พลังปราณพลุ่งพล่าน ลมพัดผ่าน การต่อสู้เริ่มขึ้น

แสงกระบี่เต็มไปหมด ศิษย์พี่ฉู่สิงไม่เกรงใจ ขึ้นมาก็ชิงลงมือก่อน กระบี่เป็นภาพลวงตานับหมื่นพัน

ดาบโค้งแสงม่วงในมือเถาสิง ไม่กลัวแม้แต่น้อย

เห็นแสงกระบี่นับหมื่นพัน เถาสิงใช้พลังปราณปกคลุมร่างกาย

“แสงม่วงคุ้มกันกาย!”

เถาสิงแผดเสียงออกมาเบาๆ ดาบโค้งแสงม่วงในมือเถาสิง ปล่อยวงแหวนสีม่วงนับไม่ถ้วน เข้าไปในพลังปราณของเขา

ทันใดนั้น พลังปราณนับไม่ถ้วน ของเถาสิงกลายเป็นสีม่วงอ่อน กระบี่ของฉู่สิง โจมตีไปบนตัวเถาสิง ได้ยินเพียงเสียงเหล็กกระทบกัน

เคร้งๆ

ทันใดนั้น กระบี่ของฉู่สิง หยุดลงตรงหน้าอกของเถาสิง

กระบี่งอเล็กน้อย ฉู่สิงขมวดคิ้วเบาๆ หลังจากกระบี่ของเขา แทงเข้าไปในพลังปราณของเถาสิงหนึ่งนิ้ว ก็ไม่สามารถแทงลึกลงไปได้อีก

เถาสิงส่งเสียงหึอย่างเย็นชา แล้วพูดว่า “ฝีมือต่ำต้อย รับกระบวนท่าของฉันไป”

ดาบโค้งแสงสีม่วงสะบัดไปมา ได้ยินเสียงสัตว์ร้องคำราม

เสียงเคลื่อนไหวเป็นระลอกคลื่นในอากาศ แผ่ซ่านออกไป

ฉู่สิงตัวชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นถอยหลังออกไป

“เคล็ดวิชาคลื่นเสียง!”

ศิษย์พี่ใหญ่ที่อยู่ข้างๆ พูดอย่างตกใจ

ลู่ฝานขมวดคิ้วเบาๆ เคล็ดวิชาคลื่นเสียงเป็นเคล็ดวิชาที่ไม่ได้รับความนิยม อย่าว่าแต่ตอนฝึกยุ่งยากซับซ้อนเลย หนำซ้ำยังเปลืองพลังปราณด้วย

แต่เห็นได้ชัดว่าเถาสิงไม่ได้ปล่อยเคล็ดวิชาคลื่นเสียง มาจากพลังปราณของตัวเอง ต้องเป็นดาบโค้งแสงม่วงในมือเขาแน่นอน

ใช้ช่วงตอนที่ฉู่สิงกำลังอึ้ง เถาสิงพุ่งไปข้างหน้า

ฝีเท้ารวดเร็ว มีรูปเจ็ดดาวรางๆ เหมือนความฝัน เหมือนภาพลวงตา การเคลื่อนไหวเหมือนสายฟ้า

ดาบโค้งมาพร้อมกับแสงสีม่วงเป็นแถบ เหมือนแสงสีทองบนท้องฟ้า บีบบังคับให้ฉู่สิงถอยหลังกรูด

หลางเจี้ยนหัวเราะ ยกยิ้มมุมปากอย่างได้ใจ

คณะที่อยู่ในลำดับต่ำ พละกำลังใช้ไม่ได้ตามคาด ไม่รู้ทำไมอาจารย์เมิ่งอวิ๋นถึงเตือนเขาให้ระวัง ก่อนจะพาคนมา ไม่มีความจำเป็นต้องทำแบบนั้นเลย

แต่พละกำลังของเถาสิง แข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ พละกำลังระดับนี้ ตอนต่อสู้จัดอันดับในสถาบัน คงต้องโดดเด่นอย่างแน่นอน

ฉู่สิงโดนเถาสิงโจมตีไม่หยุด ภายในแสงอร่าม ไม่เห็นตัวของฉู่สิงเลย

ศิษย์คณะบังเหิน ทำอย่างอื่นไม่เป็น แต่ความสามารถในการเคลื่อนไหวหลบหลีก เป็นที่หนึ่งในเก้าคณะใหญ่

การเคลื่อนไหวร่างกายที่เถาสิงใช้ตอนนี้ คือการเดินเจ็ดดาว ที่คณะบังเหินถ่ายทอดให้

เมื่อใช้มัน การหลบหลีก เปลี่ยนแปลงเหมือนดวงดาว ถ้าเถาสิงใช้การเคลื่อนไหว จนถึงจุดสูงสุด จะสามารถกลายเป็นภาพลวงตาเจ็ดเงา โจมตีภายในครั้งเดียว เรียกได้ว่าเก่งกาจ

หานเฟิงกับฉู่เทียน เริ่มตึงเครียดขึ้นมา

หานเฟิงเดินช้าๆ มาข้างศิษย์พี่ใหญ่ แล้วพูดว่า “ศิษย์พี่ใหญ่ พี่สายตาดี ศิษย์พี่ฉู่สิง ไม่ไหวแล้วใช่ไหม”

ศิษย์พี่ใหญ่หัวเราะ แล้วตอบว่า “ศิษย์น้องหานเฟิง นายไม่มีความมั่นใจในศิษย์น้องสามเลยเหรอ วางใจเถอะ ศิษย์น้องสามนิ่งอยู่เลย ยื้อต่อไป ไอ้คนแซ่เถา คงแพ้แน่ๆ”

หานเฟิงพูดอย่างดีใจว่า “อย่างนั้นเหรอครับ”

แต่อันที่จริงวิชากระบี่ มีทั้งโจมตีและคุ้มกัน แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก อย่ามองแค่ว่าเถาสิงโจมตีเป็นร้อยกระบวนท่า แต่อันที่จริง ไม่โดนสักกระบวนท่า กลับกัน

ลู่ฝานเพิ่งพูดจบ ศิษย์พี่ใหญ่ ศิษย์พี่หานเฟิง ศิษย์พี่ฉู่เทียน รวมไปถึงอาจารย์อี้ชิงกับอาจารย์เต้ากวง ที่อยู่ข้างๆ มองเขาอย่างอึ้งๆ

ลู่ฝานโดนมอง ถึงกับสะดุ้งโหยง แล้วพูดว่า “เป็นอะไรกันครับ”

ศิษย์พี่หานเฟิงอ้าปากค้าง พูดว่า “ศิษย์น้องลู่ฝาน นายมองเห็นหมดเลยเหรอ นายเห็นทุกกระบี่หมดเลย พระเจ้า ดวงตานายมันยังไงกัน ควักออกมาให้ฉันดูเร็วๆ”

อาจารย์อี้ชิงอดพูดออกมาไม่ได้ว่า “ลู่ฝาน นายมองเห็นชัดเจนจริงเหรอ”

ลู่ฝานพยักหน้าทื่อๆ แล้วพูดเบาๆ ว่า “พวกคุณมองไม่ชัดเจนเหรอ”

อาจารย์อี้ชิงกับอาจารย์เต้ากวงมองหน้ากัน ไม่ได้พูดอะไร แม้พวกเขามองเห็นชัดเจน เพราะผลการฝึกตนของพวกเขา สูงกว่าเถาสิงกับฉู่สิง แต่ลู่ฝานมองเห็นชัดเจน ดูแปลกไปหน่อย เพราะผลการฝึกตนของลู่ฝาน เทียบไม่ได้กับทั้งสองคน

โดยเฉพาะเถาสิงเป็นคนของคณะบังเหิน แถมยังฝึกวิชาการเดินเจ็ดดาว ถ้าโดนคนจับการเคลื่อนไหวได้อย่างชัดเจน งั้นถ้าเถาสิงเจอกับลู่ฝาน เถาสิงคงโดนลู่ฝานกดจนจมดิน

ศิษย์พี่ใหญ่มองลู่ฝานตั้งแต่หัวจรดเท้า แล้วพูดว่า “ศิษย์น้องลู่ฝาน ฉันมองเห็นชัดเจน แต่ฉันใช้ผลการฝึกตน วิชาหนึ่งเดียวขั้น2 เลยมองเห็นชัดเจน อย่าบอกนะว่า นายฝึกวิชาหนึ่งเดียวสำเร็จแล้ว”

เมื่อพูดออกมา สายตาทุกคนจ้องไปที่ลู่ฝาน

ลู่ฝานจับจมูก ในหัวนึกถึงวิชาหนึ่งเดียว ทุกสิ่งของเซียนบู๊หนึ่งเดียวขึ้นมาได้

ลู่ฝานแอบลองรวบรวมพลังวิญญาณ พลังสีใสในร่างกาย พุ่งเข้ามาในหัว เคลื่อนไหวเล็กน้อย พลังวิญญาณสีใส เปลี่ยนแปลงออกมา และแข็งแกร่งเกินกว่าสิบเท่า ปราณชี่หนึ่ง เคลื่อนไหวพลังวิญญาณออกมาสิบพลัง ลู่ฝานตกใจมาก

ค่ายหยินหยางในหัวเขา เหมือนหม้อกลั่นยา พลังที่เข้าไปในค่ายกล ล้วนเปลี่ยนแปลงเป็นพลังต่างๆ ลองเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง พลังปราณก็ไม่เป็นปัญหา แต่แค่กลายเป็นพลังปราณยี่สิบเท่า ใช้พลังชี่ ต้องให้พลังสีใสเข้าไปเคลื่อนไหวในค่ายกลห้าธาตุ ออกมาเป็นพลังชี่ที่บริสุทธิ์ยี่สิบเท่า ทั้งสองประสานกันเป็นหนึ่ง กลายเป็นหยดน้ำปราณชี่สีใส