“ต้านิว อย่าเพิ่งใช้ถังรดน้ำ ถอนวัชพืชออกให้หมดก่อน เดี๋ยวข้าค่อยใช้เวทชักนำน้ำมารด” ในมือจินเฟยเหยาถือวัชพืชกำมือหนึ่ง เห็นต้านิวกำลังหิ้วถังน้ำคิดจะตักน้ำในบ่อ จึงรีบเอ่ยห้ามไว้

ยามนี้นางกำลังพาต้านิวไปจัดการแปลงสมุนไพร เตรียมถอนวัชพืชทั้งหมดในแปลงยา เวลานี้จัดการไปสองหมู่แล้ว เหลืออีกเพียงสองหมู่

ไม่รู้ว่าแปลงยาสมุนไพรสี่หมู่ของจอมมารหลงปลูกไว้ตั้งแต่เมื่อใด หญ้าวิญญาณส่วนมากล้วนอายุพันปีขึ้นไป แต่ละต้นถ้านำออกไปข้างนอกล้วนเป็นสิ่งที่สถานประมูลแย่งชิงกันอย่างบ้าคลั่ง

มองผลอายุยืนสีแดงอายุพันปีเบื้องหน้า จินเฟยเหยาอดแอบเด็ดลงมาผลหนึ่งไม่ได้ จอมมารหลงที่ปิดด่านกักตนรักษาบาดแผลเคยบอกว่า นางสามารถใช้สิ่งของในนี้ได้ตามสบาย เด็ดผลอายุยืนสีแดงมาผลหนึ่งน่าจะไม่มีปัญหา

หญ้าวิญญาณเช่นผลอายุยืนสีแดงสามารถกินต่างผลไม้ได้ กินดิบๆ สามารถบำรุงพลังวิญญาณ แน่นอนว่าก็สามารถใช้หลอมยาได้ แต่เนื่องจากส่วนที่ใช้ได้มีไม่มาก ส่วนใหญ่เพียงปลูกกินเป็นผลไม้ คิดไม่ถึงว่าในแปลงสมุนไพรของจอมมารหลงจะปลูกผลอายุยืนสีแดงไว้ ทำให้คนรู้สึกเหนือความคาดหมายอยู่บ้าง

จินเฟยเหยาเพียงเคยกินผลอายุยืนที่มีอายุสิบกว่าปีรสชาติก็อร่อยหวานฉ่ำมากแล้ว ผลไม้อายุพันปีนี้ไม่รู้ว่ารสชาติจะเป็นอย่างไร นางเช็ดผลไม้บนเสื้อผ้า คิดจะส่งผลอายุยืนสีแดงเข้าปาก

“ปัง” จอมมารหลงพลันเปิดประตูออกมา ผลอายุยืนสีแดงที่เตรียมส่งเข้าปากถูกจินเฟยเหยาซ่อนไว้ด้านหลังโดยอัตโนมัติ

จอมมารหลงที่ปิดด่านกักตนมาสิบกว่าวันเดินมาที่แปลงสมุนไพรโดยไม่ส่งเสียงสักนิด เห็นสีหน้าของเขาดีขึ้นมาก ไม่ซีดขาวเหมือนวันนั้นแล้ว

เห็นเขาเดินมาหาตนเองตรงนี้ จินเฟยเหยาคิดจะทักทายก่อน ดังนั้นจึงเอ่ยด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม “ผู้อาวุโส ออกมาสูดอากาศหรือ?”

ทว่าสิ่งที่คิดไม่ถึงคือ จอมมารหลงไม่เอ่ยวาจา ยื่นมือมาชิงผลอายุยืนสีแดงจากในมือนางที่ซ่อนไว้ด้านหลัง เห็นเขากัดผลอายุยืนสีแดงอย่างไม่ใส่ใจส่งเสียงกรุบกรอบดังกร๊อบๆ ก็รู้ว่าเนื้อสัมผัสของผลอายุยืนสีแดงดีเพียงไร จินเฟยเหยาเพียงกล้ามีโทสะแต่ไม่กล้าเอ่ยออกมา ได้แต่ปลอบใจตนเองตลอดเวลา ยังมีผลอายุยืนสีแดงอีก อย่าแย่งชิงกับอันธพาล

จอมมารหลงกินพลางมองดูแปลงสมุนไพร เด็ดหญ้าวิญญาณติดรากอายุพันปีสิบกว่าต้นออกมาตามสบาย จากนั้นเขาก็เดินเอื่อยเฉื่อยไปหน้าเตาหลอมยานอกกระท่อม พอยกนิ้วมือฝาเตาหลอมยาก็ขยับเปิดออก โยนหญ้าวิญญาณที่ติดดินมาด้วยใส่ลงไปทั้งหมดโดยไม่มองดูสักนิด

ผู้อื่นหลอมยาต้องล้างหญ้าวิญญาณอย่างละเอียดลออ บางอย่างยังต้องตากแดด หรือขจัดใบและดอกที่ไร้ประโยชน์ทิ้ง จากนั้นขณะหลอมกลั่นก็ต้องทำตามขั้นตอนหลอมยา ใส่แต่ละส่วนลงไปตามเวลาที่แตกต่างกันอย่างระมัดระวัง ระหว่างหลอมยายังต้องเฝ้าอยู่ด้านข้าง เกรงว่าจะหลอมยาเสียโดยไม่ทันระวัง

จอมมารหลงกลับไม่เหมือนกัน เขาโยนหญ้าวิญญาณใส่ในเตา แล้วค่อยจุดเพลิงแท้สีดำสนิทดวงหนึ่งในนั้น ก็เห็นเตาเริ่มหลอมยา

จินเฟยเหยามองปากอ้าตาค้าง แบบนี้ก็หลอมยาได้หรือ? แต่ต้องหาคนมาเฝ้าเตานี่นา หรือว่าจะให้ข้าเฝ้า ถ้าหลอมยาเสียจะเอาข้ามาสังเวยเตาหรือไม่?

จากนั้นจอมมารหลงก็ทำมุทราร่ายเวท มารดำที่ปรากฏตัวขึ้นวันนั้นก็แวบออกมาจากด้านหลังเขา เพียงแต่ร่างสูงเท่าคนธรรมดา จากนั้นเขาก็แทะผลอายุยืนครึ่งหนึ่งแล้วสะบัดมือโยนลงพื้น เปลี่ยนมือกลับเข้าไปในกระท่อม เห็นผลอายุยืนที่ถูกกินครึ่งหนึ่งบนพื้น ทำให้หัวใจของจินเฟยเหยาเจ็บปวดจนหลั่งโลหิต เจ้าคนกินทิ้งกินขว้าง

ต่อให้เป็นผลไม้พันปี ก็เป็นไปไม่ได้ที่จินเฟยเหยาจะหยิบมันมากินต่อให้หมด นางยังไม่ตกต่ำถึงขั้นนี้

เหมือนสายตาพร่าพราย มารดำพลันวาบออกมา เดินมาที่เตาหลอมยาและนั่งลงขัดสมาธิโดยไม่ส่งเสียง จินเฟยเหยาอดโล่งอกไม่ได้ ท่าทางเตาไฟก็ต้องให้คนของตนเองเฝ้าดีกว่า ไม่ใช้นางก็ดีแล้ว แต่มารดำถือเป็นอะไร หรือเป็นร่างแยก?

ถึงแม้จินเฟยเหยาจะเรียกว่ามารดำมาตลอด ที่จริงเจ้านี่เป็นเพียงหมอกควันสีดำที่ผุดขึ้นมาทั้งร่าง บนหัวมีลักษณะเหมือนเขามาร ทว่ากลับเป็นเงาร่างคนสีดำที่มองเห็นองคาพยพทั้งห้าไม่ชัดเจนเท่านั้น หมอกควันสีดำบนร่างของเขายังกลายเป็นชุดเกราะชุดหนึ่ง แค่เปลี่ยนแปลงมาจากควันสีดำ ดูแล้วว่างเปล่าอย่างยิ่ง ราวกับใช้ปากเป่าลมใส่ ก็สามารถเป่าร่างของเขารวมทั้งชุดเกราะเป็นรูได้

เห็นเขาเฝ้าอยู่ด้านหน้าเตาหลอมยา จินเฟยเหยาก็ไม่เข้าไปร่วมสนุกด้วย เดินไปหน้าต้นอายุยืนสีแดงอีกครั้ง ต้นอายุยืนสีแดงให้ผลเพียงสองผล ในแปลงสมุนไพรสี่หมู่ มีต้นอายุยืนเพียงสองต้น นางตัดสินใจเด็ดลงมาชิมผลหนึ่ง

นางเพิ่งยืนมือออกไป ยังไม่ทันได้สัมผัสผลอายุยืนสีแดงก็เห็นเงาสายหนึ่งวาบผ่าน ผลอายุยืนสีแดงในมือก็หายไป ไม่ต้องคิดก็รู้ว่าใครชิงไป จินเฟยเหยาเงยหน้าขึ้นค้นหาพั่งจื่ออย่างเดือดดาล กลับพบว่าพั่งจื่อกำลังหันหลังให้นางและหลับใหล ไม่ขยับเขยื้อนเลยสักนิด

จินเฟยเหยางุนงงไปหมด ประหลาดจริง ไม่ใช่พั่งจื่อแล้วใครขโมยผลอายุยืนสีแดงไป มองไปที่ผลอายุยืนสีแดงอีกต้น ก็เห็นผลสองผลบนต้นผลอายุยืนสีแดงหายไปแล้ว ผลอายุยืนสีแดงสี่ลูก จินเฟยเหยายังไม่ได้ชิมสักคำก็หายไปโดยไร้ร่องรอย

นับรวมต้านิวและพั่งจื่อ ที่นี่มีทั้งหมดรวมห้าชีวิต นอกจากจินเฟยเหยา มีผลอายุยืนคนละผลพอดี เพียงแต่มารดำที่ไม่ใช่ทั้งคนและผีก็กินอาหารด้วย?

ในขณะที่นางมองแปลงยาสมุนไพรอย่างสงสัย คิดจะไปดูว่ายังมีผลอายุยืนสีแดงอื่นๆ อีกหรือไม่ ข้างหูก็มีเสียง กร๊อบๆ ดังมา สามทิศทางที่แตกต่างกันมีเสียงแทะผลอายุยืนสีแดงดังขึ้น สายตาของจินเฟยเหยาตกลงบนร่างพั่งจื่อที่นั่งหันหลังให้นาง

จินเฟยเหยาก้าวติดๆ กันพุ่งปราดไปยังเบื้องหน้าพั่งจื่อ บีบคอของมันแน่น ก็เห็นผลอายุยืนที่ถูกกัดอย่างระแวดระวังไปคำหนึ่งและยังอยู่ในปากมันไม่ทันได้กลืนลงไป

“ข้าให้เจ้ากินหรือ เจ้าบ้านี่ วันนี้ข้าจะอัดเจ้าให้ตาย!” จินเฟยเหยาบีบคอพั่งจื่ออย่างแรงและเขย่าไม่หยุด

พั่งจื่อยื่นขาหน้าออกมา ชี้ไปที่มารดำและต้านิว ส่งเสียงกบแหบๆ เป็นการประท้วง จินเฟยเหยาไม่สนใจมากความ บีบคอของมันต่อและเอ่ยอย่างดุร้าย “ต้านิวขโมยกินต้องเป็นเจ้าสอนให้เสียกบแน่ ทั้งหมดนี้คิดบัญชีกับเจ้า!”

พั่งจื่อเข้าใจทันที กลายเป็นว่ามารดำดุร้ายเกินไป นางไม่กล้าไปหาเรื่อง นางหักใจลงมือกับต้านิวไม่ได้ จึงคิดบัญชีผลอายุยืนสีแดงสี่ผลลงบนตัวมัน

พั่งจื่อพยายามสะบัดมือและดิ้นรนให้หลุด ปากร่ำร้องอย่างขุ่นเคือง พุ่งเข้าต่อสู้กับจินเฟยเหยา

พวกนางสองคนต่อสู้กันจนสับสนอลหม่าน ทั้งต่อสู้ทั้งส่งเสียงเอะอะ อาละวาดจนแยกจากกันไม่ออก

“ทั้งหมดหยุดมือ เอะอะแทบตายแล้ว!” ในขณะที่พวกนางสองคนสู้กันอย่างดุเดือด ประตูกระท่อมก็ถูกเปิดอีกครั้ง จอมมารหลงยืนอยู่ตรงประตูด้วยสีหน้าเยียบเย็น

ในเวลานี้จินเฟยเหยาและพั่งจื่อที่กำลังบีบคอของอีกฝ่ายมองมาทางจอมมารหลงโดยพร้อมเพรียง ถึงแม้จะหยุด ทว่าก็ไม่มีใครกล้าปล่อยมือยังแอบออกแรงอยู่ดังเดิม

เห็นพวกนางสองคนยังสู้กันอีก จอมมารหลงก็สะบัดแขนเสื้อยาวคราหนึ่ง ลมราตรีพัดมาทำให้มือที่บีบลำคอของทั้งสองคนคลายออก จากนั้นเขาจึงเอ่ยอย่างเย็นชา “เจ้าเป็นเด็กหรือ? คิดไม่ถึงว่าจะต่อสู้กับสัตว์ภูติด้วยเรื่องอาหาร”

ดวงตาของจินเฟยเหยาเหล่ไปด้านข้าง แล้วเอ่ยตำหนิในใจอย่างไม่พอใจ ‘เกี่ยวอะไรกับท่านด้วย ถ้าไม่ใช่เพราะท่าน ข้าคงไม่ต้องสู้กับพั่งจื่อ’

“เงียบหน่อย มารดำ ถ้าพวกเขาส่งเสียงดังอีก เจ้าใช้หอกมารแทงให้ข้าหลายๆ รู” จอมมารหลงเอ่ย ขณะที่หมุนร่างจากไป เขาเห็นผลอายุยืนสีแดงที่ถูกทิ้งไว้บนพื้น จึงใช้มือคว้าในความว่างเปล่ามาถือไว้ในมือ จากนั้นเขาก็โยนไปด้านหลัง ผลอายุยืนสีแดงถูกโยนใส่มือจินเฟยเหยาพอดี คนก็ก้าวเข้าไปในกระท่อม

ก่อนจะปิดประตู จอมมารหลงบอกจินเฟยเหยาอย่างหยิ่งยโสประโยคหนึ่ง “นี่คือสิ่งที่ข้าประทานให้เจ้า ไร้ประโยชน์จริงๆ”

จินเฟยเหยาที่ถือผลอายุยืนสีแดงครึ่งหนึ่งมองเขาปิดประตู ในใจเดือดดาลถึงขีดสุด คิดไม่ถึงว่าจะให้สิ่งของที่กินไปแล้วครึ่งหนึ่งแก่ข้า บอกว่าข้าไร้ประโยชน์ ทั้งยังบอกว่าประทานให้ข้า ถุย ข้าไม่ใช่ทาสเผ่ามาร ไม่มีความเคยชินที่เลวร้ายแบบนี้!

จินเฟยเหยายิ่งคิดก็ยิ่งมีโทสะ นางพลันเดือดดาลจนกล้าทำได้ทุกอย่าง ม้วนแขนเสื้อขึ้น หยิบกล่องหยกออกมาเปิดเก็บหญ้าวิญญาณ หญ้าวิญญาณพันปีถูกนางถอนขึ้นมาพร้อมทั้งดินทีละต้นเก็บไว้ในกล่องหยก

มารดำนั่งอยู่ข้างเตาหลอมยา ไม่ได้ห้ามการเก็บหญ้าวิญญาณอันบ้าคลั่งของนางและไม่มองดูเลยสักแวบ ดังนั้นจินเฟยเหยาจึงเก็บหญ้าวิญญาณทั้งหมดในแปลงสมุนไพรไปอย่างเดือดดาล เห็นแปลงยาสมุนไพรอันว่างเปล่า โทสะเมื่อครู่ของนางจึงลดลงไปมาก วิธีแก้แค้นแบบนี้ สบายใจจริงๆ ดูสิว่าเจ้าจะเอาสิ่งใดมาหลอมยา

สามวันต่อมา ยาของจอมมารหลงหลอมเสร็จ

จินเฟยเหยานั่งกอดเข่าอยู่ไกลๆ มองดูเขาเปิดเตาหลอมยา นำยาสีดำเป็นประกายสามเม็ดออกมาจากด้านใน ถึงแม้จะชื่นชมวิธีไร้กฎเกณฑ์ที่สามารถหลอมยาออกมาได้ ทว่าจินเฟยเหยายังแอบสาปแช่งเขาอยู่ในใจ ยาดำขนาดนี้ ต้องมีพิษแน่ กินให้ตายไปเลย

มองจอมมารหลงชักนำน้ำจากบ่อน้ำมาล้างเตาหลอมยาจนสะอาดราวกับจะหลอมยาต่อ จินเฟยเหยาแอบยิ้ม ข้าขุดหญ้าวิญญาณทั้งหมดไปแล้ว ดูสิว่าเจ้าจะใช้สิ่งใดมาหลอม ถึงตายข้าก็จะไม่มอบหญ้าวิญญาณออกมา ถ้าเจ้าถามข้าจะบอกว่าพั่งจื่อกินหมดแล้ว อย่างมากก็ให้เขานำพั่งจื่อไปหลอม

จอมมารหลงเตรียมเตาหลอมยาเรียบร้อยก็เดินมาหาจินเฟยเหยา

จินเฟยเหยามองเขาอย่างระแวดระวัง หรือว่าเจ้าหมอนี่คิดจะมาขอหญ้าวิญญาณจากข้า?

เอาหญ้าวิญญาณจากนางเป็นเรื่องจริง ทว่าเขากลับไม่ได้ขอ แม้แต่คำพูดจอมมารหลงคร้านจะเอ่ยให้มากความ ก็ใช้กำลังค้นถุงเฉียนคุนไปจากร่างของจินเฟยเหยาโดยตรง แม้แต่กำไลเฉียนคุนและแหวนเฉียนคุนที่นางสวมก็ถูกเขาเอาไปด้วย ขนาดอ่างมายาจิ่งเทียนที่บรรจุศิลาวิญญาณจนเต็มก็ถูกเขาเอาไปพร้อมกัน

นี่ยังไม่นับรวมที่จินเฟยเหยาถูกเขาอัดยกหนึ่ง สิ่งที่ใช้ไม่ใช่เวทมนตร์ทว่าเป็นกำปั้น

จอมมารหลงได้ถุงเฉียนคุนกองหนึ่ง ก็เลือกกล่องหยกที่บรรจุหญ้าวิญญาณหลายใบจากในนั้นออกมา โยนหญ้าวิญญาณใส่ในเตาหลอมยา จากนั้นเขาก็กวาดดูในถุงเฉียนคุนเหล่านี้แล้วขมวดคิ้วอย่างคาดไม่ถึงอยู่บ้าง ท่าทางจะถูกขยะหลากหลายประเภทในนั้นทำให้ตกตะลึง

จากนั้นเขาก็กลับเข้าไปในกระท่อมอีกครั้ง แล้วยืนอยู่ตรงประตูแย้มยิ้มชั่วร้ายให้จินเฟยเหยา เหมือนตอนเขาเก็บจินเฟยเหยาไว้ในเจตจำนงหกเหลี่ยม จากนั้นก็ปิดประตูท่ามกลางสายตาเดือดดาลของจินเฟยเหยา

จินเฟยเหยากุมใบหน้าที่ถูกต่อยจนบวม พุ่งไปตรงประตูกระท่อม ตบประตูไม้แล้วร่ำร้องอย่างเสียใจและเคียดแค้น “เจ้าโจรชั่ว คืนถุงเฉียนคุนมานะ นั่นเป็นทรัพย์สมบัติทั้งหมดที่ข้าสะสมมาร้อยปีนะเจ้าตัวกินคนไม่ถ่มกระดูก รีบคืนมาให้ข้านะ!”

………………………………….