บทที่ 214 ศัตรูที่แข็งแกร่ง

ผมมีระบบย่อยสลายในวันสิ้นโลก

บทที่ 214 ศัตรูที่แข็งแกร่ง

“ฮ่าฮ่าฮ่า กัปตันหลิว พวกเราได้มามากมายนัก ไม่เพียงจะกวาดล้างได้ทั้งกองกำลังแถมยังได้แก่นคริสตัลมามากมายนัก”

“ฮี่ฮี่ฮี่ พวกมนุษย์มันโง่เง่านัก พวกมันคิดว่าเป็นคนกลุ่มเดียวกันแล้วก็ไม่คิดจะไม่ป้องกันห่าเหวอะไรเลย ก็ดีนี่ทำให้อีกไม่นานเขตแดนจักรพรรดิของพวกเรานั้นกลายเป็นเขตแดนของพวกเรา”

“ยังไงก็เถอะ พวกเจ้าต้องจำเอาไว้ให้ดีว่าหลังจากสู้กับพวกมนุษย์แล้วจะต้องพยายามให้ศพของพวกมันสมบูรณ์ให้ถึงที่สุด อย่าลืมไปว่าพวกเรานั้นยังมีแผ่นพลังงานนับร้อยที่ยังไม่ได้ใช้”

“ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม การเข้ามายังเขตแดนจักรพรรดิในครั้งนี้ของพวกเรานั้นต้องเปลี่ยนมนุษย์ให้กลายเป็นมนุษย์กลายพันธุ์ให้ได้สองร้อยคน”

“ไม่อย่างนั้นล่ะก็ ยามที่เราออกไป ท่านราชาคงไม่ไว้ชีวิตพวกเราเป็นแน่”

และด้วยสิ่งที่ได้ยินนี้เองทำให้เขานั้นรู้สึกโกรธแค้นกลุ่มคนตรงหน้าอย่างที่สุด

หลังจากที่เขาได้พบเจอกับราชาสวรรค์แล้ว เขาเองก็ได้พบเจอกับมนุษย์กลายพันธุ์อยู่มากมายหลายครั้ง

แต่จนมาถึงตอนนี้ เขานั้นยังไม่เข้าใจว่าทำไมทั้งสองฝ่ายนั้นทรงพลังต่างกันถึงขนาดนี้แม้ว่าจะเป็นมนุษย์กลายพันธุ์เหมือนกันก็ตาม

ทั้งที่ทะเลสาบกระจกที่ด้านนอกของสำนักมังกรอาชูร่า หลินเสี่ยวได้นำมนุษย์กลายพันธุ์รุ่นเยาว์กว่ายี่สิบตนนั่น

แต่ก็อีกนี่ล่ะ ยังไงซะ ราชาสวรรค์ องครักษ์หยานและเจิ้งยี่ต่างก็เป็นมนุษย์กลายพันธุ์

แต่ว่าทำไมสัญชาตญาณความเป็นมนุษย์ของเขานั้นกลับไม่หายไปแม้แต่น้อย

ในตอนนี้สายตาของเฉินเฉียงนั้นแดงก่ำ เขาต้องการฆ่ามนุษย์กลายพันธุ์ระยำตรงหน้าให้หมดสิ้น

อย่างไรก็ตาม กลุ่มมนุษย์กลายพันธุ์กลุ่มนี้ นอกจากจำนวนจะมากกว่าแล้ว พวกมันยังมีตนที่มีระดับกลายพันธุ์ที่สูงกว่าพวกเขาอยู่หลายคน

ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะจากการที่ฟังพวกมันดูแล้วนั้น มีใครบางคนที่สามารถฝังแผ่นพลังงานลงในร่างมนุษย์ได้

นี่จึงไม่แปลกใจว่าทำไมกลุ่มนี้ถึงมีนายพลทักษะพิเศษขั้นสูงถึงเจ็ดตน

หากว่าเขานั้นให้จางหยวนและคนอื่นๆมาที่นี่ล่ะก็ มีหวังโดนกวาดเรียบในคราวเดียว

เมื่อคิดได้ดังนี้แล้ว เฉินเฉียงจึงตัดสินใจอย่างหนึ่งขึ้นมา

จากการที่เห็นว่าพวกมันเมามายกันแล้วนั้น เขาจึงคิดที่จะใช้ทักษะตรวจจับด้วยเสียงและกลิ่นแล้วลอบเข้าไปใกล้พวกมันมากกว่านี้อีกสักหกสิบไม่ก็เจ็ดสิบเมตร

ด้วยระยะนั้นเขาสมควรจะลอบโจมตีได้บ้าง

หลังจากลงมือทำแล้ว เมื่อเห็นได้จังหวะ เฉินเฉียงก็ได้เริ่มลงมือ

มนุษย์กลายพันธุ์ที่ตอนนี้ไม่ได้อยู่ในสภาพพร้อมรับมือ พวกมันนั้นไม่คิดว่าจะมีภัยมาเยือนในตอนนี้

เพียงการลงมือครั้งเดียว เฉินเฉียงได้ใช้รูปลักษณ์ของกัปตันหลิวที่เป็นหัวหน้า และจัดการมนุษย์กลายพันธ์ุระดับนายพลทักษะพิเศษตายไปสามตน

หลังจากนั้นเขาก็ได้ระเบิดพลังออกมาและพุ่งผ่านราวกับสายฟ้าฟาด มนุษย์กลายพันธุ์อีกสี่คนได้ตกตายโดยไม่แม้แต่จะได้ร้องออกมาสักแอะ พวกมันดับดิ้นในทันที

หลังจากนั้น มนุษย์กลายพันธุ์ที่เหลือก็เริ่มรู้สึกตัว แต่เฉินเฉียงนั้นก็อันตรธานหายไปโดยการดำดินเรียบร้อยแล้ว

แต่เฉินเฉียงก็ยังไม่หยุดยั้ง เขาได้เปลี่ยนทิศทางและพุ่งไปอีกห้าสิบเมตร ก่อนที่จะขึ้นมาจากพื้นดินและพุ่งเข้าใส่ระดับนายพลทักษะพิเศษสองตน

ในการลงมือครั้งแรก เขาได้ทำให้มนุษย์กลายพันธุ์กลุ่มนี้ตกตายไปหก

และด้วยการที่มนุษย์กลายพันธุ์ที่เหลือนั้นพบว่าพวกของตนที่อยู่ระดับนายพลทักษะพิเศษตกตายไปหกตนแล้ว แถมยังมีระดับสูงที่ตกตายไปต่อหน้าต่อถึงสอง นี่ทำให้มนุษย์กลายพันธุ์ระดับนายพลทักษะพิเศษขั้นสูงที่เห็นตื่นตระหนก ทำแม้กระทั่งดันตนอื่นให้ออกหน้าเพื่อให้รับเคราะห์แทนตน

เฉินเฉียงได้ดำดิ่งลงไปในดินโดยไม่แม้แต่ใช้กระแสจิตตรวจสอบ ในตอนนี้เขาใช้ทักษะตรวจสอบด้วยเสียงเพื่อยืนยันเป้าหมาย

หลังจากรับรู้ว่าเหล่ามนุษย์กลายพันธุ์ดันตนอื่นขึ้นหน้าและไปอยู่ข้างหลังตนเดียว เฉินเฉียงก็ได้ยิ้มออกมาเล็กน้อยก่อนที่จะเคลื่อนที่ไปยังระดับนายพลทักษะพิเศษขั้นสูงและใช้เคลื่อนย้ายพริบตากะซวกร่างของนายพลทักษะพิเศษขั้นสูงขึ้นบนอากาศนับร้อยเมตร

ในอากาศตอนนี้ เฉินเฉียงได้ใช้ย่างก้าวสวรรค์และสยายปีกสีเงินของตนเองและสั่งให้คนอื่นเริ่มลงมือ

และสามในเจ็ดของนายพลทักษะพิเศษขั้นสูงตกตายในมือเขาไปสาม

เจิ้งยี่ดูแลตัวเองได้ หนี่เฟิงและจางหยวนก็สามารถร่วมมือกันต่อกรได้หนึ่ง ส่วนที่เหลือเขาจะจัดการเอง

แน่นอนว่าเฉินเฉียงนั้นต้องการที่จะจัดการนายพลทักษะพิเศษขั้นสูงก่อนใครเพื่อน

เมื่อคิดได้ดังนี้ เฉินเฉียงจึงได้ไปยืนตรงหน้าเหล่ามนุษย์กลายพันธ์ุ และสะบัดปีกของตน

ในตอนแรกนั้น มนุษย์กลายพันธุ์สามสิบกว่าคนนี้เมื่อรู้ว่าพวกของตนตกตายไปเจ็ดคนโดยใครที่ไหนไม่รู้ นี่ทำให้ทุกตนจิตใจร้อนรนกันอย่างหนัก

และเมื่อเห็นว่ามีมนุษย์กลายพันธุ์ในระดับที่สูงล้ำกว่ามากมายืนอยู่ตรงหน้า นี่ราวกับเปรียบได้ดั่งความหวังของพวกมัน

นี่เป็นตอนที่เฉินเฉียงนั้นมายืนอยู่ตรงหน้ามัน พร้อมกับสยายปีกของตนไปหลายสิบเมตร

ด้วยความกว้างของปีกขนาดนี้นั้น มนุษย์กลายพันธุ์ที่จะมีมันได้สมควรจะอยู่ในระดับกึ่งราชาเป็นอย่างน้อย

ยิ่งไปกว่านั้นคือพวกมันยังไม่เห็นชั้นพลังงานของเฉินเฉียงอีก นี่ทำให้พวกมันต่างก็คิดว่าเฉินเฉียงคือมนุษย์กลายพันธุ์ระดับกึ่งราชา

“นายท่าน”

เหล่ามนุษย์กลายพันธุ์ทั้งสามสิบตนต่างก็ร้องอุทานออกมาอย่างพร้อมเพรียง พร้อมกับความรู้สึกที่เคารพรักที่ถูกฝังไว้ในใจ

เฉินเฉียงได้แกล้งตรวจสอบนายพลทักษะพิเศษที่ตกตายในมือของเขา ก่อนที่จะเดินไปที่กลุ่มของมนุษย์กลายพันธุ์ พร้อมกับรับรู้ว่า จางหยวนและพวกนั้นอีกไม่ถึงห้าร้อยเมตรก็มาถึงเขา

“นายท่าน กลุ่มของเราโดนโจมตีโดยกองกำลังไม่ทราบฝ่ายเมื่อครู่ หัวหน้ากองกำลังกับนายพลทักษะพิเศษตกตายไปเจ็ด โปรดช่วยพวกเราด้วย”

เฉินเฉียงยังคงเดินไปตรวจสอบร่างของมนุษย์กลายพันธุ์คนอื่นโดยท่านั่งยอง ก่อนที่จะก้มตัวลงต่ำกว่าเดิมและสะบัดปีกของตนไปมาอย่างบ้าคลั่งจนทำให้นายพลทักษะพิเศษตกตายไปอีกสิบกว่าตน

ในตอนแรกที่พวกมันต่างก็มีความสุขที่เห็นทางรอดแล้วนั้น แต่มาในตอนนี้กลับพบว่าเหลือพวกมันเพียงแค่สิบสี่ตนเพียงเท่านั้น

ยิ่งไปกว่านั้นในครั้งนี้คนที่ฆ่าพวกมันคือนายพลทักษะพิเศษขั้นสูงเสียอีก

“นายท่าน ทำไม…”

“นายทานบ้าบออะไร มันเป็นคนทรยศชัดๆ”

“พี่น้อง ฆ่ามัน ช่วยกันฆ่าไอ้ตัวทรยศ”

แต่กระนั้น มนุษย์กลายพันธ์ุส่วนใหญ่นั้นกลับดำดิ่งและจมจ่อมไปยิ่งกว่าเดิมที่ได้พบเรื่องนี้จนไม่ได้ทำอะไร

เมื่อเห็นฉากนี้ เฉินเฉียงก็ยิ้มกริ่มออกมาอย่างสุขใจ

ปีกสีเงินของเขานั้นเหมาะกับการสังหารหมู่อย่างที่สุด และเมื่อมนุษย์กลายพันธุ์ทั้งหมดคิดจะรุมโจมตีเขา นี่จึงทำให้เขาใช้ปีกสีเงินอีกครั้ง

“ไอ๊หยา…”

เฉินเฉียงประหลาดใจในทันทีเมื่อพบว่ามนุษย์กลายพันธุ์ได้นำชุดเกราะที่เหมือนกันออกมา

ไม่เพียงเท่านั้น อาวุธของพวกมันเองก็แหลมคมเฉกเช่นดาบทองคำของหลินฟาน

และเมื่อปะทะเข้ากับปีกของเขาแล้วนั้น ถึงแม้เขาจะมีปีกสีเงินระดับเจ็ด ก็ยังต้องถูกตัดปลายปีกออกไปสองเมตร

เฉินเฉียงได้กล้ำกลืนฝืนความเจ็บปวดก่อนที่จะเก็บปีกสีเงินและนำดาบดั้นเมฆออกมาและพี่งเข้าใส่มนุษย์กลายพันธุ์ระดับนายพลทักษะพิเศษทั้งสองคนก่อนที่จะโบยบินขึ้นไปบนอากาศ

ที่กลางอากาศ เฉินเฉียงเมื่อเห็นจางหยวนแล้วก็รีบส่งเสียงผ่านจิตวิญญาณในทันที –จางหยวน พวกเจ้าระวังให้ดี อาวุธของนายพลทักษะพิเศษนี้คมมาก อย่าได้สู้กับพวกมันตรงๆ-