ภาคที่ 1 บทที่ 161 ใช้ผู้เล่นนับพันคนเป็นหน่วยพลีชีพ

เซียนอมตะ 2,500 ปี [我只有两千五百岁]

บทที่ 161 ใช้ผู้เล่นนับพันคนเป็นหน่วยพลีชีพ

ด้วยความเร็วระดับนี้

ทุกคนจึงสมัครใจติดตามท่านเทพ X ไม่ยอมห่าง!

ในโหมดสังเวียนผู้กล้า

นับตั้งแต่ที่ค้นพบว่าเทพ X กำลังช่วยเหลือผู้เล่นธรรมดาอัปเลเวลจากการฆ่าสัตว์ประหลาด เหล่าผู้ฝึกยุทธ์ที่อยู่ในสังเวียนผู้กล้าก็ต้องคอยเข้าสู่ระบบในบอร์ดข้อความ เพื่อติดตามสถานการณ์เป็นระยะ

ผลก็คือไม่มีความเคลื่อนไหวในบอร์ดข้อความเลย

ทุกคนเข้าใจว่าการช่วยเหลือจากท่านเทพ X คงจบสิ้นลงแล้ว

แต่เมื่อเปิดตารางคะแนนดูเท่านั้น

พวกเขาก็ต้องเบิกตาโต

เพราะสิ่งที่ปรากฏอยู่บนตารางคะแนนก็คือ ผู้เล่นธรรมดาจำนวนมาก สามารถอัปขึ้นสู่เลเวล 31 ได้สำเร็จ

“พวกเขาต้องฆ่าสัตว์ประหลาดไปกี่ตัวกันนะ?” ผู้ฝึกยุทธ์คนหนึ่งพูดเสียงเครือเหมือนอยากจะร้องไห้

เล่นอัปเลเวลกันรัว ๆ แบบนี้ กว่าพวกเขาจะออกจากโหมดสังเวียนผู้กล้าได้ ก็คงตามไม่ทันอีกแล้ว!

ในเวลาเดียวกันนี้

หวังเหาแฝงตัวอยู่ในกลุ่มผู้เล่นธรรมดาและกำลังจ้องมองกลุ่มผู้เล่นที่ได้รับการอัปเลเวลรวมถึงมีอาวุธชิ้นใหม่ในการครอบครองด้วยความตกตะลึง

“เกมนี้มันเล่นแบบนี้ได้ด้วยเหรอเนี่ย?”

“ถ้ายังอัปเลเวลกันต่อเนื่องแบบนี้ ไม่อยากจะคิดเลยว่ากว่าที่พวกผู้ฝึกยุทธ์จะออกมาจากโหมดสังเวียนผู้กล้า ผู้เล่นธรรมดาเหล่านี้จะขึ้นไปถึงเลเวลเท่าไหร่แล้วนะ?”

“พี่น้องทุกท่าน”

ทันใดนั้น ท่านเทพ X ที่เป็นผู้นำขบวนก็หันกลับมาส่งเสียงตะโกนเรียก

ทุกคนหันไปมองอย่างตั้งใจ

แล้วพวกเขาก็เห็นท่านเทพ X กำลังยกดาบชี้ไปยังทิศทางของเขตแผนที่ระดับ 33 ก่อนคำรามลั่น “แผนที่ระดับ 33 อยู่ตรงหน้าพวกเราแล้ว ไม่ว่าจะเป็นค่าประสบการณ์ ค่าวรยุทธ์ หรืออาวุธชิ้นใหม่ก็อยู่ต่อหน้าทุกคนแล้วเช่นกัน!”

“พวกเราไปลุยกันเลยดีกว่า!”

หลังจากนั้น กลุ่มผู้เล่นจำนวนมากก็วิ่งกรูเข้าสู่เขตแผนที่ระดับ 33 ด้วยความมุ่งมั่น

หลังได้อัปเลเวลและมีอาวุธชิ้นใหม่ติดมือ พวกเขาก็ไม่กลัวที่จะต้องรับหน้าที่เป็นเหยื่อล่อสัตว์ประหลาดอีกต่อไป

พริบตาเดียวเท่านั้น

สัตว์ประหลาดนับพันตัวก็ถูกล่อออกมา

ซูเย่พุ่งเข้าใส่โดยไม่ลังเล

แต่ยิ่งฆ่าพวกมันมากเท่าไหร่ สัตว์ประหลาดก็ยิ่งปรากฏตัวออกมามากเท่านั้น

ต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงทีเดียวกว่าที่ทุกคนจะสามารถสังหารสัตว์ประหลาดประจําเขตแผนที่ระดับ 33 ได้สำเร็จ

ชายหนุ่มระบายลมหายใจออกมาด้วยความโล่งอก ก่อนจะเปิดตารางคะแนนเพื่อตรวจสอบอันดับ

เขาพบว่าผู้เล่นที่สามารถอัปขึ้นมาอยู่ในเลเวล 33 ได้ในขณะนี้มีเพียง ‘เจ้าเวหา’ คนเดียวเท่านั้น

ผิดกับกองทัพของผู้เล่นธรรมดาที่ไม่ได้เอาผลึกวิญญาณมาอัปเลเวล แต่พวกเขานำไปแลกเป็นอาวุธชิ้นใหม่ รวมไปถึงแลกเปลี่ยนกับค่าวรยุทธ์อีกด้วย

ในเขตแผนที่ระดับ 33 บังเกิดแสงสว่างวูบวาบชวนตาลาย

แล้วดาบมหัศจรรย์นานาชนิดก็ปรากฏขึ้นในมือของผู้เล่นหลายคน

ไม่ว่าจะเป็นดาบสายฟ้า ดาบน้ำแข็ง ดาบอัคคี ดาบวารี ดาบวายุ ฯลฯ

ต่างก็เป็นอาวุธวิเศษทั้งสิ้น

เมื่อมีทั้งค่าวรยุทธ์ที่สูงมากขึ้นและมีอาวุธคู่กายที่ทรงอานุภาพมากกว่าเดิม

ผู้เล่นธรรมดาเหล่านี้ก็สามารถสังหารสัตว์ประหลาดได้ด้วยตนเองแล้ว

แต่ถึงอย่างนั้น ทุกคนก็ยังจ้องมองไปที่หัวหน้าใหญ่อยู่ดี

“วันพรุ่งนี้เราค่อยกลับมาเล่นกันต่อนะทุกคน”

ซูเย่กดเรียกนาฬิกาขึ้นมาดูเวลา และพบว่าใกล้หมดเวลาเล่นเกมประจำคืนนี้แล้ว เขาตะโกนเสียงดังกังวานต่อเนื่องว่า “วันพรุ่งนี้ ฉันจะพาพวกนายไปสถานที่วิเศษแห่งหนึ่ง”

“เยี่ยมเลย!”

“ขอให้ท่านเทพ X จงเจริญ”

“ท่านเทพ X ผมรักคุณที่สุดในโลก!”

จังหวะนั้น ข้อความแจ้งเตือนก็ปรากฏขึ้นบนท้องฟ้าพอดิบพอดี

“ขอแสดงความยินดีกับผู้เล่น ‘X’ ที่ได้กลายเป็นผู้เล่นคนแรกของเกม Fantasy Dream ผู้สามารถเลื่อนระดับขึ้นสู่เลเวล 36 ได้สำเร็จ และทำคะแนนเป็นอันดับ 1 ของเซิร์ฟเวอร์ในขณะนี้!”

“ขอแสดงความยินดีกับผู้เล่น ‘X’ ที่ได้กลายเป็นผู้เล่นคนแรกของเกม Fantasy Dream ผู้สามารถเลื่อนระดับขึ้นสู่เลเวล 37 ได้สำเร็จ และทำคะแนนเป็นอันดับ 1 ของเซิร์ฟเวอร์ในขณะนี้!”

ซูเย่นำหยกปราณธรรมชาติมาแลกกับการอัปเลเวล

เมื่อเห็นข้อความแจ้งเตือนบนท้องฟ้า ความสุขของทุกคนที่สามารถอัปเลเวลได้สำเร็จก็สลายหายไปในพริบตา

เพราะการอัปเลเวลของพวกเขาเทียบไม่ได้เลยกับการอัปเลเวลของท่านเทพ X

ขณะนี้ ทุกคนพลันรู้สึกว่าท่านเทพ X ไม่ได้น่ารักอย่างที่คิดอีกต่อไปแล้ว…

คืนต่อมา ยี่สิบสี่นาฬิกาตรง

ซูเย่สวมหมวก VR ที่ขโมยมาและกลับเข้าสู่โลกแห่งเกมอีกครั้ง

เมื่อกลับเข้ามาอยู่ที่ทุ่งกว้างขนาดใหญ่ เขาก็พบว่ามีผู้เล่นมารอคอยอยู่จำนวนมาก เพียงมองดูจากระยะไกล คำนวณด้วยตาเปล่าก็ไม่ต่ำกว่าแสนคนแล้ว

“ท่านเทพ X มาแล้ว!”

เมื่อเห็นชายหนุ่มผู้สวมหน้ากากอนามัยปรากฏตัว สายตาที่ทุกคนจ้องมองซูเย่ก็เป็นประกายวาวโรจน์ เสียงร้องตะโกนด้วยความตื่นเต้นดังกระหึ่ม

“ขวับ”

ทุกสายตาหันมาจับจ้องมองท่านเทพ X เป็นตาเดียว

พวกเขายังจำได้ดีว่าเมื่อคืนนี้ท่านเทพ X สัญญาว่าจะพาไปยังสถานที่วิเศษแห่งหนึ่ง

“ท่านเทพ X จงเจริญ!”

“ท่านเทพ X ผู้ยิ่งใหญ่!”

เสียงโห่ร้องดังก้องรอบบริเวณ

“ดูเหมือนวันนี้จะมีสหายหน้าใหม่มาเข้าร่วมเยอะเลยนะ!”

ซูเย่นำตัวเฉิงหวงเทพเจ้าออกมาขี่พร้อมกับยกมือส่งสัญญาณให้ทุกคนเงียบเสียงลง ก่อนพูดต่อ “พอเริ่มวันใหม่ สัตว์ประหลาดทุกตัวก็จะกลับคืนมาใหม่เช่นกัน พวกเรามาไล่ล่าพวกมันกันอีกครั้งกันเถอะ นับจากเขตแผนที่ระดับ 31 ไปจนถึงระดับ 34 พวกเราจะต้องกวาดล้างสัตว์ประหลาดเหล่านั้นไม่ให้เหลืออยู่สักตัวเดียว ลุยโลด!”

“ลุยโลด!”

เสียงโห่ร้องของผู้คนเรือนแสนดังก้องกระหึ่ม

บรรยากาศตกอยู่ภายใต้ความตื่นเต้น

เมื่อเห็นความคาดหวังและความตื่นเต้นจากแววตาของทุกคน

ซูเย่ก็อดรู้สึกตื้นตันใจขึ้นมาไม่ได้

ภาพเหล่านี้ช่างน่าประทับใจเหลือเกิน!

ผู้คนนับแสนรอฟังคำสั่งจากเขาเพียงคนเดียว ไม่ว่าซูเย่จะสั่งอะไรออกไป มวลมหาชนเหล่านี้ก็พร้อมทำตามโดยไม่ลังเล!

นี่แหละความรู้สึกของการได้ครองโลกที่แท้จริง!

เร่าร้อนและสดใหม่!

แต่ไม่กี่นาทีต่อมา ชายหนุ่มก็ใจเย็นลง

ทุกอย่างเป็นเพียงภาพลวงตาเท่านั้น

แผนการที่เขาวางเอาไว้ จะต้องทำสำเร็จในวันนี้ให้ได้

หวังว่าทุกคนคงไม่มานั่งร้องไห้ตอนหลังก็แล้วกัน!

“พวกเราบุก!”

ซูเย่ขี่ตัวเฉิงหวงเทพเจ้า มุ่งหน้าเข้าสู่เขตแผนที่ระดับ 31

กองทัพผู้คนเดินขบวนตามหลัง

เวลาผ่านไปเพียงพริบตาเดียวเท่านั้น สัตว์ประหลาดในเขตแผนที่ระดับ 31 ก็ถูกกวาดล้างหมดสิ้น

หลังจากนั้น

ก็ตามด้วยเขตแผนที่ระดับ 32

บุกถล่มอย่างต่อเนื่อง

ต่อด้วย

เขตแผนที่ระดับ 33

พวกเขายังคงบุกตะลุยไม่หยุดยั้ง

ในที่สุด กองทัพของซูเย่ก็เดินขบวนมาถึงส่วนลึกในเขตแผนที่ระดับ 34 ซึ่งเมื่อวานนี้พวกเขายังมาไม่ถึง

“สหายทุกท่าน โอกาสอัปเลเวลของทุกคนอยู่ตรงหน้าแล้ว!”

เหล่าผู้เล่นจำนวนนับไม่ถ้วนที่ต้องการอัปเลเวลของตนเองหรือนำผลึกวิญญาณไปแลกเปลี่ยนเป็นอาวุธกับค่าวรยุทธ์ ต่างก็จ้องมองสัตว์ประหลาดประจําเขตแผนที่ระดับ 34 ด้วยดวงตาแดงก่ำ

ครึ่งชั่วโมงต่อมา สัตว์ประหลาดทุกตัวก็ถูกกวาดล้างหมดสิ้น

หลายคนมีสีหน้าพึงพอใจ

ผู้เล่นจำนวนนับพันคนสามารถอัปขึ้นมาอยู่ในเลเวล 34 ได้แล้ว

ขณะที่ผู้เล่นอีกหลายหมื่นคนก็สามารถอัปขึ้นมาอยู่ในเลเวล 33 และมีอีกมากมายนับไม่ถ้วนที่สามารถอัปขึ้นมาอยู่ในเลเวล 32 กับ 31 ได้สำเร็จเช่นกัน

ผู้เล่นที่มีคะแนนเป็นอันดับสองในเซิร์ฟเวอร์ยังคงเป็นเจ้าเวหา ตอนแรก เขาอยากจะค่อย ๆ อัปเลเวลขึ้นไปด้วยการฆ่าสัตว์ประหลาด ก่อนจะตบท้ายด้วยการท้าสู้กับท่านเทพ X เมื่อมีระดับคะแนนเท่ากัน

แต่เมื่อทุกอย่างผิดแผน เจ้าเวหาก็ต้องสู้กับท่านเทพ X เร็วก่อนกำหนด

และเขาก็พบกับความพ่ายแพ้อย่างน่าอับอาย

นั่นส่งผลให้ในขณะนี้นอกจากจะยังไม่สามารถอัปเลเวลขึ้นไปได้ตามใจอยากแล้ว เจ้าเวหายังถูกผู้คนในกองทัพของท่านเทพ X ทำคะแนนไล่หลังมาในชนิดหายใจรดต้นคออีกด้วย

เจ้าเวหาพบว่าตนเองไม่มีความแข็งแกร่งมากพอที่จะโค่นล้มสัตว์ประหลาดเลเวลสูงเพียงลำพัง

ดังนั้น เขาจึงต้องเข้าร่วมกองทัพของเทพ X ด้วยความหมดหวัง

“รอก่อนเถอะ เทพ X ความแค้นในครั้งนี้ ฉันจะต้องสะสางกับนายให้ได้!”

เจ้าเวหาพูดกับตัวเองด้วยความขมขื่น ขณะจ้องมองเทพ X ขี่หลังเจ้ากวางยักษ์โลดแล่นไปข้างหน้าด้วยความสง่างาม

ซูเย่กวาดสายตามองรอบบริเวณก็รู้สึกว่าถึงเวลาลงมือเสียที

เขาพูดออกมาเสียงดังว่า

“เมื่อคืนก่อนออกจากเกม ฉันบอกพวกนายว่าวันนี้จะพาไปยังสถานที่วิเศษแห่งหนึ่ง ตอนนี้ได้เวลาแล้ว มีใครอยากไปกับฉันบ้าง?”

“พวกเราขอไปด้วยคน!”

ผู้เล่นเกมหลายแสนคนส่งเสียงตะโกนอย่างพร้อมเพรียง

“ดีมาก!”

ซูเย่พยักหน้ายิ้มอย่างพอใจและตะโกนต่อไป “ที่นั่นเป็นดินแดนตกสำรวจ มีสมุนไพรวิเศษจำนวนมากรอให้ไปเก็บ นอกจากจะช่วยทำให้ทุกคนอัปเลเวลได้แล้ว มันยังสามารถนำไปแลกเปลี่ยนเป็นไอเท็มต่าง ๆ รวมถึงแลกกับค่าวรยุทธ์หรือค่าประสบการณ์ได้อีกด้วย!”

เมื่อพูดออกไปเช่นนั้น

ซูเย่ก็เห็นแววตาของทุกคนเป็นประกายด้วยความตื่นเต้น และส่งเสียงตะโกนตอบรับดังสนั่นมากกว่าเดิม

“แต่ต้องขอเตือนไว้ก่อนว่าดินแดนตกสำรวจแห่งนี้มีอันตรายสูงมาก เพราะฉะนั้น ฉันคงพาทุกคนไปด้วยทั้งหมดไม่ได้ แต่จำเป็นต้องเลือกผู้ติดตามที่มีฝีมือมากพอเท่านั้น”

ซูเย่ส่งเสียงคำรามกลบเสียงของทุกคน ก่อนกล่าวต่อ “ใครที่อยู่ในเลเวล 34 และแลกเปลี่ยนอาวุธใหม่รวมถึงเพิ่มค่าวรยุทธ์มาเรียบร้อย ให้ติดตามฉันไปได้ทันที!”

เมื่อสิ้นเสียงของชายหนุ่ม

ผู้เล่นที่มีเลเวลต่ำกว่าระดับ 33 ก็อดบ่นไม่ได้ว่าแบบนี้มันไม่ยุติธรรมต่อพวกเขาเลย!

“เราก็อยากไปที่นั่นเหมือนกันนะ เฮ้อ ต่อให้ไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้ ให้พวกเราไปเก็บกวาดสนามรบก็ยังดี!”

“จริงด้วยสิ! แบบนี้มันดูถูกผู้เล่นระดับล่างนี่หว่า พวกเราก็อยากได้สมุนไพรวิเศษเหมือนกันนะ! ทำไมพวกเราถึงไปไม่ได้!”

แต่ยิ่งได้ยินดังนั้น กลุ่มผู้เล่นที่ผ่านการคัดเลือกจากท่านเทพ X ก็ยิ่งหันมามองกลุ่มผู้เล่นที่มีเลเวลต่ำกว่าตนเองด้วยสายตาดูถูกดูแคลนมากกว่าเดิม

เจ้าเวหาก็ยังคงเดินออกมารวมกลุ่มกับผู้ที่ผ่านการคัดเลือกพลางกัดฟันกรอดด้วยความเคียดแค้น

“ไม่คิดว่าจะได้เจอกันอีกครั้งเร็วขนาดนี้นะเนี่ย!”

ซูเย่มองหน้าเจ้าเวหาด้วยความประหลาดใจ ก่อนที่จะนับจำนวนผู้คนคร่าว ๆ และเขาก็พบว่าได้จำนวนผู้คนที่ตนเองต้องการแล้ว

“พวกเราไปกันเถอะ!”

ซูเย่ยกมือขึ้นโบกสะบัดและขี่หลังเจ้ากวางยักษ์มุ่งหน้าไปยังทิศตะวันออก