เงาคนร่วงลงมาตามสายลม เป็นหญิงสาม ชายสาม ทั้งหมดหกคน

นำมาด้วย ผู้ชายหน้าตาน่ามองคนหนึ่ง อายุประมาณสามสิบปี ร่างสูงโปร่ง มีกระบี่เล่มหนึ่งตรงเอว มือซ้ายสวมแหวนเงินวงหนึ่ง

ชายหญิงที่อยู่ด้านหลังผู้ชาย ล้วนสวมเสื้อราคาแพง ท่าทางสูงส่ง ลู่ฝานเห็นว่าในนั้นมีคนคุ้นเคย เป็นผู้หญิงที่ยืนหลังสุด คือคนที่ไม่ได้เจอนานอย่างจางเยว่หานไม่ใช่เหรอ ลู่ฝานขมวดคิ้วเบาๆ

“นี่คณะหนึ่งเดียวเหรอ ดูไม่ต่างจากเล้าหมูเท่าไร”

ผู้หญิงที่ยืนข้างจางเยว่หาน ขมวดคิ้วพูดขึ้นมา ปิดจมูกราวกับว่า ถ้าสูดอากาศที่คณะหนึ่งเดียวเข้าไป จะทำให้เธอเป็นลมอย่างไรอย่างนั้น

คำพูดของเธอ ทำให้หานเฟิงและคนอื่น สีหน้าอึมครึมทันที คณะหนึ่งเดียวเล็กกว่าคณะอื่นจริง แต่คนพวกนี้ไม่มีสิทธิ์มาดูหมิ่น ทันใดนั้น หานเฟิง ฉู่สิง ฉู่เทียน สายตาเย็นชาทันที

ขนาดคนที่หัวเราะอยู่ตลอดอย่างศิษย์พี่ใหญ่ ก็ชะงักไปเช่นกัน

ผู้ชายที่นำมา สะบัดมือไม่ให้ผู้หญิงพูดไร้สาระ เงยหน้าคารวะอาจารย์อี้ชิงกับอาจารย์เต้ากวง แล้วพูดว่า “อี้ชิง เต้ากวง ไม่เจอกันนานเลย”

ราวกับว่าอาจารย์อี้ชิงกับอาจารย์เต้ากวง ไม่ชอบชายคนนี้เท่าไร เมื่อชายคนนี้ทักทายพวกเขา ทั้งสองไม่มีท่าทีว่าจะลุกขึ้น

อาจารย์อี้ชิงพูดอย่างเฉยเมยว่า “หลางเจี้ยน ไม่ต้องมาพูดพิธีรีตอง นี่ศิษย์คณะบังเหินของพวกนายเหรอ ดูผอมแห้ง ดูไม่ค่อยเท่าไรนะ”

คำพูดของอาจารย์อี้ชิงทำให้หานเฟิงและคนอื่น หัวเราะขึ้นมาทันที

โดยเฉพาะหานเฟิง หัวเราะเวอร์ที่สุด ทำให้หญิงชายที่ตามหลางเจี้ยนมา มีสีหน้าอึมครึมทันที

หลางเจี้ยนขมวดคิ้วเบาๆ พวกแก่คณะหนึ่งเดียว ไม่เห็นคุณค่าของผู้อื่น ตัวเองเกรงใจพวกเขา แต่พวกเขากลับกล้าอวดดีขนาดนี้ คิดไม่ออกจริงๆ ทำไมท่านผอ. ยังให้พวกเขาตั้งคณะ ในสถาบันต่อไป

ผู้ชายตาสามเหลี่ยมด้านหลังหลางเจี้ยน พูดว่า “ได้ยินมานานว่าคนคณะหนึ่งเดียวหยาบคาย วันนี้ได้เห็น สมคำร่ำลือตามคาด”

จางเยว่หานได้ยิน หัวเราะออกมาเบาๆ รอยยิ้มงดงามจนน่าตกใจ ทำให้ผู้ชายคนที่พูด เหลือบมองเบาๆ แล้วแอบกลืนน้ำลาย

ไม่ต้องพูดอะไรมาก ผู้ชายคนนี้คงเป็นทาสของจางเยว่หานอีกคน ลู่ฝานยกยิ้มมุมปาก แววตาเต็มไปด้วยความดูหมิ่น

หานเฟิงก่นด่าออกมา “ฉันหยาบคายแล้วไง เดี๋ยวจะหยาบคายให้นายดู”

พูดพลาง หานเฟิงโยนของสีดำออกไป

เสียงดังพลั่ก สิ่งของรูปร่างกลมขรุขระ แตกออกทันที มีควันสีเหลืองเหมือนอุจจาระ ออกมาจากในนั้น

ทุกคนยังมองไม่ออกว่าคืออะไร ต่อมามีกลิ่นเหม็นตีจมูก ลู่ฝานรีบกลั้นหายใจ

เหมือนหานเฟิง ฉู่สิง ฉู่เทียนและคนอื่นเตรียมตัวไว้แล้ว เอาสมุนไพรต้นหนึ่งวางไว้ตรงจมูก ควันทั้งหมดแยกออกไปทันที

จางเยว่หานกับผู้หญิงอีกคน เหมือนจะเป็นลม แต่หลางเจี้ยน ปฏิกิริยารวดเร็ว สะบัดแขนเสื้อกำจัดควันออกไป

“นี่คืออะไร”

หลางเจี้ยนตวาดออกมา

หานเฟิงหัวเราะ แล้วพูดวา “นี่เรียกว่ายินดีต้อนรับ เป็นของที่เราเตรียมต้อนรับพวกนายโดยเฉพาะ กลิ่นไม่เลวใช่ไหม ฉันยังมีอีกนะ นายลองหน่อยไหม”

พูดจบ หานเฟิงเอาก้อนกลมสีดำออกมากองหนึ่ง

ลู่ฝานเห็นก้อนนี้ แววตาดูตะลึง เขาเคยเห็นสิ่งนี้ ศิษย์พี่หานเฟิง ชอบศึกษาอะไรพวกนี้ เหมือนมันวางอยู่เต็มห้องเขา ตอนแรกลู่ฝานคิดว่าเป็นสิ่งของลึกลับอะไร คิดไม่ถึงว่ามันจะใช้แบบนี้

อาจารย์อี้ชิงสีหน้าอึมครึม หานเฟิงนี่นะ คนอื่นว่านายหยาบคาย นายก็หยาบคายจริงๆ กลิ่นนี้ไม่ต่างจากมูลสัตว์เลย