ตอนที่ 805 ปล่อยให้เธอเป็นอย่างนี้ของเธอต่อไปเถอะ

วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์

ผู้กำกับชั่งใจกับสถานการณ์ที่เกิดก่อนตัดสินใจหยุดยั้งสวี่ซินด้วยการกดดัน

 

 

เขาจึงต่อสายหานักเขียนบท หลังจากคุยกันมาครู่ใหญ่ในที่สุดเขาก็ได้ในสิ่งที่ต้องการ

 

 

อย่างไรก็ตามตลอดทั้งคืนสวี่ซินรู้สึกว่าทุกๆ วินาทีของเธอที่กองถ่ายช่างผ่านไปได้อย่างยากเย็น

 

 

ไม่เพียงแต่เธอจะนึกว่าโม่ถิงเป็นคนแปลกหน้าแต่ยังคิดว่าถังหนิงกำลังมีชู้และพยายามข่มขู่อีกฝ่ายด้วย

 

 

เพียงแค่คิดถึงมันก็ทำให้เธอขนลุก ถังหนิงวางแผนจะตอบโต้อย่างไรบ้างนะ

 

 

หลังจากคืนนั้นโม่ถิงกลับมาส่งถังหนิงที่โรงแรมและฝากให้หลินเฉี่ยนดูแลเธอ หลังจากโม่ถิงกลับไป หลินเฉี่ยนเอ่ยกับถังหนิง “ตอนนี้สวี่ซินนั่งอยู่ข้างสระว่ายน้ำโรงแรมค่ะ ขู่ว่าจะฆ่าตัวตาย คุณอยากจะไปพบเธอไหมคะ เธอขอร้องให้คุณยกโทษให้อยู่ค่ะ”

 

 

“เธอเปิดเผยเรื่องทั้งหมดให้คนอื่นรู้หรือยัง” ถังหนิงยกคิ้ว

 

 

“จากที่เธอพูดมา คนที่เห็นเหตุการณ์จะแค่พอคาดเดาได้ว่าเธอเห็นหลังประธานโม่และเข้าใจคุณผิดค่ะ มีเพียงแค่นั้น แต่การที่เธอเรียกร้องความเห็นใจจะทำให้คนอื่นคิดว่าคุณรังแกเธอจนทำให้เธอเที่ยวหวาดระแวงไปทั่วเท่านั้น”

 

 

“ฉันจะไม่ไปมีส่วนร่วมในเรื่องวุ่นวานนี้เพราะไม่อยากจะเสียเวลากับเธอไปมากกว่านี้แล้ว” ถังหนิงพูดขณะที่ถอดเสื้อคลุมของตัวเองออก “ปล่อยให้เธอเป็นอย่างนี้ของเธอต่อไปเถอะ”

 

 

หลินเฉี่ยนส่งยิ้มและพยักหน้ารับ “ถ้าอย่างนั้นคุณก็พักผ่อนนะคะ เดี๋ยวฉันจะกลับห้องของตัวเอง”

 

 

หลินเฉี่ยนรอให้ถังหนิงเดินแยกไป แต่ในจังหวะนี้เองที่จู่ๆ โทรศัพท์ของหลินเฉี่ยนก็ดังขึ้น หลังจากเหลือบมองว่าใครโทรมาเธอก็ตัดสินใจที่จะไม่รับ ดูท่าทางแล้วต้องเป็นสายจากเฉวียนจื่อเยี่ยแน่

 

 

“ถ้าเธอไม่อยากจะสนใจเขาจริงๆ ทำไมยังเหลือช่องทางให้เขาจะติดต่อเธอได้อยู่ล่ะ”

 

 

เห็นได้ชัดว่าหลินเฉี่ยนยังสนใจเรื่องของเขาอยู่และไม่ได้มองเขาด้วยท่าทีรังเกียจเสียทีเดียว

 

 

“พี่หนิง…”

 

 

“เอาละ ฉันจะไม่เข้าไปยุ่มย่ามเรื่องส่วนตัวของเธอหรอกนะ” ถังหนิงเอ่ยก่อนที่จะเดินเข้าห้องน้ำไป

 

 

หลินเฉี่ยนกลับมาที่ห้องและปล่อยสวี่ซินให้ทำร้ายตัวเองอยู่ข้างสระว่ายน้ำ ในที่สุดคนที่ผ่านไปมาก็พากันมามุงดูว่าเกิดอะไรขึ้น ทว่าหลังเห็นว่าถังหนิงไม่ได้ปรากฏตัวก็ดูออกว่าคนธรรมดาๆ ที่ไม่ได้สำคัญอะไรคนนี้ต้องกำลังพยายามพูดเข้าข้างการกระทำของตัวเองแน่ เมื่อเป็นอย่างนั้นคำพูดที่ออกมาจากปากของเธอจึงไม่มีความหมายใดๆ

 

 

สวี่ซินยังคงเรียกร้องความสนใจจนกระทั่งกลางดึก อันที่จริงเธอตั้งใจจะดูปฏิกิริยาของผู้กำกับ หากแต่เห็นชัดๆ ว่าเขาทำกับเธอเหมือนเป็นแค่ผู้หญิงขายตัวที่ทำตัวง่ายๆ เท่านั้น

 

 

เธอตัวสั่นระริกท่ามกลางอากาศที่หนาวเย็นในยามค่ำคืนแต่ไม่มีใครคิดจะสนใจเธอ จึงไม่มีทางเลือกนอกจากกลับไปที่ห้องของตัวเองและไม่ให้ใครมาทำกับเธอเหมือนเป็นตัวตลก

 

 

วันถัดมาสวี่ซินก้าวเข้ามาในกองถ่ายและสังเกตเห็นสายตาแปลกๆ ของทุกคน เธอจึงยืดอกและเดินต่ออย่างมั่นใจ

 

 

เธอไม่ได้อะไรผิดเสียหน่อย

 

 

“สวี่ซิน…” เมื่อเห็นสวี่ซิน ผู้กำกับส่งเอกสารที่เขาเตรียมมาให้เธอ “นี่เป็นบทใหม่ที่นักเขียนบทให้มา มันมีผลต่อเวลาออกอากาศของทั้งเธอและถังหนิง เอาไปดูสิ”

 

 

อีกฝ่ายรับบทและพลิกเปิดดู นั่นเป็นตอนที่เธอพบว่าบทของเธอที่ควรจะอยู่จนถึงตอนจบของเรื่อง ตอนนี้กลับยอมสละชีวิตตัวเองทันทีที่ตามหาน้องสาวของตัวเองพบ ดังนั้นเวลาออกอากาศของเธอจึงถูกตัดออกครึ่งหนึ่ง

 

 

“ผู้กำกับคะ…” สวี่ซินต้องการรู้เหตุผลของผู้กำกับ แต่เขากลับหัวเราะออกมาและพูดขึ้น “นี่เป็นการตัดสินใจของนักเขียนบทน่ะ ฉันทำอะไรไม่ได้หรอกนะ แต่เป็นอย่างนี้ก็ดีเหมือนกัน มีทีมผู้จัดที่ฉันรู้จักอยู่ ตอนนี้พวกเขากำลังเตรียมถ่ายทำอยู่และฉันว่าจะแนะนำเธอให้พวกเขา แต่ก่อนหน้านี้เธอไม่มีคิวว่าง ตอนนี้คงมีเวลาแล้วล่ะนะ” เขาใช้วิธีง่ายๆ ในการกำจัดนักแสดงที่น่ารำคาญออกไป

 

 

ไม่เพียงทีมผู้จัดจะยังเตรียมการทุกอย่างไม่เสร็จเรียบร้อยดี แต่ต่อให้การถ่ายทำพร้อมที่จะเริ่มแล้วและผู้กำกับได้แนะนำเธอไป ทางผู้จัดก็คงจะไม่ยอมรับเธออยู่ดี

 

 

ว่าแต่เธอจะไม่รู้ว่าผู้กำกับคิดอะไรอยู่จริงๆ หรือ

 

 

ดังนั้นเธอจึงเอ่ยกับเขาเบาๆ “ผู้กำกับคะ ฉันมีเรื่องบางอย่างจะพูดกับคุณค่ะ”

 

 

“ถ้าเธอมีเรื่องอะไรจะพูดก็บอกมาได้เลย” เขาตอบกลับ

 

 

“คุณไม่กลัวว่าฉันจะเปิดเผยเรื่องระหว่างเราสองคนให้คนอื่นรู้บ้างเหรอคะ”

 

 

“ฮ่าๆ สวี่ซิน ถ้าเธออยากทำลายตัวเองก็เชิญเลย ฉันสงสัยเหมือนกันว่าจะมีสักกี่คนที่เชื่อเธอ ต่อให้พวกเขาเชื่อ ฉันก็สงสัยว่าใครที่จะได้รับผลกระทบมากกว่ากัน ตัวฉันเองสามารถย้ายไปทำงานเบื้องหลังและไม่ต้องปรากฏตัวต่อหน้าสาธารณชนก็ได้ แล้วเธอล่ะ…

 

 

“ถ้าเรื่องนี้แดงขึ้นมา เธอคิดว่าตัวเองจะยังอยู่ในวงการบันเทิงได้อยู่เหรอ”

 

 

“คุณ…”

 

 

สวี่ซินคิดไม่ถึงว่าเขาจะหน้าด้านกว่าเธอขนาดนี้

 

 

“จำสิ่งที่ตัวเองพูดตอนที่เข้ามาให้ท่าฉันครั้งแรกได้ไหม เธอบอกว่าไม่ต้องการอะไรจากฉันและเธอก็แค่เหงา… อย่าบอกนะว่าฉันเชื่อคำพูดพวกนั้นไปฝ่ายเดียว…”

 

 

สวี่ซินอ้าปากค้างพะงาบๆ ด้วยท่าทีที่ดูกระอักกระอ่วนใจเล็กน้อย แต่เธอก็สมควรได้รับสิ่งที่เกิดขึ้นนี้แล้ว อย่างไรเธอก็เป็นฝ่ายที่หาเรื่องกับคนที่ไม่ควรไปยุ่งเกี่ยวด้วย

 

 

หลังจากสะกดกลั้นอารมณ์ชั่วครู่เธอก็เก็บบทก่อนพูดขึ้น “ฉันหวังว่าคุณจะทำตามที่รับปากไว้และแนะนำฉันให้กับทีมผู้จัดอื่นๆ นะคะ”

 

 

“แน่นอน” ผู้กำกับตอบกลับด้วยทีท่าสบายๆ

 

 

ในตอนนั้นเองที่สวี่ซินรู้สึกเกลียดตัวเอง ตั้งแต่เธอเข้าวงการมาครั้งแรก แม้ว่าเส้นทางของเธอจะไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ แต่ก็ไม่มีใครรอดจากน้ำมือเธอไปได้ แต่ครั้งนี้เธอกลับต้องหลับนอนกับผู้กำกับหลายครั้งโดยที่ไม่ได้อะไรกลับมาแม้แต่น้อย

 

 

ทั้งหมดเป็นความผิดของถังหนิง

 

 

เมื่อเห็นว่าถังหนิงได้รับการให้เกียรติในกองถ่าย เธอก็ทำเหมือนตัวเองถูกกดขี่

 

 

ทว่ามันไม่ใช่เรื่องที่สำคัญ แม้ว่าเวลาออกอากาศของเธอจะถูกตัดออกไปครึ่งหนึ่งแต่เธอก็จะหาโอกาสแก้แค้นให้ได้ เพราะถังหนิงทำให้เธอต้องทุกข์ทรมานขนาดนี้เธอก็จะทำให้อีกฝ่ายต้องเดือดร้อนเช่นกัน

 

 

ถังหนิง รอดูแล้วกันเ!

 

 

เพียงแค่มองอยู่ห่างๆ หลินเฉี่ยนก็ดูท่าทางของสวี่ซินออกอย่างชัดเจน และรู้ว่าผู้กำกับคงลงมือทำอะไรสักอย่างแล้ว จึงเข้าไปหาถังหนิงก่อนเอ่ย “ผู้หญิงคนนี้อาจจะลุกขึ้นมาต่อต้านคุณนะคะ จากนี้ไปเราคงต้องระวังตัวให้ดี”

 

 

“เธอคิดว่าถ้าเรายอมปล่อยเธอไปง่ายๆ แล้วเธอจะซาบซึ้งในความเมตตาอย่างนั้นเหรอ” ถังหนิงส่ายหน้าพร้อมเสียงหัวเราะ “ถ้าเธอรอดไปได้โลกก็คงไม่ยุติธรรมสำหรับคนอื่นๆ เกินไปแล้วล่ะ แม้ว่าวงการนี้จะเต็มไปด้วยการแข่งขันก็ตาม”

 

 

“เข้าใจแล้วค่ะ จากนี้ไปฉันจะคอยจับตาดูเธอไม่ให้คลาดสายตาเลยค่ะ”

 

 

สวี่ซินทำทีเหมือนไม่สนใจอะไร แต่เธอก็ไม่คิดจะยกโทษให้นักแสดงและทีมงานกอง ‘ผู้รอดชีพ’ เด็ดขาด…

 

 

หลังจากเหตุการณ์นี้สวี่ซินก็เงียบลงมาก แต่นั่นไม่ทำให้หลินเฉี่ยนเลิกเฝ้าระวังเธอ เพราะจากการคาดการณ์ของถังหนิง มันเป็นเพียงลมสงบก่อนพายุจะเข้าเท่านั้น

 

 

“สวี่ซินเกือบจะถ่ายทำฉากในส่วนของเธอเสร็จแล้ว ถ้าเธอฉลาดเธอจะตกลงรับข้อเสนอของผู้กำกับแล้วไปแสดงหนังเรื่องอื่น”

 

 

“แล้วคุณคิดว่าเธอจะทำตัวโง่ๆ ไหมคะ” หลินเฉี่ยนถาม

 

 

“เธอคิดว่าไงล่ะ” ดวงตาของถังหนิงฉายแววสุขุม “ถ้าเธอฉลาดเธอจะรู้ว่าการก่อเรื่องให้ผู้กำกับมีแต่จะทำให้เธอตกที่นั่งลำบากมากขึ้น”

 

 

“ฉันห่วงว่าเธอวางแผนจะทำให้ตกต่ำไปด้วยกันน่ะสิคะ” หลินเชี่ยว่าขึ้นสั้นๆ

 

 

ช่วงหลายวันที่ผ่านมาสวี่ซินจดจ่อกับการแสดงอย่างเต็มที่และไม่ได้พูดอะไรมาก ทำให้การคาดเดาของหลินเฉี่ยนเป็นไปได้สูง

 

 

“ฉันจะไปตามสืบดูว่าช่วงหลังๆ มานี้เธอไปพบใครบ้างหรือเปล่า”