บทที่ 123 คุณช่วยผมด้วย
ที่ชานเมืองอู่โจว ตระกูลอันดับหนึ่งของหลินโจว ตระกูลหลิน
ในห้องโถง หลินเทียนหยานอนอยู่บนคานหาม ขาสองข้างเข้าเฝือก สีหน้าคับแค้น
“พ่อ พ่อจะต้องแก้แค้นแทนผมให้ได้เลยนะ ต้องฆ่าไอ้ลูกนอกคอกนั่นให้ได้ ผมต้องการให้มันตายทั้งเป็น!” หลินเทียนหยาตะโกนออกมาอย่างโหดร้าย
หลินสุ่น ผู้นำตระกูลหลิน นั่งอยู่ที่ตำแหน่งหลัก สีหน้าเคร่งขรึม
ที่ด้านล่าง คนของตระกูลหลินทั้งหลายต่างก็เผยสีหน้าโกรธกันออกมา
หลินฟางที่เป็นพ่อบ้านของตระกูลหลินก็รีบเดินเข้ามาในห้องโถง พูดด้วยสีหน้าเศร้าโศกเสียใจว่า “ท่านผู้นำตระกูลครับ ลุงอวู๋…ตายแล้วครับ!”
อารมณ์เศร้าโศกเสียใจของตระกูลหลินปกคลุมไปทั้งในห้องโถง บรรยากาศกดดันมากขึ้น
หลินเทียนหยาร้องไห้อย่างเสียใจ “ลุงอวู๋ ต้องขอโทษด้วยนะ ลุงวางใจเถอะ ผมจะแก้แค้นให้ลุงแน่นอน ผมจะทำให้ไอ้ลูกนอกคอกนั้นตายทั้งเป็น!”
“พ่อครับ ลุงอวู๋เห็นผมเติบโตมาตั้งแต่เด็กๆ ตอนนี้มาตายอย่างน่าอนาถที่อู่โจว พ่อจะต้องแก้แค้นให้ลุงเขาให้ได้นะครับ!” หลินเทียนหยาร้องไห้พูดจากใจ
คนของตระกูลหลินทั้งหลายก็มองหลินเทียนหยา สีหน้าก็เศร้าๆ และมองไปที่ผู้นำตระกูล
“ท่านผู้นำตระกูลครับ ในเมื่อมีคนกล้ามาฆ่าคนที่ตระกูลหลินเราเคารพนับถือ มาทำให้คุณชายขาหัก แค้นนี้ไม่ชำระ ต่อไปตระกูลหลินของเราจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน!”
“นั่นสิครับท่านผู้นำตระกูล จะต้องหาตัวคนนั้นให้เจอ และฆ่าล้างตระกูลมันถึงจะลบล้างความอัปยศของตระกูลหลินเราได้!”
ตุบ!
หลินสุ่นเอาฝ่ามือทุบลงไปที่ยังพนักแขนเก้าอี้ไม้ชิงชัน พนักแขนครึ่งหนึ่งแตกออก เศษไม้กระเด็นออกไปทั่ว
สายตาของหลินสุ่นก็เผยความร้ายกาจออกมา แล้วพูดเสียงขรึมว่า “ดูเหมือนว่าตระกูลหลินเราจะอยู่นิ่งเฉยกันมากเกินไปแล้ว ถึงได้มีคนกล้ามาหาเรื่องเราถึงที่!”
“หลินหรูเฟิง มึงพาคนบุกไปหาฉู่เหวินสงของอู่โจว ในเมื่อไอ้คนนั้นเป็นแขกที่ฉู่เหวินสงเชิญมา งั้นฉู่เหวินสงก็ยากจะหลีกเลี่ยงเรื่องนี้ได้ ตั้งแต่วันนี้ไป กูจะให้โลกใต้ดินของอู่โจว เป็นของแซ่หลิน!”
“ครับ!” วัยรุ่นอายุ27-28คนหนึ่งเดินออกมาจากด้านข้าง แล้วก็โค้งคำนับรับคำสั่ง
“หลินเจี้ยนเฟิง รีบไปสืบข้อมูลไอ้หมอนั่น ให้เวลา3วัน แล้วก็เตรียมพร้อมรับหลินหรูเฟิง!”
ชายแก่คนหนึ่งที่นั่งด้านหน้า ก็ลุกขึ้น แล้วยกมือคำนับพูดว่า “ครับ!”
“คนอื่นๆ ก็เตรียมตัว ย้ายทรัพย์สินของตระกูลหลิน เข้าไปยังอู่โจว!”
“ส่วนคนตระกูลหลินในตำแหน่งอื่นๆ ก็ลุกขึ้นกันหมด ยกมือคำนับพูดว่า “ครับ!”
หลินสุ่นก็ลุกขึ้น สายตามองไปไกลๆ แล้วพูดออกมาด้วยท่าทางดั่งเสือร้ายจะล่าเหยื่อ “ในเมื่อตระกูลหลินเราจะแก้แค้น ก็ต้องทำให้ทุกคนรับรู้ ให้คนในโลกนี้ได้รู้ความร้ายกาจของตระกูลหลินเรา ว่าไม่มีใครที่จะมาท้าทายได้ง่ายๆ !”
……
เขาลมเย็น ตั้งอยู่ที่ชายขอบของฮ่านหยาง ได้ชื่อนี้มาเนื่องจากในภูเขามีลมเย็นพัดผ่านตลอดทั้ง4ฤดูกาล
จากตำนานท้องถิ่น ลมเย็นพวกนั้นเกิดจากผีร้ายเป็นคนสร้างขึ้นมา แถมยังมีคนเคยเห็นกับตาด้วย ดังนั้นเขาลมเย็นก็เลยกลายเป็นพื้นที่อันตราย ไม่มีใครเข้าไป
ใจกลางของเขาลมเย็น มีถ้ำขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง ในถ้ำมืดดำอับชื้น ไม่มีแสงส่องผ่านเข้าไปตลอดทั้งปี และก็เป็นที่ตั้งหลักของพรรคภูติผี
“คนอื่นๆ ก็เตรียมตัว ย้ายทรัพย์สินของตระกูลหลิน เข้าไปยังอู่โจว!”
มีข่าวลือว่าเรื่องผีร้ายพวกนั้น ล้วนเป็นเพราะพรรคภูติผีแพร่ออกไป เพื่อที่จะครอบครองเขาลมเย็นไว้เอง
ในถ้ำที่มืดมิด ยื่นมือออกไปก็ไม่เห็นมือตนเอง แต่ว่า กลับไม่ส่งผลกระทบต่อการมองเห็นของคนในพรรคภูติผีเลย
กู่เชียนซาผู้เป็นเจ้าสำนัก นั่งอยู่บนเก้าอี้ขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นมาจากกระดูก สายตาที่เยือกเย็นกวาดมองลูกศิษย์ทั้งหลาย แล้วพูดเสียงเย็นว่า “อยู่ดีๆ ตะเกียงวิญญาณของเจ้าแปดก็ดับไปเมื่อวานนี้ ดูเหมือนว่าจะเจอเรื่องไม่ดีเข้า ถึงแม้เจ้าแปดจะมีพละกำลังแน่ที่สุด แต่ก็เข้าสู่แดนเรียกขวัญแล้ว คนธรรมดาไม่มีทางฆ่าเขาได้ เป็นไปได้ว่าคนในโลกฝึกบู๊เป็นคนลงมือ”
นิ่งไปครู่หนึ่ง กู่เชียนซาก็พูดต่อว่า “เจ้าแปดจัดการเรื่องราวภายนอกของพรรคภูติผีมาโดยตลอด คอยดูแลกิจการด้านนอกของพวกเรา รวบรวมทรัพยากรที่จะใช้ฝึกฝนแทนพวกเรา แค้นนี้ จะไม่ชำระไม่ได้!อีกอย่างเจ้าแปดก็ไม่อยู่แล้ว งานที่เจ้าแปดจัดการก็ต้องมีคนมารับช่วงต่อ ใครยินยอมจะรับหน้าที่แทนเจ้าแปดบ้าง?”