ตอนที่ 317 ดาวเด่นพรมแดง / ตอนที่ 318 ซุปเปอร์สตาร์

ช้าก่อนคุณป๋อ! ครั้งนี้ขอเป็นรักสุดท้าย

ตอนที่ 317 ดาวเด่นพรมแดง

 

 

และในขณะนั้นเอง หลังจากที่รถบูกัตติของซูเหิงเพิ่งขับออกไปอย่างช้าๆ โฟล์คสวาเกน ซีซีสีดำคันหนึ่งก็ค่อยๆ ขับมาจอดตรงกลางจุดเริ่มต้นของพรมแดง

 

 

เฉินฝานซิงก้มตัวลงหยิบรองเท้าส้นสูงที่ถอดวางไว้ข้างๆ เพื่อให้ขับรถสะดวกมาใส่ จากนั้นจึงค่อยเปิดประตูแล้วลงมา

 

 

กระโปรงสีแชมเปญ ผมลอนสีดำยาวประบ่า ดูสวยสง่า

 

 

“อะไรกัน โฟล์คสวาเกน? แถมยังขับมาเองด้วย ใครกัน”

 

 

“เอ๊ะ นั่นไม่ใช่พี่สาวที่ชอบรังแกเฉินเชียนโหรวอยู่บ่อยๆ คนนั้นหรอกเหรอ หลังจากเลิกกับประธานซูแล้ว LOW ขนาดนี้เลยเหรอ กระโปรงที่ใส่อยู่คงจะสั่งมาจากเว็บอะไรสักอย่าง ราคาไม่กี่ร้อยหยวนหรอกสินะ”

 

 

“ด้านหน้าเป็นประธานซูกับเชียนโหรว…โอ้แม่เจ้า เทียบกันแล้ว น่าขายหน้าจริงๆ เจ้าหญิงกับขอทาน อายจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนแล้ว”

 

 

เฉินเชียนโหรวและซูเหิงที่ได้ยิน ก็หันกลับไปดูพร้อมกัน เฉินฝานซิงอยู่ที่ปลายพรมแดงจริงๆ ด้วย มือที่จับกระโปรงสั่นเล็กน้อย

 

 

กระโปรงยาวถึงพื้นคลุมเท้า ดูเรียบร้อยสง่างาม ดุจหญิงงามสมัยก่อน โดยเฉพาะท่าทางของเธอ ดูสูงส่งเย่อหยิ่ง ให้ความรู้สึกอ่อนโยนแบบผู้หญิง แต่ก็ดูมีพลังแข็งแกร่งและเด็ดเดี่ยว

 

 

วินาทีที่เธอเงยหน้าขึ้นมามองเห็นคู่หญิงงามชายหล่อด้านหน้า เธอถึงกับขมวดคิ้วเบาๆ โลกกลมจริงๆ

 

 

เธอคิดว่าวันนี้คงจะหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากันไม่ได้ แต่ไม่คิดว่ายังไม่ทันข้ามประตูไปก็ต้องมาเจอกันซะแล้ว

 

 

ในขณะที่ดวงตาของซูเหิงหันไปเห็นเฉินฝานซิง รูม่านตาของเขาก็หดลงไปด้วยความตกตะลึงเช่นกัน

 

 

สายตาของเขามองไปยังต้นคอของเธอโดยไม่รู้ตัว แต่ช่วยไม่ได้ที่ชุดราตรีแบบผูกคอบดบังต้นคอที่เนียนสวยของเธอไว้หมด

 

 

แต่ว่า คืนนี้ ฝานซิงก็ยังคงความสวยงามเป็นเอกลักษณ์

 

 

เมื่อเห็นแววตาของซูเหิงที่มองไปยังเฉินฝานซิง เฉินเชียนโหรวก็ก้มหน้าลงช้าๆ พลันฉายประกายแห่งความโหดร้ายออกมาผ่านดวงตา

 

 

เธอคล้องแขนซูเหิงไว้แน่น ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้ง ใบหน้าสวยมีเสน่ห์เต็มไปด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยน

 

 

“พี่คะ ทำไมถึงได้มาคนเดียวล่ะคะ ไม่มีพอร์ทเนอร์เหรอคะ”

 

 

ได้ยินดังนั้น สีหน้าของซูเหิงก็เปลี่ยนไปจนสังเกตเห็นได้ พลางมองไปทางเฉินฝานซิงด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัย

 

 

ทั้งๆ ที่ข้างกายเธอมีผู้ชายอยู่คนหนึ่งแท้ๆ ทำไมในเหตุการณ์สำคัญแบบนี้ ยังไม่ยอมพาเขามาด้วย แถมผู้ชายคนนั้นยังกล้าปล่อยให้เธอมาที่นี่คนเดียว เขาคิดอะไรอยู่กันแน่

 

 

“…” เฉินฝานซิงทำเหมือนไม่ได้ยิน ไม่มีการตอบกลับใดๆ ทั้งสิ้น

 

 

เฉินเชียนโหรวกัดริมฝีปาก บนใบหน้าถึงแม้จะแสดงท่าทีเสียใจ แต่ภายในแววตากลับเต็มไปด้วยความดูถูกเหยียดหยัน

 

 

คำพูดบางอย่างไม่จำเป็นต้องให้เธอพูดออกมาด้วยตัวเอง แฟนคลับรอบๆ แผดเสียง พูดจาเหน็บแนมขึ้นมาแทนเธอแล้ว

 

 

“ผู้ชายคนไหนอยากจะมาเป็นพาร์ทเนอร์กัน ดูเงียบๆ นิ่งๆ แต่จริงๆ แล้วคันจนแทบจะทนไม่ไหว”

 

 

“ใช่แล้ว คนที่มาในคืนนี้มีแต่คนมีหน้ามีตามีตำแหน่งกันทั้งนั้น มากับเธอเหรอ คนอื่นเขาไม่ได้อยากมาขายหน้ากันหรอกนะ”

 

 

“…”

 

 

เฉินเชียนโหรวฟังคำพูดเหล่านี้อยู่เงียบๆ ในใจยิ่งรู้สึกสะใจยิ่งกว่าเดิม

 

 

เฉินเชียนโหรวและซูเหิงกำลังยืนอยู่กลางพรมแดง อีกทั้งอยู่ด้านหน้าของเฉินฝานซิง ตามมารยาทแล้ว เฉินฝานซิงจะเดินแซงหน้าพวกเขาไปก่อนไม่ได้

 

 

แต่เฉินเชียนโหรวกลับยืนอยู่อย่างนั้น ทำท่าทางตีสนิทกับเธอ เห็นได้ชัดว่าตั้งใจจะสกัดเธอไว้ตรงนั้น เป็นการบังคับให้เธอรับฟังคำถากถางของคนเหล่านี้เป็นกลายๆ

 

 

เฉินฝานซิงขมวดคิ้ว “ดูเหมือนเธอตั้งใจจะมาเป็นดาวแด่นแห่งพรมแดงใช่ไหม เห็นเป็นพรมแดงเธอก็เลยจะสร้างกระแสหน่อยสินะ”

 

 

สีหน้าของเฉินเชียนโหรวเปลี่ยนไปในทันที “ดาวเด่นแห่งพรมแดง” ในวงการบันเทิงเทียบเท่ากับดาราที่มีดีแต่หน้าตา ไม่มีผลงาน ไม่มีความสามารถทางการแสดง ใช้แค่เปลือกนอกทำให้โด่งดังขึ้นมาได้

 

 

แต่ว่านักแสดงทุกคนล้วนแต่ไม่ยอมรับคำวิจารณ์แบบนี้ ถึงแม้เธอจะเกาะกระแสงานเดินพรมแดงครั้งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจจริงๆ แต่ก็ทำให้ระยะเวลาที่ได้อยู่บนพรมแดงในวันนี้นานกว่าเดิมได้ไม่น้อย

 

 

เรื่องนี้ก็เป็นสิ่งต้องห้ามในวงการนี้

 

 

เฉินเชียนโหรวกัดริมฝีปาก ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

 

 

“ฉันก็แค่อยากจะทักทายกับพี่สักหน่อย…”

 

 

“อย่าเอาฉันไปเป็นข้ออ้างในการสร้างกระแสพรมแดงของเธอ ใครบ้างจะไม่รู้เรื่องของฉันกับเธอ เป็นความสัมพันธ์ที่จะทักทายกันด้วยรอยยิ้มงั้นเหรอ”

 

 

 

 

 

  ตอนที่ 318 ซุปเปอร์สตาร์

 

 

“อย่าเอาฉันไปเป็นข้ออ้างในการสร้างกระแสพรมแดงของเธอ ใครบ้างจะไม่รู้เรื่องของฉันกับเธอ เป็นความสัมพันธ์ที่จะทักทายกันด้วยรอยยิ้มงั้นเหรอ”

 

 

“…” เฉินเชียนโหรวหน้าเสีย ดวงตาที่แฝงไปด้วยความเกลียดชังจ้องเฉินฝานซิงเขม็ง

 

 

“หน็อยแน่ นังแพศยาคนนี้กล้ารังแกเชียนโหรวของพวกเราอีกแล้ว กล้าพูดว่าเชียนโหรวเป็นดาวเด่นพรมแดงเหรอ”

 

 

“เชียนโหรวอย่ามัวแต่ใจดีแบบนั้นสิ ใครบางคนไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี อย่าไปสนใจนางเลย”

 

 

“ไม่รู้เลยจริงๆ ว่ามหา’ลัยกำลังคิดอะไรอยู่ถึงได้เชิญคนแบบนี้มา”

 

 

“แม้แต่คู่ควงออกงานก็หาไม่ได้ ไม่รู้ไปเอาความกล้าจากไหนมาที่นี่”

 

 

“หน้าหนาละมั้ง ถ้าเป็นฉัน ตีให้ตายฉันก็ไม่มา”

 

 

“โห คึกคักกันขนาดนี้เลย?”

 

 

น้ำเสียงยียวนดังขึ้นจากด้านหลัง พร้อมกับเสียงปิดประตูรถดังตามมา เฉินฝานซิงเลิกคิ้วยังไม่ทันได้หันกลับไปมองก็ได้ยินเสียงฮือฮาจากผู้คนรอบข้าง

 

 

“นี่ใครน่ะ หล่อจัง”

 

 

“คุณชายเล็กสกุลอิน เขาก็เป็นนักเรียนของมหาวิทยาลัย T เหมือนกัน”

 

 

“ว้าว ชุดสูทสีขาว แล้วยังมีต่างหูสีดำ…ฉันไม่เคยรู้มาก่อนว่าผู้ชายใส่ต่างหูแล้วจะเท่ขนาดนี้ได้ด้วย”

 

 

อินรุ่ยเจวี๋ยสองมือล้วงกระเป๋า เดินไปยังพรมแดงด้วยท่าทางสบายๆ ก่อนจะไปหยุดตรงหน้าเฉินฝานซิง

 

 

ถึงแม้จะอยู่ในชุดสูทดูสูงสง่า แต่อินรุ่ยเจวี๋ยกลับให้ความรู้สึกเหมือนเป็นคนไม่แคร์โลกออกมา เขาโปรยยิ้ม เผยให้เห็นฟันขาวสว่างในปาก ท่าทางสมกับการเป็นลูกเศรษฐีร่ำรวยไม่มีผิด

 

 

เฉินเชียนโหรวที่อยู่ตรงข้ามเมื่อเห็นอินรุ่ยเจวี๋ยก็ดวงตาเป็นประกาย พลันหันไปยิ้มทักทายให้เขา “คุณชายอิน ไม่เจอกันนาน”

 

 

อินรุ่ยเจวี๋ยปรายตามองเธอปราดหนึ่ง “พวกเราเคยเจอกันตอนไหนเหรอ”

 

 

เฉินเชียนโหรวสีหน้ากระอักกระอ่วน “…คุณชายอิน พวกเราเป็นเพื่อนร่วมชั้น…”

 

 

“งั้นเหรอ ขอโทษด้วย เรื่องราวและผู้คนที่ไม่ดี ปกติแล้วผมจำไม่ได้หรอก”

 

 

ระหว่างพูด สายตาเขาเหลือบไปมองทางซูเหิง ซูเหิงจึงพยักหน้าตอบเขาเป็นมารยาท แต่ทว่าอินรุ่ยเจวี๋ยกลับทำราวกับว่ามองไม่เห็น แล้วหันหน้าไปมองทางเฉินฝานซิงแทน

 

 

ใบหน้าที่หล่อเหลาเต็มไปด้วยรอยยิ้มเอาอกเอาใจอย่างรวดเร็ว

 

 

“ซ้อ…”

 

 

เขาเพิ่งจะเปิดปาก เฉินฝานซิงก็หันหน้าไปส่งรอยยิ้มพลางเลิกคิ้วให้กับเขา อินรุ่ยเจวี๋ยเข้าใจในทันทีก่อนจะรีบแก้คำพูด

 

 

“เสี่ยวซิงซิง ทำไมคุณถึงมาเองล่ะ ทำให้ผมต้องมาคนเดียวด้วยเลย ผมไม่สน วันนี้เสี่ยวซิงซิงจะต้องเป็นคู่ควงของผม”

 

 

เฉินเชียนโหรว “…”

 

 

ซูเหิง “…”

 

 

เฉินฝานซิง “…”

 

 

เฉินฝานซิงหนังตากระตุกด้วยความเกร็งไม่เป็นธรรมชาติยิ่งกว่าเดิม

 

 

เสี่ยวซิงซิง ?[1]

 

 

นี่มันบ้าอะไรกัน

 

 

“คุณชายอิน ฉันอายุมากกว่าคุณสองปี”

 

 

อินรุ่ยเจวี๋ยกะพริบตาปริบๆ และเข้าใจในทันทีอีกแล้ว “ถ้างั้นก็ต้าซิงซิง[2]”

 

 

“…”

 

 

“อะไรกัน คุณชายอินจะควงคู่ไปกับยัยแพศยานั่นเหรอ”

 

 

“เธอมีสิทธิ์อะไร”

 

 

“ไม่ใช่บอกว่าจำเรื่องไม่ดีงามไม่ได้หรอกเหรอ แม้แต่เชียนโหรวเขาก็จำไม่ได้ แล้วทำไมถึงรู้จักเธอล่ะ”

 

 

“จะเพราะอะไรได้อีกล่ะ ก็เพราะเฉินเชียนโหรวของพวกเธอไม่ดีงามพอยังไงล่ะ” คนที่เดินผ่านมาคนหนึ่งทนแฟนคลับของเฉินเชียนโหรวไม่ไหว จึงหันไปมองบนใส่แล้วพูดแขวะไปหนึ่งประโยค

 

 

ภายในตาของเฉินเชียนโหรวเต็มไปด้วยความตกตะลึง จากนั้นก็แปรเปลี่ยนเป็นความไม่พอใจ

 

 

 ขณะนั้นเอง ด้านหลังก็มีโรลส์รอยซ์แฟนทอมคันหนึ่งมาจอด ไม่นานนัก คนงามอีกคู่หนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นที่ปลายพรมแดง

 

 

ชายหนุ่มสวมชุดสูทสีดำหมึกที่ตัดเย็บแบบเข้ารูป รับกับรูปร่างที่สูงยาว ใบหน้าหล่อเหลาไร้ซึ่งอารมณ์โดยสิ้นเชิง นัยน์ตาดำสนิทคู่นั้นสอดส่ายไปรอบๆ ท่าทางราบเรียบ มองไม่เห็นซึ่งการแสดงออกทางอารมณ์ใดๆ เลย รอบตัวอบอวลไปด้วยบรรยากาศแห่งความมืดหมอง แต่ก็มีพลังแห่งความสูงศักดิ์น่าเกรงขราม

 

 

ข้ากายของเขามีคนงามอยู่เคียงข้างเสมอ รอยยิ้มพิมพ์ใจลึกซึ้ง ท่าทางที่ควงแขนชายหนุ่มไว้เบาๆ ด้วยความสง่าและสุภาพเรียบร้อย

 

 

 

 

[1]เสี่ยวซิงซิง ในประเทศจีน การเรียกด้วยการซ้ำชื่อพยางค์ท้ายทำให้ดูสนิทสนม และให้ความรู้สึกเอ็นดูมากขึ้น ส่วนคำว่า”เสี่ยว” แปลว่า เล็ก มักเติมไว้ด้านหน้าชื่อเด็กน้อย หรือคนที่ผู้เรียกรู้สึกว่าน่ารักน่าเอ็นดู

 

 

[2]ต้าซิงซิง ต้าในภาษาจีนแปลว่า ใหญ่