ตอนที่ 397 นัยยะของคำพูดนั้น คือฉันคิดถึงคุณ / ตอนที่ 398 ถ้าลงมือได้ก็อย่าพูดมาก!

หวานรักจับหัวใจท่านประธาน

ตอนที่ 397 นัยยะของคำพูดนั้น คือฉันคิดถึงคุณ

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่มองเงาหลังของเขาจากไป ความรู้สึกที่เพิ่งสุขใจอย่างหาใดเปรียบพลันหม่นหมองขึ้นมากในทันที

 

 

เธอเม้มริมฝีปาก ผ่านไปพักใหญ่ถึงจะดึงสติกลับมาได้ และอุ้มเสี่ยวลิ่วลิ่วนั่งลงบนโซฟา

 

 

เมื่อกี้เธอยังหวังให้อวี๋เยว่หานออกไปอยู่เลย แต่ตอนนี้เขาไปแล้วจริงๆ เธอกลับเริ่มคิดถึงเขาขึ้นมา…

 

 

หญิงสาวหยิบนิตยสารเล่มหนึ่งขึ้นมาอ่าน แต่ตอนนี้ข่าวซุบซิบที่ปกติเธอชอบเป็นที่สุดกลับไม่มีน่าสนใจเอาเสียเลย

 

 

หลังจากเล่นเป็นเพื่อนเสี่ยวลิ่วลิ่วอยู่พักใหญ่ เธอก็เริ่มเงยหน้าขึ้นมองเวลาอย่างอดไม่อยู่

 

 

เขาเพิ่งออกไปได้หนึ่งชั่วโมง แต่เธอรู้สึกเหมือนเขาหายไปทั้งวันแล้ว

 

 

“พวกเราออกไปเที่ยวก่อนดีกว่า” เหนียนเสี่ยวมู่จูงเสี่ยวลิ่วลิ่วเดินออกไปข้างนอก

 

 

แต่เพิ่งก้าวขาออกไป เสี่ยวลิ่วลิ่วพลันขวางเธอไว้ แล้วสั่งสอนหญิงสาวด้วยใบหน้าจริงจัง “ปาปาบอกแล้ว ว่าให้เป็นเด็กดีรอปาปากลับมา พี่สาวคนสวยแอบหนีออกไปแบบนี้ เป็นเด็กดื้อมากเลยนะคะ!”

 

 

‘…เสี่ยวลิ่วลิ่ว หนูจำที่ตัวเองพูดก่อนหน้านี้ได้ไหม ว่าจะทิ้งปาปาของหนู แล้วออกไปเที่ยวกับฉัน’ เหนียนเสี่ยวมู่คิดในใจ

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่กำลังลังเลว่าต้องโน้มน้าวเสี่ยวลิ่วลิ่วอย่างไร โทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้นมาทันที

 

 

เป็นสายจากอวี๋เยว่หาน

 

 

“ตอนนี้ผมกำลังกลับไปรับพวกคุณ”

 

 

เมื่อได้ยินเสียงของเขา เหนียนเสี่ยวมู่ก็พูดต่อโดยไม่คิด “ไม่ต้องรีบขนาดนั้นก็ได้ คุณบอกสถานที่ฉันมา ฉันจะพาเสี่ยวลิ่วลิ่วไปเอง แบบนี้จะได้เจอกันเร็วหน่อย!”

 

 

ครั้นพูดจบ เธอถึงจะรู้ตัวว่าตัวเองพูดความในใจออกไปแล้ว

 

 

ใบหน้าของเธอแดงระเรื่อขึ้นอย่างรวดเร็ว แบบที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่าเลยทีเดียว

 

 

อวี๋เยว่หานที่อยู่ปลายสายก็คิดไม่ถึงเลย ว่าตัวเองจะได้ยินคำพูดหวานๆ แบบนี้

 

 

เขาตะลึงไปหลายวินาที ถึงจะบอกสถานที่ให้เธอฟัง

 

 

ทันใดนั้น เหนียนเสี่ยวมู่ก็วางสายไปด้วยความใจฝ่อ

 

 

เธออุ้มเสี่ยวลิ่วลิ่วกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องอย่างรวดเร็ว

 

 

หลังจากจัดการตัวเองอย่างง่ายๆ แล้ว เธอก็รีบนั่งรถไปยังสถานที่ที่นัดกันไว้

 

 

ร้านอาหารที่ชายหนุ่มจองไว้ เป็นร้านอาหารสำหรับครอบครัวที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง

 

 

ภายในร้านดูหรูหรา มีการจัดตกแต่งที่มีเอกลักษณ์มากเช่นเดียวกัน

 

 

ที่ร้านตกแต่งด้วยสไตล์วินเทจ ทำให้คนที่ได้เข้าใกล้สถานที่นี่ รู้สึกจิตใจสงบลงไปไม่น้อยเลย

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่มาถึงเร็ว ตอนที่ลงจากรถ อวี๋เยว่หานยังมาไม่ถึง

 

 

เธอบอกให้คนขับรถกลับไปก่อน ส่วนเธอจะอุ้มเสี่ยวลิ่วลิ่วรอเขาอยู่ที่ทางเข้า

 

 

ขณะที่กำลังจะโทรศัพท์ถามว่าเขาใกล้จะถึงหรือยัง เธอพลันได้ยินสียงที่คุ้นเคยดังมาจากข้างหลัง

 

 

“เหนียนเสี่ยวมู่ ทำไมเธอถึงอยู่ที่นี่”

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่เงยหน้าขึ้นตามสัญชาตญาณ เมื่อเห็นคนตรงหน้าชัดเจนแล้วว่าเป็นเหวินหย่าไต้ เธอก็ตะลึงไป

 

 

เพราะเธอคิดไม่ถึงเลย ว่าจะเจอเหวินหย่าไต้ที่นี่

 

 

ตั้งแต่อวี๋เยว่หานไล่เหวินหย่าไต้ออกจากบริษัทตระกูลอวี๋ต่อหน้าทุกคนเมื่อครั้งก่อน หญิงสาวก็หายไปตัว

 

 

ได้ยินว่าตระกูลเหวินกลัวผิดใจกับบริษัทตระกูลอวี๋ จึงส่งเธอไปพักผ่อนรักษาบาดแผลที่ต่างประเทศ และถือโอกาสให้เธอหลบหลีกเรื่องซุบซิบไปด้วย

 

 

คิดไม่ถึงว่าเธอกลับมาเร็วขนาดนี้…

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่มองไปที่ข้อมือของอีกฝ่าย

 

 

ตอนนั้นเหวินหย่าไต้ไม่ได้กรีดข้อมือตัวเองลึกมาก ตอนนี้แผลสมานดีแล้ว เหลือเพียงรอยสีชมพูจางๆ ที่ยังไม่หายไปโดยสิ้นเชิง

 

 

“แปลกใจมากสินะ ไม่ใช่แค่ไม่เป็นไร ฉันยังปรากฏตัวต่อหน้าเธอด้วยสภาพดีด้วย” เหวินหย่าไต้จับสายตาของอีกฝ่ายได้ มุมปากของเธออมยิ้มไม่ยี่หระ พลางสาวเท้าไปข้างหน้า และกล่าวอย่างเย็นชา

 

 

มาจนถึงตอนนี้และเวลานี้ เธอไม่จำเป็นต้องปกปิดความเกลียดชังที่มีต่อเหนียนเสี่ยวมู่อีกต่อไป

 

 

หญิงสาวเหลือบเห็นว่าเหนียนเสี่ยวมู่อุ้มเสี่ยวลิ่วลิ่วอยู่ ความอิจฉาพลันบังเกิดขึ้นในสายตาของเธอทันที

 

 

เธอรู้ดีกว่าใคร ว่าอวี๋เยว่หานรักลูกสาวของตัวเองมากแค่ไหน

 

 

เขาไม่ให้ใครเข้าใกล้เด็กหญิงง่ายๆ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการอุ้มเสี่ยวลิ่วลิ่วออกจากคฤหาสน์ตระกูลอวี๋เพียงลำพังเลย!

 

 

แล้วเหนียนเสี่ยวมู่มีสิทธิ์อะไร

 

 

 

 

ตอนที่ 398 ถ้าลงมือได้ก็อย่าพูดมาก!

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่พาเสี่ยวลิ่วลิ่วมาด้วย หญิงสาวไม่อยากให้เธอเห็นผู้ใหญ่ทะเลาะกัน จึงมองเหวินหย่าไต้ครั้งหนึ่ง แล้วหมุนตัวเดินเข้าไปในร้าน โดยไม่สนใจอีกฝ่าย

 

 

ครั้งเดินถึงหน้าประตู พนักงานรักษาความปลอดภัยกลับขวางประตูเอาไว้

 

 

“ไม่ทราบจองไว้หรือเปล่าครับ ถ้าไม่ได้จองไว้ คุณไม่สามารถเข้าไปในนี้ได้ตามใจชอบนะครับ”

 

 

เมื่อพนักงานรักษาความปลอดภัยพูดจบ เหนียนเสี่ยวมู่ยังไม่ทันได้พูดอะไร เหวินหย่าไต้ก็ก้าวขึ้นมาแย่งพูดก่อน

 

 

“ไม่ได้จองไว้แล้วยังกล้ามาที่นี่ เหนียนเสี่ยวมู่ เธอนี่มันไม่รู้จักเจียมตัวเลยสักนิด!”

 

 

“…”

 

 

“ก็ถูกต้องแล้วนี่นะ ด้วยสถานะของเธอ ก็คงจะไม่เคยมาสถานที่ไฮโซแบบนี้ เลยคิดว่าตาสีตาสาที่ไหนก็เข้าไปได้” เหวินหย่าไต้พูดจบ เธอก็พิจารณาเหนียนเสี่ยวมู่ตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยความดูแคลนครั้งหนึ่ง

 

 

ถ้าไม่ใช่เพราะเหนียนเสี่ยวมู่ ตอนนี้เธอคงยังได้อยู่ที่บริษัทตระกูลอวี๋

 

 

เป็นผู้จัดการแผนกประขาสัมพันธ์ที่ลูกน้องทุกคนเคารพนับถือ และผู้อยู่เคียงบ่าเคียงไหล่ฝีมือดีที่สุดของอวี๋เยว่หาน

 

 

ที่เธอมามีจุดจบอย่างเช่นทุกวันนี้ ก็เป็นเพราะเหนียนเสี่ยวมู่ทั้งนั้น!

 

 

แค่คิดถึงตรงนี้ เหวินหย่าไต้ก็โกรธแค้นแทบแย่ จนไร้สติเลยก็ว่าได้!

 

 

เธออยากจะเหยียบเหนียนเสี่ยวมู่ไว้ใต้เท้าใจจะขาด…

 

 

“เธอคิดว่าเสี่ยวลิ่วลิ่วชอบเธอจริงๆ เธอก็เลยเชิดหน้าชูคอเป็นพญาหงส์ได้ ถึงแม้เธอจะเอาใจเสี่ยวลิ่วลิ่ว และใช้โอกาสนี้เข้าใกล้คุณชายหานได้ แต่ไก่ภูเขาก็ยังเป็นไก่ภูเขาอยู่วันยันค่ำ ไม่มีทางกลายเป็นหงส์ได้หรอก! สถานที่แบบนี้ก็เหมือนกัน มันไม่ใช่ที่ของคนแบบเธอเลยด้วยซ้ำ มีสิทธิ์อะไรมาที่นี่!”

 

 

เหวินหย่าไต้พูด พลางเชิดหน้าขึ้นอย่างหยิ่งยโส

 

 

ถึงแม้เธอจะออกจากบริษัทตระกูลอวี๋ไปแล้ว เธอก็ยังเป็นคุณหนูของตระกูลเหวินอยู่ดี

 

 

แล้วเหนียนเสี่ยวมู่เป็นใครกัน

 

 

แม้เธอจะอุ้มคุณหนูที่สูงส่งที่สุดของตระกูลอวี๋อยู่ แต่แค่ร้านอาหารร้านเดียว ก็ยังเข้าไปไม่ได้!

 

 

“เธอขอร้องฉันสิ ถ้าเธอขอร้องฉัน ฉันจะพาเธอเข้าไป”

 

 

“…”

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ชำเลืองมองอีกฝ่ายครั้งหนึ่ง โดยที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอมีความรู้สึกเหนือกว่ามาจากไหน

 

 

เธอไม่สนใจเหวินหย่าไต้ แต่หยิบโทรศัพท์มือถือออกมา เตรียมจะโทรศัพท์ไปถามว่าอวี๋เยว่หานมาถึงแล้วหรือยัง

 

 

แต่ยังไม่ทันต่อสายออกไป เหวินหย่าไต้ก็เริ่มแค่นหัวเราะออกมา

 

 

“อยากจะโทรไปให้คุณชายหานช่วยเธอเหรอ เหนียนเสี่ยวมู่ ถ้าเธอเก่งจริง ทำไมไม่ให้คุณชายหานมากับเธอล่ะ”

 

 

“…”

 

 

“ถ้าให้ฉันเดานะ คุณชายหานคงจะเบื่อเธอแล้ว ตอนนี้แม้แต่มองสักครั้งก็ยังไม่อยากมอง เธอก็เลยทำได้แค่อาศัยชื่อของคุณชายหานเที่ยวเตร่อยู่ข้างนอก ใช้ประโยชน์แม้กระทั่งกับเด็กอายุสามขวบ…”

 

 

“ไม่ใช่นะ! ไม่ใช่สักหน่อย! ปาปาของหนูชอบพี่สาวคนสวยที่สุดแล้ว!” เหนียนเสี่ยวมู่ระงับวามโมโหเอาไว้ได้ แต่เสี่ยวลิ่วลิ่วที่อยู่ในอกของเธอโมโหจนแก้มป่องแล้ว

 

 

เหวินหย่าไต้ตะลึงไป ก่อนจะกอดอกในทันที

 

 

เธอไม่เชื่อคำพูดของเด็กตัวเล็กๆ คนหนึ่งอยู่แล้ว

 

 

“เหนียนเสี่ยวมู่ ดูเธอสิว่าน่าสงสารแค่ไหน เสียทั้งแรงทั้งความคิด หลอกล่อได้แค่เด็กน้อยคนเดียว คุณชายหานชอบเธอเหรอ แต่เธอก็น่าจะรู้ตัวนะว่าไม่คู่ควรกับเขา”

 

 

หญิงสาวยิ้มเยาะ พลางมองเสี่ยวลิ่วลิ่วที่กำลังปกป้องเหนียนเสี่ยวมู่ ทำให้ความอิจฉาในดวงตาของเธอเพิ่มขึ้นจนถึงขีดสุด

 

 

เธอหันหน้าไปมองพนักงานรักษาความปลิดภัย “คุณจับตาดูไว้ให้ดี ผู้หญิงคนนี้เป็นโจร อย่าให้เธอเข้าไปเด็ดขาด…อ๊ะ!”

 

 

เหวินหย่าไต้ยังพูดไม่จบ อยู่ๆ เข่าของเธอก็ถูกเตะอย่างแรง

 

 

แรงจนเกือบจะเข่าอ่อนคุกเข่าลงไปเลยทีเดียว

 

 

เธอหันกลับไปมองเหนียนเสี่ยวมู่ที่กล้าลงมือกับเธอด้วยความหวาดหวั่น

 

 

“เธอกล้าเตะฉันเหรอ?”

 

 

“แน่นอนอยู่แล้ว!” เหนียนเสี่ยวมู่ยื่นมือปัดขากางเกง รังเกียจราวกับว่าเพิ่งเปื้อนสิ่งสกปรกอะไรมา

 

 

ถ้าลงมือได้ก็อย่าพูดมาก

 

 

เดิมทีเธอไม่อยากลงมือกับผู้หญิงขี้อิจฉา เดี๋ยวจะส่งผลกระทบต่อการสั่งสอนเสี่ยวลิ่วลิ่วเสียเปล่าๆ

 

 

แต่ในเมื่อเหวินหย่าไต้ไร้ยางอายขนาดนี้แล้ว ก็อย่าหาว่าเธอไม่เกรงใจก็แล้วกัน!