เมื่อดวงอาทิตย์โผล่พ้นขอบฟ้า หลินมู่อวี่ต้องรีบกลับไปที่กองบัญชาการของสำนักอัศวินให้เร็วที่สุด มิฉะนั้นหากถูกจับได้เขาคงจะไม่สามารถพูดอะไรได้…หลินมู่อวี่มั่นใจอย่างมากว่าจะไม่มีใครตรวจสอบเรื่องที่เขาส่งสาวใช้ทั้งสามออกไปเพราะอย่างไรจีหยางก็ยังต้องการความแข็งแกร่งของตน มิเช่นนั้นคงถูกจัดการตั้งแต่ตนลงมือฆ่าฉือไห่แล้วแน่นอน
ม้าวิ่งตรงไปยังกองบัญชาการอย่างไม่หยุดพัก ทว่าเมื่อมาถึงเนินเขาหลินมู่อวี่ก็สังเกตเห็นคนกลุ่มหนึ่งกำลังส่งเสียงดังโวยวายมาแต่ไกล เขาเร่งรุดเข้าไปก่อนจะพบภาพอันน่ากลัว…
รอบบริเวณป่าไม้แห้งกรังมีคนถูกแขวนคออยู่กับกิ่งไม้พร้อมกับลูกศรสองดอกปักอยู่ที่อกจนเลือดไหลเป็นทาง เสื้อรอบหน้าอกฉีกขาด ทั้งยังมีแร้งสองตัวเกาะอยู่บนไหล่คอยจิกกินเนื้อสด ร่างกายของชายผู้นั้นสั่นสะท้านด้วยความเจ็บปวดทุกครั้งที่ถูกนกแร้งรุมจิก
หลินมู่อวี่มองสำรวจรองเท้าอย่างละเอียดและพบว่ามีอักขระ ‘ความชอบธรรม’ เล็กๆ สลักอยู่ ซึ่งดูคุ้นตาอย่างมาก…นั่นคือหลัวอวี่!
“หลัวอวี่!”
หลินมู่อวี่เร่งควบม้าไปอย่างรวดเร็วก่อนจะจากหลังม้า ปล่อยฝ่ามือที่รวบรวมปราณยุทธ์ซัดแร้งออกไป หลินมู่อวี่ใช้วิญญาณยุทธ์น้ำเต้าสร้างเถาวัลย์ให้ยึดหลัวอวี่พลางชักกระบี่เหลียวหยวนออกมาจากฝักเพื่อตัดเชือก เถาวัลย์น้ำเต้าค่อยๆ นำหลัวอวี่ลงมาจากหน้าผา
“อะ…อั่ก…”
หลัวอวี่อ่อนแรงอย่างมาก เขาหรี่ตามองเห็นแสงแดดที่สาดส่องและใบหน้าโกรธเกรี้ยวของหลินมู่อวี่ราวกับมองเห็นความหวัง “ท่านหลินหยาน ท่าน…ท่านกลับมาแล้ว…”
“เกิดอะไรขึ้น?!”
หลินมู่อวี่มองไปรอบๆ อย่างเย็นชาพร้อมคำราม “เกิดอะไรขึ้นที่นี่?! ผู้ใดทำให้หลัวอวี่อยู่ในสภาพเช่นนี้?! บอกข้ามา!”
เหล่าทหารต่างพากันปิดปากเงียบ มีเพียงทหารเหรียญทองที่ถือดาบก้าวออกมาด้านหน้าก่อนเอ่ยเบาๆ “ท่านหลินหยาน ท่านราชทูตหลัวอวี่แอบขโมยเหรียญเพชรหนึ่งร้อยสี่สิบเหรียญจากภูเขาทางเหนือซึ่งเรื่องนี้ได้รับการยืนยันจากท่านราชฑูตใหญ่ เป็นเหตุให้ท่านหลัวอวี่ถูกยึดตำแหน่งและถูกขับไล่ออกจากสำนักขอรับ ท่านราชฑูตใหญ่ออกคำสั่งให้แขวนคอท่านหลัวอวี่บนหน้าผาให้แร้งจิกกิน ข้าขอแนะนำให้ท่านวางเขาลง เพราะมันคือการลงโทษทางวินัยและห้ามใครฝ่าฝืน…แม้จะเป็นท่านขอรับ”
เห็นได้ชัดว่าทหารเหรียญทองคนนี้อยู่ฝ่ายจีหยาง มิเช่นนั้นเขาคงไม่คิดเป็นศัตรูกับหลินมู่อวี่
หลินมู่อวี่มองหลัวอวี่ที่อ่อนแรงและเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส เขาเป็นเพียงผู้เดียวในสำนักอัศวินที่มีจิตสำนึก ทว่าน่าเสียดายที่ต้องมาจบชีวิตลงด้วยชะตากรรมเช่นนี้ หากตริตรองดูแล้ว…เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับหลินมู่อวี่ หากตนไม่พูดเรื่องการยักยอกเหรียญเพชรสองร้อยสี่สิบแปดเหรียญให้หลัวอวี่ฟัง เขาคงไม่ตกอยู่ในสภาพเช่นนี้
“ไม่…”
หลินมู่อวี่ส่ายหัวเบาๆ พร้อมถอดเสื้อคลุมออกมาห่มให้หลัวอวี่ พลันกล่าวกับทหารเหรียญทองผู้นั้น “ไม่ว่าอย่างไรข้าจะปกป้องหลัวอวี่! นี่คือสิ่งที่ข้าควรทำในฐานะสหาย!”
ทหารเหรียญทองพูดเสียงอย่างเย็นชา “อย่างนั้นรึ? ท่านหลินหยานกำลังจะได้เลื่อนตำแหน่งเป็นราชทูตในอีกสามวันนี้ เหตุใดท่านถึงยอมเสียสละมันเพื่อคนทรยศอย่างหลัวอวี่เล่า?”
หลินมู่อวี่หัวเราะลั่นพร้อมกับปล่อยปราณยุทธ์ห่อหุ้มร่างกาย รังสีของยอดฝีมือขอบเขตนภาแผ่กระจายไปทั่ว ในแววตาเต็มไปด้วยความอาฆาตขณะกล่าวด้วยเสียงทุ้ม “หลัวอวี่มิได้ทรยศผู้ใด! เชื่อข้าสิ! เขามิได้ทรยศ!”
กลุ่มทหารเหรียญทองและทหารเหรียญโลหะต่างตกตะลึง ไม่มีผู้ใดคาดคิดว่าหลินมู่อวี่จะมีพลังถึงเพียงนี้ ดวงตาคู่นั้นมองข้ามทุกสิ่งราวกับมันไม่ได้อยู่ในสายตาตั้งแต่แรก ด้วยขอบเขตพลังของหลินมู่อวี่ทำให้คนเสแสร้งเหล่านี้รู้สึกไร้ค่าราวกับมดตัวน้อย หรืออาจยิ่งกว่านั้นเสียด้วยซ้ำ…
“หลินหยาน…”
หลัวอวี่กระเสือกกระสนเอื้อมมือไปจับเกราะที่ข้อมือของหลินมู่อวี่พลางเอ่ย “เจ้าต้องระวังตัวให้ดี…”
หลินมู่อวี่เข้าใจสิ่งที่หลัวอวี่ต้องการสื่ออย่างชัดเจน หลัวอวี่ถูกลงโทษเพราะขโมยเหรียญเพชร ทว่าตนก็มีส่วนเช่นเดียวกัน หากพูดถึงความผิดเขาเองก็ไม่ได้น้อยไปกว่าหลัวอวี่เลย…
หลินมู่อวี่พยุงหลัวอวี่ขึ้นหลังม้าและมุ่งหน้าไปยังกองบัญชาการ ม้าตัวนี้เป็นม้าที่แข็งแรง หลังจากวิ่งอย่างเหนื่อยหอบมาทั้งคืน ทั้งตอนนี้ยังต้องแบกถึงสองคนขึ้นเขาซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
“ท่านทหารเหรียญทองหลินหยานกลับมาแล้ว!” ในลานกว้างหน้ากองบัญชาการมีคนตะโกนรายงานอยู่
เมื่อมองจากระยะไกลบัลลังก์ของท่านราชฑูตใหญ่ถูกย้ายออกมาด้านนอกรายล้อมไปด้วยทหารชำนาญการระดับสูง จีหยางหรี่ตามองหลินมู่อวี่จากบนบัลลังก์โดยมีหลี่เฉียนซุนนั่งอยู่ด้านข้างมองทั้งคู่ด้วยรอยยิ้มอันเย็นชา
“ข้ากำลังรออยู่เชียว!”
หลินมู่อวี่พยุงหลัวอวี่ลงจากหลังม้าแล้วเดินเข้าไปอย่างช้าๆ ก่อนจะวางหลัวอวี่นั่งลงแล้วพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาพร้อมประสานมือทำความเคารพ “ท่านราชทูตใหญ่ขอรับ…หลินหยานขอให้ท่านไว้ชีวิตหลัวอวี่ได้ไหมขอรับ?”
“เช่นนั้นรึ?”
จีหยางลืมตามองหลินมู่อวี่ด้วยรอยยิ้มเย็นชา ดวงตาคู่นั้นคล้ายกับว่ามันสามารถมองทะลุร่างเขาได้ทำให้หลินมู่อวี่ไม่สามารถหยุดหัวใจให้สั่นได้ ไม่…จีหยางแข็งแกร่งกว่าเขาดังนั้นจึงไม่สามารถปล่อยทักษะชีพจรวิญญาณและทำให้จิตใจสงบลงได้ในทันที หลินมู่อวี่กล่าวต่อขณะประสานมือ “ผู้ใต้บังคับบัญชาและหลัวอวี่เป็นสหายที่ดีต่อกัน เนื่องจากหลัวอวี่ทำผิดพลาดไปแล้ว ผู้ใต้บังคับบัญชาขอแบกรับมันไว้ ข้าขอให้ท่านราชฑูตใหญ่ถอนตำสั่งและไว้ชีวิตหลัวอวี่ด้วยเถิด?”
“ไว้ชีวิตหลัวอวี่อย่างนั้นหรือ?”
ทันใดนั้นจีหยางก็ตบฝ่ามือบนโต๊ะและโต๊ะตัวนั้นพลันกลายเป็นเศษเล็กเศษน้อย ใบหน้าเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยวขณะยืนขึ้นพร้อมปราณยุทธ์แข็งแกร่งไหลเวียนอยู่รอบๆ ร่างกาย ปราณยุทธ์นี้แข็งแกร่งกว่าหลินมูอวี่มาก มันคือขอบเขตนภาขั้นที่สอง! จีหยางกล่าวอย่างเย็นชาโดยไม่ปิดบังความโกรธ “หลัวอวี่ขโมยหนึ่งแสนหนึ่งหมื่นเหรียญทอง เขาทำสิ่งที่น่ารังเกียจเช่นนี้ในฐานะราชทูต หลินหยาน…จงตอบข้ามา ทำไมข้าถึงต้องไว้ชีวิตหลัวอวี่?”
ดวงตาของหลินมู่อวี่ฉายความแน่วแน่พร้อมมองไปยังจีหยาง อย่างไม่ยอมจำนนต่อปราณยุทธ์พลางกล่าว “โปรดบอกข้าเถิดท่านราชทูตใหญ่ ข้าต้องทำอย่างไรท่านถึงจะไว้ชีวิตหลัวอวี่? ข้าจะทำตามที่ท่านต้องการ!”
“เยี่ยมมาก!”
จีหยางหัวเราะเบาๆ และพูดว่า “ข้าจะไว้ชีวิตหลัวอวี่ ทว่าชีวิตของเจ้าจะต้องเป็นของข้าแทน เป็นอย่างไรเล่า?”
“ได้ขอรับ!” หลินมูอวี่กำหมัดแน่นและเริ่มสั่นเทาเล็กน้อย
“เยี่ยมมาก!”
จีหยางหัวเราะพลางกล่าว “คนผู้นี้จะประกาศว่าท่านหลินหยานจะได้รับการเลื่อนตำแหน่งอย่างเป็นทางการและเป็นหนึ่งในสองราชทูต เราจะเปิดแท่นบูชาในยามบ่ายและกล่าวคำปฏิญาณโลหิต!”
“คำปฏิญาณโลหิตหรือ?” หลินมู่อวี่ตกตะลึง
หลัวอวี่ที่นั่งอยู่ด้านข้างส่ายหัวอย่างช้าๆ “เหลียนเหยียน อย่า…”
“ไม่เป็นไร”
หลินมู่อวี่พยักหน้าและกล่าวอย่างชัดเจนว่า “ทุกอย่างจะเป็นไปตามความปรารถนาของท่านทูต”
“ดี!”
หลินมู่อวี่พยุงหลัวอวี่ไปด้านข้างพลางดึงขวดยารักษาบาดแผลออกมา หลัวอวี่เผยสีหน้าเจ็บปวดพลางเอ่ย “หลินหยาน เจ้าไม่ควรเห็นด้วยกับคำปฏิญาณโลหิตของพวกเขาเลยจริงๆ”
“เพราะเหตุใดเล่า?”
“เพราะว่า…” ลั่วอวี่เผยสีหน้าเจ็บปวดและพูดว่า “เมืองหลิงหนานเป็นดินแดนวีรบุรุษ จีหยางมาเมืองนี้และนับถือนิกายในเมืองหลิงหนานที่เรียกว่า ‘นิกายหมอผี’ ผู้คนที่นั่นฝึกฝนมนต์คาถาและหลี่เฉียนซุนก็เป็นหนึ่งในยอดฝีมือในการใช้มนต์คาถา เลือดของเขาเต็มไปด้วยพิษของแมลงชนิดหนึ่ง เมื่อดื่มมันเข้าไปเจ้าจะถูกวางยาและจะไม่มีอิสระใดๆ ข้าอยู่ในกองบัญชาการมาหลายปีและหลีกเลี่ยงคำปฏิญาณโลหิตมาตลอด เจ้า…เจ้าจะทำอย่างไรต่อไป?”
“มนต์คาถาหรือ…”
หลินมู่อวี่ครุ่นคิดชั่วครู่แล้วกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ปล่อยวางเถอะ ข้ามิเป็นอะไร”
เมื่อพูดเช่นนั้นหลินมู่อวี่ก็มองไปยังถุงสรรพสิ่งพลางถอนหายใจ มันเป็นเรื่องดีที่เขายังคงมีโอสถเทพประสานอยู่สองขวด ตราบใดที่ดื่มมันร่างกายของเขาจะมีภูมิต้านทานเพิ่มขึ้น มันจึงไม่สำคัญหากดื่มยาพิษของแมลงเข้าไป ดังนั้นในขณะที่ทุกคนไม่ได้ให้ความสนใจ เขาก็จะแอบดื่มโอสถเทพประสานไปหนึ่งขวด
หลินมู่อวี่ภาคภูมิใจเล็กน้อยหลังจากดื่มมัน ‘เจ้ามีมนต์คาถา ทว่าข้ามีทักษะระดับเทพโอสถ ใครจะต้องกลัวใครกันแน่?’
ในยามบ่าย…ถังขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยสุราวางอยู่บนแท่นสูงนอกกองบัญชาการ จีหยางยืนอยู่ด้านหน้าบรรดาราชทูต ทหารเหรียญทอง และทหารเหรียญโลหะ กำลังกล่าวคำปฏิญาณโลหิต จีหยางก้าวไปด้านหน้าพลางกัดนิ้วกลางแล้วหยดเลือดลงในถัง
หลี่เฉียนซุนมีสีหน้าสงสัย อยากยิ้มแต่ต้องกลั้นเอาไว้ เมื่อเขากัดนิ้วเลือดสีแดงเข้มก็หยดลงในสุรา ทว่าทหารเหรียญทองและทหารเหรียญโลหะไม่ได้สนใจ อาจเป็นเพราะพวกเขาได้รับตำแหน่งที่ต่ำเกินไปและไม่รู้ควมลับเกี่ยวกับทักษะมนต์คาถาของหลี่เฉียนซุน
“ท่านหลินหยาน ถึงคราวท่านแล้ว” หลี่เฉียนซุนผายมือออกเป็นสัญญาณ
หลินมู่อวี่ก้าวไปด้านหน้าทันทีพร้อมกัดนิ้วกลางของตน ทว่ากัดไม่เข้า…หลินมู่อวี่จึงตัดสินใจหยิบกระบี่เหลียวหยวนออกมาเพื่อเฉือนนิ้วมือแล้วปล่อยให้เลือดไหลลงไปในสุรา
จากนั้นทหารเหรียญทองและทหารเหรียญเงินทุกคนก็หยดเลือดลงไปในสุรา
หลินมู่อวี่เห็นสิ่งนี้จึงแอบถอนหายใจหวังว่าโอสถเทพประสานจะได้ผล มิเช่นนั้นคนเหล่านี้…‘ให้ตายเถอะ! ทหารพวกนี้เข้าหอนางโลม กินและดื่มทุกสิ่งทุกอย่าง พวกมันอาจเป็นโรคไวรัสตับอักเสบบี ซิฟิลิส หนองใน โรคเอดส์และโรคอื่นๆ ก็ได้! ถ้าหากจะต้องดื่มเหล้านี้เข้าไปข้าคงติดโรคเฮงซวยนี้แน่ๆ!’
“ท่านราชทูตหลินหยาน โปรดดื่มหมดจอกขอรับ!” ทหารผู้ที่มีเคราเต็มหน้ายื่นจอกสุราผสมเลือดไปด้านหน้าหลินมู่อวี่และพูดด้วยท่าทางองอาจ
หลินมู่อวี่เงยหน้าขึ้นแล้วพบว่าหลี่เฉียนซุนและจีหยางกำลังมองมาทางเขา
“ลืมเสียเถิด คิดเสียว่ามันคือโชคชะตา…”
หลินมู่อวี่ยกจอกสุราขึ้นและดื่มมันลงไปขณะน้ำตาคลออยู่ที่เบ้าตา กลิ่นหอมและรสเผ็ดแล่นผ่านลำคอพลางทุบจอกสุราขณะกล่าว “สุราดี!”
จีหยางและหลี่เฉียนซุนดื่ม ‘สุราอาบยาพิษ’ พร้อมหัวเราะ ทว่าเขาคงดื่มยาแก้พิษลงไปก่อนหน้านั้นแล้ว มิฉะนั้นเขาจะไม่สามารถควบคุมหลี่เฉียนซุนได้
เมื่อผ่านไปหลายนาทีหลินมู่อวี่ก็รู้สึกแปลกๆ บริเวณหน้าท้อง เขารู้ทันทีว่านี่คือผลจากยาพิษ โอสถเทพประสานหมดฤทธิ์และไม่อาจต่อต้านยาพิษนี้อย่างนั้นรึ? หลินมู่อวี่อดไม่ได้ที่จะกังวล
“ไอ้สารเลว…แกถูกวางยา! จะทำอย่างไรต่อไปได้ล่ะ?!”
เสียงราชาปีศาจเจ็ดประทีปดังขึ้นในทะเลจิต เขาเป็นคนที่เข้าใจสภาพร่างกายของหลินมู่อวี่ที่สุดและรู้สึกถึงพิษได้ทันที
“เจ้าจะช่วยข้าหรือไม่เล่า…” หลินมู่อวี่พูดผ่านฌานสัมผัสด้วยรอยยิ้ม
ราชาปีศาจเจ็ดประทีปแค่นเสียง
ไม่นานเขาก็รู้สึกเย็นยะเยือกจากภายในร่างกาย ขณะที่ราชาปีศาจเจ็ดประทีปกำลังกลืนพิษเข้าไป หลินมู่อวี่อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจอย่างเงียบๆ ‘ให้ตายเถอะ! บางครั้งการมีราชาปีศาจอยู่ในร่างกายก็มีประโยชน์’
…………………….