ตอนที่ 800 เธอคิดว่าคุณมีชู้เหรอ

วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์

เมื่อเรื่องเป็นเช่นนี้ถังหนิงก็ยังยืนกรานเช่นเดิม เธอต้องการที่จะเป็นตัวของตัวเองและเกลียดการที่คนอื่นเข้ามาวุ่นวายกับบทที่เธอแสดง

 

 

ทุกคนต่างเข้าใจในจุดนี้ ทว่าทีมงานยังคงไม่พอใจ เธอรู้สึกว่าถังหนิงกำลังสร้างความยุ่งยากให้

 

 

เพราะว่าเธอยืนยันจะไม่ใช่ตัวแสดงแทน

 

 

จากนั้นสวี่ซินได้เข้ามาปลอบทีมงานสาวคนนั้น “พี่หนิงทำไปเพื่อผลประโยชน์ของหนังเอง เธอเป็นมืออาชีพตัวจริงนี่คะ”

 

 

“ใครบอกให้เธอทำตัวเป็นมืออาชีพกันล่ะ ไม่ใช่ว่าใครๆ จะเห็นว่าเกิดอะไรขึ้นเบื้องหลังเสียหน่อย ไม่เคยมีนักแสดงที่เข้มงวดเท่าเธอเลย”

 

 

ความจริงแล้วหลินเฉี่ยนนั้นอยู่ไม่ห่างไปเท่าไร แม้ว่าจะได้ยินสิ่งที่ผู้หญิงสองคนพูดกันไม่ชัดเจนนักแต่ก็รู้ว่าทีมงานคนนั้นโวยวายอยู่

 

 

หลินเฉี่ยนหยิบน้ำสำหรับถังหนิงและกลับไปอยู่ข้างเธอในเวลาถัดมา “ระวังโดนแก้แค้นจากทีมงานแบบนั้นด้วยนะคะ คนแบบเธออาจจะดูไม่สำคัญอะไรแต่ก็เป็นคนที่อันตรายที่สุด”

 

 

ถังหนิงก้มหน้าดื่มน้ำจากแก้วน้ำร้อน เสียงของเธอนุ่มนวลหากแต่แฝงไปด้วยความเย็นชา “ถ้ากล้าทำอะไรก็ลองดู…”

 

 

ในเวลานี้ถังหนิงถ่ายทำฉากของตัวเองขณะที่อดทนกับแผลของตัวเอง แม้จะเป็นอย่างนั้นแต่เธอก็ผ่านไปได้อย่างราบรื่นในครั้งเดียว

 

 

“ฮ่าๆ สมกับเป็นนักแสดงรางวัลเฟยเทียนจริงๆ เธอทำได้เยี่ยมมาก” ผู้กำกับยกนิ้วชื่นชมถังหนิง แน่นอนว่าเพราะความเป็นมืออาชีพของเธอทีมงานจึงไม่กังวลอีกต่อไปและถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก

 

 

ต่อไปเป็นการถ่ายทำของสวี่ซินซึ่งเป็นไปด้วยดีอย่างผิดปกติ อันที่จริงเธอไม่ได้ขอให้ถังหนิงช่วยอีกแต่การแสดงของเธอก็ยังพัฒนาขึ้นมาก ผู้กำกับบอกว่าต้องขอบคุณถังหนิงแต่เธอกลับทำเพียงส่งยิ้มให้โดยไม่ได้ปริปากแม้สักคำ

 

 

คืนนั้นหลังการถ่ายทำเสร็จสิ้น สวี่ซินก็หาทางเข้าไปในห้องของผู้กำกับอีกครั้ง หลังผ่านห้วงแห่งความรักใคร่ไม่นาน เธอเอ่ยถามอีกฝ่าย “ให้ฉันได้ออกกล้องเพิ่มอีกหน่อยได้ไหมคะ แค่ไม่กี่วินาทีก็ได้ค่ะ…”

 

 

ผู้กำกับมุ่นคิ้วตั้งท่าจะปฏิเสธเธอ แต่สวี่ซินใช้วิธีการเดิมๆ ของตัวเองบนตียงที่จะทำให้ผู้ชายไม่มีทางปฏิเสธเธอได้

 

 

ท้ายที่สุดผู้กำกับจึงยอมแพ้และตกลงรับคำ

 

 

ด้วยในอดีตเขาผ่านผู้หญิงมามากหน้าหลายตาแต่ไม่มีใครทำให้เขาพึงพอใจได้มากเท่าสวี่ซินเลย

 

 

 

 

ในขณะเดียวกันถังหนิงที่อยู่ในห้องกำลังใช้โทรศัพท์คุยผ่านวิดีโอกับโม่ถิงอยู่ คู่รักห่างกันเพียงไม่กี่วันแต่ดูเหมือนว่าพวกเขาจะมีเรื่องให้พูดคุยกันไม่จบไม่สิ้น

 

 

โม่ถิงไม่เคยเป็นคนพูดมากแต่ไม่ใช่กับภรรยาของตัวเอง โดยเฉพาะหลังจากที่ไม่ได้เจอกับหลายวัน จริงๆ เขามีหลายเรื่องที่บอกถังหนิงเป็นคำพูดไม่ได้

 

 

“คุณโม่ ฉันรู้แล้วค่ะว่าคุณคิดถึงฉัน แต่ช่วยดูแลลูกของเราดีๆ ด้วยนะคะ”

 

 

“แต่ผมอยากดูแลคุณมากกว่านี่” โม่ถิงเอ่ยเสียงอ่อนเสียงหวาน “มีอะไรเกิดขึ้นที่กองถ่ายหรือเปล่า”

 

 

“ไม่มีค่ะ ทุกอย่างปกติดี” ถังหนิงพยักหน้าเป็นการตอบรับ เพื่อหลบไม่ให้โม่ถิงเห็นแผล เธอจึงสวมเสื้อคลุมทับอย่างรอบคอบ “เดี๋ยวฉันก็กลับบ้านแล้ว หลังจากนั้นฉันจะอยู่กับคุณกับลูกตลอดไปเลย”

 

 

“ผมจะรอนะครับ” โม่ถิงเข้าใจความหมายแฝงของคำพูดอีกฝ่าย เธอตั้งใจเพิ่มคำว่า ‘ตลอดไป’ ลงไป “แต่ว่า… ‘ผู้รอดชีพ’ ไม่ใช่จุดสิ้นสุดของเส้นทางการแสดงของคุณหรอกนะครับ”

 

 

“ช่วงนี้กั่วกั่วมีไข้หรือเปล่าคะ” ถังหนิงเบี่ยงประเด็น

 

 

“ครับ แต่ไม่มากเท่าไร คุณต้องเชื่อใจลู่กวงหลีสิ” โม่ถิงตอบ

 

 

“ถิงค่ะ…”

 

 

“ครับ” เสียงเขาช่างน่าฟัง

 

 

“ฉันอยากกอดคุณจังค่ะ”

 

 

“แต่… ผมอยากรักคุณ…” โม่ถิงเอ่ยพร้อมสายตาที่มองถังหนิงด้วยความไฟปรารถนาที่ลุกโชน “ไม่ได้แล้ว ผมจะไปหาคุณพรุ่งนี้”

 

 

“จำเป็นขนาดนั้นเลยเหรอคะ” ถังหนิงหัวเราะ “อีกเดี๋ยวฉันก็กลับบ้านแล้วค่ะ”

 

 

ครั้งนี้โม่ถิงไม่ได้ตอบ ทำเพียงจ้องมองถังหนิงอยู่ชั่วครู่ แม้เขาไม่อยากรบกวนเวลาพักผ่อนของเธอทว่าในที่สุดก็ตัดสินใจได้ เขาจะไปหาถังหนิง! ดังนั้นหลังจากพาเด็กๆ เข้านอนจึงโทรหาซย่าอวี้หลิงและขอให้แม่ทั้งสองคนดูแลลูกๆ ให้

 

 

“ดึกป่านนี้จะไปไหนเหรอ” ซย่าอวี้หลิงถาม “มีเรื่องเกิดขึ้นกับเสี่ยวหนิงเหรอ”

 

 

“เธอไม่เป็นไรครับ ผมแค่อยากเจอเธอ” โม่ถิงว่าก่อนออกจากบ้านไป

 

 

การขับรถมาที่สถานที่ถ่ายทำใช้เวลาร่วมห้าชั่วโมง หมายความว่ากว่าโม่ถิงจะมาถึงพระอาทิตย์อาจจะขึ้นแล้ว แต่เพื่อถังหนิงแล้วเขายอม

 

 

ดังนั้นจู่ๆ โทรศัพท์ของถังหนิงจึงได้ดังขึ้นในขณะที่เจ้าตัวกำลังนอนหลับอยู่ ถังหนิงมองเวลาที่บอกเวลาตีสี่ ก็คิดไปว่าต้องมีบางอย่างเกิดขึ้นกับลูกของเธอแน่ เธอรีบลุกนั่งและกดรับ แต่สิ่งที่ได้ยินมีแค่เสียงทุ้มของโม่ถิง “เปิดประตูสิครับ”

 

 

ถังหนิงรู้สึกเหลือเชื่อพลางเดินไปเปิดประตู ไม่ทันที่เธอจะได้ตอบรับชายร่างสูงที่ยืนอยู่หน้าประตู โม่ถิงดันเธอเข้าไปในห้องและแนบร่างของเธอเข้ากับกำแพง

 

 

“คุณเป็นพ่อลูกสองแล้วนะ ทำตัวหุนหันแบบนี้ได้ยังไง” ถังหนิงอดไม่ได้ที่จะถอนใจออกมา

 

 

“ผมมีเวลาแค่สามชั่วโมง…” โม่ถิงไม่อยากเสียเวลาอธิบายในขณะที่กระโจน ‘ลงมือทำ’ ทันที

 

 

แต่ก่อนมีเรื่องที่เป็นไปไม่ได้มากมาย

 

 

ทว่าหลังจากได้ใช้ชีวิตกับถังหนิงเขาก็ไม่ด่วนสรุปอะไรง่ายๆ อีกต่อไป

 

 

ถังหนิงผล็อยหลับไปหลังการร่วมรักอันหนักหน่วง เดิมทีโม่ถิงอยากจะแอบหลบออกมา แต่ถังหนิงจับมือเขาไว้ทั้งยังหลับอยู่และทุกครั้งที่เขาขยับตัวเธอจะรู้สึกตัวตื่นขึ้น

 

 

ไม่ว่าเขาจะละเลยแค่ไหนแต่เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่เห็นแผลบนแขนของเธออย่างแน่นอน หากแต่ตอนนี้เขาไม่ต้องการคาดคั้นถังหนิงเรื่องนี้

 

 

“หลับอีกหน่อยนะครับ”

 

 

“ให้ฉันเดินไปส่งคุณนะคะ” เธอส่ายหน้าพลางลุกขึ้นมาจากเตียง เพื่อเลี่ยงเรื่องวุ่นวายที่ไม่จำเป็น เธอตัดสินใจไม่แจ้งทีมงานเรื่องที่โม่ถิงมาเยี่ยมจึงค่อนข้างระวังตอนที่เดินออกมาส่งเขา แต่สิ่งที่ทำให้ประหลาดใจคือหลังจากที่โม่ถิงจากไป เธอเห็นสวี่ซินย่องออกมาจากห้องของผู้กำกับที่สุดทางเดิน

 

 

ผู้หญิงทั้งสองคนสบตากัน

 

 

สีหน้าของทั้งคู่บ่งบอกอารมณ์ที่ยากจะคาดเดา

 

 

หากแต่ไม่มีใครปริปากพูดอะไรขณะที่พวกเธอกลับไปที่ห้องของตัวเอง

 

 

วันถัดมาก่อนที่การถ่ายทำจะเริ่ม สวี่ซินเข้ามาหาถังหนิงในช่วงที่หลินเฉี่ยนไม่อยู่ “ฉันไม่คิดว่าพี่หนิงจะทำตัวหลบๆ ซ่อนๆ ลับหลังประธานโม่เลยนะคะ”

 

 

“อย่างนั้นเมื่อเช้านี้เธอก็ออกมาจากห้องของผู้กำกับจริงๆ สินะ” ถังหนิงถาม

 

 

“ฉันหวังว่าพี่หนิงจะช่วยฉันเก็บเรื่องนี้เป็นความลับนะคะ ฉันทำไปเพราะว่าชอบท่าทีน่าเกรงขามของเขาน่ะค่ะ เพื่อเป็นการตอบแทน แน่นอนว่าฉันจะช่วยเก็บเรื่องของพี่เป็นความลับเหมือนกัน”

 

 

ถังหนิงหลุดหัวเราะออกมาเบาๆ โดยที่ไม่ได้พูดอะไร

 

 

สวี่ซินคนนี้ทำเหมือนกับว่าเจอบางคนที่เหมือนกับเธอ…

 

 

เธอหันออกไปด้วยคิดว่าถังหนิงตอบตกลง ตอนนี้เองที่หลินเฉี่ยนเห็นสวี่ซินเดินออกมาก่อนเอ่ยถามถัง

 

 

หนิง “เธอพยายามขอให้คุณสอนเธออีกเหรอคะ”

 

 

ถังหนิงส่ายหน้าพร้อมเล่าเรื่องที่เห็นเมื่อเช้าให้อีกฝ่ายฟัง

 

 

“หมายความว่าสวี่ซินนอนกับผู้กำกับและก็คิดว่าคุณมีชู้เหรอคะ” หลินเฉี่ยนเอามือทาบหน้าผากตัวเองอย่างไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี

 

 

“อือฮึ”

 

 

“ท่าไม่ดีเลยค่ะ… ประมาทสวี่ซินคนนี้ไม่ได้เลย นี่อาจจะหมายความว่าเธอจะวางท่าข่มขู่คุณตลอดการถ่ายทำที่เหลือเลยนะคะ”