล้วเริ่มวอร์มขา เธอไม่เคยเป็นรองใครเรื่องชกต่อยอยู่แล้ว!
“อย่าทะเลาะกัน คุยกันดีๆเถอะ!” หลุ่ยเสี่ยวฉาเข้ามาห้าม “ทุกคนเรียนที่เดียวกันนะ ทำแบบนี้มันไม่ดี!”
เสี่ยวเชี่ยนไม่รับน้ำใจเลยแม้แต่น้อย หลังจากที่สืออวี้พูดถึงพฤติกรรมของหลุ่ยเสี่ยฉาให้เธอฟังแล้ว เธอก็ไม่โอเคกับคนๆนี้อีก
ดูจากท่าทางเข้ามาห้ามของหลุ่ยเสี่ยวฉาในตอนนี้แล้ว เสี่ยวเชี่ยนยิ่งมั่นใจในคำพูดของสืออวี้กับเหมยจื่อ ถึงหลุ่ยเสี่ยวฉาจะทำเป็นพูดห้าม สีหน้ากับน้ำเสียงก็สมจริง แต่กลับดึงตัวสาวแสบก้นออก ไม่ได้ดึงตัวผู้ชายออก
เสี่ยวเชี่ยนเรียนจิตวิทยามา เธอมองออกว่าจริงๆแล้วหลุ่ยเสี่ยวฉาอยากเห็นเธอถูกทำร้าย
ก่อนหน้านี้คิดว่าคนๆนี้ก็แค่ชอบกินเป็นพิเศษ พูดจาเจ๊าะแจ๊ะไม่มีเจตนาร้าย เสี่ยวเชี่ยนก็รู้สึกโอเคมาตลอด แต่ครั้งนี้พฤติกรรมของหลุ่ยเสี่ยวฉาเหมือนตบหน้าเธอ ในใจของประธานเชี่ยนถึงกับร้องเฮอะ
สถานการณ์ในตอนนี้กำลังปะทุ สาวแสบก้นกดดันให้แฟนทำร้ายเสี่ยวเชี่ยน เพื่อล้างแค้นในสิ่งที่เสี่ยวเชี่ยนทำกับเธอก่อนหน้านี้ หลุ่ยเสี่ยวฉาทำเหมือนจะเข้าไปห้ามแต่ทั้งที่จริงอยากเห็นคนมีเรื่องกัน ส่วนแฟนของสาวแสบก้นที่กำลังเมาก็อยู่ในสภาวะขึ้นหลังเสือแล้วลงยาก
ไม่อยากทำร้ายคนสวย แต่ก็ขัดใจแฟนไม่ได้ กำลังคิดว่าแค่ตบพอเป็นพิธีดีไหม
“มาสิ มาเลย เข้ามา ไม่ยอมก็เข้ามาเลย ฉันจะแสดงให้เห็นว่ากังฟูของจริงเป็นยังไง!” อวี๋หลิวเหมยควงหมัด วาดไปตั้งแต่สาวแสบก้น แฟน แล้วก็หลุ่ยเสี่ยวฉา
คนที่มากับสาวแสบก้นนอกจากหลุ่ยเสี่ยวฉาแล้วยังมีผู้หญิงอ้วนกับแฟน ถึงแม้ตอนที่นินทาเสี่ยวเชี่ยนจะพูดอย่างเต็มที่ แต่พอเจอเรื่องนี้ก็เห็นธาตุแท้ได้ทันที
หลุ่ยเสี่ยวฉาแสร้งทำเป็นคนดี ส่วนผู้หญิงอ้วนนั่งอยู่กับแฟนไม่กล้าเข้ามา แค่มองอยู่ไกลๆ
ทางด้านเสี่ยวเชี่ยน สืออวี้ถอดกระเป๋าเป้ออกมาถือไว้พลางคิดว่าเดี๋ยวถ้าเริ่มมีเรื่องจะเอานี่แหละเป็นอาวุธ เสี่ยวเชี่ยนเองก็ค่อยๆเอามือล้วงไปในกระเป๋าเพื่อหยิบสเปรย์พริกไทย
เวลามีเรื่องทำให้เห็นว่าใครเป็นเพื่อนแท้ ทางด้านเสี่ยวเชี่ยนสามใจรวมเป็นหนึ่ง ส่วนทางด้านสาวแสบก้นแต่ละคนต่างคิดแต่จะเอาตัวรอด
“อย่ามาหาว่าฉันไม่บอกก่อนนะ ฉันเป็นถึงแชมป์ชกมวยหญิงระดับประเทศคนที่สี่ เดี๋ยวถ้าเตะใครกระดูกหักเข้า อย่ามาหาว่าฉันไม่เตือน!” อวี๋หลิวเหมยวอร์มร่างกายเสร็จก็สะบัดข้อมืออย่างกระฉับกระเฉง
“ฉัน ฉันแค่เข้ามาห้ามนะ!” หลุ่ยเสี่ยวฉากลัวโดนลูกหลง ตอนที่อวี๋หลิวเหมยชี้หน้าเธอค่อยๆถอยออกไปเงียบๆ
“อย่ามาแสร้งทำเป็นคนดีหน่อยเลย!เมื่อกี้ตอนกินข้าวฉันเห็นธาตุแท้แกแล้ว พอรู้ว่าแกเป็นพวกเดียวกับคนที่รังแกพี่สะใภ้ฉันยิ่งให้อภัยไม่ได้! พี่สะใภ้ พี่สืออวี้ ถอยออกไปก่อน ห้ามเข้ามานะ ฉันคนเดียวเอาอยู่!”
อวี๋หลิวเหมยชอบมีเรื่อง เธอดันเสี่ยวเชี่ยนกับสืออวี้ไปข้างหลัง ไม่ต้องรอให้อีกฝ่ายเริ่มก่อน เธอก็ถีบเข้าที่ท้องแฟนของสาวแสบก้น!
มือก็ตบปากของสาวแสบก้นทันที “คิดจะทำร้ายใคร คิดจะทำร้ายใคร คิดจะทำร้ายใคร!”
ถามไปสามครั้ง แต่ละครั้งก็ตบหนึ่งที “อายุแค่นี้จิตใจโหดร้ายได้ขนาดนี้! ยังกล้าจะมาทำร้ายพี่สะใภ้ฉันอีก! นางฟ้าที่พี่ฉันทะนุถนอมอย่างดีแกคิดจะทำร้ายเหรอ? คนเยอะแล้วคิดว่าแน่เหรอ?”
ผู้หญิงตบผู้หญิงไร้ซึ่งความปรานี ตอนที่เธอตบสาวแสบก้น แฟนของอีกฝ่ายกำลังยืนเอามือกุมท้องอยู่ข้างๆ แสร้งทำเป็นลุกไม่ขึ้น ส่วนหลุ่ยเสี่ยวฉาก็ตกใจไม่กล้าส่งเสียงกลัวอวี๋หลิวเหมยจะหันมาตบ
อวี๋หลิวเหมยสะบัดมือค่อยๆเดินเข้าไปหาหลุ่ยเสี่ยวฉา เล่นเอาหลุ่ยเสี่ยวฉากลัวจนหลับตาปี๋เดินถอยหลังไม่หยุด
“ประธานเชี่ยน! ฉันดีกับเธอที่สุดนะรีบช่วยฉันหน่อย!” หลุ่ยเสี่ยวฉาส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือจากเสี่ยวเชี่ยน
ถ้าเธอไม่ตะโกนอวี๋หลิวเหมยคงไม่โกรธขนาดนี้ ตอนที่นินทาพี่สะใภ้เธอลับหลังทำไมไม่เห็นทำตัวดีสมกับที่พูดเลย?
เธอเกลียดนักพวกที่เก่งแต่ลับหลัง แต่คนพวกนี้กลับมีไม่น้อย!
ขณะที่อวี๋หลิวเหมยเตรียมจะสั่งสอนหลุ่ยเสี่ยวฉาอยู่นั้น เธอก็รู้สึกเหมือนมีคนมาตบบ่า
“พี่สะใภ้?”
“เขาเป็น ‘เพื่อน’ ฉัน ช่างเถอะ” เสี่ยวเชี่ยนมองหลุ่ยเสี่ยวฉาอย่างมีเลศนัย จงใจเน้นคำว่า เพื่อน
สืออวี้เกือบสำลักน้ำลายตัวเองตาย
นี่ไม่ใช่นิสัยประธานเชี่ยนเลยนะ ประธานเชี่ยน ‘ใจดี’ แบบนี้ตั้งแต่เมื่อไร?
“ใช่ไหมล่ะ เสี่ยวฉา เธอเป็นเพื่อนฉันใช่ไหม?” เสี่ยวเชี่ยนยิ้มพลางถามหลุ่ยเสี่ยวฉา
หลุ่ยเสี่ยวฉารีบพยักหน้ารัวๆ ใช่ๆๆ เพื่อนกัน!