ตอนที่ 833-834

ลำนำบุปผาพิษ

บทที่ 833 + 834 โดย Ink Stone_Romance

บทที่ 833 ท่านลงมือได้แล้ว

คนชุดม่วงดีดใบดาบ “เจ้าสมควรเป็นรายแรก เป็นอย่างไร? รู้สึกเป็นเกียรติมากใช่หรือไม่?”

ตี้ฝูอีช้อนตาขึ้นเหลือนมองคนชุดเขียวที่อยู่รอบๆ จากนั้นสายตาก็วกกลับมาที่ร่างคนชุดม่วง “เจ้าจะสั่งคนพวกนี้หรือ?”

คนชุดม่วงชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นพลันยิ้มเอ่ยขึ้นว่า “คนเหล่านี้เพียงพอจะจัดการกับเจ้าแล้ว!”

เขากวัดแกว่งดาบในมือ “ตี้ฝูอี ข้าจะสังหารเจ้าช้าๆ ดีไหม? หรือว่าต้องการให้ปลิดชีพเจ้าในดาบเดียวดี?”

ตี้ฝูอีถอนหายใจ “หากเจ้าเกลียดชังข้า จะสังหารข้าช้าๆ ก็ได้ ถ้าหากเจ้าต้องการเพียงแย่งชิงตำแหน่งของข้า เช่นนั้นมิสู้แทงเข้ามาทีเดียวเลยดีกว่า”

คนชุดม่วงยิ้มเยาะ “เจ้าสงบเยือกเย็นเหลือเกินนะ! ไม่กลัวตายหรือ?”

ตี้ฝูอีเอ่ยด้วยสีหน้าจริงจัง “ถ้ากลัวตายเจ้าจะไม่สังหารข้าหรือไง?”

“แน่นอนว่าไม่!” แววตาคนชุดม่วงคมกริบ จู่ๆ เขาก็ถอนหายใจออกมา “ตี้ฝูอี กว่าจะจับตัวเจ้าได้ไม่ง่ายเลย! ข้าจะไม่สังหารเจ้าทันทีหรอก…”

“หือ? แล้วไงต่อ?”

“ให้คนที่เป็นสานุศิษย์สวรรค์เหมือนกันสังหารเจ้าดีกว่า เจ้าเคยถ่ายทอดวรยุทธ์ให้เขาด้วยตัวเอง ให้เขาสังหารเจ้าก็นับว่าขับเน้นความสามารถของทั้งสองฝ่ายให้เด่นชัด” คนชุดม่วงยกมือขึ้น โยนดาบในมือให้หลงซือเย่ “เจ้าสำนักหลง ท่านเกลียดเขามิใช่หรือ? ท่านสามารถสังหารเขาชำระแค้นได้เลย!”

หลงซือเย่รับดาบไว้ เหลือบมองคนชุดม่วงผู้นั้นแวบหนึ่ง ทราบว่าคนผู้นี้คิดจะตัดหนทางถอยของเขา หากเขาสังหารตี้ฝูอีด้วยตัวเอง ก็มีแต่ต้องอยู่ข้างเดียวกับเขาไปตลอดชีวิต หันหลังกลับไม่ได้อีกแล้ว!

ตี้ฝูอีหรี่ตาลงจ้องมองคนชุดม่วงผู้นั้น “จวบจนยามนี้เจ้ายังไม่ยอมบอกฐานะของเจ้าอีกหรือ? กุมความได้เปรียบไว้เบ็ดเสร็จแล้วยังไม่กล้าเปิดเผยโฉมหน้าที่แท้จริงของตน ความกล้าของเจ้ามีน้อยนิดมากสินะ?”

คนชุดม่วงตัวแข็งทื่อทันที ยามนี้เขากุมความได้เปรียบไว้เบ็ดเสร็จแล้วจริงๆ อีกทั้งรอบข้างก็เต็มไปด้วยคนของเขา และศัตรูตัวฉกาจที่อยู่เบื้องหน้านี้ก็ใกล้ตายแล้ว เขาไม่มีอะไรต้องกังวลแล้วจริงๆ!

แต่ว่า…

แววตาเขาวูบไหวนิดๆ ยิ้มจางๆ สายตาของเขาร่อนลงบนดวงหน้ากู้ซีจิ่ว “ข้าและนางสมควรมาจากสถานที่แห่งเดียวกัน”

กู้ซีจิ่วตกตะลึง

“ที่แท้เจ้าเป็นใครกัน?!” เธอถาม

“ร่ำลือกันว่าวิชากู่ฝึกฝนด้วยการแกะสลักกระดูก แล้วนำไปแช่ไว้ใน…” จู่ๆ คนชุดม่วงผู้นั้นก็เอ่ยวิธีหลอมกลั่นของวิชากู่ออกมาไม่หยุด สีหน้าของกู้ซีจิ่วแปรเปลี่ยนเล็กน้อย “ปรมาจารย์กู่!”

คนผู้นี้คือปรมาจารย์เคราครึ้มผู้ลึกลับที่เคยถ่ายทอดวิชากู่ให้กู้ซีจิ่วในยุคปัจจุบันคนนั้น!

“เด็กดี หาได้ยากนักที่เจ้ายังจดจำผู้เป็นอาจารย์ได้” น้ำเสียงคนชุดม่วงผู้นั้นแหบเครือ ไม่ต่างจากเสียงปรมาจารย์กู่ผู้นั้นเลย

กู้ซีจิ่วหรี่ตาลง มิน่าล่ะเธอถึงรู้สึกค่อนข้างคุ้นเคยกับกลิ่นอายบนร่างคนผู้นี้รางๆ ที่แท้เป็นเขา! นึกไม่ถึงว่าคนผู้นี้ก็ทะลุมิติมาเหมือนกัน ซ้ำยังทะเยอทยานต้องการแทนที่ตี้ฝูอีด้วย…

คนชุดม่วงไม่คิดจะพูดไร้สาระให้มากความ เร่งรัดหลงซือเย่ “เอาล่ะ เจ้าสำนักหลง ท่านลงมือได้แล้ว!”

หลงซือเย่กวัดแกว่งดาบประหารเซียนในมือ “ได้!”

เรือนกายไหววูบ แทงดาบไปทางตี้ฝูอี!

นัยน์ตาคนชุดม่วงฉายแววตื่นเต้นยินดี มือลอบจรดนิ้วเตรียมร่ายคาถา ขอเพียงหลงซือเย่แทงดาบสังหารดวงวิญญาณของตี้ฝูอี เขาก็สามารถเข้าครองร่างของอีกฝ่ายได้ทันที สลักร่างกายนี้ทิ้ง กลายเป็นตี้ฝูอีอย่างแท้จริง…

ประกายดาบดั่งมังกรเหิน ว่องไวปานดาวตก ขณะที่กำลังจะแทงถูกตี้ฝูอีกลับหักเลี้ยวกะทันหัน!

‘สวบ!’ ดาบสีโลหิตแทงเข้าสู่ร่าง แทงเข้าที่หัวใจคนผู้หนึ่ง!

ร่างคนชุดม่วงสั่นสะท้าน มองปลายดาบที่ที่แทงทะลุอกตนอย่างไม่อยากจะเชื่อ เงยหน้ามองหลงซือเย่อย่างฉงนสนเท่ห์ “เจ้า…”

————————————————————————————-

บทที่ 834 ข้าน้อยล่วงเกินแล้ว

หลงซือเย่บิดด้ามดาบคราหนึ่ง ดาบเล่มนนั้นก็บิดไปรอบทรวงอกของคนชุดม่วงผู้นั้นเช่นกัน

คนชุดม่วงผู้นั้นเอ่ยคำนี้ได้เพียงคำเดียว ร่างกายก็ทรุดฮวบลงไป

และในยามนี้เอง อวิ๋นชิงหลัวที่อยู่ข้างกายเขาถึงได้กรีดร้องออกมา ถูกโลหิตของคนชุดม่วงผู้นั้นพุ่งกระเซ็นอาบหน้า

ในกลุ่มคนชุดเขียวเหล่านั้นก็มีมนุษย์จริงๆ อยู่ด้วย คนเหล่านี้ก็คือผู้ที่เป่าขลุ่ยพวกนั้น ควบคุมให้หุ่นตายเหล่านั้นโจมตีโดยเฉพาะ

เนื่องจากคนชุดม่วงผู้นั้นถูกจู่โจมรวดเร็วเกินไป คนชุดเขียวเหล่านั้นจึงไม่ทันมีปฏิกิริยาตอบสนองเลย!

จวบจนคนชุดม่วงผู้นั้นล้มลงไปพวกเขาถึงรู้ตัว คนเหล่านี้คิดจะเป่าขลุ่ยโลหิตในมือทันที แต่เพิ่งจะยกมือขึ้น พลันมีแสงสารพัดส่องวาบขึ้นมา บ้างก็ซ้ายบ้างก็ขวา บ้างก็หน้าบ้างก็หลังของพวกเขา…

ด้วยเหตุนี้มือหรือท่อนแขนของที่จับขลุ่ยไว้ของคนเหล่านี้พลันกระเด็นออกไปทันที!

คนเหล่านี้ตกตะลึง มองดูสหายร่วมกลุ่มที่ลอบโจมตีตนอย่างไม่อยากเชื่อ ทันใดนั้นก็พบว่าคนที่ลอบโจมตีพวกเขาไม่ใช่หุ่นตายชุดเขียวจริงๆ!

เนื่องจากคนเหล่านี้ปลดหน้ากากบนหน้าลง เผยให้เห็นโฉมหน้าจริง

พวกเขาไม่ใช่หุ่นตาย แต่เป็นยอดฝีมือผู้เลิศล้ำของสำนักศึกษาชุมนุมสวรรค์จำนวนสิบกว่าคน! กู่ฉานโม่ผู้เดือดดาลก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วย

คนเป่าขลุ่ยทั้งหมดล้วนถูกคุมตัวไว้ ไม่มีหลุดรอดไปสักคน

หัวหน้าถูกสังหาร คนเป่าขลุ่ยถูกควบคุม หุ่นตายเหล่านั้นสูญเสียผู้บงการ จึงยืนทึ่มทื่ออยู่ตรงนั้น

และในหมู่คนชุดเขียวก็มีคนอีกมากมายที่ปลดหน้ากากบนหน้าออก พวกเขาล้วนเป็นคนของสำนักศึกษาชุมนุมสวรรค์…

ชัดเจนยิ่งนัก ที่กล่าวว่าจะไปล่าสัตว์ล้วนเป็นเรื่องลวงทั้งสิ้น เป็นเพียงการหลอกให้ผู้ที่บงการอยู่เบื้องหลังระเบิดแผนการใหญ่ออกมา!

สีหน้าอวิ๋นชิงหลัวไร้สีเลือดทันที!

นางทราบว่านางติดกับเสียแล้ว!

นี่คือกับดักของตี้ฝูอี! ทั้งหมดเป็นกับดัก!

หัวใจนางหนาวเหน็บ ขาอ่อนยวบ คุกเข่าลงไป…

ดวงตานางมองตี้ฝูอีที่อยู่ตรงหน้า ริมฝีปากสั่นระริก “ท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย ชิงหลัว…ชิงหลัวถูกบังคับ…”

คนชุดเขียวทั้งสองที่จับตัวตี้ฝูอีไว้ในตอนแรกก็ปลดหน้ากากออกเช่นกัน เป็นมู่เฟิงกับมู่เตี่ยน

พวกเขาค้อมตัวทำความเคารพตี้ฝูอีพร้อมกัน “นายท่าน! ข้าน้อยล่วงเกินแล้ว”

ตี้ฝูอีสะบัดมือผ่านร่างแวบหนึ่ง โลหิตที่เดิมทีอาบย้อมอยู่ทั่วร่างหายไปอย่างไร้ร่องรอยทันที เขาถือโอกาสโยนถุงเลือดหลายใบทิ้งด้วย ทำให้ร่างกายสะอาดเอี่ยมอ่องอีกครั้งราวกับเพิ่งผลัดเสื้อผ้ามา

เขาเหลือบมองอวิ๋นชิงหลัวแวบหนึ่ง แววตาเยียบเย็นดั่งสายน้ำ สั่งเพียงประโยคเดียว “จับกุมนาง!”

ผู้อาวุโสหน่วยลงทัณฑ์ของสำนักศึกษาชุมนุมสวรรค์เข้ามาคุมตัวอวิ๋นชิงหลัวไว้ อวิ๋นชิงหลัวก็ไม่กล้าขัดขืนเช่นกัน…

วิกฤตใหญ่หลวงจึงสลายไปด้วยประการฉะนี้

เดิมทีควรเป็นศึกที่ดุเดือดฉากหนึ่ง แต่เป็นเพราะอุบายผนวกด้วยกับดัก จึงจับตายตัวหัวหน้า จับกุมตัวผู้สมรู้ร่วมคิดได้ แผนนี้ของตี้ฝูอีแทบไม่ต้องเสียเลือดเสียเนื้อเลย ไม่มีไพร่พลได้รับบาดเจ็บเลยสักคน

แม้แต่มู่อวิ๋นที่ถูกคนชุดเขียวซัดตกน้ำก็ปรากฏตัวขึ้นท่ามกลางคนชุดเขียวมี่อยู่ด้านหลังของตี้ฝูอี ชัดเจนยิ่งนัก ว่าหลังจากเขาตกน้ำไป ก็หลบหนีไปทางน้ำตามที่จัดเตรียมไว้ล่วงหน้า จากนั้นก็ปลอมตัวเป็นคนชุดเขียวไปอยู่กับสหาย…

หนนี้คนชุดม่วงผู้นั้นพากองกำลังชุดเขียวมาด้วยนับพัน ตัวเขาเองก็นับไม่ถ้วนเช่นกัน อีกทั้งคนชุดเขียวเหล่าก็แยกกันเข้ามาเป็นกลุ่ม จากนั้นหุ่นตายชุดเขียวสิบกว่าตนก็ถูกยอดฝีมืออย่างพวกกู่ฉานโม่ที่ดักซุ่มอยู่ตับกุมไว้ แล้วถูกลอกคราบ ด้วยเหตุนี้พวกกู่ฉานโม่จึงสวมรอยเป็นคนชุดเขียวแล้วบุกเข้ามาพร้อมกัน

วรยุทธ์ของพวกเขาทุกคนล้ำเลิศยิ่ง แทรกซึมอยู่ในกลุ่มคนชุดเขียว ค้นหาคนชุดเขียวผู้เป่าขลุ่ยที่ปะปนอยู่ในหมู่หุ่นตายได้ว่องไวยิ่ง จากนั้นก็เข้าประชิดอย่างเงียบๆ…

การลงมือของหลงซือเย่คือสัญญาณลับอย่างหนึ่ง