บทที่ 190 ลำบากตรงไหน[รีไรท์]

จักรพรรดิเซียนหวนคืน (仙帝归来)

บทที่ 190 ลำบากตรงไหน[รีไรท์]

“ฉู่ชวิ๋น ยังไม่แน่หรอกว่าวันนี้ใครกันแน่ที่จะต้องตาย” หวูฉางเฟิงแววตา เต็มไปด้วยโกรธแค้น เขาหยดเลือดลงไปที่รูปปั้นหินแกะสลักอีกครั้ง

โกรกกกกกกก!

รูปปั้นหินเปล่งประกายเรืองรอง ในทันใดนั้นเอง เสียงคำรามของมังกรฟ้าและพยัคฆ์ขาวก็ดังกังวานขึ้น เช่นเดียวกับเสียงร้องของหงส์แดงและเต่าคะนองที่ยังคงถูกจองจำอยู่ในรูปปั้นหิน

โฮก!

เสียงคำรามของมังกรฟ้าสั่นสะเทือนภูเขาเซวียนฉีและแล้วมังกรทมิฬสีดำสนิทที่มีลำตัวยาวมากกว่าสิบเมตร ก็พุ่งออกมาจากรูปปั้นหินลอยขึ้นไปบนท้องฟ้า

ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเพียงแค่เงามังกรทมิฬแต่จิตสังหารนั้น รุนแรงมาก มังกรทมิฬกลับขึ้นมาจากโลกแห่งความตายพร้อมกับความรู้สึกที่อยากทำลายล้างทุกอย่าง

มันหลุดออกมาจากการจองจำแล้ว กรงเล็บมังกรเป็นประกายแวววาว เป้าหมายของมันอยู่ที่ศีรษะของฉู่ชวิ๋น มันตั้งใจที่จะเล่นงานให้ถึงตาย! ฉู่ชวิ๋นดวงตาเบิกกว้างก่อนที่จะดีดเท้าขึ้นกลางอากาศ กลุ่มคนดูแตกกระจายรีบหาที่หลบกันจ้าละหวั่น

โครม!

กรงเล็บมังกรตะปบลงไปตรงตำแหน่งที่ฉู่ชวิ๋นยืนอยู่ เมื่อสักครู่นี้ ประกายเพลิงสาดกระจายไปทั่ว พื้นดินแตกกระจายปลิวว่อนไปด้วยพลังลมปราณ ฉู่ชวิ๋นเลิกคิ้วขึ้นสูง ดวงตาของเขาเย็นเยียบเหมือนกับบ่อน้ำลึกวินาทีต่อมา ร่างของเขาพลันหายวับไป

โครม!

บนพื้นหินตรงที่ฉู่ชวิ๋นยืนอยู่เมื่อวินาทีก่อนระเบิดตัวออก กรงเล็บมังกรปักลงไปบนพื้นดินเกิดเป็นหลุมขนาดใหญ่

กลุ่มคนดูอุทานออกมาด้วยความหวาดกลัว พวกเขาไม่อยากจะเชื่อ นี่คือมังกรปีศาจในตํานาน ถือเป็นมังกรที่น่าหวาดกลัวและมีความอำมหิตเป็นที่สุด ฉู่ชวิ๋นหรี่ตาลงเล็กน้อย วินาทีต่อมา กลุ่มคนดูก็ส่งเสียงตะโกนลั่นให้เขารู้ มังกรปีศาจพุ่งเข้ามาหมายจะใช้กรงเล็บตะปบชายหนุ่มอีกครั้ง มังกรปีศาจมีความยาวมากกว่าสิบเมตร กรงเล็บทั้งสี่ข้างกางออกกว้างน่าหวาดกลัว

ฉู่ชวิ๋นตัวเล็กลงไปถนัดตา เมื่อเทียบกับขนาดตัวของมังกรปีศาจ เพียงแค่ขาของมันก็สูงกว่าตัวเขาทั้งตัวแล้ว ความแตกต่างระหว่างชายหนุ่มกับมังกรปีศาจมีอยู่มากเกินไป

โฮก!

มังกรปีศาจคำรามลั่นในขณะที่พุ่งเข้าใส่ฉู่ชวิ๋นพร้อมกางกรงเล็บอีกครั้ง

“ก็แค่มังกรปีศาจ กำเนิดขึ้นมาจากค่ายกลไม่ถือว่าเป็นมังกรจริง ๆ ด้วยซ้ำ ทำให้สายพันธุ์มังกรขายขี้หน้าจริง ๆ” ฉู่ชวิ๋นพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น เมื่อพูดจบ ชายหนุ่มก็โคจรพลังลมปราณจนร่างกายเปล่งแสงสว่างไสว โดยเฉพาะกระดูกที่อยู่ใต้ผิวหนัง แปรสภาพกลายเป็นเหมือนหยกขาวบริสุทธิ์พลังลมปราณทั่วร่างกายของฉู่ชวิ๋นไหลไปรวมตัวกันอยู่ที่กำปั้น

ฉู่ชวิ๋นต่อยหมัดออกไปในเวลาเดียวกับที่มังกรพุ่งเข้ามา กำปั้นของเขาก่อให้เกิดเสียงกังวานเหมือนฟ้าผ่า มวลอากาศปั่นป่วนไปในพริบตา

ผลั่ก!

กำปั้นของเขาปะทะเข้ากับกรงเล็บมังกร ประกายไฟสาดกระจายไปทั่วบริเวณ เสียงการปะทะกันของเนื้อเหล็กดังสนั่นชัดเจน มังกรปีศาจร้องคำราม ร่างกายขนาดใหญ่ยักษ์ของมันถูกฉู่ชวิ๋นต่อยกระเด็นไปกระแทกพื้นหิน ส่งผลให้พื้นหินแตกกระจัดกระจาย

ดวงตาของทุกคนเบิกโตด้วยความกลัว ฉู่ชวิ๋นต่อยมังกรกระเด็นด้วยมือเปล่า นี่มันน่าเหลือเชื่อเกินไปแล้ว!!!

โฮก!

มังกรคำรามพร้อมกับปล่อยไอสังหารลอยออกมา หัวขนาดใหญ่ยักษ์ของมังกรพุ่งตรงเข้าไปหาฉู่ชวิ๋น

ฉู่ชวิ๋นคำรามในลำคอ ต่อยหมัดใส่หัวมังกร มังกรร้องคำรามด้วยความเกรี้ยวกราด แต่หัวของมันก็ถูกกระแทกอย่างแรงตอนที่บินโฉบเข้าไป

ผลั่ก!

เสียงดังสนั่น มังกรปีศาจร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด หัวขนาดใหญ่ยักษ์ของมันถูกหมัดของฉู่ชวิ๋นต่อยเข้าไปอย่างจัง ส่งผลให้ร่างของมังกรยักษ์หล่นลงไปกระแทกพื้นหินอย่างแรง ทำให้เศษดินเศษหินปลิวกระจายไปทั่ว

ดวงตาของฉู่ชวิ๋นเต็มไปด้วยแววอำมหิต เขามีสายเลือดบรรพบุรุษมังกรและสืบทอดวิชามังกรทั้งเก้ากระบวนท่า ซึ่งจะส่งต่อจากบรรพบุรุษให้กับทายาทผู้รับตำแหน่งเท่านั้น แล้วมังกรผีน้อยตัวนี้ ถือดียังไงจะมาสู้กับเขา?

ในขณะเดียวกันนี้เอง พยัคฆ์ขาวที่มีไอสีดำปกคลุมร่างกายก็หลุดออกมาจากการจองจำของรูปปั้นหิน มันกระโจนออกมาจนพื้นดินสั่นสะเทือนตอนที่เท้ากระทบพื้น

ปากของมันมีเขี้ยวขนาดใหญ่ ฟันแต่ละซี่ของมันมีความแหลมคมเหมือนกับคมดาบแถมยังเป็นประกายแวววาว ดวงตาของพยัคฆ์ขาวตัวนี้มีสีแดงก่ำของเลือดส่งความรู้สึกของความกระหายเลือดออกมาอย่างชัดเจน

โฮก!

พยัคฆ์ขาวเงยหน้าส่งเสียงคำรามลั่นป่า พลังลมปราณของมันกำเนิดจากค่ายกลด้วยเช่นกันและในพริบตาต่อมา มันก็อ้าปากกว้างกระโดดเข้าใส่ ฉู่ชวิ๋นด้วยความโกรธแค้น

“เจ้าสัตว์ร้าย” ฉู่ชวิ๋นตะโกนออกมาสัตว์ปีศาจเหล่านี้เทียบไม่ได้เลยกับสัตว์ในตำนานทั้งสี่ตัวจริง เมื่อชายหนุ่มต่อยกำปั้นออกไปก็เกิดเสียงสั่นสะเทือนเหมือนกับสายฟ้าฟาด

เปรี้ยง!

กำปั้นของเขากระแทกลงไปบนหัวของพยัคฆ์ขาวเต็มแรง

ลำตัวขนาดใหญ่ของเสือปีศาจกลิ้งไปบนพื้นดิน ความรุนแรงของแรงกระแทก ทำให้บริเวณที่มันกลิ้งผ่านไปพื้นหินแตกกระจาย

โฮก!

พยัคฆ์ขาวคำรามด้วยความโกรธแค้น มังกรปีศาจเองก็กำลังส่งเสียงคำรามอยู่เช่นกัน ฟังดูน่าสะเทือนขวัญเป็นอย่างยิ่ง

มังกรคำราม พยัคฆ์คำรน เสียงของพวกมันกังวานด้วยค่ายกลพวกมันคือสัตว์ปีศาจ มีชีวิตอยู่เพื่อทำลายล้างทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ในสายตา

ฉู่ชวิ๋นหันไปมองกลุ่มคนดูและพบว่า ทุกคนหาที่หลบกันเรียบร้อยแล้วมังกรปีศาจพ่นลมหายใจออกมากินพื้นที่เป็นบริเวณกว้าง ควันสีขาวลอยขึ้นมาจากพื้น ก่อนที่พื้นหินจะยุบตัวลงไปกลายเป็นหลุมขนาดใหญ่น่าหวาดกลัว

โฮก!

ฉู่ชวิ๋นยังคงยืนอยู่อย่างไม่กลัวเกรง พยัคฆ์ขาวคำรามด้วยความโกรธแค้น มันอ้าปากกว้างอวดเขี้ยวขนาดใหญ่ ในขณะที่พุ่งเข้ามาหมายจะใช้กรงเล็บตะปบศีรษะของเขา ฉู่ชวิ๋นเดือดดาลขึ้นมาแล้ว ชายหนุ่มโคจรพลังลมปราณและซัดออกไป

เปรี้ยง!

กำปั้นของเขาก่อให้เกิดเสียงดังเหมือนฟ้าผ่า ลำตัวของพยัคฆ์ขาวถูกกระแทกอย่างแรงจนกระอักเลือดสีเขียวออกมาแล้ว ร่างของเจ้าเสือร้ายลอยกระเด็นไปไกลจากอานุภาพกำปั้นของชายหนุ่ม ฉู่ชวิ๋นรีบตามเข้าไปติด ๆ และรัวกำปั้นใส่ไปอีกสิบกว่าหมัด

โครม!

พยัคฆ์ขาวร้องคำราม เลือดสีเขียวสาดกระจายในที่สุด ลำตัวของมันก็ลอยไปกระแทกกับกำแพงหิน จนส่วนหนึ่งของกำแพงพังทลายลงมา ทุกคนตกตะลึงไปหมดแล้ว ฉู่ชวิ๋นน่าหวาดกลัวเหลือเกิน ฝีมือของเขาทำให้พวกเขาหวาดกลัวจนแทบขาดใจตายแล้ว แม้จะยืนดูอยู่จากที่ไกล ๆ ทุกคนก็รู้สึกได้ถึงความน่ากลัวของมังกรปีศาจและพยัคฆ์ขาว แต่สัตว์ปีศาจทั้งสองตัวนั้นก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฉู่ชวิ๋นเลยแม้แต่น้อย

“พี่หยาน ฉันขอถามหน่อยสิ ถ้าเป็นพี่ พี่จะชนะหรือเปล่า?” นี่คือคำถามที่ถามออกมาด้วยความจริงจังของเจ้าสำนักเทียนหวู่

หยานอี้ส่ายหน้า ยิ้มด้วยความขมขื่นก่อนจะตอบว่า “ถ้าเป็นฉันนะ อย่าว่าแต่จะชนะเลย จะรอดตายหรือเปล่าก็ยังไม่รู้” สำนักเทียนหวู่จ้องมองอีกฝ่ายหนึ่งด้วยความประหลาดใจดูเหมือนเขาจะแปลกใจกับคำตอบอีกฝ่ายอยู่ไม่น้อย

“ฉันว่าระดับฝีมือของมังกรปีศาจและพยัคฆ์ขาวน่าจะสูงกว่าปรมาจารย์ระดับแปดนะ แต่พวกมันก็ยังทำอะไรฉู่ชวิ๋นไม่ได้เลย จอมมารฉู่ชวิ๋นต้องมีฝีมือสูงถึงระดับไหนกัน? ต่อให้ฉันตายแล้วเกิดใหม่มาฝึกวิชาอีกรอบ ก็ไม่แน่ว่าจะสู้เขาไหม” หยานอี้ยืนดูเหตุการณ์ต่อไป ไม่พูดอะไรออกมา

แว๊ก!

เสียงคำรามแหลมสูงของหงส์แดงดังออกมาจากรูปปั้นหิน ก่อนที่ตัวมันจะหลุดออกมาจากการจองจำพร้อมกับไอสีดำที่ห่อหุ้มร่างกาย

ครืน!

ภูเขาเซวียนฉีสั่นสะเทือน ไอสีดำอีกสายหนึ่งแผ่กระจายไปทั่วบริเวณ เต่าคะนองก็สามารถหลุดออกมาจากการจองจำได้เช่นกัน

ในขณะนี้ สัตว์ปีศาจทั้งสี่ได้หลุดออกมาจากการจองจำครบแล้ว พลังลมปราณของพวกมันแผ่กระจายไปทั่ว บอกให้รู้ถึงระดับค่ายกลที่สูงไม่ใช่เล่น

เสียงคำรามของมังกรปีศาจ พยัคฆ์ขาว หงส์แดงและเต่าคะนอง ทำให้ภูเขาเซวียนฉีสั่นสะเทือน เหมือนเกิดแผ่นดินไหว

“ฉู่ชวิ๋น อยากสั่งเสียอะไรก็รีบพูดออกมา แกไม่รอดแน่!” เฉินหวูฮุยเยาะเย้ยอย่างเต็มที่ ฉู่ชวิ๋นหันไปมองเจ้าสำนักสวรรค์ฟ้าด้วยสีหน้าเรียบเฉย ก่อนที่จะหันกลับไปมองสัตว์ปีศาจทั้งสี่ตัวและตอบว่า“ถ้าจะให้ฉันฆ่าสัตว์เร่ร่อนพวกนี้ ก็ไม่เห็นจะลำบากตรงไหนเลย”

“ฮ่าๆ ฉู่ชวิ๋น มั่นใจในตัวเองเหลือเกินนะ รับรองว่าแกได้เสียใจแน่” หวูฉางเฟิงมีแววตาบ้าคลั่งในขณะที่พูดออกมา

สัตว์ปีศาจทั้งสี่ตัวเคลื่อนไหวพร้อมกันแล้ว กรงเล็บของมังกรปีศาจกางออกเหมือนคมดาบหลายเล่ม กรีดผ่านอากาศเสียงดังหวีดหวิว

พยัคฆ์ขาวคือตัวที่น่ากลัวที่สุด มันมีความอำมหิตที่สุดปากของมันอ้ากว้างพุ่งเข้าหาฉู่ชวิ๋นด้วยความกระหายเลือด

ในขณะเดียวกัน หงส์แดงก็กระพือปีก เปลวไฟสีดำพวยพุ่งในอากาศ ลูกไฟจำนวนมากพุ่งลงมาเหมือนกับสายฝน

เต่าคะนองมีร่างกายใหญ่โตเหมือนกับบ้านหลังเล็ก ๆ ขาของมันแต่ละข้างเป็นเหมือนเสาขนาดใหญ่ เวลามันก้าวเดินแต่ละครั้ง พื้นดินก็จะยุบตัวและแตกออก บนกระดองของมันมีงูสีดำตัวหนึ่งขดตัวอยู่ ปากของงูตัวนั้นพ่นลมหายใจสีดำออกมา ทุกพื้นที่ที่ลมหายใจของงูกระทบถูก จะกลายเป็นน้ำแข็งไปทันที

ทุกคนเฝ้ามองการต่อสู้ด้วยความตึงเครียด เมื่อสัตว์ปีศาจทั้งสี่ลงมือพร้อมกัน ฉู่ชวิ๋นจะรับมือไหวหรือไม่?

ดวงตาของฉู่ชวิ๋นเปล่งประกายสว่างไสว ชายหนุ่มโคจรพลังลมปราณ ทำให้มวลอากาศรอบตัวเกิดความปั่นป่วนขึ้นมาทันที

“ตายซะเถอะ!”

ฉู่ชวิ๋นคำรามเสียงดังเหมือนกับเสียงฟ้าผ่า เกิดลำแสงสีแดง

สว่างวาบออกมาจากร่างกายของเขา มือของชายหนุ่มกำเป็นหมัดและต่อยเข้าใส่กรงเล็บของมังกรปีศาจ

ผลั่ก!

มังกรปีศาจร้องโหยหวน ลำตัวขนาดใหญ่ของมันลอยกระเด็นไปอีกครั้งด้วยฤทธิ์หมัดของฉู่ชวิ๋น ฉู่ชวิ๋นดีดตัวขึ้นไปกลางอากาศและปล่อยพลังตามไปติด ๆ

วูบ!

พยัคฆ์ขาวกระโดดเข้าใส่แผ่นหลังของฉู่ชวิ๋น

แต่แล้วมันก็ต้องส่งเสียงร้องโหยหวน ร่างของมันร่วงหล่นลงมาจากกลางอากาศกระแทกพื้นอย่างรุนแรง เกิดเสียงดัง “โครม” แล้วพื้นหินก็ยุบตัว เกิดเป็นรอยแตกร้าวขนาดใหญ่ลำตัวของพยัคฆ์ขาวก็จมหายไปใต้พื้นดิน