ตอนที่ 407 เธอออกหน้าอยู่คนเดียว / ตอนที่ 408 ของพวกนี้เคยเป็นของฉัน!

หวานรักจับหัวใจท่านประธาน

ตอนที่ 407 เธอออกหน้าอยู่คนเดียว

 

 

ไม่ต้องขอบคุณหรอก นี่เพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้น

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่กวาดสายตามองสัญญาตรงหน้า เพื่อตรวจสอบรายชื่อลูกค้าสำคัญอีกครั้ง

 

 

เธอครุ่นคิดอยู่นานทีเดียว

 

 

“ตอนนี้เป็นช่วงปลายปีพอดี ฉันจำได้ว่าบริษัทตระกูลอวี๋มีลูกค้าที่ทำสัญญากันระยะยาวอยู่ และมีการคืนกำไรในช่วงปลายปีด้วยใช่ไหมคะ”

 

 

เลขาตะลึงไป ก่อนจะรีบตอบ “ใช่ค่ะ แต่ถ้าคำนวณจากเวลาแล้ว น่าจะภายในสองสามวันนี้นะคะ”

 

 

เมื่อเลขารายงานจบ เธอก็มองเหนียนเสี่ยวมู่ด้วยความสงสัย

 

 

ถ้าว่ากันตามหลักแล้ว เรื่องการคืนกำไรไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรกับพวกเขา

 

 

ฝ่ายการเงินของบริษัทตระกูลอวี๋จะสะสางบัญชีในช่วงปลายปีของทุกปี จากนั้นจะโอนเงินคืนกำไรไปยังบัญชีลูกค้าที่ทำสัญญาร่วมกันโดยตรง

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่จัดเตรียมงานเรียบร้อย ครั้นเห็นเลขาออกไปแล้ว เธอก็ยันโต๊ะทำงานลุกขึ้นทันที

 

 

จากนั้นก็เดินไปนอนลงบนโซฟาด้านหน้า

 

 

เธอยื่นมือไปนดเอวที่เมื่อยล้าของตัวเอง อดไม่ได้ที่จะต่อว่าอยู่ในใจหลายครั้ง

 

 

ทันใดนั้น โทรศัพท์มือถือของเธอส่งเสียงดังขึ้น เธอจึงกดรับตามสัญชาตญาณ

 

 

เสียงทุ้มต่ำเซ็กซี่ของใครบางคนดังมาจากปลายสายอย่างช้าๆ “ตอนกลางวันจะมากินข้าวที่ห้องทำงานของผมหรือเปล่า จะได้พักกลางวันด้วยกัน”

 

 

ถุยๆ!

 

 

มีแต่ผีนั่นแหละที่เชื่อคำพูดของเขา!

 

 

ถ้าเธอไปจริงๆ ตอนบ่ายวันนี้อย่าได้คิดที่จะออกจากห้องทำงานของเขาด้วยสภาพดีๆ เลย

 

 

“ตอนบ่ายฉันนัดกินข้าวกับลูกค้า ตอนนี้กำลังยุ่งอยู่ แล้วก็เย็นนี้ฉันไม่ว่างนะ คุณไม่ต้องรอฉันหรอก” เหนียนเสี่ยวมู่พูดรวดเดียวจบ แล้วก็วางสายไป

 

 

จากนั้นเธอก็โยนโทรศัพท์มือถือลงบนโต๊ะน้ำชา ก่อนจะยืดเอวอย่างยากลำบาก

 

 

หลังจากเห็นอวี๋เยว่หานติดกับ เธอถึงจะถอนหายใจด้วยความโล่งอกได้

 

 

หญิงสาวนอนอยู่ครู่หนึ่ง แล้วลุกขึ้นจัดการงาน

 

 

เลขาจัดการงานได้ดีมาก ไม่นานก็นัดลูกค้าคนสำคัญของแผนกประชาสัมพันธ์ได้เรียบร้อย

 

 

นอกจากลูกค้าสองสามคนที่ออกไปทำงานที่ต่างเมือง เลขาก็นัดได้เกือบทุกคน

 

 

“ประธานฟาง ประธานหลี่ แล้วก็ประธานหลี่อีกคน…สามคนนี้ยังไม่เคยเจอผู้จัดการเหนียนมาก่อน จึงอาจจะสงสัยในตัวคุณอยู่บ้าง ส่วนประธานอาวุโสคนอื่นๆ เคยเจอกันอยู่สองสามครั้ง บางคนเพิ่งเคยเจอคุณแค่ครั้งเดียวค่ะ…” เลขามองรายชื่อ พลางกล่าวเตือนเหนียนเสี่ยวมู่

 

 

เมื่อคำนวณดูแล้ว นี่เป็นการประชุมปรึกษาหารือ และได้เจอกับลูกค้าคนสำคัญมากมายแบบนี้เป็นครั้งแรก หลังจากเหนียนเสี่ยวมู่ได้รับช่วงต่อแผนกประชาสัมพันธ์

 

 

นี่ก็เป็นเหตุผลที่เหนียนเสี่ยวมู่ตั้งใจจัดงานเลี้ยงครั้งนี้

 

 

เธอเพิ่งรับช่วงต่อแผนกประชาสัมพันธ์ ลูค้าคนสำคัญที่ทำสัญญาระยะยาวกับบริษัทตระกูลอวี๋หลายๆ คนไม่คุ้นเคยกับเธอ จึงอาจจะมีความสงสัยต่างๆ นานาได้

 

 

แต่จะทำให้ทุกคนเชื่อฝีมือเธอ วางใจมอบหมายงานร่วมมือหลังจากนี้ให้เธอหรือไม่นั้น เรื่องนี้สิสำคัญ!

 

 

“จริงสิ ผู้จัดการเหนียนคะ ต้องบอกเรื่องนี้กับท่านประธานไหมคะ” เลขานึกอะไรขึ้นได้ จึงเอ่ยปากถามในทันที

 

 

ถ้าอวี๋เยว่หานยื่นมือเข้ามาช่วยเรื่องงานเลี้ยงได้ เธอต้องได้ความดีความชอบมากขึ้นเป็นเท่าตัว!

 

 

หลังจากได้ยินดังนั้น เหนียนเสี่ยวมู่ก็ตาเป็นประกาย

 

 

เธอไม่ได้บอกกับอวี๋เยว่หาน แต่ให้เลขาทำตามแผน เตรียมการไปปกติ

 

 

เมื่อถึงเวลานัด ทางฝั่งประธานบริษัทก็จะไม่ผิดคำพูด

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ไม่ได้รออีกต่อไป เธอกำชับให้เลขาเตรียมเอกสารให้เรียบร้อย ก่อนจะออกจากบริษัทไป

 

 

 

 

ตอนที่ 408 ของพวกนี้เคยเป็นของฉัน!

 

 

สถานที่ที่เชิญลูกค้ามานั้น เป็นคลับหรูหราแห่งหนึ่ง

 

 

เลขาจัดเตรียสห้องส่วนตัวสำหรับรับประทานอาหารไว้เรียบร้อยแล้ว

 

 

พร้อมทั้งสั่งอาหารและเครื่องดื่มตามความชอบของลูกค้าแต่ละคนด้วย

 

 

ถึงแม้จะมีการคุกคามจากบริษัทตระกูลฟ่าน แต่ทุกคนก็ไม่ได้กังขาในอำนาจของบริษัทตระกูลอวี๋เลยแม้แต่น้อย

 

 

“ผมได้ยินมานานแล้ว ว่าผู้จัดการเหนียนเป็นสาวสวย พอได้เห็นในวันนี้ ถึงได้รู้ว่าข่าวลือนั้นเป็นความจริง ผมขอดื่มให้คุณหนึ่งแก้ว!” ประธานฟาง ผู้ที่ไม่เคยเจอเหนียนเสี่ยวมู่ยกแก้วไวน์แดงขึ้น แล้วพยักเพยิดไปทางเหนียนเสี่ยวมู่

 

 

ฝ่ายหญิงสาวรีบยกแก้วน้ำชาของตัวเอง ก่อนจะชนแก้วกับเขา

 

 

ขณะเดียวกันก็เอ่ยอธิบายว่า “ฉันแพ้แอลกอฮอล์ง่าย ขอโทษทุกท่านด้วยนะคะ ที่ทำได้แค่ดื่มน้ำชาแทนไวน์ หวังว่าประธานฟางและทุกท่านในที่นี่จะไม่ถือสา ฉันขอทำโทษตัวเองโดยการดื่มสามแก้วค่ะ!”

 

 

ท่าทางสดใสของเธอดึงดูดเสียงหัวเราะได้ระลอกหนึ่ง

 

 

หากไม่ยอมดื่มเหล้าขณะที่กำลังเจรจาธุรกิจ จะทำให้ลูกค้าไม่พอใจได้ง่ายมาก

 

 

เอาแต่เลี่ยงอยู่ตลอดคงไม่ดี สู่เอ่ยปากยอมรับบทลงโทษด้วยความเบิกบานใจดีกว่า

 

 

เพราะทำแบบนั้นกลับไม่มีใครนำมาใส่ใจ

 

 

หลังจากเหนียนเสี่ยวมู่ดื่มเสร็จ เธอก็นั่งลงบนที่นั่งของตัวเองอีกครั้ง

 

 

เธอศึกษาความชอบของลูกค้าทุกคนไว้แล้ว จึงสามารถหาเรื่องที่ทุกคนสามารถพูดคุยร่วมกันได้ พร้อมทั้งกินอาหารไปด้วย

 

 

เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจระหว่างกันและกัน

 

 

เลขานั่งอยู่ข้างๆ เธอ เดิมทีเหนียนเสี่ยวมู่ต้องการนัดเจอลูกค้าคนสำคัญในเวลาเดียวกันให้มากกว่านี้ แต่ก็กังวลว่าเธอจะรับมือไม่ไหวอยู่บ้าง

 

 

ทว่าเมื่อดูจากท่าทางไม่รีบร้อนของเธอ รวมถึงวิธีการพูดอย่างได้จังหวะเวลาแล้ว ก็นับว่าเธอวางใจลงได้มากทีเดียว

 

 

ในที่สุดเธอก็พบว่า ที่เหนียนเสี่ยวมู่อยากนัดลูกค้าให้มากินข้าวด้วยกันมากมายขนาดนั้น ไม่ใช่เพราะหญิงสาวสนใจธุรกิจเพียงชั่วขณะ แต่เป็นการทำการบ้านมาอย่างเต็มที่แล้ว

 

 

ข้อมูลของลูกค้าแต่ละคนนั้น เหนียนเสี่ยวมู่จำได้ขึ้นใจทั้งหมด

 

 

หัวข้อเรื่องที่ดึงมาพูดคุยกันก็ดึงดูดเสียงสนับสนุนจากเหล่าลูกค้าทุกคนได้ด้วย

 

 

ระหว่างที่กำลังดื่มไวน์นั้น ทุกคนต่างก็มีความสุขมาก

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่จำคำสั่งของอวี๋เยว่หานได้ขึ้นใน จึงไม่แตะต้องแอลกอฮอล์ในสถานที่ที่ไม่มีเขาอยู่ด้วย

 

 

ทว่าการดื่มชามากจนเกินไปทำให้เธออยากไปเข้าห้องน้ำอยู่ตลอด

 

 

ดีที่มีลูกค้าอยู่ในห้องอาหารของพวกเขา เธอจึงออกไปเข้าห้องน้ำด้านนอก

 

 

ขณะเพิ่งเดินออกไปนั้น หญิงสาวชนกับใครบางคนเข้า

 

 

ทำให้เธอต้องชะงักฝีเท้าไปเล็กน้อย

 

 

ตอนที่กำลังจะขอโทษอีกฝ่าย เหนียนเสี่ยวมู่เห็นว่าคนตรงหน้าคือเหวินหย่าไต้ จึงหรี่ตาลงทันที

 

 

“เธออีกแล้วเหรอ” เหวินหย่าไต้ก็เห็นเหนียนเสี่ยวมู่แล้วเช่นกัน ทำเอาเธอหน้าถอดสีไปในทันใด

 

 

หญิงสาวกอดอก พลางหันหน้าไปมองรอบข้าง เมื่อแน่ใจแล้วว่าอวี๋เยว่หานไม่อยู่ด้วย เธอก็เชิดหน้าขึ้นอย่างทะนงตน “เหนียนเสี่ยวมู่ อย่าคิดว่าตอนนี้เธอกลายเป็นผู้จัดการของแผนกประชาสัมพันธ์แล้ว ชิงตำแหน่งของฉันไปแล้วจะมีแต่คนสนใจนะ!”

 

 

“ขอโทษนะคะ ฉันไม่ระวังเลยชนคุณเข้า ถ้าไม่มีธุระอื่นแล้ว ฉันจะไปเข้าห้องน้ำค่ะ” วันนี้เหนียนเสี่ยวมู่มากินข้าวกับบรรดาลูกค้า ไม่มีกะใจจะวุ่นวายกับอีกฝ่ายหรอก

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่พูดจบอย่างราบเรียบ ก่อนจะเดินผ่านเหวินหย่าไต้ และตรงเข้าไปในห้องน้ำ

 

 

ฝ่ายเหวินหย่าไต้ถูกมองข้าม สีหน้าของเธอก็ยิ่งไม่น่ามอง

 

 

ที่น่าโมโหที่สุด ก็คือท่าทางของเหนียนเสี่ยวมู่นั่นแหละ

 

 

เธอเทียบอะไรไม่ติดโดยสิ้นเชิง ทั้งๆ ที่เหนียนเสี่ยวมู่ยังไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้น

 

 

แถมยังบอกว่าไม่ได้ตั้งใจอีก เหนียนเสี่ยวมู่กำลังถากถางเธออยู่สินะ!

 

 

เหวินหย่าไต้ยืนอยู่ที่เดิมด้วยความโมโห แต่เมื่อนึกได้ว่าเธอเป็นคุณหนูของตระกูลเหวินที่ใหญ่โต แล้วตอนนี้ต้องกินข้าวกับคนแก่ชีกอเพื่อเจรจาธุรกิจ เธอก็ไม่ใส่ใจอะไรอีก

 

 

แต่เหนียนเสี่ยวมู่ล่ะ

 

 

แค่พยาบาลรับจ้างคนเดียว ตอนนี้กลับกลายมาเป็นผู้จัดการแผนกประชาสัมพันธ์ที่มีชื่อเสียงของบริษัทไปได้

 

 

แถมยังเดินเข้ามาในคลับหรูหราแบบนี้อย่างเปิดเผยอีก

 

 

ของพวกนี้มันเคยเป็นของฉัน!